เราโดนล้วงกระเป๋าที่มิลาน
00
สวัสดีค่ะ จะมาเล่าประสบการณ์ที่เจอครั้งแรกของการมาเที่ยวอิตาลี
เรานั่งfix busมาจากswiss มาถึงแล้วลงที่สถานีรถไฟlampugnanoพร้อมลากกระเป๋าเดินทางไซส์28และถุงอาหารอีกถุงลงมาที่สถานีรถไฟใต้ดิน ค่อนข้างพะรุงพะรังค่ะ ที่ตัวเราสะพายกระเป๋าสีดำที่มีซิปสองชั้น มีฝาปิด ก่อนมาถึงอิตาลีก็ค่อนข้างระวังตัวเพราะได้ยินข่าวเรื่องนักท่องเที่ยวโดนล้วงกระเป๋าค่อนข้างบ่อย
พอลงมาที่สถานีรถไฟชั้นล่างแล้ว รถไฟมาพอดี คนค่อนข้างแน่นเพราะเป็นสถานีแรกค่ะ เราเดินตามแม่กับน้องมาจนมาถึงสถานีต่ออีกสาย เราลงและต่อที่สถานีlanza ตรงประตูทางขึ้นมีผู้หญิงสองคน คนแรกผมดำยาวเขียนอายไลเนอร์ดำยืนขวางเราค่ะ เราลากกระเป๋าเข้ามาได้แล้วยืนคาอยู่ตรงนั้นจนประตูปิด เราพยายามดันและขอทางผู้หญิงคนนั้นเข้าไปข้างใน แต่นางไม่ขยับค่ะ นางบอกเราว่าจะลงสถานีหน้า เราเลยดึงกระเป๋าไปทางซ้ายเพื่อจะเดินอ้อมไปทางข้างหลังนางที่แม่เรายืนอยู่เพราะตอนนั้นคือเรายืนคาประตูเลยค่ะ จังหวะนั้นเราคงโดนล้วงไปแล้ว
พอเราเดินอ้อมไปข้างหลังได้ ผู้ชายคนนึงที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูข้างเราก่อนตอนแรก หันมาชี้กระเป๋าเราค่ะ เราก็หันลงมามอง ซิปเปิดได้ไง ตอนนั้นแม่เราตกใจบอกให้รีบปิดกระเป๋า คือมองจากตอนนั้นกระเป๋าสตางค์เราสีดำเดียวกับกระเป๋าที่เราสะพาย เเล้วกระเป๋าสตางค์เราจำได้ว่าวางไว้ก้นกระเป๋าแล้วเอาใบจองต่างๆพับทับๆไว้ เรายังคงคิดว่าเราไม่ได้โดนล้วง พอถึงสถานีแรก ผู้หญิงสองคนนั้นลงค่ะ แต่ผู้ชายคนที่พยายามบอกเราเค้าเอาขากั้นไว้แล้วคุยกับสองคนนั้นเป็นภาษาอิตาลีแล้วชี้มาที่เรา ผู้หญิงสองคนนั้นดูเหมือนจะด่าผู้ชายคนที่เอาขากั้นนางแล้วปัดออกแล้ววิ่งออกไปเลย หลังจากนั้นประตูรถไฟก็ปิด ผู้ชายคนนั้นเป็นคนอียิปต์ที่มาอยู่อิตาลีชื่อว่าลาอูลค่ะ เค้าเดินเข้ามาหาเราเเล้วชี้กระเป๋าเราหน้าเครียดๆแล้วพยายามพูดอังกฤษว่า เธอโดนสองคนนั้นล้วงกระเป๋าสตางค์สีดำไปแล้วนะ เรารีบเปิดซิปดู ใช่!!มันล้วงเราไปจริงๆ ลาอูลเค้ารีบกดมือถือไปที่ไหนสักแห่งแล้วเหมือนแจ้งให้สถานีที่ผู้หญิงสองคนนั้นลงไปจับนางไว้พร้อมบอกรูปประพรรณสัณฐาน แล้วหันมาบอกเรากับแม่ที่กำลังยืนหน้าซีดอยู่ว่าให้ตามเค้าลงไปสถานีหน้า เราก็ลงตามค่ะ ลาอูลพาเราขึ้นไปขอดูกล้องที่สถานีข้างบนแต่เจ้าหน้าที่ไม่ให้ดู ให้เราย้อนกลับไปสถานีที่สองคนนั้นลง พอไปถึงลาอูลก็เดินค้นขยะทุกถัง เราก็วิ่งค้นด้วย ใจก็คิดว่าคงไม่ได้ตังคืนแต่พวกบัตรต่างๆกับกระเป๋าเค้าน่าจะโยนทิ้ง สุดท้ายหาไม่เจอค่ะ เราเลยโทรอายัดบัตรเดบิตเราที่ไทยก่อนแล้วคิดว่าต้องไปแจ้งความไว้เพื่อเอาใบแจ้งความกลับมาทำบัตรใหม่ ลาอูลเดินพาเราไปสถานีตำรวจแบบไม่รู้ทางเช่นกัน ไกลมากจากสถานีที่ขึ้นมาประมาณสองกิโลได้ ซึ้งใจเค้ามาก เราบอกเค้าว่าเราพึ่งมาถึงอิตาลีและนี่คือครั้งแรกของเรา เค้าบอกเราว่าที่นี่โจรเยอะที่สุดในโลกแล้วนะ เค้าอยู่มานาน เราบอกเค้าว่าเราขอบคุณมากๆที่เค้าพามาถึงสถานีตำรวจและพยายามช่วยเราตามหากระเป๋าตามถังขยะ ถ้าเราเจอคนอียิปต์โดนแบบเดียวกันที่ไทย เราจะช่วยเค้ากลับคืนค่ะ

มาต่อ พอเข้ามาที่สถานีตำรวจ ก็ต้องโดนตรวจสัมภาระเปิดกระเป๋าเดินทางแล้วถึงจะเข้าไปนั่งรอเพื่อแจ้งความ พอเดินเข้าไปในห้องนั่งรอ omg! นักท่องเที่ยวนั่งอยู่ประมาณ20คน คนจีน คนรัสเซีย คนผิวดำ คนเวียดนาม ทุกคนคือโดนล้วงกระเป๋ามาค่ะ แล้วที่สถานีตำรวจคุณต้องจำคิวกันเองนะว่าใครมาก่อน ก็รอไปประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว ลาอูลก็นั่งอยู่ด้วยค่ะ เค้าบอกว่าเค้าจ้องหน้าสองคคนนั้น เค้ามาเป็นพยานให้ แต่พออีก20นาทีผ่านไปก็มีสายเข้า เค้าบอกว่าเค้าขอไปธุระ อีกชั่วโมงนึงจะกลับมา เราก็บอกเค้าว่าเราโอเค กระเป๋าที่โดนล้วงมีเงินยูโรอยู่ประมาณหกร้อยค่ะ พาสปอตร์เราแยกไว้ เรามาแจ้งความเพื่อเอาใบเเจ้งความ เราไม่หวังว่าตำรวจจะจับคนร้ายได้ เราขอบคุณลาอูลมาก เราซึ้งใจแต่ให้เค้าไปทำธุระเถอะ ทิ้งเราไว้ที่นี่ เค้าก็ให้เบอร์มือถือมาค่ะแล้วบอกว่าถ้าเค้ามาทันอีกชั่วโมงจะกลับมา แล้วเค้าก็ไป อีกสักพักก็ถึงคิวเรา เราโดนแซงคิวค่ะ เวียดนามจ้าวิ่งแซงเข้าห้องไปเลย คุณป้าคนผิวดำกับกลุ่มคนรัสเซียเค้าก็หันมาบอกเราว่า ยัยคนนั้นแซงคิวเธอ ดูสินิสัยแย่มาก55 หลังจากนางเวียดออกมาเราก็แจ้งความได้ใบเรียบร้อย คุณตำรวจก็ฟังการให้ปากคำเราแบบไม่จบดีก็ลุกไปทำเอกสารแล้วบอกว่าแพทเทิร์นเดิมๆ อ๋อเหรอ แล้วเคยจับใครได้ไหมอ่ะ เราเข็ดค่ะ ไม่มีอีกแล้วอิตาลีต่อให้จะสวยแค่ไหนก็ตาม แรกรับประทับใจสุดๆ ที่จะเล่ามีเท่านี้ค่ะ ให้คนไทยระวังกันด้วย เราว่าเราระวังแล้วยังโดน แพ้โจรมิลานจริงๆค่ะ