พูดตามตรงก่อนว่า ไม่ได้ดูถูกรังเกียจหรือดูหมิ่นดูแคลนอะไรคนอินเดีย ประเทศอินเดีย ตรงกันข้ามเลยคือ ชื่นชอบ ชอบความเป็นอินเดียเอามากๆ แต่ที่เขียนมาก็คือ จากเท่าที่ได้คลุกคลีกับสังคมออนไลน์ของแถวนั้นมาระยะหนึ่งแล้ว เลยพอจะเล่าอะไรเล็กๆน้อยๆสำหรับคนที่ไป ส่วนคนที่ชำนาญเรื่องนี้ ผิดถูกอะไรก็ขออภัยด้วยนะครับ

.

เชื่อว่าประสบการณ์โดยตรงของคนไทยเราหลายๆคนก็คือ มักจะบอกว่า อินเดียมีสุขอนามัยไม่ดี กลิ่นตัวแรง จราจรแน่นหนา แต่ถ้าคุณมาอยู่อินเดียใต้ ขอบอกเลยว่าหลายๆเรื่องที่คุณเจอมา อาจจะแย่เป็น 10 เท่า เพราะคนที่นี้มีพื้นฐานสังคมที่แตกต่างจากทางเหนือชัดเจน เรียกว่าแทบจะเหมือนอยู่คนละประเทศเสียด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม หลายๆคนก็ประทับใจกับด้านดีๆที่มีกว่าอินเดียเหนือ โดยเฉพาะความเป็นมิตรของผู้คนต่อนักท่องเที่ยว และอาชญากรรมที่น้อยกว่าทางตอนเหนือหลายขุม

.

คนอินเดียใต้แต่เดิมก็คือชาวดราวิเดียนที่อยู่ทางแม่น้ำสินธุ แต่เวลาต่อมาก็หนีพวกอารยันไปอยู่ทางตอนใต้ของอินเดียปัจจุบัน ทว่าพอมาอยู่แล้วก็โดนวัฒนธรรมของพวกอารยันตามมาครอบงำอีก สิ่งเดียวที่พอจะเป็นตัวตนอย่างชัดเจนของพวกเขาก็คืออักษรและภาษา พวกเขาพยายามรักษากันอย่างเข้มงวด คนอินเดียใต้หลายๆคน โดยเฉพาะคนทมิฬ ไม่ยอมพูดภาษาฮินดี และมักจะพูดภาษาอังกฤษเวลาเจอคนที่พูดภาษาฮินดี มีความพยายามที่จะใช้ภาษาฮินดีเป็นภาษาราชการหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ถูกต่อต้านอย่างหนัก การมาที่นี้ ควรพูดภาษาอังกฤษเป็นหลัก 

.

ที่อินเดียใต้ มีวัฒนธรรมเฉพาะตัวหลายๆอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือการเข้าวัดฮินดู มีประเพณีเคร่งครัดหลายๆอย่างเกี่ยวกับการเข้าวัดของคนอินเดียใต้ ตั้งแต่การให้ผู้ชายถอดเสื้อ (ที่นี้พราหมณ์นิยมถอดเสื้อกัน) การห้ามถ่ายรูป การห้ามผู้หญิงเข้าวัด ไปจนถึงการห้ามคนนอกศาสนาเข้าวัด อย่างไรก็ตาม บางวัดอนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้าไปถ่ายรูปหรือไปเยี่ยมชมได้

.

ที่อินเดียใต้ โดยเฉพาะรัฐเกรละ เป็นสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างแท้จริง คนที่นี้มีทั้งชาวฮินดู มุสลิม คริสเตียน ไปจนกระทั่งกลุ่มการเมืองคอมมิวนิสต์ ทว่ามีความสงบสุข แทบไม่มีปัญหาใดๆเกิดขึ้นในรัฐเกรละ เพราะเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมตั้งแต่โบราณแล้วเนื่องจากเป็นเมืองท่าจากทะเลอาหรับ ทั้งอาหรับและชาวตะวันตก ซึ่งได้เข้ามาเผยแพร่ศาสนา

.

เรื่องหนึ่งที่คุณสามารถคุยกับคนอินเดียใต้ได้ยาวๆสบายๆเลยก็คือ เรื่องความบันเทิง ที่นี้ก็ชอบภาพยนตร์และค่อนข้างจะคลั่งไคล้มากกว่าทางตอนเหนือเสียด้วยซ้ำ เห็นได้จากการที่มีนักแสดงหลายๆคนได้ลงเล่นการเมืองแล้วได้รับเลือกตลอด เช่น MGR นักแสดงทมิฬยุคทองที่ได้รับเลือกเป็นมุขมนตรี NTR นักแสดงชาวเตลูกูที่ได้รับเลือกเป็นมุขมนตรีเช่นเดียวกัน ในอินเดียใต้ ดาราภาพยนตร์มีอิทธิพลทุกๆอย่างไม่เว้นแม้แต่การเมือง ดั่งที่ได้เห็น Rajinikanth ถูกประชาชนกว่าหมื่นคนขอร้องให้เป็นมุขมนตรี หลังจากที่ Jayalalithaa อดีตดาราชื่อดังซึ่งได้รับเลือกเป็นมุขมนตรีได้เสียชีวิต และ เกิดความโกลาหลในการเมืองระดับรัฐขึ้นมา

.

.

ผิดพลาดอะไร ขออภัยด้วยครับ