"การบวช" ประเพณีที่ดีงาม

ก่อนที่เราจะไปศึกษาในเรื่องของขั้นตอนการบวชพระ จะขอกล่าวถึงพิธีการบวชพระที่ใช้ในปัจจุบัน ซึ่งมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ แบบอุกาสะ และแบบ        เอสาหัง โดยคำว่า "อุกาสะ" แปลว่า ขอโอกาส ส่วนคำว่า "เอสาหัง" แปลว่า ข้าพเจ้านั้น ในประเทศไทยการบวชพระแบบอุกาสะนั้น จะใช้กันในคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ซึ่งเป็นแบบเดิมที่ใช้กันมาแต่โบราณกาล ส่วนการบวชพระแบบเอสาหัง จะใช้ในคณะสงฆ์ธรรมยุตินิกาย โดยการประยุกต์มาจากแบบอุกาสะเพื่อย่อขั้นตอนให้สั้นขึ้น มีใช้มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 พระบาลสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยยึดรูปแบบมาจากพระสงฆ์ประเทศพม่า

ขั้นตอนการบวชพระ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
1. โกนผมนาค เริ่มโดยพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ หรือผู้ที่มาร่วมบุญงานบวชพระในครั้งนี้ ทำการขลิบผมให้นาคเป็นปฐมฤกษ์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. แต่งตัวนาค การแต่งตัวนาคนั้นควรแต่งด้วยชุดขาวทั้งหมด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. การเดินประทักษิณเวียนขวารอบสีมา การเวียนประทักษิณในทางพระพุทธศาสนา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
4. การบรรพชา (บวชสามเณร)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
5. การอุปสมบท (การบวชพระ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
6. การซักซ้อมอันตริยกธรรม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อนุศาสน์
อนุศาสน์  หมายถึง คำสอนหรือคำชี้แจงที่พระอุปัชฌาย์หรือพระกรรมวาจาจารย์บอกแก่พระภิกษุผู้บวชใหม่หลังจากบวชเสร็จ คล้ายเป็นบทปฐมนิเทศ ซึ่งมีข้อบังคับไว้ว่าจะต้องบอกอนุศาสน์แก่ภิกษุผู้บวชใหม่ จะไม่บอกไม่ได้เพราะเป็นเรื่องที่พระบวชใหม่ต้องรู้เป็นเบื้องต้นทั้งนี้ เพื่อมิให้ทำผิดพลาดด้วยไม่รู้มาก่อน
      อนุศาสน์มีเนื้อความกล่าวถึง นิสสัย 
               1. เที่ยวบิณฑบาต
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
              2. นุ่งห่มผ้าบังสุกุล ผ้าบังสุกุล คือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
              3. อยู่โคนต้นไม้ 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
             4. ฉันยาดองด้วยน้ำมูตรเน่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
          ส่วนกิจที่พระภิกษุทำไม่ได้ เรียกว่า อกรณียกิจ มี 4 ข้อ ดังนี้
              1. เสพเมถุน พระภิกษุมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่ากับคนหรือสัตว์ ทั้งที่มีชีวิตหรือตายแล้ว ขาดจากความเป็นพระภิกษุทันที
              2. ลักขโมย ภิกษุลักทรัพย์มีราคาตั้งแต่ 5 มาสกขึ้นไป ต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระภิกษุทันที
              3. ฆ่ามนุษย์ ภิกษุแกล้งฆ่ามนุษย์หรือใช้ผู้อื่นให้ฆ่า หรือทำอาวุธให้เขาด้วยเจตนาจะให้เขาฆ่าตัวตาย หรือบังคับให้เขากินยาพิษ หรือกล่าว พรรณนาคุณของความตายเพื่อให้เขาฆ่าตัวตาย ทำคาถาอาคมฆ่าด้วยคุณไสย โดยที่สุดแม้การทำแท้งและแนะนำวิธีการฆ่าด้วยอุบายต่าง ๆ ขาดจากความเป็นพระภิกษุ
              4. พูดอวดคุณวิเศษที่ตนเองไม่มี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
การบอกอนุศาสน์ พระอุปัชฌาย์จะเป็นผู้บอกพระภิกษุใหม่ทันทีภายหลังจากบวชเสร็จสิ้นลงแล้ว เพื่อสอนให้รู้ถึงการดำเนินชีวิตอย่างพระภิกษุ และการป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการเป็นพุทธบุตร อนุศาสน์ทั้ง 8 ข้อนี้ท่านจะสวดเป็นภาษาบาลี สวดจบแต่ละข้อให้พระภิกษุใหม่รับ "อามะ ภันเต"

7. การกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมื่อเสร็จพิธีตามที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ เป็นอันจบพิธีบรรพชาและอุปสมบท พระพุทธศาสนาก็จักได้ศาสนทายาทเพิ่ม เพื่อมาช่วยกันทำนุบำรุงให้พุทธศาสนาเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป อีกทั้งการมีโอกาสได้บวชพระดำรงเพศสมณะเป็นผู้ตั้งใจฝึกฝนอบรมตนเอง แม้อาจเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ก็สามารถค้นหาแหล่งความสุขที่แท้จริง ศึกษาเรื่องราวความจริงของชีวิต เป้าหมายของการเกิดมาเป็นมนุษย์ ว่าเกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน บาปบุญคุณโทษ นรกสวรรค์ ภพนี้ภพหน้าและสังสารวัฏ ซึ่งเป็นความรู้ที่มีอยู่แต่ในพระพุทธศาสนาที่ทนทานต่อการพิสูจน์
ปัจจุบัน ผู้ที่จะบ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่