ขอใช้พื้นที่ให้เพื่อนๆในห้องนี้ช่วยให้คำแนะนำหน่อยค่ะ....
*ยาวหน่อย อาจจะเรียบเรียงข้อความไม่ได้ดีเท่าที่ควร
เป็นการตั้งกระทู้ยาวๆครั้งแรก ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้านะคะ
เราคบกับแฟนมา 4 ปี ตั้งเเต่ยังเรียนมหาวิทยาลัย จนตอนนี้เรียนจบสอบบรรจุเข้ารับราชการได้ เริ่มทำงานได้ครึ่งปี
การคบหากันของเรา อยู่ในสายตาของพ่อแม่ ผู้ใหญ่ทั้ง2ฝ่ายรับรู้
ตอนที่เรายังเรียนอยู่ แฟนทำงานเเล้วค่ะ อายุเราห่างกัน 5 ปี เขารับราชการทหาร เขาดีกับเราทุกอย่างเป็นผู้ชายพูดเพราะ ไม่เคยพูดคำหยาบกับเรา ไม่ดื่ม ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่มีเรื่องผู้หญิงมากวนใจ เราก็เข้าใจทุกอย่างในความเป็นเขา โดยเฉพาะเรื่องเวลา ว่างค่อยเจอกัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง
ต่างคนต่างเข้าใจกัน ไม่งอแง ไม่งี่เง่า มีอะไรถ้าไม่ได้โทรคุยกันจะมีข้อความฝากไว้ให้อีกฝ่ายรับรู้เสมอ
เราเคยรอเขาเดือนครึ่ง ตอนที่ไปเรียนหลักสูตรพิเศษทางทหาร โดยที่ไม่รู้ว่าอีกคนเป็นยังไง อยู่ดีกินอิ่มหรือเปล่า
จะฝึกหนักไหม คิดถึงทุกวัน พอวันที่เขากลับมา ได้ยินเสียงครั้งเเรก คือน้ำตาคลอ มันคิดถึง มันพูดอะไรไม่ได้
มันตื้นตันในใจตอนที่ได้ยินเสียงเขาเรียกชื่อเรา...อารมณ์ของคนรอ...
อยากไปเที่ยวไหน อยากไปทำบุญวันสำคัญ หรือโอกาสสำคัญ คำแรกที่เขาบอกเรา คือ รอก่อนนะ
บางครั้งนัดเเล้ว ถึงวัน ยกเลิก เพราะมีงานด่วน
นั่งกินข้าวด้วยกัน มีงานด่วน ก็ต้องไป
เราเข้าใจนะ เข้าใจในงานของเขา แต่ก็มีน้อยใจบ้าง
แต่ความเข้าใจของเรา2คนมีมากกว่า เรื่องเเค่นี้ไม่เป็นปัญหา
พอ...เรามาทำงาน ในช่วงเเรกเราปรับตัวกับการทำงานยังไม่ได้ แบ่งเวลายังไม่ได้
ช่วงเเรกเขาเข้าใจเราทุกอย่าง บอกให้เราสู้ บอกให้เราอดทน
พอเวลาผ่านไป เขาเริ่มงอแง เริ่มบอกว่าเราไม่มีเวลาให้
เราพยายามอธิบายบอกทุกอย่างว่าเพราะอะไร ที่เราพยายามทำทุกอย่างเพราะอยากสร้างอะไรกับเขา
ให้ชีวิตมีความมั่นคง เขาเข้าใจเราได้2-3 วัน ก็เริ่มมีเรื่องมาพูดใส่มาประชด เป็นแบบนี้ มาประมาณเกือบ2เดือน
ในความรู้สึกเราคือ เหนื่อยกับงาน เลิกงานมาเราอยากได้ความสบายใจ เราอยากมีคนที่เข้าใจเรา อยากพูดคุยกันดีๆ แค่อยู่ไกลกัน1ปีได้เจอกัน 3-4ครั้ง ในความรู้สึกของคนรัก เราว่ามันก็หนักพอสมควร
หลังจากเริ่มมีปัญหา เขาไม่สบายต้องนอนโรงพยาบาลอยู่1อาทิตย์ เราโทรหาตลอดให้กำลังใจตลอด โทรหาโทรถามอาการทุกวัน ทุกครั้งที่เราว่าง แต่ เราไปดูแลเขาไม่ได้ในเวลาที่เขาไม่สบายแบบนี้
พอ...ออกจากโรงพยาบาลทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป เราทำงานเลิกดึก กลับมาคุยกันเราบอกว่ามีงานเช้า จะรีบอาบน้ำนอนวันนี้ไม่ได้คุยด้วยนะคะ ก็บอกรัก บอกฝันดีปกติเหมือนทุกวัน
ตอนเช้าเราต้องออกจากห้องตั้งเเต่เช้ามืด เขาโทรมาเหมือนทุกวันก่อนไปเข้าเวร เราก็บอกว่าเรารีบจะรีบไปไว้คุยกันนะ
เขาถามเรากลับว่า จะไปไหน ทำไมต้องไปแต่เช้า เราก็เลยบอกว่า บอกไปแล้วเมื่อคืนลืมเหรอ ไว้ค่อยคุยกันนะ
เขายังยืนยันจะคุย โดนตะคอกกลับมาว่าคุยไม่รู้เรื่อง ต่อไปก็ไม่ต้องคุย เเล้วเขาตัดสายเราทิ้งไป....
เราก็โทรกลับ ไม่รับสาย ไม่มีการติดต่อกลับมา เป็นเวลา 1 อาทิตย์ ไลน์ไปไม่อ่าน โทรไปไม่รับ
ลบเราจากเพื่อนในเฟส... ปิดการติดต่อทุกทาง
หลังจาก1อาทิตย์นั้น เขากลับมา ทำทุกอย่างเหมือนปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สักพักเริ่มมีคำพูดประชดชัน ไม่ชอบให้เราเเต่งตัว ไม่ชอบให้เราเเต่งหน้า ซึ่งเเต่งหน้าของเราคือ แป้งฝุ่น ทาลิป แค่นี้จริงๆ
เพราะอาชีพเราต้องเจอคนเยอะ ต้องเจอคนทุกวัน เราคิดว่าเราไม่ได้เเต่งหน้าจัดหรือแต่งตัวไม่เหมาะสม
เราแค่ปรับบุคลิกของตัวเองให้เหมาะกับอาชีพที่ทำ มันเหมือนการพัฒนาบุคลิกของตัวเอง
เราก็อธิบายให้เขาเข้าใจ เราเข้าใจว่าห่างกันเขาคงจะหวง คงจะคิดมากเพราะอยู่ไกลกัน
แต่เขาก็ยังบอกว่าเราเปลี่ยน...
เลยถามไปว่า เปลี่ยนยังไงเปลี่ยนตรงไหน บอกมา จะได้อธิบายถูก
เขาพูดว่า รู้ว่าต้องปรับตัวปรับบุคลิก แต่อย่าลืมว่าตัวเองเป็นยังไง
โอเค เรารับรู้เราเข้าใจ เราก็ยังเหมือนเดิม
เเล้วมันมีเรื่องให้เราสงสัยอยู่หลายครั้ง เขาจะมีวันพักทุก2วัน เเล้วจะขับรถกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่
เราจะติดต่อ วิดีโอคอลหากันตลอดเวลาเขากลับบ้าน
แต่พักหลังมา มันไม่เป็นแบบนั้น คุยกับเราก่อนนอนเหมือนทุกครั้ง วางสายไป
ตอนเช้า เราโทรหาไม่รับ โทรทั้งวันก็ไม่รับ ไลน์ไปไม่อ่าน จนตอนเย็น กลับที่ทำงานถึงติดต่อกลับมาหาเรา
เราถามเพราะสงสัย ว่าหายไปไหนแต่ก่อนจะไปจะกลับก็บอกก่อนตลอด
เขาก็บอกยุ่ง บอกรีบ ทำงานช่วยที่บ้าน เลยจะโทรบอกทีเดียว
โอเค เราเข้าใจ แต่มันเป็นแบบนี้บ่อย เป็นมาเรื่อยๆ
ความสงสัยของผู้หญิงแบบเราๆ เขาแอบไปหาใครหรือเปล่า?
ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนที่เคยเป็น
มีครั้งสุดท้ายก่อนจะหายไปจากชีวิตของกันและกันเราทะเลาะกันหนักมาก
แล้วได้ยินคำ คำหนึ่งจากปากเขา
หน้าไม่ได้เหมือนหน้าเเม่กูนะ กูถึงจะได้ง้อ...
เราอึ้ง มันตื้อๆในหัว เเล้วเราก็วางสายไป โดยไม่ได้พูดอะไรเลย ไม่เคยคิดว่าจะได้ยินจากปากเขา
อารมณ์แบบคนเคยได้รับอะไรดีๆมาตลอดเเล้ววันหนึ่งกลับมาได้ยินคำพูดแบบนี้
หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ช่วงกลางเดือนธันวาคมปีที่เเล้ว ไม่มีการโทรคุย ไม่มีการโทรง้อ ทุกอย่างเงียบ
อาการเราตอนนั้นเหมือนอกหัก มันแย่มันอึดอัด เราเลยติดต่อเขาไป แต่เหมือนเดิม ไลน์ไม่อ่าน โทรไปไม่ติดเหมือนบล๊อกเบอร์
โอเค!!! ไม่เป็นรอเขาติดต่อมา เเต่อาการเราหนักมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ พยายามปลง ไม่คิด
เราไม่รู้ว่าสาเหตุจริงๆมันคืออะไร เราผิดเหรอ เราทำอะไรผิด?
เขามีคนอื่นหรือเปล่า? ทำไมทุกอย่างเป็นแบบนี้
เลิกงานมาร้องไห้ทุกวัน....เป็นเเบบนี้เกือบ 1เดือน
คำถามที่เกิดขึ้นในใจคือ เราเลิกกันแล้วเหรอ เราเลิกกันจริงๆใช่ไหม?
เเล้วสิ่งดีๆที่ผ่านมา เวลาเกือบ 5 ปี มันคืออะไร เราผ่านเรื่องราวต่างๆมาด้วยกันมากมาย
ทั้งทุกข์ทั้งสุข มันลืม มันทิ้งกันง่ายขนาดนี้เลยเหรอ
เราอยู่กับความรู้สึกแย่ๆมาคนเดียวเรื่อยๆ
จนช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมามีคนเข้ามาคุย เป็นคนที่ทำงานที่เดียวกัน
ในสายตาเราพี่เขาทำงานดี มีความรับผิดชอบเรื่องงานดีมาก
คุยกันเหมือนพี่น้อง ไม่ได้คิดอะไร เพราะเราลืมคนเก่าไม่ได้
พอมีคนคุยเป็นเพื่อนก็ดีขึ้นบ้าง
คุยกันมาเรื่อยๆ คุยถูกคอ ชอบในหลายๆอย่างเหมือนกัน เลยคุยกันรู้เรื่อง
พี่เขาจะพูดแหย่ๆเรา พี่ชอบผู้หญิงสวยนะ 555 ซึ่งเราไม่สวย
เราเลยไม่แน่ใจว่าเขาจะจีบเรา หรือเป็นหมาหยอกไก่
แต่พอคุยกันได้ประมาณ1เดือน เหมือนพี่พยายามจะพัฒนาความสัมพันธ์ ชวนกินข้าว
มีปัญหาอะไรเขาเป็นที่ปรึกษาได้ ทั้งเรื่องงานเรื่องส่วนตัว เขาให้คำปรึกษาเราได้ดี
เป็นพี่ที่น่ารักคนหนึ่ง
แล้วเป็นผู้ชายคนเเรกที่วิจารณ์เรื่องการเเต่งตัวของเรา555 แอบอายนิดนึง
พี่เขาบอกให้เราปรับนะ ปรับบุคลิกตัวเอง
แต่งตัวแต่งหน้าบ้าง แต่งเเค่พอดีๆ เราเป็นผู้หญิง อาชีพเราต้องเจอคนเยอะ ต้องพูดต้องคุยกับคนอื่น
บุคลิกดี การเเต่งตัวดี มันสร้างความมั่นใจให้เราได้
ซึ่งพี่เขาไม่เหมือนกับเเฟนเก่าเราเลย เรื่องความเข้าใจในการปรับตัวจุดนี้ของเรา
ต้องบอกก่อนเราเป็นผู้หญิงไม่เเต่งตัวไม่เเต่งหน้าหน้า นานๆจะซื้อเสื้อผ้า
ออกแนวเฉิ่มๆเชยๆ กางเกงยีนส์ไม่ค่อยใส่
เสื้อผ้าตามกระเเสนิยมยิ่งเเล้วใหญ่
อ่อ เราสายตาสั้น ใส่เเว่น ยิ่งดูเฉิ่มเข้าไป
เราคุยกันได้ทุกเรื่อง เรื่องในชีวิตเขาชีวิตเรา ทั้งเรื่องดี และไม่ดี ได้เล่าสู่กันฟังมาเรื่อยๆ
ต่างคนต่างเข้าใจกัน
เหมือนตัวเองล้มลงเเล้วมีอีกคนมาพยุงขึ้น
แต่...เราก็ยังกลัว กลัวความผิดหวัง เเล้วมารู้ทีหลัง ว่าเขาคุยกับคนอื่นก่อนจะมาคุยกับเรา
เราก็ถามไปตรงๆ เขาก็บอกตรงๆ ว่าคุยกับคนอื่นจริง ช่วงเเรกๆที่มาคุยเรา
แต่...ตอนนี้ เขาบอกว่าเขาคุยกับเราแค่คนเดียว เขาบอกว่าชอบนิสัยเรา เราเป็นผู้หญิงที่น่าคบคนหนึ่ง
เนี่ย!!!!! เกิดความสับสน เกิดความกลัวขึ้นในใจอีกแล้ว
กลัวจะโดนหลอก กลัวคนไม่จริงจัง
พอเริ่มศึกษานิสัยของกันเเละกันมาเรื่อยๆ เราโอเค เขาโอเค
เอาวะ!!! ลองดูสักตั้ง ทุกอย่างก็โอเคดี ต่างคนต่างเข้าใจกัน
อาจจะเพราะทำงานที่เดียวกัน บริบทเดียวกัน
เข้าใจงานของเรา
พีคคคค!!!! แฟนเก่าติดต่อกลับมา หลังจากหายไปเกือบ3เดือน
แต่น้ำเสียง คำพูดทุกอย่าง ไม่เหมือนที่ผ่านมา
เรารับรู้ได้ว่าความรู้สึกเขาคงไม่เหมือนเดิมกับเราเเล้ว
เขาพูดประมาณว่า กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม
ไม่มีเราชีวิตเหมือนขาดอะไรไป เกือบสามเดือนเพิ่งจะคิดถึงเรา
เราก็ถามว่าหายไปไหนมา ไม่ติดต่อกัน ติดต่อไม่ได้
เขาตอบว่าไปลองใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ว่าจะอยู่ได้ไหม
เเล้วความรู้สึกของเราตอนนั้นล่ะ มันเเย่มากเลยนะ
กับการที่แฟนหายไปเฉยๆ ไม่มีเเม้คำร่ำลา ปล่อยให้เราร้องไห้คนเดียว
คิดไปเองคนเดียว เราเกิดอาการงงๆสับสน คืออะไรยังไง
แล้วฉันเลือกอะไรได้ไหม? กำลังจะเริ่มใหม่ แต่ต้องมาเจอแบบนี้
ถ้าเพื่อนๆในห้อง เจอเหตุการณ์แบบนี้
จะเดินต่อยังไง... เราสับสน
ขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำแนะนำนะคะ...
บางครั้งบางเรื่อง เราก็ตัดสินใจลำบาก
เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้!!!! จะตัดสินใจเเบบไหน
*ยาวหน่อย อาจจะเรียบเรียงข้อความไม่ได้ดีเท่าที่ควร
เป็นการตั้งกระทู้ยาวๆครั้งแรก ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้านะคะ
เราคบกับแฟนมา 4 ปี ตั้งเเต่ยังเรียนมหาวิทยาลัย จนตอนนี้เรียนจบสอบบรรจุเข้ารับราชการได้ เริ่มทำงานได้ครึ่งปี
การคบหากันของเรา อยู่ในสายตาของพ่อแม่ ผู้ใหญ่ทั้ง2ฝ่ายรับรู้
ตอนที่เรายังเรียนอยู่ แฟนทำงานเเล้วค่ะ อายุเราห่างกัน 5 ปี เขารับราชการทหาร เขาดีกับเราทุกอย่างเป็นผู้ชายพูดเพราะ ไม่เคยพูดคำหยาบกับเรา ไม่ดื่ม ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่มีเรื่องผู้หญิงมากวนใจ เราก็เข้าใจทุกอย่างในความเป็นเขา โดยเฉพาะเรื่องเวลา ว่างค่อยเจอกัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง
ต่างคนต่างเข้าใจกัน ไม่งอแง ไม่งี่เง่า มีอะไรถ้าไม่ได้โทรคุยกันจะมีข้อความฝากไว้ให้อีกฝ่ายรับรู้เสมอ
เราเคยรอเขาเดือนครึ่ง ตอนที่ไปเรียนหลักสูตรพิเศษทางทหาร โดยที่ไม่รู้ว่าอีกคนเป็นยังไง อยู่ดีกินอิ่มหรือเปล่า
จะฝึกหนักไหม คิดถึงทุกวัน พอวันที่เขากลับมา ได้ยินเสียงครั้งเเรก คือน้ำตาคลอ มันคิดถึง มันพูดอะไรไม่ได้
มันตื้นตันในใจตอนที่ได้ยินเสียงเขาเรียกชื่อเรา...อารมณ์ของคนรอ...
อยากไปเที่ยวไหน อยากไปทำบุญวันสำคัญ หรือโอกาสสำคัญ คำแรกที่เขาบอกเรา คือ รอก่อนนะ
บางครั้งนัดเเล้ว ถึงวัน ยกเลิก เพราะมีงานด่วน
นั่งกินข้าวด้วยกัน มีงานด่วน ก็ต้องไป
เราเข้าใจนะ เข้าใจในงานของเขา แต่ก็มีน้อยใจบ้าง
แต่ความเข้าใจของเรา2คนมีมากกว่า เรื่องเเค่นี้ไม่เป็นปัญหา
พอ...เรามาทำงาน ในช่วงเเรกเราปรับตัวกับการทำงานยังไม่ได้ แบ่งเวลายังไม่ได้
ช่วงเเรกเขาเข้าใจเราทุกอย่าง บอกให้เราสู้ บอกให้เราอดทน
พอเวลาผ่านไป เขาเริ่มงอแง เริ่มบอกว่าเราไม่มีเวลาให้
เราพยายามอธิบายบอกทุกอย่างว่าเพราะอะไร ที่เราพยายามทำทุกอย่างเพราะอยากสร้างอะไรกับเขา
ให้ชีวิตมีความมั่นคง เขาเข้าใจเราได้2-3 วัน ก็เริ่มมีเรื่องมาพูดใส่มาประชด เป็นแบบนี้ มาประมาณเกือบ2เดือน
ในความรู้สึกเราคือ เหนื่อยกับงาน เลิกงานมาเราอยากได้ความสบายใจ เราอยากมีคนที่เข้าใจเรา อยากพูดคุยกันดีๆ แค่อยู่ไกลกัน1ปีได้เจอกัน 3-4ครั้ง ในความรู้สึกของคนรัก เราว่ามันก็หนักพอสมควร
หลังจากเริ่มมีปัญหา เขาไม่สบายต้องนอนโรงพยาบาลอยู่1อาทิตย์ เราโทรหาตลอดให้กำลังใจตลอด โทรหาโทรถามอาการทุกวัน ทุกครั้งที่เราว่าง แต่ เราไปดูแลเขาไม่ได้ในเวลาที่เขาไม่สบายแบบนี้
พอ...ออกจากโรงพยาบาลทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป เราทำงานเลิกดึก กลับมาคุยกันเราบอกว่ามีงานเช้า จะรีบอาบน้ำนอนวันนี้ไม่ได้คุยด้วยนะคะ ก็บอกรัก บอกฝันดีปกติเหมือนทุกวัน
ตอนเช้าเราต้องออกจากห้องตั้งเเต่เช้ามืด เขาโทรมาเหมือนทุกวันก่อนไปเข้าเวร เราก็บอกว่าเรารีบจะรีบไปไว้คุยกันนะ
เขาถามเรากลับว่า จะไปไหน ทำไมต้องไปแต่เช้า เราก็เลยบอกว่า บอกไปแล้วเมื่อคืนลืมเหรอ ไว้ค่อยคุยกันนะ
เขายังยืนยันจะคุย โดนตะคอกกลับมาว่าคุยไม่รู้เรื่อง ต่อไปก็ไม่ต้องคุย เเล้วเขาตัดสายเราทิ้งไป....
เราก็โทรกลับ ไม่รับสาย ไม่มีการติดต่อกลับมา เป็นเวลา 1 อาทิตย์ ไลน์ไปไม่อ่าน โทรไปไม่รับ
ลบเราจากเพื่อนในเฟส... ปิดการติดต่อทุกทาง
หลังจาก1อาทิตย์นั้น เขากลับมา ทำทุกอย่างเหมือนปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สักพักเริ่มมีคำพูดประชดชัน ไม่ชอบให้เราเเต่งตัว ไม่ชอบให้เราเเต่งหน้า ซึ่งเเต่งหน้าของเราคือ แป้งฝุ่น ทาลิป แค่นี้จริงๆ
เพราะอาชีพเราต้องเจอคนเยอะ ต้องเจอคนทุกวัน เราคิดว่าเราไม่ได้เเต่งหน้าจัดหรือแต่งตัวไม่เหมาะสม
เราแค่ปรับบุคลิกของตัวเองให้เหมาะกับอาชีพที่ทำ มันเหมือนการพัฒนาบุคลิกของตัวเอง
เราก็อธิบายให้เขาเข้าใจ เราเข้าใจว่าห่างกันเขาคงจะหวง คงจะคิดมากเพราะอยู่ไกลกัน
แต่เขาก็ยังบอกว่าเราเปลี่ยน...
เลยถามไปว่า เปลี่ยนยังไงเปลี่ยนตรงไหน บอกมา จะได้อธิบายถูก
เขาพูดว่า รู้ว่าต้องปรับตัวปรับบุคลิก แต่อย่าลืมว่าตัวเองเป็นยังไง
โอเค เรารับรู้เราเข้าใจ เราก็ยังเหมือนเดิม
เเล้วมันมีเรื่องให้เราสงสัยอยู่หลายครั้ง เขาจะมีวันพักทุก2วัน เเล้วจะขับรถกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่
เราจะติดต่อ วิดีโอคอลหากันตลอดเวลาเขากลับบ้าน
แต่พักหลังมา มันไม่เป็นแบบนั้น คุยกับเราก่อนนอนเหมือนทุกครั้ง วางสายไป
ตอนเช้า เราโทรหาไม่รับ โทรทั้งวันก็ไม่รับ ไลน์ไปไม่อ่าน จนตอนเย็น กลับที่ทำงานถึงติดต่อกลับมาหาเรา
เราถามเพราะสงสัย ว่าหายไปไหนแต่ก่อนจะไปจะกลับก็บอกก่อนตลอด
เขาก็บอกยุ่ง บอกรีบ ทำงานช่วยที่บ้าน เลยจะโทรบอกทีเดียว
โอเค เราเข้าใจ แต่มันเป็นแบบนี้บ่อย เป็นมาเรื่อยๆ
ความสงสัยของผู้หญิงแบบเราๆ เขาแอบไปหาใครหรือเปล่า?
ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนที่เคยเป็น
มีครั้งสุดท้ายก่อนจะหายไปจากชีวิตของกันและกันเราทะเลาะกันหนักมาก
แล้วได้ยินคำ คำหนึ่งจากปากเขา
หน้าไม่ได้เหมือนหน้าเเม่กูนะ กูถึงจะได้ง้อ...
เราอึ้ง มันตื้อๆในหัว เเล้วเราก็วางสายไป โดยไม่ได้พูดอะไรเลย ไม่เคยคิดว่าจะได้ยินจากปากเขา
อารมณ์แบบคนเคยได้รับอะไรดีๆมาตลอดเเล้ววันหนึ่งกลับมาได้ยินคำพูดแบบนี้
หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ช่วงกลางเดือนธันวาคมปีที่เเล้ว ไม่มีการโทรคุย ไม่มีการโทรง้อ ทุกอย่างเงียบ
อาการเราตอนนั้นเหมือนอกหัก มันแย่มันอึดอัด เราเลยติดต่อเขาไป แต่เหมือนเดิม ไลน์ไม่อ่าน โทรไปไม่ติดเหมือนบล๊อกเบอร์
โอเค!!! ไม่เป็นรอเขาติดต่อมา เเต่อาการเราหนักมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ พยายามปลง ไม่คิด
เราไม่รู้ว่าสาเหตุจริงๆมันคืออะไร เราผิดเหรอ เราทำอะไรผิด?
เขามีคนอื่นหรือเปล่า? ทำไมทุกอย่างเป็นแบบนี้
เลิกงานมาร้องไห้ทุกวัน....เป็นเเบบนี้เกือบ 1เดือน
คำถามที่เกิดขึ้นในใจคือ เราเลิกกันแล้วเหรอ เราเลิกกันจริงๆใช่ไหม?
เเล้วสิ่งดีๆที่ผ่านมา เวลาเกือบ 5 ปี มันคืออะไร เราผ่านเรื่องราวต่างๆมาด้วยกันมากมาย
ทั้งทุกข์ทั้งสุข มันลืม มันทิ้งกันง่ายขนาดนี้เลยเหรอ
เราอยู่กับความรู้สึกแย่ๆมาคนเดียวเรื่อยๆ
จนช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมามีคนเข้ามาคุย เป็นคนที่ทำงานที่เดียวกัน
ในสายตาเราพี่เขาทำงานดี มีความรับผิดชอบเรื่องงานดีมาก
คุยกันเหมือนพี่น้อง ไม่ได้คิดอะไร เพราะเราลืมคนเก่าไม่ได้
พอมีคนคุยเป็นเพื่อนก็ดีขึ้นบ้าง
คุยกันมาเรื่อยๆ คุยถูกคอ ชอบในหลายๆอย่างเหมือนกัน เลยคุยกันรู้เรื่อง
พี่เขาจะพูดแหย่ๆเรา พี่ชอบผู้หญิงสวยนะ 555 ซึ่งเราไม่สวย
เราเลยไม่แน่ใจว่าเขาจะจีบเรา หรือเป็นหมาหยอกไก่
แต่พอคุยกันได้ประมาณ1เดือน เหมือนพี่พยายามจะพัฒนาความสัมพันธ์ ชวนกินข้าว
มีปัญหาอะไรเขาเป็นที่ปรึกษาได้ ทั้งเรื่องงานเรื่องส่วนตัว เขาให้คำปรึกษาเราได้ดี
เป็นพี่ที่น่ารักคนหนึ่ง
แล้วเป็นผู้ชายคนเเรกที่วิจารณ์เรื่องการเเต่งตัวของเรา555 แอบอายนิดนึง
พี่เขาบอกให้เราปรับนะ ปรับบุคลิกตัวเอง
แต่งตัวแต่งหน้าบ้าง แต่งเเค่พอดีๆ เราเป็นผู้หญิง อาชีพเราต้องเจอคนเยอะ ต้องพูดต้องคุยกับคนอื่น
บุคลิกดี การเเต่งตัวดี มันสร้างความมั่นใจให้เราได้
ซึ่งพี่เขาไม่เหมือนกับเเฟนเก่าเราเลย เรื่องความเข้าใจในการปรับตัวจุดนี้ของเรา
ต้องบอกก่อนเราเป็นผู้หญิงไม่เเต่งตัวไม่เเต่งหน้าหน้า นานๆจะซื้อเสื้อผ้า
ออกแนวเฉิ่มๆเชยๆ กางเกงยีนส์ไม่ค่อยใส่
เสื้อผ้าตามกระเเสนิยมยิ่งเเล้วใหญ่
อ่อ เราสายตาสั้น ใส่เเว่น ยิ่งดูเฉิ่มเข้าไป
เราคุยกันได้ทุกเรื่อง เรื่องในชีวิตเขาชีวิตเรา ทั้งเรื่องดี และไม่ดี ได้เล่าสู่กันฟังมาเรื่อยๆ
ต่างคนต่างเข้าใจกัน
เหมือนตัวเองล้มลงเเล้วมีอีกคนมาพยุงขึ้น
แต่...เราก็ยังกลัว กลัวความผิดหวัง เเล้วมารู้ทีหลัง ว่าเขาคุยกับคนอื่นก่อนจะมาคุยกับเรา
เราก็ถามไปตรงๆ เขาก็บอกตรงๆ ว่าคุยกับคนอื่นจริง ช่วงเเรกๆที่มาคุยเรา
แต่...ตอนนี้ เขาบอกว่าเขาคุยกับเราแค่คนเดียว เขาบอกว่าชอบนิสัยเรา เราเป็นผู้หญิงที่น่าคบคนหนึ่ง
เนี่ย!!!!! เกิดความสับสน เกิดความกลัวขึ้นในใจอีกแล้ว
กลัวจะโดนหลอก กลัวคนไม่จริงจัง
พอเริ่มศึกษานิสัยของกันเเละกันมาเรื่อยๆ เราโอเค เขาโอเค
เอาวะ!!! ลองดูสักตั้ง ทุกอย่างก็โอเคดี ต่างคนต่างเข้าใจกัน
อาจจะเพราะทำงานที่เดียวกัน บริบทเดียวกัน
เข้าใจงานของเรา
พีคคคค!!!! แฟนเก่าติดต่อกลับมา หลังจากหายไปเกือบ3เดือน
แต่น้ำเสียง คำพูดทุกอย่าง ไม่เหมือนที่ผ่านมา
เรารับรู้ได้ว่าความรู้สึกเขาคงไม่เหมือนเดิมกับเราเเล้ว
เขาพูดประมาณว่า กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม
ไม่มีเราชีวิตเหมือนขาดอะไรไป เกือบสามเดือนเพิ่งจะคิดถึงเรา
เราก็ถามว่าหายไปไหนมา ไม่ติดต่อกัน ติดต่อไม่ได้
เขาตอบว่าไปลองใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ว่าจะอยู่ได้ไหม
เเล้วความรู้สึกของเราตอนนั้นล่ะ มันเเย่มากเลยนะ
กับการที่แฟนหายไปเฉยๆ ไม่มีเเม้คำร่ำลา ปล่อยให้เราร้องไห้คนเดียว
คิดไปเองคนเดียว เราเกิดอาการงงๆสับสน คืออะไรยังไง
แล้วฉันเลือกอะไรได้ไหม? กำลังจะเริ่มใหม่ แต่ต้องมาเจอแบบนี้
ถ้าเพื่อนๆในห้อง เจอเหตุการณ์แบบนี้
จะเดินต่อยังไง... เราสับสน
ขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำแนะนำนะคะ...
บางครั้งบางเรื่อง เราก็ตัดสินใจลำบาก