คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ขอเล่าจากประสบการณ์ละกันนะคะ คือตอนที่พี่ตัดสินใจจะไปเรียนที่ฝรั่งเศสเนี่ย พี่ทิ้งภาษาฝรั่งเศสไปประมาณ 2 ปี ไม่ได้แตะเลย ลืมไปเยอะมาก เลยไปลงเรียนทบทวนที่สมาคมฝรั่งเศส คอร์สเตรียมสอบ B2 พอเข้าไปนั่งเรียนคือเรียนไม่รู้เรื่องเลย คนอื่นในห้องเรียนด้วยกันนี่คือคนที่เพิ่งกลับมาจากไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนมา ไม่ก็คนต่างชาติ อิตาลี สเปน มาเรียนเพิ่มเติม แต่ละคนเก่งมาก การบ้านที่อาจารย์ให้ไปเขียนพี่โดนแก้เยอะสุด จนบางครั้งอาจารย์บอกว่าไม่แก้นะ ไม่รู้จะแก้ยังไง เขียนใหม่น่าจะง่ายกว่า เวลาฟังวีดีโอแล้วตอนคำถาม คนอื่นก็ตอบกัน ถกความเห็นกัน พี่ก็นั่งเงียบ
วันเรียนวันสุดท้ายอาจารย์เดินมาบอกพี่ว่า ยังไม่ให้พี่สอบ B2 ในครั้งนี้ ให้ไปลงเรียนคอร์สเดิมอีกสัก 2 ปี ตอนนี้เธอยังไม่พร้อม
แต่พี่ไม่ได้แล้วไงคะ พี่ตัดสินใจแล้วว่าพี่จะไปเรียนปีนี้แล้ว ไม่รอแล้ว พี่เลยแอบไปสมัครสอบ B2 กะว่าเสี่ยงดวงเอา Part ที่อ่อนที่สุดของพี่คือ Part เขียน เพราะมันต้องเขียนจดหมายกึ่งทางการ - ทางการ มันจะมีรูปแบบของมันซึ่งเปลี่ยนไปตามแต่โอกาส
สิ่งที่พี่ทำคือ พี่ท่องประโยคขึ้นต้น และประโยคจบไปเลย 1 รูปแบบพอ แล้วตั้งปณิธานไว้ว่า ไม่ว่าข้อสอบมันจะออกมาในรูปแบบไหน ให้เขียนอะไร เราก็จะเขียนไอ้ประโยคขึ้นต้นกับลงท้ายที่เราท่องมาเนี่ยแหละ แล้วค่อยๆไปเขียน ตบๆๆมันในเนื้อเรื่องข้างในที่หลัง พี่ใช้รูปประโยคและคำศัพท์ที่ง่ายที่สุด เพื่อที่จะไม่ผิด เขาจะได้หักคะแนนไม่ได้ ถึงจะไม่ได้คะแนนตรงส่วนการใช้คำ/รูปประโยคยากเพิ่ม แต่อย่างน้อยก็ไม่โดนหักคะแนนจนศูนย์อะ พี่คิดแค่นั้น คือขอแค่ไม่ต่ำกว่า 5 คะแนนพอ ไม่งั้นถึงคะแนนรวมผ่าน แต่ถ้ามี Part ไหนต่ำว่า 5 คะแนน ก็ถือว่าสอบไม่ผ่านอยู่ดี แล้พี่ก็ไปพยายามส่วนฟัง พูด อ่าน แทน
สุดท้ายก็ได้ใบผ่าน B2 มาครอบครอง โดยคะแนนส่วนที่ได้น้อยสุดดันเป็นส่วนอ่านแทนซะงั้น เพราะได้เรื่องเกี่ยวกับ Bio อะไรไม่รู้ว่า อ่านไม่รู้เรื่องเลยเอาจริงๆ 555
คราวนี้สำหรับน้องพี่อยากจะถามน้องว่าน้องมีความมั่นใจแค่ไหนว่าน้องจะสอบ B2 ผ่าน (เช่นดูทีวีฝรั่งเศสเข้าใจไหม ฟังวิทยุเข้าใจไหม อ่านหนังสือพิมพ์เขารู้เรื่องหรือเปล่า?) ถ้าน้องคิดว่ามันน่าจะผ่านแหละ พี่ก็อยากแนะนำให้น้องสอบ B2 ดู เพราะมันใช้ได้เยอะกว่าหลากหลายกว่าจริงๆ
แต่ถ้าน้องไม่มั่นใจเลยว่าจะสอบ B2 ได้ แต่คิดว่าอยากสอบเพราะว่า อาจจะเอาไปใช้เรียนต่อที่ฝรั่งเศสได้ น้องก็ต้องถามตัวเองว่าแล้วน้องคิดว่าถ้าน้องสอบผ่านน้องจะเรียนที่ฝรั่งเศสจริงๆไหม ค่าเทอมมหาลัยเดี่ยวนี้ไม่ได้ถูกๆเหมือนสมัยก่อนแล้ว ราคาพอพอกับไปเรียนอังกฤษเลย น้องยังจะเลือกเรียนที่ฝรั่งเศสอยู่อีกไหม ถ้าคำตอบว่า ใช่ ยังอยากเรียนที่นี่อยู่ งั้นน้องก็สอบ B2 เถอะ เตรียมตัวสอบเพียงแค่อึดใจเดียว ได้ใบนี้มาก็สบายแล้ว ไม่ว่าจะเรียนต่อ ทำงาน (บางบริษัทเขาก็ขอใบรับรองภาษา) หรือถ้าแต่งงานกับคนฝรั่งเศสในอนาคตก็ไม่ต้องสอบภาษาอีก ใช้ใบนี้ยื่นได้เลย
แต่ถ้าน้องก็ยังไม่มั่นใจเลยว่า อยากจะเรียนอะไร ที่ไทยหรือฝรั่งเศส แถมก็ไม่มั่นใจด้วยว่าจะสอบ B2 ผ่านไหม ไม่มั่นใจเอามากๆ งั้นก็สอบ B1 ก่อนให้ได้สักใบหนึ่ง แล้วกลับไทยไป ค่อยเตรียมตัวสอบ B2 แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีตอนนั้นก็ยังไม่สายค่ะ
วันเรียนวันสุดท้ายอาจารย์เดินมาบอกพี่ว่า ยังไม่ให้พี่สอบ B2 ในครั้งนี้ ให้ไปลงเรียนคอร์สเดิมอีกสัก 2 ปี ตอนนี้เธอยังไม่พร้อม
แต่พี่ไม่ได้แล้วไงคะ พี่ตัดสินใจแล้วว่าพี่จะไปเรียนปีนี้แล้ว ไม่รอแล้ว พี่เลยแอบไปสมัครสอบ B2 กะว่าเสี่ยงดวงเอา Part ที่อ่อนที่สุดของพี่คือ Part เขียน เพราะมันต้องเขียนจดหมายกึ่งทางการ - ทางการ มันจะมีรูปแบบของมันซึ่งเปลี่ยนไปตามแต่โอกาส
สิ่งที่พี่ทำคือ พี่ท่องประโยคขึ้นต้น และประโยคจบไปเลย 1 รูปแบบพอ แล้วตั้งปณิธานไว้ว่า ไม่ว่าข้อสอบมันจะออกมาในรูปแบบไหน ให้เขียนอะไร เราก็จะเขียนไอ้ประโยคขึ้นต้นกับลงท้ายที่เราท่องมาเนี่ยแหละ แล้วค่อยๆไปเขียน ตบๆๆมันในเนื้อเรื่องข้างในที่หลัง พี่ใช้รูปประโยคและคำศัพท์ที่ง่ายที่สุด เพื่อที่จะไม่ผิด เขาจะได้หักคะแนนไม่ได้ ถึงจะไม่ได้คะแนนตรงส่วนการใช้คำ/รูปประโยคยากเพิ่ม แต่อย่างน้อยก็ไม่โดนหักคะแนนจนศูนย์อะ พี่คิดแค่นั้น คือขอแค่ไม่ต่ำกว่า 5 คะแนนพอ ไม่งั้นถึงคะแนนรวมผ่าน แต่ถ้ามี Part ไหนต่ำว่า 5 คะแนน ก็ถือว่าสอบไม่ผ่านอยู่ดี แล้พี่ก็ไปพยายามส่วนฟัง พูด อ่าน แทน
สุดท้ายก็ได้ใบผ่าน B2 มาครอบครอง โดยคะแนนส่วนที่ได้น้อยสุดดันเป็นส่วนอ่านแทนซะงั้น เพราะได้เรื่องเกี่ยวกับ Bio อะไรไม่รู้ว่า อ่านไม่รู้เรื่องเลยเอาจริงๆ 555
คราวนี้สำหรับน้องพี่อยากจะถามน้องว่าน้องมีความมั่นใจแค่ไหนว่าน้องจะสอบ B2 ผ่าน (เช่นดูทีวีฝรั่งเศสเข้าใจไหม ฟังวิทยุเข้าใจไหม อ่านหนังสือพิมพ์เขารู้เรื่องหรือเปล่า?) ถ้าน้องคิดว่ามันน่าจะผ่านแหละ พี่ก็อยากแนะนำให้น้องสอบ B2 ดู เพราะมันใช้ได้เยอะกว่าหลากหลายกว่าจริงๆ
แต่ถ้าน้องไม่มั่นใจเลยว่าจะสอบ B2 ได้ แต่คิดว่าอยากสอบเพราะว่า อาจจะเอาไปใช้เรียนต่อที่ฝรั่งเศสได้ น้องก็ต้องถามตัวเองว่าแล้วน้องคิดว่าถ้าน้องสอบผ่านน้องจะเรียนที่ฝรั่งเศสจริงๆไหม ค่าเทอมมหาลัยเดี่ยวนี้ไม่ได้ถูกๆเหมือนสมัยก่อนแล้ว ราคาพอพอกับไปเรียนอังกฤษเลย น้องยังจะเลือกเรียนที่ฝรั่งเศสอยู่อีกไหม ถ้าคำตอบว่า ใช่ ยังอยากเรียนที่นี่อยู่ งั้นน้องก็สอบ B2 เถอะ เตรียมตัวสอบเพียงแค่อึดใจเดียว ได้ใบนี้มาก็สบายแล้ว ไม่ว่าจะเรียนต่อ ทำงาน (บางบริษัทเขาก็ขอใบรับรองภาษา) หรือถ้าแต่งงานกับคนฝรั่งเศสในอนาคตก็ไม่ต้องสอบภาษาอีก ใช้ใบนี้ยื่นได้เลย
แต่ถ้าน้องก็ยังไม่มั่นใจเลยว่า อยากจะเรียนอะไร ที่ไทยหรือฝรั่งเศส แถมก็ไม่มั่นใจด้วยว่าจะสอบ B2 ผ่านไหม ไม่มั่นใจเอามากๆ งั้นก็สอบ B1 ก่อนให้ได้สักใบหนึ่ง แล้วกลับไทยไป ค่อยเตรียมตัวสอบ B2 แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีตอนนั้นก็ยังไม่สายค่ะ
แสดงความคิดเห็น
มาแลกเปลี่ยน ไม่รู้ว่าจะสอบ B1หรือB2ดี (+ระบายนิดๆค่ะ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้