คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
คุณหาคุณหมอแล้ว ผมจะแนะนำลำดับถัดไปเพื่อซ่อมชีวิตตัวคุณให้
คุณต้องลืมแผนการต่างๆในชีวิตทั้งหมด แล้วเริ่มด้วยแผนระยะสั้นที่สุด
นั้นคือแผนหลังจากตื่นนอนจนถึงก่อนเข้านอน
คุณต้องซ่อมกิจวัตรประจำวันของตัวเอง
ในปัจจุบัน เราป่วยเพราะเราไปรับเอา กิจวัตรประจำวันของคนอื่น หรือกิจวัตรประจำวันสำเร็จรูปมา
ซึ่งบ่อยครั้งที่เราไม่ต้องการ หรือ บ่อยครั้งที่กิจวัตรประจำวันเหล่านั้นทำร้ายเรา
คุณต้องซ่อมกิจวัตรประจำวันของตัวเอง วัตรปฏิบัติของตัวเอง
ตั้งแต่ การหายใจ คุณหายใจถูกต้องหรือยัง หายใจตามธรรมชาติหรือยัง ทั่วท้องหรือยัง
คุณนอนเพียงพอหรือยัง คุณตื่นในเวลาที่ดีที่สุดที่คุณจะทำสิ่งต่างๆในชีวิตหรือยัง
คุณกิน อย่างที่ควรจะกินหรือยัง คุณถ่ายอย่างที่คุณควรจะถ่ายหรือยัง
คุณเคลื่อนไหว เพื่อดำเนินชีวิตในรูปแบบไหน
นั้นคือเรื่องพื้นฐานที่คุณจะต้องมองตัวเองให้เห็น แล้วปรับแก้ให้เข้าที่ตามธรรมชาติเดิมของคุณ
เมื่อคุณ หายใจ นอน ตื่น กิน ขับถ่าย เคลื่อนไหว ตามธรรมชาติเดิมของคุณแล้ว
เหมาะกับร่างกายคุณแล้ว คุณก็วางการทำกิจวัตรต่างๆให้เหมาะกับวิถีชีวิตของคุณ
โชคดดีที่เราหลายคนวางกิจวัตรประจำวันของตัวเองได้ และตัดกิจวัตรที่มีปัญหาได้
คุณต้องมองให้ออกว่า กิจวัตรอะไร ที่เสริมพลัง เสริมสติให้คุณ
เช่นบางคนเลือกการเข้ากลุ่มออกกำลังกาย กับเพื่อนใหม่ที่ไม่เคยรุ้จัก
การออกกำลังกายเงียบ หรือฟังเพลงเงียบๆคนเดียว ดูหนังดีสักๆเรื่อง
หรือแค่ล้างจาน คุณต้องหากิจวัตรประจำวันที่เสริมพลังบวกให้คุณใส่ไว้ในลิสต์รายการ
และตัดกิจวัตร หรือลดกิจวัตรที่บั่นทอนกำลังลบ ให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็ฯ
ขั้นตอนการพัฒนากิจวัตรนี้ต้องใช้เวลา
ต้องใช้การเข้าถึงสภาพจิตใจของตัวเอง
ต้องมีสติตลอดถึงจะรุ้อย่างแจ่มแจ้งว่า อะไรที่กิจวัตรที่ดี อะไรคือสิ่งที่บั่นทอนกำลัง
ถ้าคุณมีสติ มีเวลาเข้าไปหาตัวเองแล้วคุณจะสามารถซ่อมแซมสภาพจิตใจของคุณได้ด้วยตัวคุณเอง
ในะรดับหนึ่ง ซึ่งทำควบคุ่ไปกับการรักษาทางการแพทย์
ลืมแผนในอนาคต แปลนใหญ่ๆต่างความคาดหวังลงให้หมด
เหลือแค่ การพัฒนากิจวัตรประจำวัน วันต่อวันให้ดี
ต้นไม้ใหญ่เติบโตได้ตามเหตุปัจจัย ไม่ใช่การวางแผน
ตัวคุณเองก็เช่นกัน ดีหรือราย อยู่ทีเ่หตุปัจจัยปัจจุบันที่เป็นปุ๋ยให้กับจิตใจคุณเท่านั้นเอง
เมื่อคุณจัดวางเหตุปัจจัยที่ดีผ่านการออกแบบกิจวัตรประจำวันที่เหมาะกับต้นไม้อย่างคุณแล้ว
ทุกอย่างจะดีขึ้นเองภายในไม่เกินสามสัปดาห์
ขอให้สนุกกับการออกแบบตัวเอง
คุณต้องลืมแผนการต่างๆในชีวิตทั้งหมด แล้วเริ่มด้วยแผนระยะสั้นที่สุด
นั้นคือแผนหลังจากตื่นนอนจนถึงก่อนเข้านอน
คุณต้องซ่อมกิจวัตรประจำวันของตัวเอง
ในปัจจุบัน เราป่วยเพราะเราไปรับเอา กิจวัตรประจำวันของคนอื่น หรือกิจวัตรประจำวันสำเร็จรูปมา
ซึ่งบ่อยครั้งที่เราไม่ต้องการ หรือ บ่อยครั้งที่กิจวัตรประจำวันเหล่านั้นทำร้ายเรา
คุณต้องซ่อมกิจวัตรประจำวันของตัวเอง วัตรปฏิบัติของตัวเอง
ตั้งแต่ การหายใจ คุณหายใจถูกต้องหรือยัง หายใจตามธรรมชาติหรือยัง ทั่วท้องหรือยัง
คุณนอนเพียงพอหรือยัง คุณตื่นในเวลาที่ดีที่สุดที่คุณจะทำสิ่งต่างๆในชีวิตหรือยัง
คุณกิน อย่างที่ควรจะกินหรือยัง คุณถ่ายอย่างที่คุณควรจะถ่ายหรือยัง
คุณเคลื่อนไหว เพื่อดำเนินชีวิตในรูปแบบไหน
นั้นคือเรื่องพื้นฐานที่คุณจะต้องมองตัวเองให้เห็น แล้วปรับแก้ให้เข้าที่ตามธรรมชาติเดิมของคุณ
เมื่อคุณ หายใจ นอน ตื่น กิน ขับถ่าย เคลื่อนไหว ตามธรรมชาติเดิมของคุณแล้ว
เหมาะกับร่างกายคุณแล้ว คุณก็วางการทำกิจวัตรต่างๆให้เหมาะกับวิถีชีวิตของคุณ
โชคดดีที่เราหลายคนวางกิจวัตรประจำวันของตัวเองได้ และตัดกิจวัตรที่มีปัญหาได้
คุณต้องมองให้ออกว่า กิจวัตรอะไร ที่เสริมพลัง เสริมสติให้คุณ
เช่นบางคนเลือกการเข้ากลุ่มออกกำลังกาย กับเพื่อนใหม่ที่ไม่เคยรุ้จัก
การออกกำลังกายเงียบ หรือฟังเพลงเงียบๆคนเดียว ดูหนังดีสักๆเรื่อง
หรือแค่ล้างจาน คุณต้องหากิจวัตรประจำวันที่เสริมพลังบวกให้คุณใส่ไว้ในลิสต์รายการ
และตัดกิจวัตร หรือลดกิจวัตรที่บั่นทอนกำลังลบ ให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็ฯ
ขั้นตอนการพัฒนากิจวัตรนี้ต้องใช้เวลา
ต้องใช้การเข้าถึงสภาพจิตใจของตัวเอง
ต้องมีสติตลอดถึงจะรุ้อย่างแจ่มแจ้งว่า อะไรที่กิจวัตรที่ดี อะไรคือสิ่งที่บั่นทอนกำลัง
ถ้าคุณมีสติ มีเวลาเข้าไปหาตัวเองแล้วคุณจะสามารถซ่อมแซมสภาพจิตใจของคุณได้ด้วยตัวคุณเอง
ในะรดับหนึ่ง ซึ่งทำควบคุ่ไปกับการรักษาทางการแพทย์
ลืมแผนในอนาคต แปลนใหญ่ๆต่างความคาดหวังลงให้หมด
เหลือแค่ การพัฒนากิจวัตรประจำวัน วันต่อวันให้ดี
ต้นไม้ใหญ่เติบโตได้ตามเหตุปัจจัย ไม่ใช่การวางแผน
ตัวคุณเองก็เช่นกัน ดีหรือราย อยู่ทีเ่หตุปัจจัยปัจจุบันที่เป็นปุ๋ยให้กับจิตใจคุณเท่านั้นเอง
เมื่อคุณจัดวางเหตุปัจจัยที่ดีผ่านการออกแบบกิจวัตรประจำวันที่เหมาะกับต้นไม้อย่างคุณแล้ว
ทุกอย่างจะดีขึ้นเองภายในไม่เกินสามสัปดาห์
ขอให้สนุกกับการออกแบบตัวเอง
แสดงความคิดเห็น
รู้สึกดาวน์กับชีวิตขั้นสุด ควรทำยังไงเผื่อให้อาการลดลง
เราลองแล้วนะแต่ดูท่าทางจะหนักเกินไปไม่มีใครอยากคบกับคนที่ทำให้ตัวเองไม่สบายใจเพราะเป็นห่วงหรือมากเรื่องราวในชีวิต คิดมากหรอก
เราหาวิธีโดยการทำกิจกรรมต่าง ระบายในทิศทางอื่น เช่นเขียนไดอารี่เพื่อเช็คอารมณ์ในแต่ละวันว่าดุลยภาพมันอยู่ตรงโซนไหน อะไรคือสิ่งที่ทำให้เกิดอาการได้ แต่ไร้ประโยชน์ มันช่วยได้แค่การควบคุมอาการให้เกิดขึ้นช้าลงประมาณ15นาทีเท่านั้น เราพยายามเรียนรู้ตัวเองในทุกด้านมองตัวในทุกมุม หาสิ่งที่ชอบไม่ชอบเพราะเข้าหาในเวลาที่รู้สึกว่างเปล่าและกำลังจะแย่ และหลีกเลี่ยงสิ่งที่ส่งผลต่ออารมณ์ ปัจจุบันไม่มีเพื่อนสนิทมีเพียงเพื่อที่มาขอคำปรึกษาในด้านต่างๆบ้าง เที่ยวเล่นบ้าง แค่เท่านั้น ใจจริงๆยังอยากมีนะ แต่กลัวทุกอย่างเหมือนคนที่ตกเหวมาแต่ยังรอดและพยายามปีนป่ายด้วยตัวคนเดียวมาประมาณ70เปอร์เซ็นต์แต่ก็มีพลาดตกมาที่40เปอร์เซ็นต์แต่ก็ปีนมาได้จนตอนนี้อยู่ที่60เปอร์เซ็นต์ เราก็ยังอยากไปให้ถึง แต่ด้วยสตอรี่ในอดีตมันเลวร้ายและความรู้สึกที่ยังช้ำ เหมือนแผลที่ไม่สมานหายดียังคงเจ็บง่ายและเกิดเป็นแผลใหม่ได้ง่ายอยู่ จึงกลัวว่าเราสามารถพูดหรือมีเพื่อนมีใครได้อยู่หรือป่าว. ยังมีคนรับได้อยู่ไหม ที่จะอยากรู้จัก55555555พิมพ์ยาวมากขอโทษด้วยนะคะ หากอ่านทำความเข้าใจยากหน่อย
ปล.เป็นซึมเศร้ามา3ปี แต่คุณหมอบอกอาการดีขึ้นรักษาตัวดีจนหายแล้ว แต่ก็ควรเซฟตัวเองด้วยทานยาบำรุงค่ะ