สำหรับผู้หญิงอย่างเราๆแล้ว ของที่ต้องมีทุกบ้านเหมือนๆกันไม่ใช่แค่เมคอัพสกินแคร์ตั่งต่างเท่านั้น แต่รวมไปถึงcleanserล้างหน้าล้างตาด้วย เพราะหน้าที่สะอาดเป็นปัจจัยสำคัญของความผิวดี ขืนดูแลไม่ดีปล่อยหน้าสกปรกสิวแห่มาจะแย่กันไปอีกจริงม่ะ 555+
บางคนอาจะคิดว่าการใช้cleanserนี่เป็นอะไรที่อี่ซี่สุดๆ แค่หยิบๆมาล้าง ขัด ถู แค่นี้ก็จบแล้ว ซึ่งเมื่อก่อนเราว่าก็คงใช่แหละ แต่ปัจจุบันคงใช้แบบนั้นไม่ได้แล้ว เพราะcleanserสมัยนี้มีหลายประเภทให้เลือกเต็มไปหมด เล่นเอางงกันตาแตกว่ามันต่างกันยังไง ใช้กันยังไงบ้าง แถมสักแต่ล้างอย่างเดียวไม่ได้ด้วย เพราะใช้ผิดแนวจากผิวหน้าตัวเองก็มีโอกาสสูงที่จะทำให้หน้าแย่ไปอีก
ขอบอกเลยว่าเราเคยผ่านมาหมดทุกแนวแล้ว 555+ นี่แหละจึงเป็นเหตุผลที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อเปิดหูเปิดตามือใหม่ทั้งหลาย ด้วยการีวิวcleanserที่เคยใช้มาทุกแบบ ทุกอย่างเราใช้ด้วยตัวเองมาหมดแล้ว แล้ววิเคราะห์ด้วยความรู้สึกตัวเองล้วนๆ ใครคิดอะไรต่างกันก็มาแลกเปลี่ยนกันได้นะจ๊ะ

1.Powder

เริ่มต้นด้วยcleanserเทรนใหม่ล่าสุดที่พึ่งออกมาตีตลาดได้ไม่นาน นั่นก็คือผงล้างหน้านี่เอง โดยส่วนใหญ่จะมาในรูปลักษณ์กล่องใหญ่บรรจุเป็นซองไม่ก็แคปซูล 1ชิ้นต่อการล้างหน้า1ครั้ง เออ ดูสะดวกสบายน่ารักดีเลยซื้อมา แต่ด้วยความเป็นผงล้างหน้าอ่ะเนอะ ใหม่มากไม่เคยลองมาก่อนก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง

ยี่ห้อ Rena Cleansing Powder
ราคา 449บาท(กล่อง)
ประเภท ผงล้างหน้า
ความรู้สึกหลังใช้ ผงล้างหน้าที่เราซื้อมาลองใช้คือแบรนด์Rena เพราะเห็นว่าพึ่งออกมาใหม่ๆเลย มีความแปลกกว่ายี่ห้ออื่นตรงที่ผสมแพลงตอนกับวิตามินบำรุงผิวหลายอย่างไปด้วย เป็นการล้างหน้าที่ล้างหนึ่งแต่ได้สอง ไม่ธรรมดาๆ 555+ พอลองใช้แล้วชอบเลย รู้สึกเหมือนมันเอาข้อดีของcleanserแบบอื่นๆมารวมกันอ่ะ ล้างหน้าได้สะอาดดี ไม่แห้งตึง ไม่รู้สึกระคายเคือง คิดว่าเพราะมันไม่แรงด้วยแหละ เลยให้ฟีลที่ไปทางอ่อนโยนๆดี ล้างออกง่ายด้วย หลังล้างรู้สึกว่าหน้ามันนุ่มๆ(เพราะอิส่วนผสมแพลงตอนไหมไม่รู้) และด้วยความเป็นซองเลยพกง่ายกว่าcleanserแบบอื่นมาก เหมาะกับเอาพกไปเที่ยวต่างจังหวัด ต่างประเทศดี ส่วนตัวแอบขัดใจความไซส์มินิของนาง เพราะเราจะชอบใช้เยอะๆอ่ะ อย่างถ้าโฟมหรือเจลก็จะบีบเยอะตลอด พอนางมาไซส์เล็กเราเลยอยากใช้เยอะกว่านี้ จริงๆนางก็ใช้พอดีหน้านะแต่แอบรู้สึกไม่สะใจเรา แต่นอกนั้นก็ดีแหละ รวมๆคือชอบเลย
เหมาะสำหรับ ทุกสภาพผิว และคนที่ชอบเดินทางบ่อยๆ

2.Soap

เป็นอะไรที่น่าจะคุ้นเคยพอสมควรเพราะมีขายมานานมาก โดยส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบใช้ได้ทั้งหน้าและตัวนั่นแหละ ถือว่ามีประโยชน์แถมราคาถูกกว่าcleanserแบบอื่นๆมาก แต่เราว่าไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่ากับโฟมนะ เพราะสบู่มันแรง ล้างแล้วหน้าตึงคนเลยไม่ค่อยใช้กัน แต่จะจริงมั้ยก็ต้องลองแล้วล่ะ

ยี่ห้อ Vaseline Healthy Moisturizing Bar Soap
ราคา 16บาท
ประเภท สบู่
ความรู้สึกหลังใช้ สบู่วาสลีนอันนี้โฆษณาเอาไว้ว่าเป็นสบู่ผสมสารบำรุงจากวาสลีนโลชั่นอีกที ทำให้แตกต่างจากสบู่ทั่วเพราะของเขาจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งตึง แต่สบู่ก็คือสบู่อ่ะเนอะ เพราะใช้ยังไงก็ยังแห้งตึงอยู่ดี 555+(แต่ก็ตึงน้อยกว่าสบู่ยี่ห้ออื่นนะจากที่เคยใช้มา) ถามว่าล้างสะอาดไหม นี่คิดว่าสะอาดมาก มากกว่าcleanserทุกแบบเลย แต่มันก็สะอาดเกินจนล้างความชุ่มชื้นบนใบหน้าไปด้วย เหลือทิ้งไว้เพียงความแห้งตึงเปรี๊ยะๆ จึงค่อนข้างทำให้หน้าระคายเคืองได้ง่ายกว่าปกติ คิดว่าอะไรแบบนี้ควรเอาไว้อาบน้ำอย่างเดียวดีกว่าอย่าเอามาล้างหน้าเลย หรือถ้าจะอยากใช้จริงๆก็เอาออยทาหน้าหลังล้างหน้าก็โอเคอยู่นะ
เหมาะสำหรับ คนหน้ามันมากๆที่ไม่หวั่นว่าหน้าจะแห้งมากถ้าใช้สบู่ล้างหน้า

3.Foam

ฮอตฮิตที่สุดในบรรดาcleanserทุกชนิด หันไปทางไหนใครๆก็ใช้โฟมกันทั้งนั้น ฮิตขนาดที่คนไทยต้องเรียกcleanserทุกประเภทว่าเป็นโฟมกันไปหมดแม้ว่าหลายอย่างจะไม่ใช่โฟมก็ตาม 555+ คิดว่าที่มันฮอตส่วนหนึ่งก็น่าจะเป็นเพราะความใช้ง่าย หาซื้อง่าย สามารถหยิบมาใช้ได้โดยไม่คิดมาก จุดเด่นที่สำคัญของcleanserประเภทนี้คือฟองค่ะ ยิ่งฟองหนาๆนุ่มๆเนี่ยคนยิ่งชอบเลย

ยี่ห้อ Hada Labo Softening & Whitening Face Wash
ราคา 175บาท
ประเภท โฟม
ความรู้สึกหลังใช้ โดยส่วนตัวชอบโฟมของฮาดะมากเพราะฟองเยอะ แต่พวกโฟมเนี่ยมีความเหมือนกันตรงเกลี้ยงๆตึงๆอย่างบอกไม่ถูก ถ้าใครที่ชอบหน้าสะอาดๆคลีนๆน่าจะชอบแบบโฟมนะ แต่เราว่ามันก็ยังมีความแรงอยู่จากความตึงผิวเวลาล้างนี่แหละ รู้สึกว่าหน้ามันไม่นุ่มเอาเสียเลย เหมาะกับคนที่หน้ากลางๆผิวไม่แย่ไม่ดี แต่ถ้าหน้ามีปัญหา(มัน แห้ง สิว)ควรเลือกใช้แนวอื่นดีกว่า
เหมาะสำหรับ ทุกสภาพผิว อาจมีเจาะจงเฉพาะบ้างแล้วแต่สูตร

4.Mousse

cleanserอันนี้เหมือนสร้างมาเพื่อตอบโจทย์คนชอบฟองโดยเฉพาะ เพราะไม่ต้องมาเสียเวลาบีบเนื้อมาขยี้น้ำแบบโฟม แค่กดขวดปั้มออกมาก็เจอฟองเต็มๆล้วนๆ 555+ จริงๆมันมีทั้งแบบวิปครีมและแบบมูสเลยนะ แต่ส่วนตัวชอบมูสมากกว่าเพราะมันแน่นๆดี ถูแล้วฟิน

ยี่ห้อ Nivea White Oil Clear Super Mousse Foam
ราคา 149บาท
ประเภท มูส
ความรู้สึกหลังใช้ มันก็เหมือนโฟมแหละคะ แต่ทำออกมาในรูปแบบกระป๋องขวดปั้มแบบฟองพร้อมใช้มาให้เลย เลยมีความสะดวกกว่าแบบโฟมทั้งในเรื่องการพกพาและการใช้ง่าย และอ่อนโยนกว่าแบบโฟมมากเพราะด้วยความที่มันเป็นฟองหนาๆ เลยทำให้เราไม่จำเป็นต้องถูหน้าโดยตรง(ถูแรงๆหน้าเหี่ยวนะ) อันที่เราใช้เป็นของNivea นี่ว่าดีเพราะเวลาล้างแล้วเลยไม่รู้สึกว่าผิวหน้าแห้งตึง แต่เนื่องจากมันเป็นขวดปั้มเลยค่อนข้างกะปริมาณในการกดออกมาใช้ยากหน่อย กดทีออกมาอย่างเยอะ แล้วราคาค่อนข้างสูงถ้าเทียบกับปริมาณที่ได้รับ
เหมาะสำหรับ ผิวธรรมดา กลางๆ

5.Gel

มาถึงอะไรเบาๆสบายๆกันบ้างกับcleanserแบบเจล ส่วนใหญ่มาในรูปแบบเนื้อเจลลักษณะเหลวๆใสๆไม่มันไม่ข้นมาก เพราะเป็นเนื้อแบบเจลนี่แหละความเบาบางจึงมากกว่าcleanserแบบอื่นมาก จะมีฟองหรือไม่มีฟองก็ได้แล้วแต่ส่วนผสม(ถึงมีก็น้อยอ่ะ สายฟองคงไม่น่าชอบแน่ๆ)

ยี่ห้อ Simple Refreshing Facial Wash Gel
ราคา 229 บาท
ประเภท เจล
ความรู้สึกหลังใช้ แบบเจลจะมีสารเคมีที่น้อยกว่าแบบอื่นมาก อย่างเจลSimpleที่เราใช้อันนี้ไม่มีสี ไม่มีน้ำหอมและส่วนผสมที่ทำให้ระคายเคืองผิวเลย เวลาใช้จะมีความละมุนๆไม่ระคายเคืองและแห้งตึงเกินเหตุ สำหรับคนที่มีความหน้าบอบบางหรือหน้ามันจึงเหมาะกับแบบเจลมากๆ เพราะมันอ่อนโยนที่สุด(ยิ่งยี่ห้อที่เราเอามารีวิวนี่ยิ่งอ่อนโยนเลยค่ะ เป็นตัวที่ชอบใช้ที่สุดแล้ว) แต่ความอ่อนโยนมันมาพร้อมกับความลื่นค่ะ ล้างน้ำออกแล้วก็ยังลื่นปริ๊ดๆ เหมือนล้างหน้าไม่เกลี้ยง แต่จริงๆเกลี้ยงนะ ถ้าคนที่ชอบความรู้สึกสะอาดหลังล้างหน้าก็ควรไปใช้แบบอื่นดีกว่า
เหมาะสำหรับ ผิวมัน ผิวผสม หน้าเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย

6.Scrub

อันนี้มาแหวกจากcleanserแบบอื่น เพราะนอกจากล้างหน้าแล้วยังขัดผิวหน้าได้ด้วยนะ 2in1มาก ไม่ต้องไปหาเกลือหามะขามมาขัดเองให้เสียเวลา ปกติแบบสครับเนี่ยมีทั้งในรูปแบบครีมโฟมและแบบเจลซึ่งผสมเม็ดบีทอยู่ข้างในเนื้อไว้เพื่อขัดหน้านั่นแหละ เอาไว้สำหรับสาวๆที่อยากหน้าใสหน้านุ่มก็เอาcleanserแบบสครับนี่แหละขัดๆเอาเลย

ครบแล้วกับการรีวิวcleanserล้างหน้าทุกแนว มีตั้งแต่ผง สบู่ โฟม มูส เจล เม็ดบีท ขนมาให้หมดเพื่อชาวพันทิป 555+ หวังว่ารีวิวของเราจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังสงสัยกับการเลือกใช้cleanserแต่ละแบบนะคะ แต่ละคนก็คงมีความชอบไม่เหมือนกัน เอาเป็นว่าใครอยากใช้อะไรก็ใช้ไปเถิด แต่ก่อนใช้ก็อย่าลืมเช็คด้วยนิดหนึ่งจะได้ไม่มีปัญหา เลือกอันที่ตรงกับสภาพผิวเราจะดีที่สุดค่ะ ใครมีความเห็นเพิ่มเติมจากนี้ก็มาแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ