CONVERTIBLE Laptop นั้นเป็นอีกตระกูลที่มีความโดดเด่นในแง่ของการใช้งานที่หลากหลายและมีประโยชน์ในหลายๆด้านครับซึ่งส่วนใหญ่จะพกพาได้ง่ายและมีความบางเบา อีกทั้งหน้าจอนั้นก็เป็นระบบสัมผัสที่ทำให้ใช้งานหน้าจอล้วนๆได้ดียิ่งขึ้น หรือบางรุ่นอาจจะมีปากกาการรองรับที่ใช้งานวาดเขียนได้ดีมากครับ และแน่นอนว่าแบรนด์ที่มุ่งเน้นในการพัฒนาอีกแบรนด์นั้นก็คือทาง HP ที่ก็มีตระกูลที่สามารถใช้งานพับหน้าจอได้ 360 องศาแบบนี้มาเรื่อยๆครับ ในชื่อว่า X360 และในรุ่นก่อนหน้านั้นก็มีทำออกมาเหมือนกันแต่ก็ยังมีบางจุดที่อาจจะยังไม่ลงตัวทั้งอายุแบตต่างๆ และความร้อนแต่ในรุ่นนี้ก็ได้มีการปรับปรุงขึ้นในทุกๆด้านด้วยเราจะมาดูกันว่าครั้งนี้จะทำได้ดีและพัฒนาอะไรที่ดีกว่าเดิมบ้างนั้นเองครับในรุ่น HP Spectre 13 X360 ที่ดีไซน์ค่อนข้างดูดีกว่าเดิมและความพรีเมี่ยมที่จัดเต็มขึ้นมาก
HP SPECTRE 13 x360 เปิดตัวมาไม่นานนี้มาเป็นตัวแทนรุ่นเก่าที่ปรับเปลี่ยนค่อนข้างเยอะและดีไซน์ที่พัฒนาดูดีแข็งแรงกว่าเดิมมากเลย รุ่นนี้จะใช้หน้าจอ 13.3″ FHD WLED ที่มีคุณภาพรองรับ ความละเอียดแบบ HDR (contrast 100,000:1) พร้อมกระจก Gorilla Glass 4,รองรับปากกา และ มีปากกาให้ด้วยครับ , กล้อง IR และตัวสแกนนิ้วมือรองรับ Windows Hello, ระบบชาร์จเร็ว Fast Charge USB-C ใช้เวลาแค่ 90 นาที่เท่านั้นในการชาร์จเต็ม และ ยังมีฟีเจอร์หน้าจอที่ป้องกันคนมอง HP Sureview และ ลำโพงจากทาง Bang&Olufsen
สำหรับราคา HP SPECTRE 13 X360 นั้นจะมีรุ่นย่อย ทั้งหมด 3 ตัวซึ่งในตัวรีวิวนั้นจะเป็นตัวราคา 56,990 บาท
- HP Spectre x360 Convertible – 13-ap0028tu( i5 gen8 ราคา 49,990 บาท )
- HP Spectre x360 Convertible – 13-ap0027tu ( i7 gen8 ราคา 56,990 บาท )
- HP Spectre x360 Convertible – 13-ap0026tu( i7 gen8 โดยตัวนี้จะต่างกับรุ่นกลางตรงที่มี Window 10 pro มีการเพิ่ม PCIe M.2 และเป็นระบบ Bluetooth 5.0 ราคา 62,990 บาท)
UNBOX
กล่องในรุ่นนี้มาพร้อมกับธีมสีดำเป็นหลักทั้งตัวกล่องใหญ่ และ ตัวกล่องเล็ก ตัวกล่องเล็กนั้นจะเขียนชื่อรุ่นว่า SPECTRE เรียบๆครับ ดูดีเลยแหละ ส่วนเมื่อเปิดข้างในก็จะเจอ HP Spectre วางอยู่ พร้อมกับของที่อยู่ข่างล่างเครื่องก็มีมาให้ใช้งานครบเลยแหละครับ รวมถึงตัวแปลงต่างๆ
- HP Spectre 13 X360
- ซองหนังแท้สำหรับใส่เครื่อง
- Adaptor สำหรับชาร์จไฟ สายถัก พร้อมหัว USB-C
- ปากกา HP Tilt Pen
- ตัว Adaptor สำหรับเพิ่มหัวต่อ HDMI – USB-A USB-C
ตัว Adptor ก็มีมาให้เลยครับไม่ต้องไปซื้อเพิ่มรองรับการเสียบใช้งาน HDMI- USBA-USBC ครบเลยสายต่อจากช่อง USB-C ได้เลยครับจากตัวเครื่อง ส่วนตัวซองหนังนั้นทำมาขนาดพอดีเครื่องมากๆเป็นซองหนังสีดำ พร้อมมีสลักเขียนว่า HP อะไรมาให้รวมถึงช่องสำหรับใส่ปากกา สำหรับพกพาข้างนอกครับวัสดุรวมๆทำได้ดีเลยแหละสำหรับตัวนี้
DESIGN
การออกแบบตัวเครื่องรุ่นนี้เปลี่ยนแปลงจากเดิมขึ้นในหลายๆจุดทั้งตัวข้อต่อ การออกแบบขอบตัวเครื่องทั้งหลายได้เปลี่ยนแปลงไปพอสมควรครับ ตัวเครื่องงานออกแบบต้องยอมรับว่าสวยและดูพรีเมี่ยมมากๆ การใช้โทนสีทอง สลับกับตัวเครื่องสีน้ำเงินก็ทำให้มันเด่น รวมทั้งการตัดขอบรอบเครื่องแบบทำมุม Gem Cut Design ทั้งหมดแปลกตาและทำได้สวยเลยแหละความบางรวมถึงน้ำหนักโดยรวมนั้น หนักแค่ 1.32 กิโลกรัม และบางเพียง 14.5 มิลลิเมตร
ตัวเครื่องดีไซน์มีความเหลี่ยมคมในหลายๆมุมสอดคล้องกับการออกแบบ Gem Cut ที่เหมือนเพชรตัดขอบด้วย การใช้โทนสีอะไรต่างๆนั้นจะเป็นสี Poseldon Blue สีน้ำเงินผมเขียวนิดนึง จัดกับสีทองได้ดีครับบริวเณรอบๆเครื่อง รวมถึงการใช้สีทองในการทำเป็นพวกข้อต่อ ข้อพับนั้นทำให้มีความโดดเด่นขึ้น ส่วนทางด้านหน้าจอนั้นมีขอบข้างๆบางแต่ขอบบนล่างยังคงหนาอยู่ และ แอบหนาไปนิดหน่อย แป้นพิมพ์ ลำโพงการออกแบบนั้นยังคงทำได้สวยในด้านใน ส่วนฝาหลังนั้นใช้เป็นวัสดุด้าน และ มีโลโก้ HP แบบใหม่ซึ่งส่วนตัวชอบโลโก้ HP แบบใหม่นี้มากมันสวยดูดีกว่าเดิมเยอะ
ฝาหลังและส่วนฐานนั้นเป็นการใช้โทนสีเดียวกัน แต่จะเห็นว่าถ้าเราถ่ายกันคนละมุมแสงนั้นสีเครื่องที่ได้ก็จะแตกต่างกันไปถือว่าเป็นการเล่นกับแสงได้ดีครับบางมุมจะน้ำเงิน และ บางมุมนั้นจะเป็นน้ำเงินอมเขียวเล็กน้อย ส่วนถ้าเจอแสงกลางคืนหรือเจอหลอดไฟก็จะเป็นน้ำเงินเข้มๆไม่ได้สดใสแบบตอนกลางวันครับ ฐานด้านหลังจะเห็นช่องระบายอากาศตามแนวขอบข้าง และ ตัวแนวยาวด้านหลัง รวมถึงตัวยางรองฐานเครื่องที่แนวยาว ทั้งหน้า แลัง แต่ยังใส่ใจดีไซน์ให้มันเป็น 3 เหลี่ยมคงแนวทาง Gem Cut ได้รวมถึงตัวช่องลำโพงซ้ายขวาก็ยังเล่นรูปราง 3 เหลี่ยมวางติดกันด้วยครับ
การใช้งานแน่นอนว่ามันเป็น 2in1 Convertible ทำให้รองรับการทำงานได้หลักๆ 4 แบบตามภาพครับไม่ว่าจะใช้งานแบบปกติ วางสำหรับดูหนัง หรือ พรีเซนต์งาย หรือจะวางแหง่นจอให้ใช้งานกล้องหน้าได้ และสามารถพับเป็น Tablet เรียบๆไปได้เลยรวมถึงการใช้ปากกาในการวาดใช้งานต่างๆตอบโจทย์การทำงานครบทุกรูปแบบเลยแหละ
ตัวข้อต่อ ข้อพับ และการเล่นขอบเครื่องมันคือส่วนที่สวยที่สุดของรุ่นนี้แล้ว และมันคือการออกแบบที่มองว่าทำให้เครื่องรุ่นนี้มันแตกต่างและเด่นกว่ารุ่นอื่นๆรวมถึงงานเนี๊ยบมากในการตัดขอบแบบ GEM Cut ตามรอบเครื่องทำให้มันมีมุมที่แตกต่างเวลาเล่นกับแสงรวมถึงการใช้โทนสีที่ตัดกับตัวเครื่องด้วย และในตัวสีทองนั้นก็มีการเล่นลวดลาย Brush ที่เป็นเส้นๆเลยดูมีอะไรมากกว่าการใช้วัสดุแบบเรียบๆครับ การเล่นลวดลายต่างๆและการตัดขอบทำได้ดีจริงๆนะ และการปาดมุมนั้นก็ไม่ได้ปาดมั่วๆทำมุมได้ดีและเป็นที่อยู่ของปุ่มเปิดปิด และช่องชาร์จที่ใช่งานได้ แม้จะพับจอ เอียงจออะไรก็แล้วแต่ก็ยังสามารถเสียบชาร์จ และกดปุ่มเปิดปิดได้เสมอครับถือว่าคิดมาแล้วว่าปาดมุมเอียงแบบนี้มันทำให้ใช้งานได้ดีขึ้นครับ
ตัวฐานด้านล่างถ้าดูดีๆก็จะเกิดแสงเงาที่ทำมุมองศาได้สวยงามครับ คือทุกอย่างมันเข้ากับดีไซน์ GemCut ได้ดีเลยคือสัมผัสและดูแต่ละจุดมันรู้สึกถึงการใส่ใจในการออกแบบทุกๆมุม เป็นจุดที่ค่อนข้างชอบครับ ส่วนในช่องระบายความร้อนนั้นนอกจากข้างล่างแล้วก็ยังมีส่วนตรงด้านหลังของตัวแป้นพิมพ์ตรงขอบจอที่จะเป็นช่องระบายออกมาครับ ในหลายๆตัวก็เน้นระบายออกทางด้านนี้กัน และทำให้ความร้อยนั้นส่งออกไปข้างหลัง และด้านล่างได้ดีครับ
หน้าจอตัวนี้เป็นหน้าจอแบบ WLED ทำได้สวยงามในภาพรวมขอบหน้าจอด้านข้างต้องบอกว่าทำได้บางครับแต่ที่น่าเสียดายคือขอบด้านบนนั้นยังแอบหนาและด้านล่างด้วยเช่นกัน จริงๆถ้าทำออกมาบางกว่านี้ก็จะสวยเลยแม้จะมี IR และ กล้องหน้าก็ตามครับ ส่วนหน้าจอนั้นก็รองรับสัมผัสเต็มรูปแบบครับ ด้านวัสดุตรงที่วางมือก็เป็นวัสดุแบบเดียวกันกับตัวเครื่องทั้งหมด วัสดุด้านจะแอบติดความมันได้ง่ายนิดหน่อยถ้าใช้งานและมียางรองนิดๆเวลาพับหน้าจอลงมาครับ เพราะไม่ได้ไปติดตั้งบนจอ เลยเอามาไว้ที่คีย์บอร์ดแทนนั้นเอง และมีเขียนชื่อรุ่นเล็กๆในภาพครับ
ความหนาเมื่อพับฝาลงทั้งหมดก็ง่ายต่อการพกพาไม่ได้หนาเท่าไรนัก และการออกแบบสีทองเวลาโดนกับแสงนั้นก็ทำให้มันเล่นกับแสงได้สวยและโดดเด่นพอสมควรครับ เป็นการใช้โทนสีที่สวยทั้งด้านนอกเมื่อพับและด้านใน การวางตำแหน่งของปุ่มอะไรต่างๆก็ทำได้ดี จะเห็นว่าขอบด้านข้างคียอบร์ดนั้นบางมากๆทำให้ขนาดโดยรวมนั้นเล็กและพกพาง่ายขึ้นตรับ รอบๆตัว Touchpad ก็ยังมีการเล่นขอบสีเช่นเดียวกันแต่เสียดายที่คียบอร์ดนั้นตัวอักษรยังเป็นสีขาว
SPEC
- Windows 10 Home 64
- Intel® Core™ i7-8565U
- Intel® UHD Graphics 620
- หน้าจอ 13.3″ diagonal FHD IPS micro-edge WLED-backlit touch screen with Corning® Gorilla® Glass NBT™ (1920 x 1080)
- 8 GB LPDDR3-2133 SDRAM (onboard)
- 512 GB PCIe® NVMe™ M.2 SSD
- 3-cell, 60 Wh Li-ion polymer
- Full-size island-style backlit keyboard
- HP TrueVision FHD IR Camera with Dual array digital microphone (dark ash silver)
- Intel® 802.11b/g/n/ac (2×2) Wi-Fi® and Bluetooth® 4.2 Combo
- Bang & Olufsen, quad speakers, HP Audio Boost
- 1 microSD media card reader
- 2 Thunderbolt™ 3 (Data Transfer up to 40 Gb/s, Power Delivery, DP1.2, HP Sleep andCharge); 1 USB 3.1 Gen 1 (HP Sleep and Charge); 1 headphone/microphone combo
- 65 W AC power adapter
- Fingerprint reader; Trusted Platform Module (TPM) support
PERFORMANCE
ทางด่านประสิทธิภาพของตัวเครื่องรุ่นนี้มาพร้อมกับ i7-8565U ตระกูลประหยัดไปพร้อมกับการ์ดจอในตัว Intel® UHD Graphics 620 ไม่มีการ์ดจอแยกนะ มาพร้อมกับ RAM 8GB LPDDR3 ฝังบนบอร์ด และ SSD 512GB NVMe M.2 SSD ครับ ก็พอไหวแต่เสียดาย RAM น่าจะจัดมาให้ 16GB ไปเลยสุดๆครับ การใช้งานคงเน้นใช้งานทั่วไปแต่ก็ รองรับการใช้งาน 3 มิติได้นิดหน่อยครับในแง่ของประสิทธิภาพของมันในแบบไม่มีการ์ดจอแยกนั้นเอง
ทางด้านคะแนน PC MARK เป็นคะแนนที่จะนับในส่วนของการทำงานทั่วไปเน้นทำงานของ CPU เป็นหลักทำคะแนนได้ไป 3886 คะแนน ออกไปทางกลางๆตามประสิทธิภาพของมันครับตระกูล U และไม่มีการ์ดจอแยก แต่ได้ SSD มาช่วยในแง่ของการเซฟไฟล์ ย้าย โยนไปมาได้ไวและรวมถึงเปิดโปรแกรมของมันด้วย CPU 75 องศา และ GPU 63 องศา ถือว่าทำคะแนนได้ดีกว่า Matebook X Pro รวมถึงคุมความร้อนดีกว่าด้วยนะ
[SR] รีวิว HP SPECTRE 13 X360 LAPTOPS 2 IN 1 รองรับปากกา พกพาง่าย ดีไซน์พรีเมี่ยม !
CONVERTIBLE Laptop นั้นเป็นอีกตระกูลที่มีความโดดเด่นในแง่ของการใช้งานที่หลากหลายและมีประโยชน์ในหลายๆด้านครับซึ่งส่วนใหญ่จะพกพาได้ง่ายและมีความบางเบา อีกทั้งหน้าจอนั้นก็เป็นระบบสัมผัสที่ทำให้ใช้งานหน้าจอล้วนๆได้ดียิ่งขึ้น หรือบางรุ่นอาจจะมีปากกาการรองรับที่ใช้งานวาดเขียนได้ดีมากครับ และแน่นอนว่าแบรนด์ที่มุ่งเน้นในการพัฒนาอีกแบรนด์นั้นก็คือทาง HP ที่ก็มีตระกูลที่สามารถใช้งานพับหน้าจอได้ 360 องศาแบบนี้มาเรื่อยๆครับ ในชื่อว่า X360 และในรุ่นก่อนหน้านั้นก็มีทำออกมาเหมือนกันแต่ก็ยังมีบางจุดที่อาจจะยังไม่ลงตัวทั้งอายุแบตต่างๆ และความร้อนแต่ในรุ่นนี้ก็ได้มีการปรับปรุงขึ้นในทุกๆด้านด้วยเราจะมาดูกันว่าครั้งนี้จะทำได้ดีและพัฒนาอะไรที่ดีกว่าเดิมบ้างนั้นเองครับในรุ่น HP Spectre 13 X360 ที่ดีไซน์ค่อนข้างดูดีกว่าเดิมและความพรีเมี่ยมที่จัดเต็มขึ้นมาก
HP SPECTRE 13 x360 เปิดตัวมาไม่นานนี้มาเป็นตัวแทนรุ่นเก่าที่ปรับเปลี่ยนค่อนข้างเยอะและดีไซน์ที่พัฒนาดูดีแข็งแรงกว่าเดิมมากเลย รุ่นนี้จะใช้หน้าจอ 13.3″ FHD WLED ที่มีคุณภาพรองรับ ความละเอียดแบบ HDR (contrast 100,000:1) พร้อมกระจก Gorilla Glass 4,รองรับปากกา และ มีปากกาให้ด้วยครับ , กล้อง IR และตัวสแกนนิ้วมือรองรับ Windows Hello, ระบบชาร์จเร็ว Fast Charge USB-C ใช้เวลาแค่ 90 นาที่เท่านั้นในการชาร์จเต็ม และ ยังมีฟีเจอร์หน้าจอที่ป้องกันคนมอง HP Sureview และ ลำโพงจากทาง Bang&Olufsen
สำหรับราคา HP SPECTRE 13 X360 นั้นจะมีรุ่นย่อย ทั้งหมด 3 ตัวซึ่งในตัวรีวิวนั้นจะเป็นตัวราคา 56,990 บาท
- HP Spectre x360 Convertible – 13-ap0028tu( i5 gen8 ราคา 49,990 บาท )
- HP Spectre x360 Convertible – 13-ap0027tu ( i7 gen8 ราคา 56,990 บาท )
- HP Spectre x360 Convertible – 13-ap0026tu( i7 gen8 โดยตัวนี้จะต่างกับรุ่นกลางตรงที่มี Window 10 pro มีการเพิ่ม PCIe M.2 และเป็นระบบ Bluetooth 5.0 ราคา 62,990 บาท)
UNBOX
กล่องในรุ่นนี้มาพร้อมกับธีมสีดำเป็นหลักทั้งตัวกล่องใหญ่ และ ตัวกล่องเล็ก ตัวกล่องเล็กนั้นจะเขียนชื่อรุ่นว่า SPECTRE เรียบๆครับ ดูดีเลยแหละ ส่วนเมื่อเปิดข้างในก็จะเจอ HP Spectre วางอยู่ พร้อมกับของที่อยู่ข่างล่างเครื่องก็มีมาให้ใช้งานครบเลยแหละครับ รวมถึงตัวแปลงต่างๆ
- HP Spectre 13 X360
- ซองหนังแท้สำหรับใส่เครื่อง
- Adaptor สำหรับชาร์จไฟ สายถัก พร้อมหัว USB-C
- ปากกา HP Tilt Pen
- ตัว Adaptor สำหรับเพิ่มหัวต่อ HDMI – USB-A USB-C
ตัว Adptor ก็มีมาให้เลยครับไม่ต้องไปซื้อเพิ่มรองรับการเสียบใช้งาน HDMI- USBA-USBC ครบเลยสายต่อจากช่อง USB-C ได้เลยครับจากตัวเครื่อง ส่วนตัวซองหนังนั้นทำมาขนาดพอดีเครื่องมากๆเป็นซองหนังสีดำ พร้อมมีสลักเขียนว่า HP อะไรมาให้รวมถึงช่องสำหรับใส่ปากกา สำหรับพกพาข้างนอกครับวัสดุรวมๆทำได้ดีเลยแหละสำหรับตัวนี้
DESIGN
การออกแบบตัวเครื่องรุ่นนี้เปลี่ยนแปลงจากเดิมขึ้นในหลายๆจุดทั้งตัวข้อต่อ การออกแบบขอบตัวเครื่องทั้งหลายได้เปลี่ยนแปลงไปพอสมควรครับ ตัวเครื่องงานออกแบบต้องยอมรับว่าสวยและดูพรีเมี่ยมมากๆ การใช้โทนสีทอง สลับกับตัวเครื่องสีน้ำเงินก็ทำให้มันเด่น รวมทั้งการตัดขอบรอบเครื่องแบบทำมุม Gem Cut Design ทั้งหมดแปลกตาและทำได้สวยเลยแหละความบางรวมถึงน้ำหนักโดยรวมนั้น หนักแค่ 1.32 กิโลกรัม และบางเพียง 14.5 มิลลิเมตร
ตัวเครื่องดีไซน์มีความเหลี่ยมคมในหลายๆมุมสอดคล้องกับการออกแบบ Gem Cut ที่เหมือนเพชรตัดขอบด้วย การใช้โทนสีอะไรต่างๆนั้นจะเป็นสี Poseldon Blue สีน้ำเงินผมเขียวนิดนึง จัดกับสีทองได้ดีครับบริวเณรอบๆเครื่อง รวมถึงการใช้สีทองในการทำเป็นพวกข้อต่อ ข้อพับนั้นทำให้มีความโดดเด่นขึ้น ส่วนทางด้านหน้าจอนั้นมีขอบข้างๆบางแต่ขอบบนล่างยังคงหนาอยู่ และ แอบหนาไปนิดหน่อย แป้นพิมพ์ ลำโพงการออกแบบนั้นยังคงทำได้สวยในด้านใน ส่วนฝาหลังนั้นใช้เป็นวัสดุด้าน และ มีโลโก้ HP แบบใหม่ซึ่งส่วนตัวชอบโลโก้ HP แบบใหม่นี้มากมันสวยดูดีกว่าเดิมเยอะ
ฝาหลังและส่วนฐานนั้นเป็นการใช้โทนสีเดียวกัน แต่จะเห็นว่าถ้าเราถ่ายกันคนละมุมแสงนั้นสีเครื่องที่ได้ก็จะแตกต่างกันไปถือว่าเป็นการเล่นกับแสงได้ดีครับบางมุมจะน้ำเงิน และ บางมุมนั้นจะเป็นน้ำเงินอมเขียวเล็กน้อย ส่วนถ้าเจอแสงกลางคืนหรือเจอหลอดไฟก็จะเป็นน้ำเงินเข้มๆไม่ได้สดใสแบบตอนกลางวันครับ ฐานด้านหลังจะเห็นช่องระบายอากาศตามแนวขอบข้าง และ ตัวแนวยาวด้านหลัง รวมถึงตัวยางรองฐานเครื่องที่แนวยาว ทั้งหน้า แลัง แต่ยังใส่ใจดีไซน์ให้มันเป็น 3 เหลี่ยมคงแนวทาง Gem Cut ได้รวมถึงตัวช่องลำโพงซ้ายขวาก็ยังเล่นรูปราง 3 เหลี่ยมวางติดกันด้วยครับ
การใช้งานแน่นอนว่ามันเป็น 2in1 Convertible ทำให้รองรับการทำงานได้หลักๆ 4 แบบตามภาพครับไม่ว่าจะใช้งานแบบปกติ วางสำหรับดูหนัง หรือ พรีเซนต์งาย หรือจะวางแหง่นจอให้ใช้งานกล้องหน้าได้ และสามารถพับเป็น Tablet เรียบๆไปได้เลยรวมถึงการใช้ปากกาในการวาดใช้งานต่างๆตอบโจทย์การทำงานครบทุกรูปแบบเลยแหละ
ตัวข้อต่อ ข้อพับ และการเล่นขอบเครื่องมันคือส่วนที่สวยที่สุดของรุ่นนี้แล้ว และมันคือการออกแบบที่มองว่าทำให้เครื่องรุ่นนี้มันแตกต่างและเด่นกว่ารุ่นอื่นๆรวมถึงงานเนี๊ยบมากในการตัดขอบแบบ GEM Cut ตามรอบเครื่องทำให้มันมีมุมที่แตกต่างเวลาเล่นกับแสงรวมถึงการใช้โทนสีที่ตัดกับตัวเครื่องด้วย และในตัวสีทองนั้นก็มีการเล่นลวดลาย Brush ที่เป็นเส้นๆเลยดูมีอะไรมากกว่าการใช้วัสดุแบบเรียบๆครับ การเล่นลวดลายต่างๆและการตัดขอบทำได้ดีจริงๆนะ และการปาดมุมนั้นก็ไม่ได้ปาดมั่วๆทำมุมได้ดีและเป็นที่อยู่ของปุ่มเปิดปิด และช่องชาร์จที่ใช่งานได้ แม้จะพับจอ เอียงจออะไรก็แล้วแต่ก็ยังสามารถเสียบชาร์จ และกดปุ่มเปิดปิดได้เสมอครับถือว่าคิดมาแล้วว่าปาดมุมเอียงแบบนี้มันทำให้ใช้งานได้ดีขึ้นครับ
ตัวฐานด้านล่างถ้าดูดีๆก็จะเกิดแสงเงาที่ทำมุมองศาได้สวยงามครับ คือทุกอย่างมันเข้ากับดีไซน์ GemCut ได้ดีเลยคือสัมผัสและดูแต่ละจุดมันรู้สึกถึงการใส่ใจในการออกแบบทุกๆมุม เป็นจุดที่ค่อนข้างชอบครับ ส่วนในช่องระบายความร้อนนั้นนอกจากข้างล่างแล้วก็ยังมีส่วนตรงด้านหลังของตัวแป้นพิมพ์ตรงขอบจอที่จะเป็นช่องระบายออกมาครับ ในหลายๆตัวก็เน้นระบายออกทางด้านนี้กัน และทำให้ความร้อยนั้นส่งออกไปข้างหลัง และด้านล่างได้ดีครับ
หน้าจอตัวนี้เป็นหน้าจอแบบ WLED ทำได้สวยงามในภาพรวมขอบหน้าจอด้านข้างต้องบอกว่าทำได้บางครับแต่ที่น่าเสียดายคือขอบด้านบนนั้นยังแอบหนาและด้านล่างด้วยเช่นกัน จริงๆถ้าทำออกมาบางกว่านี้ก็จะสวยเลยแม้จะมี IR และ กล้องหน้าก็ตามครับ ส่วนหน้าจอนั้นก็รองรับสัมผัสเต็มรูปแบบครับ ด้านวัสดุตรงที่วางมือก็เป็นวัสดุแบบเดียวกันกับตัวเครื่องทั้งหมด วัสดุด้านจะแอบติดความมันได้ง่ายนิดหน่อยถ้าใช้งานและมียางรองนิดๆเวลาพับหน้าจอลงมาครับ เพราะไม่ได้ไปติดตั้งบนจอ เลยเอามาไว้ที่คีย์บอร์ดแทนนั้นเอง และมีเขียนชื่อรุ่นเล็กๆในภาพครับ
ความหนาเมื่อพับฝาลงทั้งหมดก็ง่ายต่อการพกพาไม่ได้หนาเท่าไรนัก และการออกแบบสีทองเวลาโดนกับแสงนั้นก็ทำให้มันเล่นกับแสงได้สวยและโดดเด่นพอสมควรครับ เป็นการใช้โทนสีที่สวยทั้งด้านนอกเมื่อพับและด้านใน การวางตำแหน่งของปุ่มอะไรต่างๆก็ทำได้ดี จะเห็นว่าขอบด้านข้างคียอบร์ดนั้นบางมากๆทำให้ขนาดโดยรวมนั้นเล็กและพกพาง่ายขึ้นตรับ รอบๆตัว Touchpad ก็ยังมีการเล่นขอบสีเช่นเดียวกันแต่เสียดายที่คียบอร์ดนั้นตัวอักษรยังเป็นสีขาว
SPEC
- Windows 10 Home 64
- Intel® Core™ i7-8565U
- Intel® UHD Graphics 620
- หน้าจอ 13.3″ diagonal FHD IPS micro-edge WLED-backlit touch screen with Corning® Gorilla® Glass NBT™ (1920 x 1080)
- 8 GB LPDDR3-2133 SDRAM (onboard)
- 512 GB PCIe® NVMe™ M.2 SSD
- 3-cell, 60 Wh Li-ion polymer
- Full-size island-style backlit keyboard
- HP TrueVision FHD IR Camera with Dual array digital microphone (dark ash silver)
- Intel® 802.11b/g/n/ac (2×2) Wi-Fi® and Bluetooth® 4.2 Combo
- Bang & Olufsen, quad speakers, HP Audio Boost
- 1 microSD media card reader
- 2 Thunderbolt™ 3 (Data Transfer up to 40 Gb/s, Power Delivery, DP1.2, HP Sleep andCharge); 1 USB 3.1 Gen 1 (HP Sleep and Charge); 1 headphone/microphone combo
- 65 W AC power adapter
- Fingerprint reader; Trusted Platform Module (TPM) support
PERFORMANCE
ทางด่านประสิทธิภาพของตัวเครื่องรุ่นนี้มาพร้อมกับ i7-8565U ตระกูลประหยัดไปพร้อมกับการ์ดจอในตัว Intel® UHD Graphics 620 ไม่มีการ์ดจอแยกนะ มาพร้อมกับ RAM 8GB LPDDR3 ฝังบนบอร์ด และ SSD 512GB NVMe M.2 SSD ครับ ก็พอไหวแต่เสียดาย RAM น่าจะจัดมาให้ 16GB ไปเลยสุดๆครับ การใช้งานคงเน้นใช้งานทั่วไปแต่ก็ รองรับการใช้งาน 3 มิติได้นิดหน่อยครับในแง่ของประสิทธิภาพของมันในแบบไม่มีการ์ดจอแยกนั้นเอง
ทางด้านคะแนน PC MARK เป็นคะแนนที่จะนับในส่วนของการทำงานทั่วไปเน้นทำงานของ CPU เป็นหลักทำคะแนนได้ไป 3886 คะแนน ออกไปทางกลางๆตามประสิทธิภาพของมันครับตระกูล U และไม่มีการ์ดจอแยก แต่ได้ SSD มาช่วยในแง่ของการเซฟไฟล์ ย้าย โยนไปมาได้ไวและรวมถึงเปิดโปรแกรมของมันด้วย CPU 75 องศา และ GPU 63 องศา ถือว่าทำคะแนนได้ดีกว่า Matebook X Pro รวมถึงคุมความร้อนดีกว่าด้วยนะ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้