แมตช์แห่งความทรงจำ! ย้อนรอย3เกมพลิกนรกบนเวทียุโรปของแมนยู

เกมที่ แมนยู เอาชนะ ปารีส แซง แชร์กแมง 3-1 ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เลกที่สอง เมื่อคืนที่ผ่านมาพร้อมตีตั๋วเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยกฏประตูทีมเยือนหลังเสมอด้วยสกอร์รวม 3-3 แน่นอนว่าเกมนี้จะเข้าไปอยู่ในความทรงจำของสาวก "ปีศาจแดง" กันถ้วนหน้า


อย่างไรก็ดีเกมดังกล่าวไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาสามารถพลิกนรกกลับมาคว้าชัยในถ้วยยุโรปได้ หลังก่อนหน้านี้มีเคยทำได้มาแล้ว เราจะพาไปย้อนรำลึก 3 แมตช์พลิกนรกในเวทียุโรปที่ยังอยู่ในความทรงจำของใครหลายๆคน

3.ยูโรเปี้ยน คัพวินเนอร์สคัพ รอบก่อนรองฯ นัดสอง : แมนยู 3-0 บาร์เซโลน่า - 1984



เกมนี้เกิดขึ้นก่อนที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะมารับงานคุมทีมด้วยซ้ำ โดยเกิดขึ้นในยุคของ รอน แอตกินสัน ในปี 1984 แมนยู บุกไปพ่าย บาร์เซโลน่า ที่มี ดิเอโก้ มาราโดน่า เป็นศูนย์หน้า ก่อนในเกมแรก 0-2

อย่างไรก็ตามเกมนัดที่สองพวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่ากูรูนักวิจารณ์คิดผิดเมื่อสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะด้วยสกอร์ 3-0 และตบเท้าเข้าสู่รอบรองชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 3-2 โดยได้ประตูจาก แฟร้งค์ สเตเปิลตัน และ ไบรอัน ร็อบสัน อีกสองประตู ก่อนจะไปแพ้ ยูเวนตุส ด้วยสกอร์รวม 2-3 ในเวลาต่อมา

2.ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองฯ นัดสอง : ยูเวนตุส 2-3 แมนยู -1999



ทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พา แมนยู เปิดบ้านเสมอ ยูเวนตุส 1-1 ในเกมเลกแรก ซึ่งการมาเสียอเวย์โกลไปก่อนทำให้เป็นงานยากที่จะกลับยิงที่ตูรินคืนเนื่องจากในเวาลนั้นทีม "เบียงโคเนรี่" เต็มไปด้วยผู้เล่นชั้นนำทั้ง อันโตนิโอ คอนเต้, ฟิลิปโป้ อินซากี้, ซีเนอดีน ซีดาน และเอ็ดการ์ ดาวิดส์

เกมเลกที่สองทำท่าว่าจะจบลงด้วยชัยชนะของทีม "ม้าลาย" แบบไม่ยากเย็นเมื่อได้ประตูขึ้นนำ 2-0 ตั้งแต่ 10 นาทีแรกจาก อินซากี้ ทำให้ทีมนำไปด้วยสกอร์รวม 3-1

แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อขุนพล "เรด เดวิลส์" กระหน่ำ 3 ประตูรวดจาก รอย คีน, ดไวท์ ยอร์ค และ แอนดี้ โคล พาทีมพลิกนรกกลับมาผ่านเข้ารอบได้อย่างเหลือเชื่อ ก่อนจะจบด้วยการคว้าแชมป์หลังเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค 2-1 ได้ในรอบชิงฯ

1.ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงฯ : บาเยิร์น มิวนิค 1-2 แมนยู - 1999



เชื่อว่าเกมนี้คือหนึ่งเกมที่สาวก "ปีศาจแดง" ยังจดจำมาถึงทุกวันนี้ หลังจากทำการหักด่าน ยูเวนตุส เข้ารอบชิงชนะเลิศได้ในปี 1999 แมนยู ก็ต้องมาเจออีกหนึ่งบททดสอบสำคัญในเกมนัดชิงฯกับ "เสือใต้"

เกมนี้พวกเขาก็ยังมาอีหรอบเดิมเมื่อถูก บาเยิร์น ขึ้นนำไปก่อนจาก มาริโอ บาสเลอร์ ในนาทีที่ 6 เท่านั้น

และพวกเขาก็ยังรักษาสกอร์นี้ได้จนถึงช่วงท้ายเกมซึ่งทำท่าว่าจะจบด้วยชัยชนะของทีมดังจากแคว้นบาวาเรียแล้วแท้ๆ อย่างไรก็ตาม น.89 เทดดี้ เชอร์ริงแฮม มาซัดประตูตีเสมอให้ แมนยู ได้สำเร็จ เท่านั้นยังไม่พอนาทีถัดมา โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองกลายเป็นซูเปอร์ซัพซัดประตูให้ทีมพลิกกลับมาเอาชนะไปได้แบบสุดระทึก 2-1 กลายเป็นลูกยิงประวัติศาสตร์ที่ถูกพูดถึงจวบจนทุกวันนี้

credit : www.siamsport.co.th
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่