สวัสดีคะ เราชื่อโบ อายุก็เข้าเลข 3 เเล้ว โตแต่ตัว สมองยังไม่โตเลยคะ
เรามีแฟนแล้ว แฟนเราอายุมากกว่าเรา 12 ปี คบกันมาประมาณ6 ปีตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรี ตกลงแต่งงานกัน โดยจัดงานเล็กๆที่บ้านของเราเอง ที่แต่งบอกเลยคะว่าแต่งเพื่อพ่อแม่ เราทั้งสองคนจะได้อยู่ด้วยกัน โดยไม่ต้องกลัวชาวบ้านเค้านินทา เงินสินสอดเป็นเงินพ่อเราให้ฝ่ายชายยืม เพราะพี่เค้าไม่มีเงินเก็บเลย ฐานะทางบ้านเค้าค่อนข้างไม่ดีคะ จำได้ที่คบกันแรกๆ เพราะใช้ใจล้วนๆ ไม่เคยมองว่าเค้าจน เราเรียนจบก็มาสมัครงานที่บริษัทเดียวกับพี่เค้า ช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัว อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขเสมอมา และที่ขาดไม่ได้ของความเป็นชีวิตคู่ คือเรื่อง sex เค้าให้เราทุกวัน เราไม่ได้ติด sex แต่เราอยากให้เค้ามีความสุขในเรื่องที่เค้าชอบ เราจึงยินยอมแต่โดยดี เราเป็นคนที่ถึงจุดสุดยอดช้ากว่าพี่เค้า ต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดมาจาก เราไม่พูดบอกเค้าตรงๆ ว่าทุกครั้งที่มี sex เค้าถึงจุดสุดยอด แต่เรา ไม่ถึงจุดสุดยอดเลย (แรกๆ ได้แต่บอกว่าไม่เป็นไร พอหลังๆ เราเฟลมากคะ) แต่เราไม่ยอมบอกเค้า พอเค้าถาม เราก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอก โบโอเค และวันนึงโลกโซเชียลก็ทำให้ได้รู้จักผู้ชายมากหน้าหลายตา มีทั้งรุ่นราวคราวเดียวกัน และแก่กว่า ตอนเเรกอยากคุยเพื่อคลายเหงา แต่สุดท้ายก็เกินเลยมาจบบนเตียงตลอด ทั้งที่ก็ยังอยู่ฉันสามีภรรยากับพี่เค้า ผู้ชายคนแรกที่ได้รู้จักอายุเท่าๆกับเรา ชื่อ N คุยกันเข้าใจกันมาก ให้กำลังใจเราตลอด เค้าก็มีครอบครัวแล้ว แต่ด้วยความต้องการจึงทำให้เราทำเรื่องแบบนี้ แต่เราจะไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน มีคุยไลน์กันบ่อย นัดเจอกันทุกอาทิตย์ เราเริ่มรู้สึกดีกับ N มากๆเลย แต่ N จะคอยเตือนเราเสมอว่า เรามีความสัมพันธ์ต่อกันได้เท่าไหน เราก็ต้องหยุดความคิด และมีแต่ความเป็นเพื่อนที่ดีมอบให้เค้าเสมอ เราเหมือนเพื่อนที่สามารถนอนด้วยกันได้ ปรึกษากันได้ทุกเรื่อง แต่ไม่ผูกพัน แล้ววันนึงเราก็ได้รู้จักกับพี่ผู้ชายคนนึง พี่เค้าชื่อ K เค้าทักไลน์มาหา คุยกันเเนะนำตัวกันไป พี่ K บอกว่าอยากเจอเรา ตอนนี้ภรรยาเค้าไปทำงานที่ฮ่องกง ตอนนั้นเราก็ไม่คิดว่าความสัมพันธ์ของเราจะเกินเลยกันมาขนาดนี้ ตอนเเรกยอมรับว่าแค่เห็นรูปโปรไฟล์หน้าไลน์เราก็ไม่อยากนัดเจอเเล้ว กลัว!!! พี่ K อายุ 40 ปลายๆ เป็นคนผิวคล้ำ ทำงานหนักจึงทำให้หน้าแก่เกินวัย แต่ด้วยคำพูดเค้าทำให้เราไว้วางและยอมนัดเจอ เดตเเรกของเราเป็นไปด้วยดีคะ เราอยู่ที่โรงแรมกันครึ่งวัน ก็ออกมาหาข้าวกินแล้วแยกย้าย เค้ามีโทรมาหาเราบอกถูกใจในเรื่อง sex ของเรามาก เราก็คิดแบบนั้น ! อีกไม่กี่วันถัดมาเราก็นัดเจอกันอีก คราวนี้พี่เค้ามีซื้อของมาเซอร์ไพส์ โบดูออกคะว่าพี่เค้ากำลังจีบโบอยู่ เราเคยเล่าเรื่องที่ไม่มีความสุขเรื่อง sex กับแฟนให้พี่เค้าฟัง และโกหกพี่เค้าไปว่าเรากำลังจะเลิกกับสามี พี่เค้าไม่รู้นะคะว่าเราแต่งงานกัน เราไม่เคยเล่าเรื่องครอบครัวให้เค้าฟังมาก อ่านมาถึงตรงงนี้ ทุกคนคงสงสัยว่าสามีไม่ตามเราเหรอ เวลาโบไปนัดกับผู้ชายอื่น เค้ามีตามแหละคะ แต่เราคุยได้ไงเวลาอยู่กับคนอื่น เพราะผู้ชายทุกคนที่คบกับเรา เราไม่มีสถานะอะไรกัน และเราก็จะหาช่วงเวลาทำงานนี้แหละคะที่จะนัดกับคนนู้นคนนี้ ลืมบอกคะว่าก่อนหน้าที่จะมาเล่นโซเชียลในลักษณะนี้ โบย้ายที่ทำงานมาอีกที ไม่ได้ทำที่เดียวกับสามีแล้วนะคะ เราจึงเริ่มมีระยะห่างกันบ้าง สามีไม่กล้าเช็คโทรศัพท์ของเรานะเราจะล็อครหัวมือถือไว้เสมอ และไม่ตั้งการเเจ้งเตือนใดๆ เวลาว่างถึงจะเข้าไปเชคดู และมีกฎเหล็กระหว่างกันว่าเราจะไม่โทรหากัน เพราะไม่อยากให้เรื่องแตก เราถลำลึกมากๆคะ ช่วงนั้นเราเริ่มมีปัญหาเรื่องเงิน ไม่สิ เรามีความอยากได้นั้น อยากได้นี้ อยากได้ของเเบรนเนมขึ้นห้างหรูๆ โถ่ ไม่ดูเงินในบัญชีตัวเองเลย และพี่เค้าจะหาทุกสิ่งอย่างที่เราอยากได้ ที่เราอ้อนเค้า มาประเคนให้เราทุกอย่าง สมดั่งใจปรารถนาทุกครั้ง เราเล่าว่าเราติดหนี้บัตรเครดิต และพี่เค้าก็ให้เงินมาปิดยอดบัตรตลอด เราเอาไปจ่ายเพื่อเอาใบเสร็จมาแสดงว่าเราจ่ายแล้วจริงๆนะ แต่สุดท้ายก็กลับไปรูดใหม่ เป็นวังวนอยู่แบบนี้เรื่อยๆ วันนึงเรามีเวลาอยู่ด้วยกันนาน พี่เค้าชวนโบออกไปอยู่ใกล้ๆเค้า พี่เค้าซื้อบ้านอยู่กับครอบครัวแถวๆ บางขุนเทียน พี่เค้าให้เราหางานใหม่ที่จะมาอยู่ใกล้ๆโซนนี้ เราลองทิ้งประวัติเล่นๆไว้ในเวปสมัครงาน ตอนนี้เราก็ยังอยู่กับสามีนะคะ แต่เราปดพี่เค้าว่าเราเลิกกับสามีแล้ว เพราะเราเริ่มเห็นแก่เงินทอง สิ่งของที่เค้ามอบให้ แต่เอาเข้าจริงโบก็ไม่อยากออกจากงานที่ทำปัจจุบันคะ ไม่อยากเริ่มต้นใหม่ เราก็ผลัดไปเรื่อยว่ายังหางานใหม่ไม่ได้ จนตอนปลายปี 2560 พี่เค้ายื่นคำขาดว่าให้เวลาหางานให้ได้และพร้อมย้ายไปอยู่ข้างนอก(เช่าหออยู่คะ) ภายในมกราคม โอ้โห้ เอาไงดีล่ะทีนี้ เราหางานอย่างจิงจัง และได้ไปสัมภาษณ์งานช่วงเดือนกุมภา 2560 แถวๆบางมด เจ้าของสัมภาษณ์เองและนัดเริ่มงานทันที แต่เราขอเคลียร์กับทางบ้าน เคลียร์งานให้เรียบร้อยก่อน พี่ K พาเราไปดูหอใกล้ๆที่ทำงาน เจอเจ้าของหอใจดี เพราะเรากลัวไม่ผ่านงาน จึงคุยเรื่องสัญญาเช่าที่ 4 เดือนก่อน ป้าเจ้าของหอก็โอเค ในซอยหอที่มาอยู่ใกล้ๆกับมหาลัยแห่งนึง ทำให้แถวนั้นพลุกพล่าน ไม่เปลี่ยว และไม่น่ากลัว เพราะเราต้องอยู่ที่หอคนเดียว พี่ K จะแวะเวียนมาหา แต่ไม่บ่อย ก็เราเป็นน้อยนี้เนอะ ตอนนั้นคิดว่าตัวเองมีความสุข อยู่ได้เพราะเงินทอง พี่เค้าให้เราใช้เดือนละ 20000 นอกเหนือจากเงินเดือนของเรา
เด่วมาเล่าต่อนะ เมื่อยแล้วอ่า
ยอมเป็นเมียน้อยเค้า เพราะเห็นแก่เงินทอง ของมีค่าที่ผู้ชายเปย์ให้
เรามีแฟนแล้ว แฟนเราอายุมากกว่าเรา 12 ปี คบกันมาประมาณ6 ปีตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรี ตกลงแต่งงานกัน โดยจัดงานเล็กๆที่บ้านของเราเอง ที่แต่งบอกเลยคะว่าแต่งเพื่อพ่อแม่ เราทั้งสองคนจะได้อยู่ด้วยกัน โดยไม่ต้องกลัวชาวบ้านเค้านินทา เงินสินสอดเป็นเงินพ่อเราให้ฝ่ายชายยืม เพราะพี่เค้าไม่มีเงินเก็บเลย ฐานะทางบ้านเค้าค่อนข้างไม่ดีคะ จำได้ที่คบกันแรกๆ เพราะใช้ใจล้วนๆ ไม่เคยมองว่าเค้าจน เราเรียนจบก็มาสมัครงานที่บริษัทเดียวกับพี่เค้า ช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัว อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขเสมอมา และที่ขาดไม่ได้ของความเป็นชีวิตคู่ คือเรื่อง sex เค้าให้เราทุกวัน เราไม่ได้ติด sex แต่เราอยากให้เค้ามีความสุขในเรื่องที่เค้าชอบ เราจึงยินยอมแต่โดยดี เราเป็นคนที่ถึงจุดสุดยอดช้ากว่าพี่เค้า ต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดมาจาก เราไม่พูดบอกเค้าตรงๆ ว่าทุกครั้งที่มี sex เค้าถึงจุดสุดยอด แต่เรา ไม่ถึงจุดสุดยอดเลย (แรกๆ ได้แต่บอกว่าไม่เป็นไร พอหลังๆ เราเฟลมากคะ) แต่เราไม่ยอมบอกเค้า พอเค้าถาม เราก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอก โบโอเค และวันนึงโลกโซเชียลก็ทำให้ได้รู้จักผู้ชายมากหน้าหลายตา มีทั้งรุ่นราวคราวเดียวกัน และแก่กว่า ตอนเเรกอยากคุยเพื่อคลายเหงา แต่สุดท้ายก็เกินเลยมาจบบนเตียงตลอด ทั้งที่ก็ยังอยู่ฉันสามีภรรยากับพี่เค้า ผู้ชายคนแรกที่ได้รู้จักอายุเท่าๆกับเรา ชื่อ N คุยกันเข้าใจกันมาก ให้กำลังใจเราตลอด เค้าก็มีครอบครัวแล้ว แต่ด้วยความต้องการจึงทำให้เราทำเรื่องแบบนี้ แต่เราจะไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน มีคุยไลน์กันบ่อย นัดเจอกันทุกอาทิตย์ เราเริ่มรู้สึกดีกับ N มากๆเลย แต่ N จะคอยเตือนเราเสมอว่า เรามีความสัมพันธ์ต่อกันได้เท่าไหน เราก็ต้องหยุดความคิด และมีแต่ความเป็นเพื่อนที่ดีมอบให้เค้าเสมอ เราเหมือนเพื่อนที่สามารถนอนด้วยกันได้ ปรึกษากันได้ทุกเรื่อง แต่ไม่ผูกพัน แล้ววันนึงเราก็ได้รู้จักกับพี่ผู้ชายคนนึง พี่เค้าชื่อ K เค้าทักไลน์มาหา คุยกันเเนะนำตัวกันไป พี่ K บอกว่าอยากเจอเรา ตอนนี้ภรรยาเค้าไปทำงานที่ฮ่องกง ตอนนั้นเราก็ไม่คิดว่าความสัมพันธ์ของเราจะเกินเลยกันมาขนาดนี้ ตอนเเรกยอมรับว่าแค่เห็นรูปโปรไฟล์หน้าไลน์เราก็ไม่อยากนัดเจอเเล้ว กลัว!!! พี่ K อายุ 40 ปลายๆ เป็นคนผิวคล้ำ ทำงานหนักจึงทำให้หน้าแก่เกินวัย แต่ด้วยคำพูดเค้าทำให้เราไว้วางและยอมนัดเจอ เดตเเรกของเราเป็นไปด้วยดีคะ เราอยู่ที่โรงแรมกันครึ่งวัน ก็ออกมาหาข้าวกินแล้วแยกย้าย เค้ามีโทรมาหาเราบอกถูกใจในเรื่อง sex ของเรามาก เราก็คิดแบบนั้น ! อีกไม่กี่วันถัดมาเราก็นัดเจอกันอีก คราวนี้พี่เค้ามีซื้อของมาเซอร์ไพส์ โบดูออกคะว่าพี่เค้ากำลังจีบโบอยู่ เราเคยเล่าเรื่องที่ไม่มีความสุขเรื่อง sex กับแฟนให้พี่เค้าฟัง และโกหกพี่เค้าไปว่าเรากำลังจะเลิกกับสามี พี่เค้าไม่รู้นะคะว่าเราแต่งงานกัน เราไม่เคยเล่าเรื่องครอบครัวให้เค้าฟังมาก อ่านมาถึงตรงงนี้ ทุกคนคงสงสัยว่าสามีไม่ตามเราเหรอ เวลาโบไปนัดกับผู้ชายอื่น เค้ามีตามแหละคะ แต่เราคุยได้ไงเวลาอยู่กับคนอื่น เพราะผู้ชายทุกคนที่คบกับเรา เราไม่มีสถานะอะไรกัน และเราก็จะหาช่วงเวลาทำงานนี้แหละคะที่จะนัดกับคนนู้นคนนี้ ลืมบอกคะว่าก่อนหน้าที่จะมาเล่นโซเชียลในลักษณะนี้ โบย้ายที่ทำงานมาอีกที ไม่ได้ทำที่เดียวกับสามีแล้วนะคะ เราจึงเริ่มมีระยะห่างกันบ้าง สามีไม่กล้าเช็คโทรศัพท์ของเรานะเราจะล็อครหัวมือถือไว้เสมอ และไม่ตั้งการเเจ้งเตือนใดๆ เวลาว่างถึงจะเข้าไปเชคดู และมีกฎเหล็กระหว่างกันว่าเราจะไม่โทรหากัน เพราะไม่อยากให้เรื่องแตก เราถลำลึกมากๆคะ ช่วงนั้นเราเริ่มมีปัญหาเรื่องเงิน ไม่สิ เรามีความอยากได้นั้น อยากได้นี้ อยากได้ของเเบรนเนมขึ้นห้างหรูๆ โถ่ ไม่ดูเงินในบัญชีตัวเองเลย และพี่เค้าจะหาทุกสิ่งอย่างที่เราอยากได้ ที่เราอ้อนเค้า มาประเคนให้เราทุกอย่าง สมดั่งใจปรารถนาทุกครั้ง เราเล่าว่าเราติดหนี้บัตรเครดิต และพี่เค้าก็ให้เงินมาปิดยอดบัตรตลอด เราเอาไปจ่ายเพื่อเอาใบเสร็จมาแสดงว่าเราจ่ายแล้วจริงๆนะ แต่สุดท้ายก็กลับไปรูดใหม่ เป็นวังวนอยู่แบบนี้เรื่อยๆ วันนึงเรามีเวลาอยู่ด้วยกันนาน พี่เค้าชวนโบออกไปอยู่ใกล้ๆเค้า พี่เค้าซื้อบ้านอยู่กับครอบครัวแถวๆ บางขุนเทียน พี่เค้าให้เราหางานใหม่ที่จะมาอยู่ใกล้ๆโซนนี้ เราลองทิ้งประวัติเล่นๆไว้ในเวปสมัครงาน ตอนนี้เราก็ยังอยู่กับสามีนะคะ แต่เราปดพี่เค้าว่าเราเลิกกับสามีแล้ว เพราะเราเริ่มเห็นแก่เงินทอง สิ่งของที่เค้ามอบให้ แต่เอาเข้าจริงโบก็ไม่อยากออกจากงานที่ทำปัจจุบันคะ ไม่อยากเริ่มต้นใหม่ เราก็ผลัดไปเรื่อยว่ายังหางานใหม่ไม่ได้ จนตอนปลายปี 2560 พี่เค้ายื่นคำขาดว่าให้เวลาหางานให้ได้และพร้อมย้ายไปอยู่ข้างนอก(เช่าหออยู่คะ) ภายในมกราคม โอ้โห้ เอาไงดีล่ะทีนี้ เราหางานอย่างจิงจัง และได้ไปสัมภาษณ์งานช่วงเดือนกุมภา 2560 แถวๆบางมด เจ้าของสัมภาษณ์เองและนัดเริ่มงานทันที แต่เราขอเคลียร์กับทางบ้าน เคลียร์งานให้เรียบร้อยก่อน พี่ K พาเราไปดูหอใกล้ๆที่ทำงาน เจอเจ้าของหอใจดี เพราะเรากลัวไม่ผ่านงาน จึงคุยเรื่องสัญญาเช่าที่ 4 เดือนก่อน ป้าเจ้าของหอก็โอเค ในซอยหอที่มาอยู่ใกล้ๆกับมหาลัยแห่งนึง ทำให้แถวนั้นพลุกพล่าน ไม่เปลี่ยว และไม่น่ากลัว เพราะเราต้องอยู่ที่หอคนเดียว พี่ K จะแวะเวียนมาหา แต่ไม่บ่อย ก็เราเป็นน้อยนี้เนอะ ตอนนั้นคิดว่าตัวเองมีความสุข อยู่ได้เพราะเงินทอง พี่เค้าให้เราใช้เดือนละ 20000 นอกเหนือจากเงินเดือนของเรา
เด่วมาเล่าต่อนะ เมื่อยแล้วอ่า