ความโง่ของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่พอรักใครแล้ว มันสามารถให้ได้ทุกอย่าง แต่ทุกอย่างที่ว่ามันไม่ได้หมายถึงชีวิตแต่อย่างใด แต่มันคือความรัก ความรักที่ควรรักตัวเองกลับเอาให้ผู้ชายคนนั้น
เอาล่ะ เรามาพูดถึงความโง่ของผู้หญิงคนนี้ดีกว่า
เรารักผู้ชายคนนี้มาก คิดว่ามากแหละ มากพอที่จะยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น มากพอที่จะยอมให้เขาคุยกับแม่ของลูกเขา มากพอที่จะปล่อยให้เขาไปเที่ยวร้านเหล้าทุกคืน คิดว่ามากป่ะล่ะ ต้องใจกว้างขนาดไหนเนี่ยที่ต้องนั่งมองเขาคุยวีดิโอคอลกับเมียเก่าเขา เคยถามตัวเองนะว่ารับได้หรอที่เขายังคุยกับเมียเก่า บอกเลยว่าไม่ น้อยใจมั๊ย ก็น้อยใจนะแต่ทำอะไรไม่ได้ ก็นั่นแม่ของลูกเขานิเนาะ เราก็ทำได้แค่นั่งมองแล้วก็เก็บมาคิดคนเดียว เราคบกับผู้ชายคนนี้มาเกือบครึ่งปีได้แหละ ถามว่านานมั๊ยก็ไม่นะ แต่ก็รักมากอ่ะ เรายอมขับรถจากหอเราเพื่อไปอยู่กับเขาที่หอในเมือง เราทำแบบนี้ก็ประมาณ 3 4วันต่อสัปดาห์ แต่เราทำแบบนี้ได้ประมาณเดือนสองเดือนเองแหละ หลังจากที่คบกันได้สักพักเขาก็ถูกเรียกตัวกลับค่ายทหาร ไปแบบกะทันหันมาก โอเคเราก็รอเขานะนับวันรอจนถึงสิ้นเดือนตุลา แต่ระหว่างนี้อ่ะเราจับได้ว่าเขายังคุยกับเมียเก่าเขาอยู่ (เห้ย ไม่จับได้ดิ แต่เขายังคุยกันตลอด) เพราะเขาโกหกว่าเขานอนเอย เล่นเกมเอย นู้นเอย นี่เอย เราก็เชื่อไง แต่ที่ไหนได้ เขาคุยกับเมียเก่าเขานี่เองจ้า อ่ะๆ แต่นั่นไม่ใช่ความโง่ของเรานะ แต่เป็นการที่เห็นอกเห็นใจเขา เอ็นดูเขา เขาขออะไรเราก็ให้ รวมถึงเงินค่ะ เรายังเรียนยังขอเงินพ่อแม่อยู่ แต่เราเอาเงินเก็บที่เรามีให้เขา ยามที่เขาลำบาก เราก็คิดแหละว่า เขาอยู่ในค่ายทหารต้องอยากกินนู้นกินนี่แต่ไม่มีเงินไง ไม่มีรายรับ จะซื้อของก็ต้องเซ็นๆแบบนี้ พอสิ้นเดือนมาหักไอ้ที่เซ็นๆ ก็เหลือเงินไม่กี่พันส่งให้ทางบ้านส่งให้แม่เขาซื้อนมให้ลูกเขา เราก็สงสารเขาเนาะ ก็โอนตังให้ใช้ระหว่างที่เขาอยู่ค่าย พอช่วงกันยาปีที่แล้ว เราถูกรถชน รถพังหมดเลย ทางคู่กรณีเขาก็รับผิดชอบเรื่องซ่อมรถให้ โดยทางคู่กรณีเขาก็ให้เงินค่ายซ่อมมาเลย 6000บาท เราก็บอกเขานะว่าเนี่ยได้ตังค์ค่าซ่อมรถมาแล้วนะ เขาตอบกลับประมาณว่าให้โอนมาเก็บไว้ที่เขา หากเก็บไว้ที่ตัวเรา เราจะใช้หมด โอเคเราก็ยอมโอนให้เขา แต่ทีนี้ค่าซ่อมรถมันไม่ถึง6000ไง เขาก็เก็บเงินส่วนที่เหลือไว้ใช้ เราก็ไม่ได้อะไรหรอก ก็เพราะรักแหละอยากให้เขามีกินมีใช้ระหว่างที่อยู่ค่าย ช่วงที่เราไม่มีรถใช้ เราก็ไปเอารถเขาที่บ้านเขามาใช้ก่อนระหว่างที่รถซ่อม (ที่บ้านเขาใจดีกับเรามาก เขาก็รักเราแหละ มั้ง555) ตลอดที่คบกันมา ตลอดเวลาที่เขาอยู่ค่ายทหาร เราไปบ้านเขาบ่อยๆ ไปนอนกับลูกเขา ไปช่วยพ่อแม่เขาเลี้ยงลูก เรารักลูกเขามากนี่ยอมรับเลย ตัดมาสิ้นเดือนตุลา วันที่เขาปลดทหาร เขาได้กลับมาอยู่บ้าน วันนั้นเราไปหาเขาที่บ้าน จากหอเราไปจนถึงบ้านเขาก็เกือบ40 50กิโลเมตรเลยล่ะ เราคิดถึงเขามาก หลังจากวันนั้นเขาก็อยู่บ้าน เราก็กลับมาเรียน หลักจากนั้น3 4วันเขากลับมาทำงาน กลับมาอยู่หอเดิม เราก็ไปช่วยเขาทำความสะอาดห้อง ไปจัดห้องใหม่ ห้องของเรา เราพูดได้เต็มปากเลยว่าหอของเรา เพราะเขายอมให้เราไปอยู่ด้วยแล้ว ให้เราออกจากหอที่เราอยู่ เราก็โอเคแหละ (แต่เรายังไม่ได้เคลียร์เรื่องหอกับเจ้าของหอนะ) พออีกวันนึงว่า เขาขอเราไปเที่ยว โดยที่เราไม่ได้ไปด้วย เพราะเขาอยากสังสรรค์กับเพื่อนเขา (ทุกทีก็ไม่ได้ไปแหละ ถึงไปด้วยกันแต่เปิดคนละโต๊ะอยู่ดี) คืนนั้นเขากลับมาหอตอนตี2เกือบตี3 ระหว่างที่เขาไปเที่ยวเราก็ไปหานู้นหานี่มาให้เขากิน แต่เขากลับหอมา เขากลับมาบอกเลิกเรา และไล่เรากลับหอตอนนั้นเลย แต่เราไม่กลับไงเราขอนอนที่นั้นคืนสุดท้าย พอเช้ามาเราก็นึกว่าเขาจะลืมเรื่องที่พูดเมื่อคืน แต่เขากลับไม่ลืม โอเควันนั้นเรายอมแพ้ แต่เราก็พยายามรั้งพยายามยื้อเขาไว้เกือบเดือนนึง เดือนนึงที่เขาบอกว่าเขาไม่รู้สึกอะไรกับเราแล้ว เราถือว่าเราจบกันด้วยดีนะแบบนี้ แต่นี่เราไม่โอเคกับคำพูดที่ว่า “กูไม่เคยรัก จะมายุ่งกับกูทำไม ที่กูคบกับ กูก็แค่จะสนุกด้วยแค่นั้น กะแค่เอา เอาไปวันๆ แค่นั้น จะอะไรกับกูนักหนา ที่กูอยู่กับเพราะให้อิสระกับกู กูอยากเที่ยวกูก็ได้เที่ยว กูมีตังใช้ในช่วงที่กูไม่มี ตอนนี้กูมีคนอื่นแล้ว กูกำลังเอาเมียกูอยู่” ทีนี้แตกเลยค่ะ จากที่ว่าจะจบกันด้วยดีกลับเป็นไม่ดี หลังจากวันนั้น เราเริ่มทวงตังเขา เริ่มขอเขาไปเก็บเสื้อผ้าที่ห้องเขา แต่เราไม่ให้เราไป เขาบอกว่าเขาจะเก็บให้แต่ก็ไม่เก็บ เราทวงตังเขาก็บอกไม่มี เขาบอกสิ้นเดือนจะคืนตังให้พอสิ้นเดือนก็ไม่ได้คืน เขาจะมีข้ออ้างในการคืนตังตลอด พอเราทวงไปที่เพื่อนเขา เขาก็บอกเพื่อนเขาว่าเขาคืนเราหมดแล้ว แต่เราไม่ได้คืน เขาบอกว่าโอนคืนเราแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้โอนจริงตามที่เขาบอก ข้ออ้างเขาอีกข้อนึงคือเขาจะไปทำงานที่เกาหลีต้นเดือนธันวา แต่พอต้นเดือนธันวาเขาก็ไม่ได้ไปอย่างที่พูด เขาก็บอกว่ายังทำเอกสารไม่ผ่านแต่ไปแน่ๆคือต้นเดือนมกรา พอถึงต้นเดือนมกรา เขาโทรหาเราบอกว่ายังไม่มีตัง เพราะต้องเก็บตังไปตรวจสุขภาพที่กรุงเทพก่อนที่จะไปเกาหลี เราก็โอเคแหละ พอวันที่22 มกราที่ผ่านมา เขาส่งใบหย่ากับเมียเก่ามาให้เรา และขอจีบเราให้ บอกว่ายังรักเราอยู่ อยากกอดเรา อยากอยู่กับเรา เฮ้ยความรู้สึกมันกลับมาเว้ย เพราะเรายังรักเขาอยู่ ยังมีความรู้สึกดีๆกับเขาอยู่ เรายอมนะ ยอมกลับไปหาเขา แต่หลังจากวันนั้นเราก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย จนถึงวันที่12กุมภา เราไลน์ถามเขาว่า วันนี้มาช่วยพี่ขายเสื้อรึป่าว เขาบอกว่ามา เราก็ขอไปเจอ แต่เขากลับบอกว่า เขาจะพาแฟนเขาไปด้วย ความรู้สึกดีที่มันกลับมา มันกลับพังไปอีกแล้ว เราเลยบอกว่า เราไม่อยากอยู่แบบนี้แล้ว เรามาตัดกันให้ขาดมั๊ย เธอคืนตังเราเถอะ เราจะได้ไม่ต้องติดต่ออะไรกันอีก เพราะตอนนี้เราก็อยากเริ่มต้นใหม่ เราไม่อยากเป็นแบบนี้ เราไม่อยากเริ่มต้นใหม่ทั้งที่ยังติดต่อกับแฟนเก่าเพราะเรื่องตังอีกแล้ว พอพูดถึงเรื่องตังปุ๊บเขาก็บล็อกไลน์เราปั๊บเลยจ้า เราทวงครั้งนั้นครั้งสุดท้ายเราก็ไม่ทวงอีกเลย แต่วันนี้เราทวงตังที่เพื่อนเขาอีกรอบนึง เราขอเด็ดขาดเลยศุกร์นี้ หากไม่คืนเราจะไปทวงตังกับพ่อแม่ กับพี่ กับแฟนเขาแทน แต่เราก็ยังไม่ได้คำตอบจากเพื่อนเขาหรือเขาเลย
เราบอกกับเขาตลอดว่า ถ้าเราจบกันด้วยเรื่องดีๆ เงินที่ยืมเราไม่เอา แต่นี้จบกันด้วยการทำร้ายจิตใจกันด้วยคำพูดแบบนั้น เงินที่ยืมไปก็ต้องคืน ส่วนเงินที่ให้ก็คือให้เราไม่เอา
แชทที่เคยยืม สลิปการโอนเงิน ทุกอย่างเราแคปเก็บไว้ตั้งแต่วันที่เขาพูดประโยคนั้น
เราควรทำไงดีคะ หากไม่ได้ตังคืนจริงๆ ทั้งๆที่เราบอกว่าเราเดือดร้อนมาก เราต้องการใช้ตังด่วน เราบอกกับเขาแบบนี้ทุกครั้งที่เราทวงตังค์เขาเลย
ความโง่ของผู้หญิงคนนี้
เอาล่ะ เรามาพูดถึงความโง่ของผู้หญิงคนนี้ดีกว่า
เรารักผู้ชายคนนี้มาก คิดว่ามากแหละ มากพอที่จะยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น มากพอที่จะยอมให้เขาคุยกับแม่ของลูกเขา มากพอที่จะปล่อยให้เขาไปเที่ยวร้านเหล้าทุกคืน คิดว่ามากป่ะล่ะ ต้องใจกว้างขนาดไหนเนี่ยที่ต้องนั่งมองเขาคุยวีดิโอคอลกับเมียเก่าเขา เคยถามตัวเองนะว่ารับได้หรอที่เขายังคุยกับเมียเก่า บอกเลยว่าไม่ น้อยใจมั๊ย ก็น้อยใจนะแต่ทำอะไรไม่ได้ ก็นั่นแม่ของลูกเขานิเนาะ เราก็ทำได้แค่นั่งมองแล้วก็เก็บมาคิดคนเดียว เราคบกับผู้ชายคนนี้มาเกือบครึ่งปีได้แหละ ถามว่านานมั๊ยก็ไม่นะ แต่ก็รักมากอ่ะ เรายอมขับรถจากหอเราเพื่อไปอยู่กับเขาที่หอในเมือง เราทำแบบนี้ก็ประมาณ 3 4วันต่อสัปดาห์ แต่เราทำแบบนี้ได้ประมาณเดือนสองเดือนเองแหละ หลังจากที่คบกันได้สักพักเขาก็ถูกเรียกตัวกลับค่ายทหาร ไปแบบกะทันหันมาก โอเคเราก็รอเขานะนับวันรอจนถึงสิ้นเดือนตุลา แต่ระหว่างนี้อ่ะเราจับได้ว่าเขายังคุยกับเมียเก่าเขาอยู่ (เห้ย ไม่จับได้ดิ แต่เขายังคุยกันตลอด) เพราะเขาโกหกว่าเขานอนเอย เล่นเกมเอย นู้นเอย นี่เอย เราก็เชื่อไง แต่ที่ไหนได้ เขาคุยกับเมียเก่าเขานี่เองจ้า อ่ะๆ แต่นั่นไม่ใช่ความโง่ของเรานะ แต่เป็นการที่เห็นอกเห็นใจเขา เอ็นดูเขา เขาขออะไรเราก็ให้ รวมถึงเงินค่ะ เรายังเรียนยังขอเงินพ่อแม่อยู่ แต่เราเอาเงินเก็บที่เรามีให้เขา ยามที่เขาลำบาก เราก็คิดแหละว่า เขาอยู่ในค่ายทหารต้องอยากกินนู้นกินนี่แต่ไม่มีเงินไง ไม่มีรายรับ จะซื้อของก็ต้องเซ็นๆแบบนี้ พอสิ้นเดือนมาหักไอ้ที่เซ็นๆ ก็เหลือเงินไม่กี่พันส่งให้ทางบ้านส่งให้แม่เขาซื้อนมให้ลูกเขา เราก็สงสารเขาเนาะ ก็โอนตังให้ใช้ระหว่างที่เขาอยู่ค่าย พอช่วงกันยาปีที่แล้ว เราถูกรถชน รถพังหมดเลย ทางคู่กรณีเขาก็รับผิดชอบเรื่องซ่อมรถให้ โดยทางคู่กรณีเขาก็ให้เงินค่ายซ่อมมาเลย 6000บาท เราก็บอกเขานะว่าเนี่ยได้ตังค์ค่าซ่อมรถมาแล้วนะ เขาตอบกลับประมาณว่าให้โอนมาเก็บไว้ที่เขา หากเก็บไว้ที่ตัวเรา เราจะใช้หมด โอเคเราก็ยอมโอนให้เขา แต่ทีนี้ค่าซ่อมรถมันไม่ถึง6000ไง เขาก็เก็บเงินส่วนที่เหลือไว้ใช้ เราก็ไม่ได้อะไรหรอก ก็เพราะรักแหละอยากให้เขามีกินมีใช้ระหว่างที่อยู่ค่าย ช่วงที่เราไม่มีรถใช้ เราก็ไปเอารถเขาที่บ้านเขามาใช้ก่อนระหว่างที่รถซ่อม (ที่บ้านเขาใจดีกับเรามาก เขาก็รักเราแหละ มั้ง555) ตลอดที่คบกันมา ตลอดเวลาที่เขาอยู่ค่ายทหาร เราไปบ้านเขาบ่อยๆ ไปนอนกับลูกเขา ไปช่วยพ่อแม่เขาเลี้ยงลูก เรารักลูกเขามากนี่ยอมรับเลย ตัดมาสิ้นเดือนตุลา วันที่เขาปลดทหาร เขาได้กลับมาอยู่บ้าน วันนั้นเราไปหาเขาที่บ้าน จากหอเราไปจนถึงบ้านเขาก็เกือบ40 50กิโลเมตรเลยล่ะ เราคิดถึงเขามาก หลังจากวันนั้นเขาก็อยู่บ้าน เราก็กลับมาเรียน หลักจากนั้น3 4วันเขากลับมาทำงาน กลับมาอยู่หอเดิม เราก็ไปช่วยเขาทำความสะอาดห้อง ไปจัดห้องใหม่ ห้องของเรา เราพูดได้เต็มปากเลยว่าหอของเรา เพราะเขายอมให้เราไปอยู่ด้วยแล้ว ให้เราออกจากหอที่เราอยู่ เราก็โอเคแหละ (แต่เรายังไม่ได้เคลียร์เรื่องหอกับเจ้าของหอนะ) พออีกวันนึงว่า เขาขอเราไปเที่ยว โดยที่เราไม่ได้ไปด้วย เพราะเขาอยากสังสรรค์กับเพื่อนเขา (ทุกทีก็ไม่ได้ไปแหละ ถึงไปด้วยกันแต่เปิดคนละโต๊ะอยู่ดี) คืนนั้นเขากลับมาหอตอนตี2เกือบตี3 ระหว่างที่เขาไปเที่ยวเราก็ไปหานู้นหานี่มาให้เขากิน แต่เขากลับหอมา เขากลับมาบอกเลิกเรา และไล่เรากลับหอตอนนั้นเลย แต่เราไม่กลับไงเราขอนอนที่นั้นคืนสุดท้าย พอเช้ามาเราก็นึกว่าเขาจะลืมเรื่องที่พูดเมื่อคืน แต่เขากลับไม่ลืม โอเควันนั้นเรายอมแพ้ แต่เราก็พยายามรั้งพยายามยื้อเขาไว้เกือบเดือนนึง เดือนนึงที่เขาบอกว่าเขาไม่รู้สึกอะไรกับเราแล้ว เราถือว่าเราจบกันด้วยดีนะแบบนี้ แต่นี่เราไม่โอเคกับคำพูดที่ว่า “กูไม่เคยรัก จะมายุ่งกับกูทำไม ที่กูคบกับ กูก็แค่จะสนุกด้วยแค่นั้น กะแค่เอา เอาไปวันๆ แค่นั้น จะอะไรกับกูนักหนา ที่กูอยู่กับเพราะให้อิสระกับกู กูอยากเที่ยวกูก็ได้เที่ยว กูมีตังใช้ในช่วงที่กูไม่มี ตอนนี้กูมีคนอื่นแล้ว กูกำลังเอาเมียกูอยู่” ทีนี้แตกเลยค่ะ จากที่ว่าจะจบกันด้วยดีกลับเป็นไม่ดี หลังจากวันนั้น เราเริ่มทวงตังเขา เริ่มขอเขาไปเก็บเสื้อผ้าที่ห้องเขา แต่เราไม่ให้เราไป เขาบอกว่าเขาจะเก็บให้แต่ก็ไม่เก็บ เราทวงตังเขาก็บอกไม่มี เขาบอกสิ้นเดือนจะคืนตังให้พอสิ้นเดือนก็ไม่ได้คืน เขาจะมีข้ออ้างในการคืนตังตลอด พอเราทวงไปที่เพื่อนเขา เขาก็บอกเพื่อนเขาว่าเขาคืนเราหมดแล้ว แต่เราไม่ได้คืน เขาบอกว่าโอนคืนเราแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้โอนจริงตามที่เขาบอก ข้ออ้างเขาอีกข้อนึงคือเขาจะไปทำงานที่เกาหลีต้นเดือนธันวา แต่พอต้นเดือนธันวาเขาก็ไม่ได้ไปอย่างที่พูด เขาก็บอกว่ายังทำเอกสารไม่ผ่านแต่ไปแน่ๆคือต้นเดือนมกรา พอถึงต้นเดือนมกรา เขาโทรหาเราบอกว่ายังไม่มีตัง เพราะต้องเก็บตังไปตรวจสุขภาพที่กรุงเทพก่อนที่จะไปเกาหลี เราก็โอเคแหละ พอวันที่22 มกราที่ผ่านมา เขาส่งใบหย่ากับเมียเก่ามาให้เรา และขอจีบเราให้ บอกว่ายังรักเราอยู่ อยากกอดเรา อยากอยู่กับเรา เฮ้ยความรู้สึกมันกลับมาเว้ย เพราะเรายังรักเขาอยู่ ยังมีความรู้สึกดีๆกับเขาอยู่ เรายอมนะ ยอมกลับไปหาเขา แต่หลังจากวันนั้นเราก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย จนถึงวันที่12กุมภา เราไลน์ถามเขาว่า วันนี้มาช่วยพี่ขายเสื้อรึป่าว เขาบอกว่ามา เราก็ขอไปเจอ แต่เขากลับบอกว่า เขาจะพาแฟนเขาไปด้วย ความรู้สึกดีที่มันกลับมา มันกลับพังไปอีกแล้ว เราเลยบอกว่า เราไม่อยากอยู่แบบนี้แล้ว เรามาตัดกันให้ขาดมั๊ย เธอคืนตังเราเถอะ เราจะได้ไม่ต้องติดต่ออะไรกันอีก เพราะตอนนี้เราก็อยากเริ่มต้นใหม่ เราไม่อยากเป็นแบบนี้ เราไม่อยากเริ่มต้นใหม่ทั้งที่ยังติดต่อกับแฟนเก่าเพราะเรื่องตังอีกแล้ว พอพูดถึงเรื่องตังปุ๊บเขาก็บล็อกไลน์เราปั๊บเลยจ้า เราทวงครั้งนั้นครั้งสุดท้ายเราก็ไม่ทวงอีกเลย แต่วันนี้เราทวงตังที่เพื่อนเขาอีกรอบนึง เราขอเด็ดขาดเลยศุกร์นี้ หากไม่คืนเราจะไปทวงตังกับพ่อแม่ กับพี่ กับแฟนเขาแทน แต่เราก็ยังไม่ได้คำตอบจากเพื่อนเขาหรือเขาเลย
เราบอกกับเขาตลอดว่า ถ้าเราจบกันด้วยเรื่องดีๆ เงินที่ยืมเราไม่เอา แต่นี้จบกันด้วยการทำร้ายจิตใจกันด้วยคำพูดแบบนั้น เงินที่ยืมไปก็ต้องคืน ส่วนเงินที่ให้ก็คือให้เราไม่เอา
แชทที่เคยยืม สลิปการโอนเงิน ทุกอย่างเราแคปเก็บไว้ตั้งแต่วันที่เขาพูดประโยคนั้น
เราควรทำไงดีคะ หากไม่ได้ตังคืนจริงๆ ทั้งๆที่เราบอกว่าเราเดือดร้อนมาก เราต้องการใช้ตังด่วน เราบอกกับเขาแบบนี้ทุกครั้งที่เราทวงตังค์เขาเลย