อังเดร เชฟเชนโก้กับบิดาในจักรวาลลูกหนังของเขา
...
บนวันที่หิมะคละคลุ้งกับเขม่าควันปืน เด็กชาย "อังเดร เชฟเชนโก้" ลืมตาดูโลกในสหภาพโซเวียต ก่อนที่ครอบครัวของเขาต้องอพยพไปอยู่ที่เคียฟตอนอายุได้แค่ 3 ขวบ
ที่นั่นทำให้เขาได้รู้จักกับ "โอเล็กซานเดอร์ ชปาคอฟ" โค้ชฟุตบอลคนแรกในชีวิตของเชฟเชนโก้
"เขาเป็นโค้ชคนแรกของผมเลย เขาสอนผมเยอะมากๆ ผมยังจำได้ในวันที่เขาเคาะประตูบ้านเพื่อพูดคุยกับพ่อแม่ของผม เกลี้ยกล่อมพวกเขาเพื่อให้ผมได้เล่นฟุตบอลและเอาดีด้านนี้"
เชฟเชนโก้ไม่ได้โตในครอบครัวนักกีฬา เพราะฉะนั้นการที่ตัวเขาเองจะขอเอาจริงเอาจังด้านนี้ จึงเต็มไปด้วยความกังขาจากพ่อแม่
"ในยุคนั้นกีฬาฟุตบอลไม่ได้สร้างเงินหรืออาชีพที่มั่นคงมากนักหรอกนะ แต่ชปาคอฟบอกกับพ่อแม่ของผมว่า ผมจะมีอนาคตที่ดีแน่ ๆ เขากล้ารับประกัน"
เชฟเชนโก้ภายใต้การดูแลของชปาคอฟ ถูกพาเข้าศึกษาที่โรงเรียนฟุตบอลของดินาโมตอน 9 ขวบ ทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่นจนกระทั่งเหตุการณ์เชอร์โนบิล ทำให้เขาและเด็กยูเครนอีกนับพันคนในเคียฟต้องถูกย้ายไปแถวย่านติดทะเลอซอฟอย่างเร่งด่วน
ทุกอย่างที่เกี่ยวกับฟุตบอลถูกพับเก็บ เด็กชายเชฟเชนโก้คิดถึงกลิ่นสาบลูกหนังสุดหัวใจ แต่ทำไงได้ ในเมื่อมีสิ่งที่สำคัญกว่าต้องรักษาเอาไว้ในช่วงเวลาที่ไม่ปกติแบบนั้น
เมื่อเหตุการณ์ร้าย ๆ คลี่คลายลงไป เชฟเชนโก้ที่ไม่ได้แตะลูกฟุตบอลเลยตลอด 3 เดือนก็พบชปาคอฟ ที่หน้าประตูบ้านอีกครั้ง พร้อมกับกระเป๋ารองเท้าและลูกหนังที่เขาคิดถึงอยู่ในมือ
"ผมมารับเขาไปที่ดินาโมครับ เขาต้องเดินหน้าต่อ" ชปาคอฟทำให้พ่อแม่ของเชฟเชนโก้อึ้งอีกครั้ง
"ตอนนั้นผมดีใจมาก และผมติดหนี้บุญคุณเขามากเหลือเกิน เขามีความเชื่อมั่นในตัวผมและคิดถึงผมอยู่เสมอ ถ้าไม่มีเขาผมคงไม่ได้เป็นนักฟุตบอลอย่างในทุกวันนี้แน่ ๆ" เชฟเชนโก้รำลึกถึงครูคนแรกที่เปรียบดั่งบิดาในวงการลูกหนังของเขา
หากชปาคอฟไม่กลับมารับเชฟเชนโก้ไปเล่นฟุตบอลในวันนั้น โลกลูกหนังคงไม่ได้รู้จักกับดาวยิงฝีเท้าพระกาฬจากยูเครนคนนี้อย่างแน่นอน
เครดิตจาก:
https://www.facebook.com/iam.Last.Minute.Before.Injury.Time/photos/a.710255122703260/724843821244390/?type=3&theater
ใครชอบอ่านสรรสาระเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเรื่องเล่าเรื่องเขียนเกี่ยวกับฟุตบอล ฝากกดติดตามไว้ได้นะครับ ^^
อังเดร เชฟเชนโก้กับบิดาในจักรวาลลูกหนังของเขา
...
บนวันที่หิมะคละคลุ้งกับเขม่าควันปืน เด็กชาย "อังเดร เชฟเชนโก้" ลืมตาดูโลกในสหภาพโซเวียต ก่อนที่ครอบครัวของเขาต้องอพยพไปอยู่ที่เคียฟตอนอายุได้แค่ 3 ขวบ
ที่นั่นทำให้เขาได้รู้จักกับ "โอเล็กซานเดอร์ ชปาคอฟ" โค้ชฟุตบอลคนแรกในชีวิตของเชฟเชนโก้
"เขาเป็นโค้ชคนแรกของผมเลย เขาสอนผมเยอะมากๆ ผมยังจำได้ในวันที่เขาเคาะประตูบ้านเพื่อพูดคุยกับพ่อแม่ของผม เกลี้ยกล่อมพวกเขาเพื่อให้ผมได้เล่นฟุตบอลและเอาดีด้านนี้"
เชฟเชนโก้ไม่ได้โตในครอบครัวนักกีฬา เพราะฉะนั้นการที่ตัวเขาเองจะขอเอาจริงเอาจังด้านนี้ จึงเต็มไปด้วยความกังขาจากพ่อแม่
"ในยุคนั้นกีฬาฟุตบอลไม่ได้สร้างเงินหรืออาชีพที่มั่นคงมากนักหรอกนะ แต่ชปาคอฟบอกกับพ่อแม่ของผมว่า ผมจะมีอนาคตที่ดีแน่ ๆ เขากล้ารับประกัน"
เชฟเชนโก้ภายใต้การดูแลของชปาคอฟ ถูกพาเข้าศึกษาที่โรงเรียนฟุตบอลของดินาโมตอน 9 ขวบ ทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่นจนกระทั่งเหตุการณ์เชอร์โนบิล ทำให้เขาและเด็กยูเครนอีกนับพันคนในเคียฟต้องถูกย้ายไปแถวย่านติดทะเลอซอฟอย่างเร่งด่วน
ทุกอย่างที่เกี่ยวกับฟุตบอลถูกพับเก็บ เด็กชายเชฟเชนโก้คิดถึงกลิ่นสาบลูกหนังสุดหัวใจ แต่ทำไงได้ ในเมื่อมีสิ่งที่สำคัญกว่าต้องรักษาเอาไว้ในช่วงเวลาที่ไม่ปกติแบบนั้น
เมื่อเหตุการณ์ร้าย ๆ คลี่คลายลงไป เชฟเชนโก้ที่ไม่ได้แตะลูกฟุตบอลเลยตลอด 3 เดือนก็พบชปาคอฟ ที่หน้าประตูบ้านอีกครั้ง พร้อมกับกระเป๋ารองเท้าและลูกหนังที่เขาคิดถึงอยู่ในมือ
"ผมมารับเขาไปที่ดินาโมครับ เขาต้องเดินหน้าต่อ" ชปาคอฟทำให้พ่อแม่ของเชฟเชนโก้อึ้งอีกครั้ง
"ตอนนั้นผมดีใจมาก และผมติดหนี้บุญคุณเขามากเหลือเกิน เขามีความเชื่อมั่นในตัวผมและคิดถึงผมอยู่เสมอ ถ้าไม่มีเขาผมคงไม่ได้เป็นนักฟุตบอลอย่างในทุกวันนี้แน่ ๆ" เชฟเชนโก้รำลึกถึงครูคนแรกที่เปรียบดั่งบิดาในวงการลูกหนังของเขา
หากชปาคอฟไม่กลับมารับเชฟเชนโก้ไปเล่นฟุตบอลในวันนั้น โลกลูกหนังคงไม่ได้รู้จักกับดาวยิงฝีเท้าพระกาฬจากยูเครนคนนี้อย่างแน่นอน
เครดิตจาก: https://www.facebook.com/iam.Last.Minute.Before.Injury.Time/photos/a.710255122703260/724843821244390/?type=3&theater
ใครชอบอ่านสรรสาระเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเรื่องเล่าเรื่องเขียนเกี่ยวกับฟุตบอล ฝากกดติดตามไว้ได้นะครับ ^^