Part 2 วัดเส้าหลิน
https://ppantip.com/topic/38617104
Part 3 ซีอาน
https://ppantip.com/topic/38618498
Part 4 ฉงชิ่ง
https://ppantip.com/topic/38628911
สวัสดีค่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่เรามารีวิวเที่ยวในประเทศจีน
ขอเกริ่นนิดนึงก่อนนะคะ เราเป็นข้าราชการไทยที่ได้ทุนมาเรียนภาษาที่ปักกิ่ง ประเทศจีน 10เดือน ซึ่งเราอยู่มาได้5เดือน ช่วงปิดเทอมฤดูหนาว เพื่อนๆกลับบ้านกันหมด แต่เราไม่ได้กลับ เลยใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วยการไปเที่ยวค่ะ 55555+
ส่วนใหญ่อาจจะคุ้นกับทริปฉงชิ่ง-ซีอาน-วัดเส้าหลิน อะไรแบบนี้ แต่ด้วยความที่เราอยู่ปักกิ่ง เลยเที่ยวจากบน-ล่างแทนนะคะ เพราะตอนแรกตั้งใจจะไปจากฉงชิ่ง แล้วขึ้นมาข้างบน แต่ตั๋วฉงชิ่งไปซีอานเต็ม เราเลยต้องเปลี่ยน route ค่ะ
ทริปครั้งนี้เราใช้เงินทั้งหมด ทั้งค่ารถไฟ+โรงแรม+กินใช้ต่างๆ รวมแล้ว 2300 หยวน (ประมาณ 11500฿) ถ้ามาจากไทย แล้วมาลงที่ฉงชิ่ง น่าจะถูกกว่านี้นะคะ เห็นของ Air Asia ราคาค่อนข้างถูกอยู่ค่ะ
ปล. 1.รูปทั้งหมด ถ่ายจากกล้องมือถือ+เป็นคนถ่ายรูปไม่สวย และเราใช้มือถือตั้งกระทู้ เนื่องจากไม่ได้เอาคอมมา รูปก็จะตะแคง และตอนนี้มือถือเมมเต็มแน่นทุกกระเบียดนิ้ว เพราะรูป เลยไม่สามารถ edit รูปได้เลยค่ะ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ😅
ปล. 2.ขอบคุณจขกท.ทั้งหลายที่รีวิวไว้ก่อนหน้านะคะ เราดูหลายกระทู้มาก แล้วเอามาปรับแพลนตัวเอง ขอบคุณมากๆค่ะ
14/2/2019 Start: Beijing-Zhengzhou
เรานั่งรถไฟใต้ดินมาขึ้นรถไฟที่สถานี Beijing West ไปเจิ้งโจวรอบ 22.20 น. ค่ะ ในตัวสถานีค่อนข้างสะดวกสบาย เดี๋ยวนี้จะมีตู้กดน้ำ(ร้อน)บริการ แนะนำให้พกกระติกน้ำไปด้วยนะคะ และห้องน้ำค่อนข้างสะอาด แนะนำให้เข้าจากในสถานีไปเลยค่ะ
แล้วก็มีบริการชาร์จแบตมือถือด้วยค่ะ แต่ต้องเสียเงิน 3 หยวน (ประมาณ 15฿) ใช้ได้สำหรับเฉพาะคนที่สามารถจ่ายเงินผ่านมือถือได้ โดยใช้ Wechat pay นะคะ
ตะแคงดูนิดนึงนะคะ แหะๆ 😅
อ้อ ลืมบอก ในการซื้อตั๋วรถไฟจีน พวกเราชาวต่างชาติจะต้องไปต่อคิวซื้อที่เคาท์เตอร์เท่านั้นนะคะ ตู้ซื้อตั๋วอัตโนมัติ จะใช้ได้เฉพาะคนจีน เนื่องจากต้องใช้บัตรประชาชนจีน ซึ่งพวกเราไม่มี มีแต่พาสปอร์ตค่ะ ส่วนตัวเราจองออนไลน์มาจากทางแอพเลยค่ะ เราใช้แอพ CTrip จองได้ทั้งรถไฟและโรงแรม แนะนำว่า ให้เช็คช่วงวันหยุดดีๆนะคะ ช่วงวันหยุดเทศกาลตั๋วจะเต็มเร็วมาก ภายในเวลา1นาทีเลยค่ะ (พูดจริง)
เมื่อได้ตั๋วแล้ว ต้องมองบนบิลบอร์ดในสถานีนะคะว่ารถไฟเราขบวนไหน ต้องไปรอที่ประตูไหน รถไฟจีนจะเปิดให้เข้าประตูไปชานชาลาได้ก่อนเวลารถออกประมาณ 20 นาที (หรืออาจเลท) ค่ะ โดยก่อนถึงเวลารถออกประมาณ 45นาที-1ชม. ก็จะเริ่มมีคนมารอหน้าประตูทางเข้าชานชาลากันแล้ว ยิ่งถึงตอนประตูเปิด ต้องทำใจนิดนึงนะคะ เพราะจะโดนเบียด โดนแซงคิวตลอดเวลา ต้องระวังตัวค่ะ
เมื่อผ่านประตูไปที่ชานชาลาแล้ว ต้องรีบหาคันรถไฟของตัวเองให้เจอค่ะ เพราะที่จีนจะต้องขึ้นคันที่มีที่นั่งของตัวเองเท่านั้น ห้ามขึ้นจากคันอื่นอ่ะ จะมีเจ้าหน้าที่มายืนตรวจตั๋วก่อนเราขึ้นรถด้วย
เมื่อขึ้นรถแล้ว ถ้าเป็นตั๋วนอน จะมีเจ้าหน้าที่เดินมาให้แลกตั๋วค่ะ เค้าจะให้บัตรแข็งอีกแบบเรามา ให้เราเก็บไว้ให้ดีนะคะ พอใกล้ๆถึงปลายทางของเรา เจ้าหน้าที่จะเอาตั๋วมาแลกคืนก่อนถึง1สถานีค่ะ
(เราลืมถ่ายรูปไว้ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ 😅)
เรามาถึงสถานีรถไฟเจิ้งโจวตอน 6.45 น. ของเช้าวันที่ 15/2/2019 ค่ะ
บรรยากาศหน้าสถานีรถไฟ
จากที่ดูรีวิวในกระทู้ก่อนๆมา ทุกคนบอกว่าให้ไปซื้อตั๋วรถบัสไปหยุนไถซานที่สถานีขนส่ง เราก็เดินไปสถานีขนส่งที่อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ เยื้องไปทางซ้ายมือค่ะ เดินเข้าไปถึงช่องขายตั๋ว ก็บอกพนง.ว่าไปหยุนไถซาน และคำตอบที่ได้กลับมาคือ......วันนี้ไม่มีรถไปหยุนไถซาน จ้าาาาาา
ช็อคสิคะ จุดนี้! ตอนนั้นรีบแชทบอกน้องที่อยู่ไทยให้แคปหน้าจอวิธีไปหยุนไถซานทางอื่นมาให้ เนื่องจาก หยุนไถซานอยู่ในเขตเมืองเจียวจั้ว (焦作) ของมณฑลเหอหนานนี้ เพราะฉะนั้น เราเลยต้องหาวิธีไปเจียวจั้วค่ะ ซึ่งการจะไปถึงเจียวจั้วให้เร็วที่สุด ก็ต้อง รถไฟฟ้าความเร็วสูง (高铁) นั่นเองค่ะ!
เรารีบวิ่งกลับไปที่สถานีรถไฟซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูงไปเจียวจั้วรอบ9.30น. ราคา 28 หยวน (ประมาณ 140฿)
หน้าตาตั๋วรถไฟของจีนเป็นแบบนี้ค่ะ
ในตั๋ว จะระบุ สถานีต้นทาง-ปลายทาง ของเรา ด้านบนลูกศรคือรหัสขบวนรถ บรรทัดต่อมา ซ้ายมือคือวัน-เวลาที่รถออก ขวามือเป็นเลขที่คันรถและเลขที่นั่ง/นอนของเรา ถ้าเป็นตั๋วนอนจะมีระบุด้วยว่าเตียงบน/กลาง/ล่าง ด้านล่างเลขที่นั่ง/นอน จะระบุประเภท ที่นั่ง/ที่นอนของเราไว้ด้วย และยังมีระบุราคาตั๋ว เลขพาสปอร์ต/บัตรประชาชน และชื่อของเราด้วยค่ะ
ใช้เวลาประมาณ30นาที ก็มาถึงสถานีรถไฟเจียวจั้วค่ะ ระหว่างทางก็แชทไปถามเจ้าของโรงแรมในหยุนไถซานที่จองไว้ด้วยว่า จากเจียวจั้วไปหยุนไถซาน ไปยังไง เถ้าแก่บอกว่า ให้นั่งรถเมล์สาย3ไปค่ะ
เมื่อออกมาจากสถานีรถไฟ ทางที่จะไปหยุนไถซานได้มี2ทาง คือ 1.นั่งแท็กซี่จากด้านหน้าสถานี ราคาประมาณ 80¥ 2.นั่งรถเมล์สาย3 ราคา 4¥ ซึ่งเรามาคนเดียว แน่นอนว่าต้องเลือกรถเมล์เพื่อความประหยัดค่ะ 555555+ แต่ถ้ามากันหลายๆคนและอยากประหยัดเวลา ก็เลือกนั่งแท็กซี่ได้นะคะ เมื่อออกมาจากสถานี จะมีพวกโชเฟอร์คอยเรียกลูกค้าตลอดเวลา(จนน่ารำคาญ) บางคนเดินตามตื๊อไปถึงป้ายรถเมล์เลยค่ะ
ถ้าจะไปด้วยรถเมล์ เดินออกจากสถานี ให้เดินออกมาเยื้องทางซ้ายมือ มาที่ถนนใหญ่เลยนะคะ จะมีป้ายรถเมล์อยู่ ที่ป้ายจะมีป้ายบอกว่ามีรถเมล์สาย 3 ไปหยุนไถซาน แต่รอค่อนข้างนานค่ะ 40นาที-1ชม. ซึ่งรถเมล์สาย 3 ที่ผ่าน ไม่ได้ไปหยุนไถซานทุกคันนะคะ ต้องถามค่ะ "去云台山吗? (ชวี่หยุนไถซานมา? = ไปหยุนไถซานมั้ยคะ?)" หรือให้สังเกตที่หน้ารถด้านขวามือ ว่ามีระบุว่าไป 云台山 (หยุนไถซาน) หรือเปล่า ถ้ามี ค่อยขึ้น
เมื่อขึ้นรถแล้ว จะมีกระเป๋ารถเมล์ (เราเรียกแบบนั้นนะ) มาเก็บเงินแบบกระเป๋ารถเมล์บ้านเรา ก็บอกเค้าว่า ไปหยุนไถซาน ราคา 4¥ นั่งสุดสายเลยค่ะ
หน้าตาตั๋วรถเมล์ไปหยุนไถซาน
ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. กว่าจะมาถึงหยุนไถซานค่ะ รถเมล์จะส่งเราลงที่ป้ายศาลาข้างหน้า เราต้องเดินเข้าไปเองอีกนิดนึง ที่ศาลาจะมีบอกตารางเวลารถด้วยค่ะ
ตารางเวลารถจากหยุนไถซานไปสถานีรถไฟเจียวจั้ว/เจิ้งโจว/ลั่วหยาง
มาถึงแล้ว ด้านหน้าทางเข้าหยุนไถซานค่ะ
เข้าไปซื้อตั๋วด้านในที่ช่องขายตั๋ว ใช้พาสปอร์ตนะคะ ราคาค่าเข้าอุทยาน ช่วงหน้าหนาว low season + ตอนนั้นภายในอุทยานมีปิดปรับปรุงบางส่วน ก็ลดราคาลงอีกเหลือ 120¥ แต่อย่างเราเป็นนักเรียนด้วย ก็สามารถใช้บัตรนักเรียนลดราคาได้อีกครึ่งนึงค่ะ เป็น 60¥ +ค่ารถบัสโดยสารในอุทยานอีก 60¥ (อันนี้ไม่ลดราคานะคะ ฤดูไหนก็คิดเต็มราคาค่ะ)
ซื้อตั๋วเสร็จแล้ว เราสามารถเดินออกไปขึ้นรถบัสทางด้านหลังได้เลยค่ะ ขึ้นไปบนรถจะมีพนง.ของอุทยานบอกว่า จะลงตรงไหนให้บอกนะ เนื่องจาก รถบัสจะจอดเป็นจุดๆเหมือนรถเมล์อ่ะค่ะ แต่ถ้าไม่มีใครบอกว่าจะลง รถบัสก็จะผ่านไปเลย
แผนที่จุดจอดรถบัสและสถานที่สำคัญในหยุนไถซาน
เราจะแวะเข้าที่พักที่อยู่ก่อนถึงจุดชมวิวทั้งหลายก่อน ที่ป้าย 岸上服务区 ที่พักที่เราจองอยู่ตรงป้ายนี้พอดี เดินตรงไปแค่10เมตร ก็ถึงแล้วค่ะ ชื่อ 山水悦快捷酒店 ช่วงนั้นเถ้าแก่คิดราคาแค่คืนละ 70¥ ได้ห้องใหญ่ด้วยนะคะ เถ้าแก่เป็นคุณป้าใจดีท่านหนึ่ง คุยง่ายมากค่ะ แถมห้องก็สะอาด (ถ้าไม่นับฝุ่นในลิ้นชัก) แต่ฮีตเตอร์ไม่อุ่นเท่าไหร่ หรือเรียกง่ายๆว่า ไม่ทำงานเลยมากกว่า เดาว่าน่าจะเป็นมาตรการของมณฑลที่ให้ประหยัดไฟอ่ะค่ะ
บรรยากาศในห้องพัก
เก็บกระเป๋าเสร็จแล้ว เราก็ออกไปรอรถบัสที่หน้าที่พัก โดยจะขึ้นรถบัสไป Quanpu Valley กับ Tanpu Valley ค่ะ (ถ้าใครมาถึงแต่เช้า วันแรกแนะนำให้ไปเก็บ2ที่นี้กับ หินโตรกผาแดง Red Stone Gorge แล้วก็ Zifang Lake ก่อนนะคะ)
พอไปถึงป้าย Red Stone Gorge คนที่จะไป Quanpu&Tanpu Valley หรือ Zhuyu Peak ต้องเปลี่ยนรถค่ะ บนรถจะมีไกด์ไปด้วยคนนึง พอถึงจุดจอดเที่ยว Quanpu&Tanpu ไกด์บอกว่า ให้เวลาเดิน2.30ชม.นะ จากนั้นเราก็แยกย้าย เริ่มไปชมวิวกันค่ะ
เราเดินขึ้นไปทาง Tanpu Valley หรือ Jiuzhaigou น้อย (小寨沟) ก่อน
อันนี้ด้านหน้าทางเข้าค่ะ
ตอนเรามา เป็นช่วงใกล้หมดวันหยุดตรุษจีนพอดี ก็เลยมีรูปมังกรประดับอยู่ด้วย
Dragon and Snake Pond
Sweetheart Waterfall
Y-shaped Waterfall
https://drive.google.com/file/d/1IEIEUzYO7ZK78OO3D3ppqya4hGAOrUEBSg/view?usp=drivesdk
Crouching Tiger Rock
https://drive.google.com/file/d/1Glwv5utx7ItCxMzDk3r96Ol5G-cXfLbjxQ/view?usp=drivesdk
พอถึงตรงนี้ เราไม่แน่ใจว่าไปต่อได้รึป่าว+ใกล้ถึงเวลาที่ไกด์นัดแล้ว ก็เลยเดินกลับอ่ะค่ะ (มารู้ทีหลังว่าไปต่อได้) เลยไม่ได้ไป Macaque Valley ด้วย พอขึ้นรถกลับจนถึงจุดจอดหน้าที่พัก เห็นคู่รักคู่นึงเค้าจะไปหินโตรกผาแดง เลยคิดขึ้นได้ว่า งั้นรอรถบัสคันใหม่มา แล้วไปเก็บ Macaque Valley ดีกว่า ปรากฏ พอรถบัสมา เค้าไม่ให้เข้าไปแล้วค่ะ
[CR] แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยว หยุนไถซาน-วัดเส้าหลิน-ซีอาน-ฉงชิ่ง
Part 3 ซีอาน https://ppantip.com/topic/38618498
Part 4 ฉงชิ่ง https://ppantip.com/topic/38628911
สวัสดีค่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่เรามารีวิวเที่ยวในประเทศจีน
ขอเกริ่นนิดนึงก่อนนะคะ เราเป็นข้าราชการไทยที่ได้ทุนมาเรียนภาษาที่ปักกิ่ง ประเทศจีน 10เดือน ซึ่งเราอยู่มาได้5เดือน ช่วงปิดเทอมฤดูหนาว เพื่อนๆกลับบ้านกันหมด แต่เราไม่ได้กลับ เลยใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วยการไปเที่ยวค่ะ 55555+
ส่วนใหญ่อาจจะคุ้นกับทริปฉงชิ่ง-ซีอาน-วัดเส้าหลิน อะไรแบบนี้ แต่ด้วยความที่เราอยู่ปักกิ่ง เลยเที่ยวจากบน-ล่างแทนนะคะ เพราะตอนแรกตั้งใจจะไปจากฉงชิ่ง แล้วขึ้นมาข้างบน แต่ตั๋วฉงชิ่งไปซีอานเต็ม เราเลยต้องเปลี่ยน route ค่ะ
ทริปครั้งนี้เราใช้เงินทั้งหมด ทั้งค่ารถไฟ+โรงแรม+กินใช้ต่างๆ รวมแล้ว 2300 หยวน (ประมาณ 11500฿) ถ้ามาจากไทย แล้วมาลงที่ฉงชิ่ง น่าจะถูกกว่านี้นะคะ เห็นของ Air Asia ราคาค่อนข้างถูกอยู่ค่ะ
ปล. 1.รูปทั้งหมด ถ่ายจากกล้องมือถือ+เป็นคนถ่ายรูปไม่สวย และเราใช้มือถือตั้งกระทู้ เนื่องจากไม่ได้เอาคอมมา รูปก็จะตะแคง และตอนนี้มือถือเมมเต็มแน่นทุกกระเบียดนิ้ว เพราะรูป เลยไม่สามารถ edit รูปได้เลยค่ะ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ😅
ปล. 2.ขอบคุณจขกท.ทั้งหลายที่รีวิวไว้ก่อนหน้านะคะ เราดูหลายกระทู้มาก แล้วเอามาปรับแพลนตัวเอง ขอบคุณมากๆค่ะ
14/2/2019 Start: Beijing-Zhengzhou
เรานั่งรถไฟใต้ดินมาขึ้นรถไฟที่สถานี Beijing West ไปเจิ้งโจวรอบ 22.20 น. ค่ะ ในตัวสถานีค่อนข้างสะดวกสบาย เดี๋ยวนี้จะมีตู้กดน้ำ(ร้อน)บริการ แนะนำให้พกกระติกน้ำไปด้วยนะคะ และห้องน้ำค่อนข้างสะอาด แนะนำให้เข้าจากในสถานีไปเลยค่ะ
แล้วก็มีบริการชาร์จแบตมือถือด้วยค่ะ แต่ต้องเสียเงิน 3 หยวน (ประมาณ 15฿) ใช้ได้สำหรับเฉพาะคนที่สามารถจ่ายเงินผ่านมือถือได้ โดยใช้ Wechat pay นะคะ
ตะแคงดูนิดนึงนะคะ แหะๆ 😅
อ้อ ลืมบอก ในการซื้อตั๋วรถไฟจีน พวกเราชาวต่างชาติจะต้องไปต่อคิวซื้อที่เคาท์เตอร์เท่านั้นนะคะ ตู้ซื้อตั๋วอัตโนมัติ จะใช้ได้เฉพาะคนจีน เนื่องจากต้องใช้บัตรประชาชนจีน ซึ่งพวกเราไม่มี มีแต่พาสปอร์ตค่ะ ส่วนตัวเราจองออนไลน์มาจากทางแอพเลยค่ะ เราใช้แอพ CTrip จองได้ทั้งรถไฟและโรงแรม แนะนำว่า ให้เช็คช่วงวันหยุดดีๆนะคะ ช่วงวันหยุดเทศกาลตั๋วจะเต็มเร็วมาก ภายในเวลา1นาทีเลยค่ะ (พูดจริง)
เมื่อได้ตั๋วแล้ว ต้องมองบนบิลบอร์ดในสถานีนะคะว่ารถไฟเราขบวนไหน ต้องไปรอที่ประตูไหน รถไฟจีนจะเปิดให้เข้าประตูไปชานชาลาได้ก่อนเวลารถออกประมาณ 20 นาที (หรืออาจเลท) ค่ะ โดยก่อนถึงเวลารถออกประมาณ 45นาที-1ชม. ก็จะเริ่มมีคนมารอหน้าประตูทางเข้าชานชาลากันแล้ว ยิ่งถึงตอนประตูเปิด ต้องทำใจนิดนึงนะคะ เพราะจะโดนเบียด โดนแซงคิวตลอดเวลา ต้องระวังตัวค่ะ
เมื่อผ่านประตูไปที่ชานชาลาแล้ว ต้องรีบหาคันรถไฟของตัวเองให้เจอค่ะ เพราะที่จีนจะต้องขึ้นคันที่มีที่นั่งของตัวเองเท่านั้น ห้ามขึ้นจากคันอื่นอ่ะ จะมีเจ้าหน้าที่มายืนตรวจตั๋วก่อนเราขึ้นรถด้วย
เมื่อขึ้นรถแล้ว ถ้าเป็นตั๋วนอน จะมีเจ้าหน้าที่เดินมาให้แลกตั๋วค่ะ เค้าจะให้บัตรแข็งอีกแบบเรามา ให้เราเก็บไว้ให้ดีนะคะ พอใกล้ๆถึงปลายทางของเรา เจ้าหน้าที่จะเอาตั๋วมาแลกคืนก่อนถึง1สถานีค่ะ
(เราลืมถ่ายรูปไว้ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ 😅)
เรามาถึงสถานีรถไฟเจิ้งโจวตอน 6.45 น. ของเช้าวันที่ 15/2/2019 ค่ะ
บรรยากาศหน้าสถานีรถไฟ
จากที่ดูรีวิวในกระทู้ก่อนๆมา ทุกคนบอกว่าให้ไปซื้อตั๋วรถบัสไปหยุนไถซานที่สถานีขนส่ง เราก็เดินไปสถานีขนส่งที่อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ เยื้องไปทางซ้ายมือค่ะ เดินเข้าไปถึงช่องขายตั๋ว ก็บอกพนง.ว่าไปหยุนไถซาน และคำตอบที่ได้กลับมาคือ......วันนี้ไม่มีรถไปหยุนไถซาน จ้าาาาาา
ช็อคสิคะ จุดนี้! ตอนนั้นรีบแชทบอกน้องที่อยู่ไทยให้แคปหน้าจอวิธีไปหยุนไถซานทางอื่นมาให้ เนื่องจาก หยุนไถซานอยู่ในเขตเมืองเจียวจั้ว (焦作) ของมณฑลเหอหนานนี้ เพราะฉะนั้น เราเลยต้องหาวิธีไปเจียวจั้วค่ะ ซึ่งการจะไปถึงเจียวจั้วให้เร็วที่สุด ก็ต้อง รถไฟฟ้าความเร็วสูง (高铁) นั่นเองค่ะ!
เรารีบวิ่งกลับไปที่สถานีรถไฟซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูงไปเจียวจั้วรอบ9.30น. ราคา 28 หยวน (ประมาณ 140฿)
หน้าตาตั๋วรถไฟของจีนเป็นแบบนี้ค่ะ
ในตั๋ว จะระบุ สถานีต้นทาง-ปลายทาง ของเรา ด้านบนลูกศรคือรหัสขบวนรถ บรรทัดต่อมา ซ้ายมือคือวัน-เวลาที่รถออก ขวามือเป็นเลขที่คันรถและเลขที่นั่ง/นอนของเรา ถ้าเป็นตั๋วนอนจะมีระบุด้วยว่าเตียงบน/กลาง/ล่าง ด้านล่างเลขที่นั่ง/นอน จะระบุประเภท ที่นั่ง/ที่นอนของเราไว้ด้วย และยังมีระบุราคาตั๋ว เลขพาสปอร์ต/บัตรประชาชน และชื่อของเราด้วยค่ะ
ใช้เวลาประมาณ30นาที ก็มาถึงสถานีรถไฟเจียวจั้วค่ะ ระหว่างทางก็แชทไปถามเจ้าของโรงแรมในหยุนไถซานที่จองไว้ด้วยว่า จากเจียวจั้วไปหยุนไถซาน ไปยังไง เถ้าแก่บอกว่า ให้นั่งรถเมล์สาย3ไปค่ะ
เมื่อออกมาจากสถานีรถไฟ ทางที่จะไปหยุนไถซานได้มี2ทาง คือ 1.นั่งแท็กซี่จากด้านหน้าสถานี ราคาประมาณ 80¥ 2.นั่งรถเมล์สาย3 ราคา 4¥ ซึ่งเรามาคนเดียว แน่นอนว่าต้องเลือกรถเมล์เพื่อความประหยัดค่ะ 555555+ แต่ถ้ามากันหลายๆคนและอยากประหยัดเวลา ก็เลือกนั่งแท็กซี่ได้นะคะ เมื่อออกมาจากสถานี จะมีพวกโชเฟอร์คอยเรียกลูกค้าตลอดเวลา(จนน่ารำคาญ) บางคนเดินตามตื๊อไปถึงป้ายรถเมล์เลยค่ะ
ถ้าจะไปด้วยรถเมล์ เดินออกจากสถานี ให้เดินออกมาเยื้องทางซ้ายมือ มาที่ถนนใหญ่เลยนะคะ จะมีป้ายรถเมล์อยู่ ที่ป้ายจะมีป้ายบอกว่ามีรถเมล์สาย 3 ไปหยุนไถซาน แต่รอค่อนข้างนานค่ะ 40นาที-1ชม. ซึ่งรถเมล์สาย 3 ที่ผ่าน ไม่ได้ไปหยุนไถซานทุกคันนะคะ ต้องถามค่ะ "去云台山吗? (ชวี่หยุนไถซานมา? = ไปหยุนไถซานมั้ยคะ?)" หรือให้สังเกตที่หน้ารถด้านขวามือ ว่ามีระบุว่าไป 云台山 (หยุนไถซาน) หรือเปล่า ถ้ามี ค่อยขึ้น
เมื่อขึ้นรถแล้ว จะมีกระเป๋ารถเมล์ (เราเรียกแบบนั้นนะ) มาเก็บเงินแบบกระเป๋ารถเมล์บ้านเรา ก็บอกเค้าว่า ไปหยุนไถซาน ราคา 4¥ นั่งสุดสายเลยค่ะ
หน้าตาตั๋วรถเมล์ไปหยุนไถซาน
ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. กว่าจะมาถึงหยุนไถซานค่ะ รถเมล์จะส่งเราลงที่ป้ายศาลาข้างหน้า เราต้องเดินเข้าไปเองอีกนิดนึง ที่ศาลาจะมีบอกตารางเวลารถด้วยค่ะ
ตารางเวลารถจากหยุนไถซานไปสถานีรถไฟเจียวจั้ว/เจิ้งโจว/ลั่วหยาง
มาถึงแล้ว ด้านหน้าทางเข้าหยุนไถซานค่ะ
เข้าไปซื้อตั๋วด้านในที่ช่องขายตั๋ว ใช้พาสปอร์ตนะคะ ราคาค่าเข้าอุทยาน ช่วงหน้าหนาว low season + ตอนนั้นภายในอุทยานมีปิดปรับปรุงบางส่วน ก็ลดราคาลงอีกเหลือ 120¥ แต่อย่างเราเป็นนักเรียนด้วย ก็สามารถใช้บัตรนักเรียนลดราคาได้อีกครึ่งนึงค่ะ เป็น 60¥ +ค่ารถบัสโดยสารในอุทยานอีก 60¥ (อันนี้ไม่ลดราคานะคะ ฤดูไหนก็คิดเต็มราคาค่ะ)
ซื้อตั๋วเสร็จแล้ว เราสามารถเดินออกไปขึ้นรถบัสทางด้านหลังได้เลยค่ะ ขึ้นไปบนรถจะมีพนง.ของอุทยานบอกว่า จะลงตรงไหนให้บอกนะ เนื่องจาก รถบัสจะจอดเป็นจุดๆเหมือนรถเมล์อ่ะค่ะ แต่ถ้าไม่มีใครบอกว่าจะลง รถบัสก็จะผ่านไปเลย
แผนที่จุดจอดรถบัสและสถานที่สำคัญในหยุนไถซาน
เราจะแวะเข้าที่พักที่อยู่ก่อนถึงจุดชมวิวทั้งหลายก่อน ที่ป้าย 岸上服务区 ที่พักที่เราจองอยู่ตรงป้ายนี้พอดี เดินตรงไปแค่10เมตร ก็ถึงแล้วค่ะ ชื่อ 山水悦快捷酒店 ช่วงนั้นเถ้าแก่คิดราคาแค่คืนละ 70¥ ได้ห้องใหญ่ด้วยนะคะ เถ้าแก่เป็นคุณป้าใจดีท่านหนึ่ง คุยง่ายมากค่ะ แถมห้องก็สะอาด (ถ้าไม่นับฝุ่นในลิ้นชัก) แต่ฮีตเตอร์ไม่อุ่นเท่าไหร่ หรือเรียกง่ายๆว่า ไม่ทำงานเลยมากกว่า เดาว่าน่าจะเป็นมาตรการของมณฑลที่ให้ประหยัดไฟอ่ะค่ะ
บรรยากาศในห้องพัก
เก็บกระเป๋าเสร็จแล้ว เราก็ออกไปรอรถบัสที่หน้าที่พัก โดยจะขึ้นรถบัสไป Quanpu Valley กับ Tanpu Valley ค่ะ (ถ้าใครมาถึงแต่เช้า วันแรกแนะนำให้ไปเก็บ2ที่นี้กับ หินโตรกผาแดง Red Stone Gorge แล้วก็ Zifang Lake ก่อนนะคะ)
พอไปถึงป้าย Red Stone Gorge คนที่จะไป Quanpu&Tanpu Valley หรือ Zhuyu Peak ต้องเปลี่ยนรถค่ะ บนรถจะมีไกด์ไปด้วยคนนึง พอถึงจุดจอดเที่ยว Quanpu&Tanpu ไกด์บอกว่า ให้เวลาเดิน2.30ชม.นะ จากนั้นเราก็แยกย้าย เริ่มไปชมวิวกันค่ะ
เราเดินขึ้นไปทาง Tanpu Valley หรือ Jiuzhaigou น้อย (小寨沟) ก่อน
อันนี้ด้านหน้าทางเข้าค่ะ
ตอนเรามา เป็นช่วงใกล้หมดวันหยุดตรุษจีนพอดี ก็เลยมีรูปมังกรประดับอยู่ด้วย
Dragon and Snake Pond
Sweetheart Waterfall
Y-shaped Waterfall
https://drive.google.com/file/d/1IEIEUzYO7ZK78OO3D3ppqya4hGAOrUEBSg/view?usp=drivesdk
Crouching Tiger Rock
https://drive.google.com/file/d/1Glwv5utx7ItCxMzDk3r96Ol5G-cXfLbjxQ/view?usp=drivesdk
พอถึงตรงนี้ เราไม่แน่ใจว่าไปต่อได้รึป่าว+ใกล้ถึงเวลาที่ไกด์นัดแล้ว ก็เลยเดินกลับอ่ะค่ะ (มารู้ทีหลังว่าไปต่อได้) เลยไม่ได้ไป Macaque Valley ด้วย พอขึ้นรถกลับจนถึงจุดจอดหน้าที่พัก เห็นคู่รักคู่นึงเค้าจะไปหินโตรกผาแดง เลยคิดขึ้นได้ว่า งั้นรอรถบัสคันใหม่มา แล้วไปเก็บ Macaque Valley ดีกว่า ปรากฏ พอรถบัสมา เค้าไม่ให้เข้าไปแล้วค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้