เจ้าของกระทู้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งใน อ.ปะทิว จ.ชุมพร มีลูกเล็กๆ 2 คน แม่ในวัย 70 ซึ่งมีปัญหาขาหักและข้อเข่าเสื่อม ไปไหนมาไหนไม่ได้ ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในบ้าน

หน้าบ้านจขกท.เป็นตลาดสด แวดล้อมด้วย บ้านนกนางแอ่นกินรังซึ่งนายทุนบ้านนก ได้ทำการสร้างตึกและเลี้ยงนกนางแอ่นไว้ เพื่อนำรังนกไปขาย มีทั้งหมด 5 หลัง อยู่ติดหลังบ้าน 2 หลัง ข้างบ้าน 1 หลัง และเพิ่งสร้างเสร็จพร้อมจะเปิดให้นกเข้าอีก 2 หลัง

ทุกเช้าเย็นจะมีนกนางแอ่นกินรังนับแสนๆ ตัวบินว่อนเข้าออกเหนือหลังคาบ้าน สร้างความเดือดร้อนรำคาญต่อชาวบ้าน ทั้งด้านสุขภาพอนามัย และสิ่งแวดล้อมมานานกว่า 10 ปีแล้ว

สภาพอากาศที่เต็มไปด้วยเชื้อโรค ขนนก ขี้นก เชื้อราจากบ้านนก ฟุ้งกระจายทั่วบริเวณบ้าน ส่งผลให้ชาวบ้านเป็นโรคภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ ไข้หวัดนก โรคผิวหนังอักเสบ ผื่นคันจากการกัดของไรนกหรือหมัดนก ปัญหากลิ่นเหม็นจากขี้นก ซากนกตาย  ปัญหาเสียงดังจากการเปิดเครื่องขยายเสียงเรียกนกตั้งแต่เช้าจนมืดค่ำ สร้างความรำคาญรบกวนความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของชาวบ้านเป็นอย่างมาก

ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ผู้ได้รับความเดือดร้อนได้รวมตัวกัน เรียกร้องให้เทศบาล สั่งย้ายบ้านนกออกจากเขตเทศบาล เขตชุมชนหนาแน่นที่ชาวบ้านอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด รวม ทั้งสำนักนายกรัฐมนตรี ครั้งเมื่อเดินทางมาประชุมครม.ที่จังหวัดชุมพร เมื่อเดือนสิงหาคม 2561  จนถึงวันนี้ปัญหาความเดือดร้อนรำคาญดังกล่าวยังคงอยู่ ไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างไร ชาวบ้านยังคงเดือดร้อน เหมือนเดิม นายทุนก็ยังคงเก็บรังนกไปขายเช่นเดิม ซ้ำร้ายกว่านั้น นายทุนผู้ประกอบการบ้านนก ยังทวีสร้างบ้านนกเพิ่มมากขึ้นกว่าเก่า จนปัจจุบันมีไม่น้อยกว่า 30 หลังแล้ว

ในฐานะประชาชนคนไทยอยู่ภายใต้กฎหมายไทย ได้รับความเดือดร้อน วันนี้เราไม่รู้จะหันหน้าพึ่งใครแล้ว ขอถือโอกาสนี้ รับคำแนะนำและความช่วยเหลือจากสมาชิกท่านอื่นๆ สมาชิกท่านใด มีคำแนะนำหรือมีช่องทางในการแก้ไขปัญหานี้ ขอความกรุณาชี้แนะด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ










_______________________
ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นค่ะ เป็นประโยชน์มากๆ  ต่อการตัดสินใจของจขกท. เราพยายามติดต่อสื่อทุกช่องทางแชร์ให้ถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ความคืบหน้าเป็นอย่างไร จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะๆ ค่ะ