ในฐานะที่เป็นเซลล์ขายรถ จะแนะนำลูกค้าทุกท่านที่คิดจะทำธุรกรรมด้านการเงินหรือต้องการที่จะซื้อรถ
ง่ายๆเลยคนที่เครดิตดี จะได้เปรียบกว่าคนที่ไม่มีเครดิต
จะให้นิยามง่ายๆคือคนที่ "ไม่มีเครดิต" คือ....
-บุคคลที่ไม่เคยทำธุรกรรมใดๆด้านการเงินเลย ไม่เคยมีบัตรเครดิตไม่เคยออกมอเตอร์ไซค์ ใดๆทั้งสิ้น
-อีกนัยหนึ่งคือคนที่เคยผ่อนรถผ่อนบัตร ผ่อนบ้านหรือผ่อนธุรกรรมใดๆทางด้านการเงิน ผ่อนมาหมดแล้วมากกว่า 1 ปี บุคคลประเภทนี้จะไม่มีประวัติการผ่อนส่ง อาจจะมีประวัติอยู่ที่เครดิตบูโรแห่งชาติ แต่ไฟแนนซ์ส่วนใหญ่จะดูที่ไม่เกิน 1 ปี ถ้าเกินก็จะลงคะแนนไว้ที่ บุคคลไม่มีประวัติคะ
📌 คนที่ไม่มีเครดิต ถ้าต้องการออกรถ คุณต้องเตรียมใจไว้เลยว่าอาจจะต้องใช้เงินออกรถบ้าง (แล้วแต่รุ่น และ ยี่ห้อ)
📌 ส่วนคนค้ำประกันต้องมีแน่ๆอยู่แล้ว 1 คน
*** ทำไมหลายๆคนถึงไม่เข้าใจว่าคนไม่มีเครดิตหรือบางคนที่เรียกว่าเครดิตใสถึงต้องใช้เงินออกรถ และใช้คนค้ำ อธิบายสั้นๆให้ได้ใจความก็คือถ้าวันนึงมีคนที่คุณไม่รู้จักมาขอยืมเงินคุณโดยขอยืมเงินคนในจำนวนครึ่งล้าน โดยที่คุณรู้ประวัติเขาแค่คร่าวๆคุณจะ ให้เงินเขายืมเต็มจำนวนเลย หรือจะให้ยืมแค่ส่วนนึงก่อนเพื่อลองดูว่าคนคนนี้จะ คือเงินคุณครบหรือไม่ และคุณก็ลองคิดดู ว่า ถ้าบุคคลคนนี้มายืมคุณคุณจะต้องการความมั่นใจโดยการขอคนค้ำประกันไหม???
.... ต่อมาจะอธิบายในส่วนของคนที่เรียกว่า "เครดิตดี"
- บุคคลประเภทนี้คือบุคคลที่มีประวัติการทำธุรกรรมด้านการเงิน มาแล้วอย่างน้อย 1 ปี และมีการชำระ ตรง ทุกงวด ไม่เคยมีประวัติการค้างชำระใดๆทั้งสิ้น
- หรืออีกนัยหนึ่งคือเคยมีประวัติผ่อน หรือเคยทำธุรกรรมด้านการเงินใดๆ หมดแล้วไม่เกิน 1 ปี
บุคคลประเภทนี้จะยังมีประวัติการผ่อนชำระที่ดีอยู่ในเครดิตบูโรแห่งชาติ
📌 คนที่มีเครดิตดีก็จะได้รับการไว้วางใจจากไฟแนนซ์ต่างๆให้ ซื้อรถได้ในราคาเต็มจำนวนหรือเรียกสั้นๆว่าฟรีดาวน์นั่นเอง
📌 แต่ก็มีข้อแม้อีกนั่นแหละถ้าสมมุติว่าคุณต้องการรถที่มีค่างวด ที่มากกว่า รายได้ของคุณคุณก็จำเป็นที่ต้องใช้คนรวมรายได้
...... ไม่ว่าคุณจะมีเครดิตแล้วหรือว่ายังไม่มีเครดิต ถ้าคิดจะทำธุรกรรมทาง การเงินใดๆก็แล้วแต่ขอให้รักษา ประวัติการผ่อนส่งของคุณไว้ให้ดี เพราะตอนนี้ คนติดแบล็คลิสเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ๆ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดีหรือรู้ก็ดี มันจะเป็นประวัติติดตัวคุณไปตลอด ไม่ว่าคุณจะติดมาแล้วนานเป็น 10 ปี ประวัตินั้นมันก็ยังคงอยู่ในเครดิตบูโรแห่งชาติ เพราะทาง ผู้ปล่อยสินเชื่อเขาไม่มีวันปล่อยให้คุณลอยนวลหรอกค่ะ ด้วยความปรารถนาดีจากเซลล์ตัวน้อยๆ
มีประโยชน์ก็ขอคนละ 1 ยิ้มก็พอค่ะแต่ถ้าไม่เห็นด้วย หรือผิดพลาดประการใดยังไง ก็อย่าว่ากันนะคะ
อยากรู้ไหมเครดิตดี กับไม่มีเครดิต ต่างกันยังไง ???
ง่ายๆเลยคนที่เครดิตดี จะได้เปรียบกว่าคนที่ไม่มีเครดิต
จะให้นิยามง่ายๆคือคนที่ "ไม่มีเครดิต" คือ....
-บุคคลที่ไม่เคยทำธุรกรรมใดๆด้านการเงินเลย ไม่เคยมีบัตรเครดิตไม่เคยออกมอเตอร์ไซค์ ใดๆทั้งสิ้น
-อีกนัยหนึ่งคือคนที่เคยผ่อนรถผ่อนบัตร ผ่อนบ้านหรือผ่อนธุรกรรมใดๆทางด้านการเงิน ผ่อนมาหมดแล้วมากกว่า 1 ปี บุคคลประเภทนี้จะไม่มีประวัติการผ่อนส่ง อาจจะมีประวัติอยู่ที่เครดิตบูโรแห่งชาติ แต่ไฟแนนซ์ส่วนใหญ่จะดูที่ไม่เกิน 1 ปี ถ้าเกินก็จะลงคะแนนไว้ที่ บุคคลไม่มีประวัติคะ
📌 คนที่ไม่มีเครดิต ถ้าต้องการออกรถ คุณต้องเตรียมใจไว้เลยว่าอาจจะต้องใช้เงินออกรถบ้าง (แล้วแต่รุ่น และ ยี่ห้อ)
📌 ส่วนคนค้ำประกันต้องมีแน่ๆอยู่แล้ว 1 คน
*** ทำไมหลายๆคนถึงไม่เข้าใจว่าคนไม่มีเครดิตหรือบางคนที่เรียกว่าเครดิตใสถึงต้องใช้เงินออกรถ และใช้คนค้ำ อธิบายสั้นๆให้ได้ใจความก็คือถ้าวันนึงมีคนที่คุณไม่รู้จักมาขอยืมเงินคุณโดยขอยืมเงินคนในจำนวนครึ่งล้าน โดยที่คุณรู้ประวัติเขาแค่คร่าวๆคุณจะ ให้เงินเขายืมเต็มจำนวนเลย หรือจะให้ยืมแค่ส่วนนึงก่อนเพื่อลองดูว่าคนคนนี้จะ คือเงินคุณครบหรือไม่ และคุณก็ลองคิดดู ว่า ถ้าบุคคลคนนี้มายืมคุณคุณจะต้องการความมั่นใจโดยการขอคนค้ำประกันไหม???
.... ต่อมาจะอธิบายในส่วนของคนที่เรียกว่า "เครดิตดี"
- บุคคลประเภทนี้คือบุคคลที่มีประวัติการทำธุรกรรมด้านการเงิน มาแล้วอย่างน้อย 1 ปี และมีการชำระ ตรง ทุกงวด ไม่เคยมีประวัติการค้างชำระใดๆทั้งสิ้น
- หรืออีกนัยหนึ่งคือเคยมีประวัติผ่อน หรือเคยทำธุรกรรมด้านการเงินใดๆ หมดแล้วไม่เกิน 1 ปี
บุคคลประเภทนี้จะยังมีประวัติการผ่อนชำระที่ดีอยู่ในเครดิตบูโรแห่งชาติ
📌 คนที่มีเครดิตดีก็จะได้รับการไว้วางใจจากไฟแนนซ์ต่างๆให้ ซื้อรถได้ในราคาเต็มจำนวนหรือเรียกสั้นๆว่าฟรีดาวน์นั่นเอง
📌 แต่ก็มีข้อแม้อีกนั่นแหละถ้าสมมุติว่าคุณต้องการรถที่มีค่างวด ที่มากกว่า รายได้ของคุณคุณก็จำเป็นที่ต้องใช้คนรวมรายได้
...... ไม่ว่าคุณจะมีเครดิตแล้วหรือว่ายังไม่มีเครดิต ถ้าคิดจะทำธุรกรรมทาง การเงินใดๆก็แล้วแต่ขอให้รักษา ประวัติการผ่อนส่งของคุณไว้ให้ดี เพราะตอนนี้ คนติดแบล็คลิสเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ๆ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดีหรือรู้ก็ดี มันจะเป็นประวัติติดตัวคุณไปตลอด ไม่ว่าคุณจะติดมาแล้วนานเป็น 10 ปี ประวัตินั้นมันก็ยังคงอยู่ในเครดิตบูโรแห่งชาติ เพราะทาง ผู้ปล่อยสินเชื่อเขาไม่มีวันปล่อยให้คุณลอยนวลหรอกค่ะ ด้วยความปรารถนาดีจากเซลล์ตัวน้อยๆ
มีประโยชน์ก็ขอคนละ 1 ยิ้มก็พอค่ะแต่ถ้าไม่เห็นด้วย หรือผิดพลาดประการใดยังไง ก็อย่าว่ากันนะคะ