ฮัลโหล้ลล อยากจะแชร์ประสบการณ์เที่ยวลำปาง
แบบตั้งใจที่ไม่ตั้งใจนะครับ 55
==================================================
ขอเกริ่นก่อนเลยว่าผมเองเป็นคนพูดไม่เก่ง และ ทักษะการพูดผมน้อยมากก
ดังนั้นอาจจะไม่เข้าใจเท่าไหร่ 5555 (ขออภัยด้วยนะครับ)
เริ่มเลยยย Go Go
==================================================
ก่อนวันที่จะไป 1 วัน
ผมได้ศึกษาสถานที่ท่องเที่ยวในลำปางอย่างคร่าวๆ นะครับว่ามีที่ไหนไม่ไกลกันมาก เพื่อที่จะได้กะเวลาแล้วกลับมาขึ้นรถไฟได้ทันในช่วงเย็น
และหลังจากนั้น เมื่อเลิกงานผมจึงได้รีบไปสถานีรถไฟเชียงใหม่ แต่ไม่ได้ไปซื้อตั๋วนะครับ แค่อยากสอบถามเวลาการเดินรถของวันรุ่งขึ้น ว่ารอบเช้าสุด
กี่โมง
จึงได้รู้ว่า รอบเช้าสุดที่จะออกคือ 06:30 น.
ดังนั้นรีบกลับมาที่ห้องเตรียมของเช็คอุปกรณ์จักรยานต่างๆ แล้วนอนนนน เพื่อที่จะตื่นอีกที 04:45
เวลา 04.30 (ตื่นเองก่อนนาฬิกาปลุก 555)
ตื่นขึ้นมาจากที่นอนก่อนนาฬิกาปลุก 15 นาทีก็ดีเหมือนกัน แล้วจึงรีบไปอาบน้ำอาบท่า
ใส่ชุดปั่นจักรยาน
ใส่หมวกจักรยาน
ใส่ถุงมือ
เตรียมแว่นตา
Powerbank
และผ้าบัฟ จากนั้นก็ปั่นโลด
โดยผมอาศัยอยู่ในแถว มหาลัยเชียงใหม่ ระยะห่างจากที่พักของผมถึงสถานีรถไฟเป็นระยะทางกว่า 7 กิโลเมตร (ดังนั้นผมเลยเผื่อเวลาไว้แล้ว)
(ยังมีเวลาอีก 1 ชั่วโมงแหนะ)
แล้วผมเข้าไปต่อคิวซื้อตั๋วเพื่อที่ว่าจะได้สอบถาม การนำเอารถจักรยานขึ้นบนรถไฟด้วย
ดีนะที่มาก่อนเวลา เพราะคนรอต่อคิวมาเป็นช่วงๆ แล้วก็หลินฮุ่ย (ผ๊าม !)
รถเที่ยวนี้แหละ (แต่ไม่ได้ไปกรุงเทพเน้อ 555)
ตอนซื้อตั๋ว เราต้องบอกความจำนงค์ว่าเราจะนำจักรยานขึ้นไปด้วย
เจ้าหน้าที่จะได้แนะนำ ว่าควรจะทำอะไรต่อไป
ในส่วนนี้ ผมต้องนำจักรยานไปที่ห้องสัมภาระ เพื่อทำการลงทะเบียนสัมภาระ
และมีค่าธรรมเนียมบริการ 90 บาท (กรณีเอาขึ้นลงเอง)
แต่ถ้าจะให้เจ้าหน้าที่ยกขึ้นให้ 120 บาท
แน่นอนครับผมเลือก 90 บาท (ก็มันจักรยาน ไม่ใช่มอเตอร์ไซค์ 555)
(อันนี้ ถ่ายก่อนที่จะเอาจักรยานลงไปนอน เพราะจริงๆแล้วมันไม่ควรตั้งแบบนี้ 5555 สงสารน้อง)
รถไฟออกแล้ว ปู๊น ปู๊นนนน ~~
(น่าจะเป็นน้องผู้สาวเหนือ นั่งข้างๆกันแต่ผมไม่กล้าทัก 5555 เป็นโรคกลัวผู้หญิงสวย)
เมืองเหนือควันและฝุ่นมากมาย พี่สูดดมเข้าไปร่างกายก็เป็นภูมิแพ้ ....
และคุณต้องอย่าหลับไม่งั้นอดดูสะพานสวยๆ นะครับ
นี่คือสะพานทาชมภูสวยมากกต้องมาเห็นกับตา (ในรูปเบลอมากก แต่ถ้าได้รักใครจะชัดเจนมากบอกเลย 555)
บรรยากาศเช้าๆ กับแสงอาทิตย์ตอนเช้ามันเป็นเช่นนี้แล
หลังจากผ่านสะพานนี้ได้ไม่นานเราก็มาถึง สถานีขุนตาลนั่นเอง
เป็นสถานีที่มีน้องหมาเยอะที่สุดแล้วมั้งเนี่ย 555 (มีการเล่นพวกด้วยนะ)
และเราก็จะผ่านอุโมงค์ขุนตาลกันนน
เป็นอุโมงที่ยาวที่สุดในประเทศไทย
ผมนับวินาทีกว่าจะออกมาจากอุโมงค์ ประมาณราวๆ 1นาที ได้
เย่ และแล้วเราก็มาถึง ลำปางแล้วจ้าา
ใช้เวลาประมาณเดินรถเกือบๆ 2 ชั่วโมง
แต่ !!! จำหัวข้อกระทู้ผมได้มั้ยครับ ทริปตั้งใจไม่ตั้งใจมันมาจากเหตุการณ์ต่อจากนี้ 5555
คือผมได้ถามนายสถานีที่เชียงใหม่เสร็จสัพเรียบร้อย
แต่ไม่ได้ถามนายสถานีที่ลำปางนี่สิ ว่ารถออกจากลำปางไปเชียงใหม่กี่โมง
ผมได้ทราบว่ารถที่จะออกจากลำปางไปเชียงใหม่ จะมีทุกๆ 2 - 3 ชั่วโมงแหละ
แต่ " รถที่สามารถขนสัมภาระได้จะมีแค่รอบ 10 โมงเช้า กับ 02:00 ของอีกวัน "
นี่คือสิ่งที่เซอไพร้ส์ที่สุด โอ้วจอสสสส
แน่นอนไหนๆก็มาแล้วหนิ เอาให้สุดไปเลย 555 ตอนนั้นไม่มีอะไรสำรองเลย มีแต่ Powerbank และหัวใจสำรอง ผ๊าม !
ก็เลย Booking Agoda แล้วเลือก Hostel ที่ใกล้สถานีรถไฟที่สุด เพื่อที่ตอนเช้าจะได้เดินทางกลับได้อย่างสบายๆ
จึงเลือก Memmoth Hostel In Lampang
โอเคหลังจากนั้นไม่กังวลละไหนๆก็มาแล้ว ปั่นโลดดด
ที่แรกเลย ผมจะไปวัดพระธาตุลำปางหลวง
(เมืองลำปาง เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของรถม้า เราจะเห็นบ่อยๆในเมืองลำปางครับ)
ถึงแล้วว (แดดยังไม่ร้อนนะตอนนี้ 555)
ต่อไปเราจะไป ฟาร์มแกะ Hug You
ปั่นโลดดด
ถึงแล้วว ฟาร์มแกะ Hug You
จำได้ว่าตอนนั้นผ่าเที่ยงเลยแหละ อุณหภูมิ 35 องศาจ้าา ร้อนสุดๆๆ
(เสียดายไม่ได้ถ่ายป้ายสถานที่ TT)
เค้าไม่ได้มีแค่แกะนะ มีสัตว์เลี้ยงหลายชนิด + กิจกรรมให้ทำหลายอย่างด้วย
และมีร้านค้าขายของซื้อกลับไปฝากหวานใจ หรือ ญาติๆได้นะครับ
นั่งพักร้อน ประมาณชั่วโมงนึง
แล้วออกเดินทางกันต่อ บ่ายโมง แดดจ้าๆเลย 555
ถึงแล้วว ฮิมวัง คาเฟ่
คาเฟ่เลื่องชื่อของเมืองลำปาง
บรรยากาศดีมาก สงบลมเย็นๆ
(แอบงีบไป 30 นาที)
เอ้าออกเดินทางกันต่อ
ถึงตัวเมืองแล้วจ้า
จะไปวัดศรีชุมระยะห่างไม่ไกลกันมากครับ อยู่ในเมืองเลย
ถึงแล้ววว สวยมากก
(เค้าบอกว่าเป็นวัดพม่า)
เอ้าออกเดินทางกันต่อ
เราจะไปวัดเจดีย์ซาวหลัง
ถึงแล้วว วัดเจดีย์ซาวหลัง
บรรยากาศระหว่างทางไปวัดเจดีย์ซาวหลัง
เดี๋ยวไปต่อกันข้างล่างเน้อ
[ทริปตั้งใจที่ไม่ตั้งใจ] เชียงใหม่ - ลำปาง ด้วยจักรยานและหัวใจ