แมนยูเข้าทำเนียบ! 6เกมฟื้นมาหลอนน็อกเอาต์ชปล.

ย้อนดู 6 เกมคัมแบ็กสุดยอดในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบน็อกเอาต์ หลัง แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่งเขี่ย เปแอสเช เดินหน้าเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพิ่งสร้างปาฎิหาริย์บุกไปชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 3-1 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง เมื่อวันพุธที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา ทำให้ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศด้วยกฎประตูทีมเยือน หลังเสมอกัน 3-3

ก่อนหน้านี้หลายคนมองว่าโอกาสเข้ารอบของ "ปีศาจแดง" ริบหรี่สุดๆ หลังเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แพ้ เปแอสเช 0-2 ในนัดแรก ก่อนจะมาชนะได้อย่างเหลือเชื่อในนัดสอง ทำให้แมตช์นี้คงต้องเข้าไปบรรจุอยู่ในเกมสุดยอดแห่งการคัมแบ็กในรอบน็อกเอาต์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างแน่นอน โดยก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุการณ์น่าประทับใจแบบนี้มาแล้วหลายนัด ยกตัวอย่างสุดยอด 6 เกมดังนี้

1. บาร์เซโลน่า 6-1 ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (บาร์ซ่า ชนะด้วยประตูรวม 6-5) - มีนาคม 2017 นัดแรก: เปแอสเช 4-0 บาร์เซโลน่า

นัดสอง: บาร์เซโลน่า 6-1 เปแอสเช 




ใครจะเชื่อ บาร์ซ่า สามารถพลิกสถานการณ์เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังนัดแรกบุกไปแพ้ เปแอสเช ขาดลอยถึง 0-4

บาร์ซ่า ได้ประตูออกนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 3 จาก หลุยส์ ซัวเรซ ก่อนที่ เลย์แว็ง กูร์กซาว่า มาทำเข้าประตูตัวเองนาทีที่ 40 และนำห่าง 3-0 จาก ลิโอเนล เมสซี่ นาทีที่ 50

อย่างไรก็ตาม ความหวังของ บาร์ซ่า ดูจะดับไปอีก หลัง เอดินสัน คาวานี่ ยิงไล่ให้ เปแอสเช ตามมาเป็น 1-3 นาทีที่ 62 แต่แล้ว เนย์มาร์ ก็มาจุดประกายให้ทีมอีกครั้ง หลังซัด 2 ลูกในนาทีที่ 88 และ 90+1

และแล้ว เซร์จี้ โรเบร์โต้ ก็ทำให้ทุกคนในสนาม คัมป์ นู กระโดดตัวลอย หลังยิงประตูในนาทีที่ 90+5 ทำให้ บาร์ซ่า ชนะ 6-1 และผ่านเข้ารอบไปด้วยประตูรวม 6-5

2. เชลซี 4-1 นาโปลี (เชลซี ชนะด้วยประตูรวม 5-4) - มีนาคม 2012 นัดแรก: นาโปลี 3-1 เชลซี


นัดสอง: เชลซี 4-1 นาโปลี (ต่อเวลาพิเศษ)


เกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เชลซี บุกไปพ่าย นาโปลี 1-3 ที่สนาม ซาน เปาโล

อย่างไรก็ตาม เมื่อกลับมาเล่นนัดสองในบ้าน โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ สามารถกระตุ้นให้ทีมกลับมาเอาชนะได้สุดยอด จากการทำประตูของ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา, จอห์น เทอร์รี่ และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ทำให้ชนะ 3-1 และต้องเล่นช่วงต่อเวลาพิเศษ

บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กลายเป็นฮีโร่ของ เชลซี เมื่อเป็นคนทำประตูชัย และส่งผลให้ "สิงห์บลูส์" เดินหน้าเข้าไปคว้าแชมป์ครั้งแรกได้สำเร็จ

3. เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า 4-0 เอซี มิลาน (กอรุนญ่า ชนะด้วยประตูรวม 5-4) เมษายน 2004  นัดแรก: เอซี มิลาน 4-1 กอรุนญ่า


นัดสอง: กอรุนญ่า 4-0 เอซี มิลาน


เอซี มิลาน ชุดนั้น ถือว่าแข็งแกร่งสุดๆ เพราะมีซูเปอร์สตาร์หลายรายทั้ง ริคาร์โด้ กาก้า, อังเดร เชฟเชนโก้ และ อันเดรีย ปีร์โล่ ทำให้ดูเหมือนว่า การเก็บชัยชนะ 4-1 ใน ซาน ซิโร่ ก็แทบการันตีการเข้ารอบรองชนะเลิศไปกว่าครึ่งตัวแล้ว

อย่างไรก็ตาม เกมนัดสองที่ ริอาซอร์ กลับเกิดเหตุการณ์น่าเหลือเชื่อ หลัง วอลเตอร์ ปันดิอานี่ ยิงให้เจ้าถิ่นออกนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 5 ก่อนที่ ฆวน การ์ลอส บาเลรอน, อัลเบิร์ต ลูเก้ และ ฟราน กอนซาเลซ จะมาช่วยเพิ่มสกอร์ในนาทีที่ 34, 44 และ 76

4. โมนาโก 3-1 เรอัล มาดริด (โมนาโก ชนะด้วยกฎอเวย์โกล 5-5) - เมษายน 2004   นัดแรก: เรอัล มาดริด 4-2 โมนาโก


นัดสอง: โมนาโก 3-1 เรอัล มาดริด 


ในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก เรอัล มาดริด เปิดบ้านชนะ โมนาโก ได้ก่อน 4-2 โดยที่โดน แฟร์นานโด มอริเอนเตส เด็กเก่า ยิงไล่ขึ้นมาช่วงท้ายเกม และมันก็กลายเป็นประตูล้ำค่าของทีมเยือน

ในนัดสอง มาดริด ก็ดูเหมือนจะมีโอกาสผ่านเข้ารอบไปแบบสบายๆ หลัง ราอูล กอนซาเลซ ซัดให้ทีมออกนำ 1-0 นาที 35 ทำให้เจ้าบ้านต้องยิงถึง 3 ลูกถึงจะผ่านเข้ารอบ แต่พวกเขาก็ทำได้จาก ลูโดวิช ชูลี่ 2 ลูก และ มอริเอนเตส อีก 1 ลูก

5. บาร์เซโลน่า 4-0 เอซี มิลาน (บาร์ซ่า ชนะด้วยประตูรวม 4-2) - มีนาคม 2013   นัดแรก: เอซี มิลาน 2-0 บาร์เซโลน่า


นัดสอง: บาร์เซโลน่า 4-0 เอซี มิลาน 


เกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรก เอซี มิลาน เปิดรัง ซาน ซิโร่ ชนะ บาร์เซโลน่า ได้ก่อน 2-0 จากการทำประตูของ เควิน พรินซ์ บัวเต็ง และ ซัลลี่ย์ มุนตารี่

อย่างไรก็ตาม ในนัดสอง บาร์ซ่า เดินหน้าถล่มแหลก จากการยิงของ ลิโอเนล เมสซี่ สองลูก, ดาบิด บีย่า และปิดท้ายด้วย จอร์ดี้ อัลบา ทำให้ชนะ 4-0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้อย่างสวยงาม

6. โรม่า 3-0 บาร์เซโลน่า (โรม่า ชนะด้วย ชนะด้วยกฎอเวย์โกล 4-4) - เมษายน 2018  นัดแรก: บาร์เซโลน่า 4-1 โรม่า


นัดสอง: โรม่า 3-0 บาร์เซโลน่า 


คงไม่มีใครคิดว่า โรม่า จะผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ หลังจากออกไปแพ้ บาร์ซ่า ถึง 1-4 ในนัดแรก แต่ทีมของกุนซือ ยูเซบิโอ ดิ ฟรานเชสโก้ ก็ทำให้หลายคนต้องช็อกเมื่อเอาชนะไปแบบขาดลอยจาก เอดิน เชโก้ นาทีที่ 6, ลูกจุดโทษของ ดานิเอเล่ เด รอสซี่ นาทีที่ 58 และลูกโหม่งของ คอสตาส มาโนลาส นาทีที่ 82 ทำให้สกอร์รวม 2 นัดเสมอกัน 4-4 แต่เป็น "หมาป่าเหลืองแดง" ที่เข้ารอบด้วยกฎอเวย์โกล

credit : www.siamsport.co.th
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่