สวัสดีครับ หลังจากปี 2017 ได้มีโอกาสไป Disneyland ที่อเมริกามา
(DCA:
https://ppantip.com/topic/36976567 )
(WDW:
https://ppantip.com/topic/36960353 )
รอบนี้ ได้มีโอกาสไปอีกที่นึงที่ใกล้ๆ คือที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งไปมาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จริงๆการไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ครั้งนี้คือหลักๆเพราะอยากไปเที่ยว Disneyland เลย เรื่องอื่นค่อยว่ากัน
ตอนแรกก็กลัวนะว่าจะเที่ยวยากมั้ย เพราะมันเป็นประเทศจีนด้วย แน่นอนว่าการใช้ภาษาอังกฤษจะน้อย ถึงขั้นน้อยมากๆ แล้วช่วงไปเที่ยวในเมืองก็อาจจะเป็นอุปสรรคเช่นกัน แต่จบทริปมาเลยรู้ว่าเซี่ยงไฮ้เนี่ยเป็นเมืองนึงที่เที่ยวง่ายที่สุดในจีนแล้ว ขนาดไม่ค่อยรู้ภาษาจีนเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยก็มี Google Translate / Google Maps ช่วยไว้ได้เยอะมากๆ
ในรีวิวนี้ก็จะครอบคลุมถึงการเที่ยว Disneyland เป็นหลัก.. ส่วนแรกก็จะเป็นการเตรียมความพร้อมต่างๆก่อนการไปเที่ยว ซึ่งจะแบ่งเป็นหลายๆ ข้อตามที่พอนึกออก
ที่พัก
ตอนนั้นเห็นโปรโมชั่น Toy Story Hotel ลดราคา 25% ถ้าพักสองคืน จากคืนละประมาณ 850-900 หยวน ก็จะตกทั้งหมดประมาณ 7000-8000 ต่อสองคืน ส่วนสิทธิประโยชน์ที่ได้ คร่าวๆก็จะมี
- ได้เข้าปาร์คก่อน ประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าคุ้มนะ ไว้จะลงในรายละเอียดอีกที
- จอง Fast Pass ล่วงหน้าได้ก่อนเลย 1 อย่าง โดยต้องซื้อตั๋วที่โรงแรม หรือซื้อไว้พร้อมกับจองห้องพัก
- มีรถรับส่งจากโรงแรมไปสวนสนุก ซึ่งก็สามารถไปเข้าทางเข้าพิเศษได้ ค่อนข้างสะดวกอยู่ ไม่ต้องไปแย่งกับผู้คนเยอะๆ
- ถ้าโชคดีก็จะได้มีโอกาสไปถ่ายรูปกับ Woody / Jessie ที่โรงแรมเลย
- ของใช้ amenities ในห้องพักที่เก็บกลับบ้านได้คุ้มมาก
- ในโรงแรมก็มีจุดให้ถ่ายรูปได้หลากหลาย ตามธีม Toy Story เลย
Application ‘Shanghai Disney Resort’
อันนี้ถือว่ามีความสำคัญมาก ถ้าใครเคยไป Disneyland ที่อื่นๆในโลกก็จะเห็นว่ามันเอาไว้ใช้ขณะอยู่ในสวนสนุกได้คุ้มมาก
- ดูแผนที่ จะเห็นได้เลยว่าเราอยู่ตรงไหน กำลังมุ่งหน้าไปทางไหน
- ดู wait times ของแต่ละเครื่องเล่น
- กด fast pass (ตอนที่ไปเค้าเปิดให้กดที่ตู้ได้แค่ที่เดียวในสวนสนุก ถ้าใครไม่ได้ใช้แอพนี่ไม่สนุกเลย
- ถ้ามากับเพื่อนก็สามารถตั้ง party แล้วใช้โทรศัพท์เครื่องเดียวกด fast pass เอาก็ได้
Alipay
ตอนนั้นได้มีโอกาสลองใช้แอพจ่ายเงินของจีนตัวนี้ (อารมณ์ True Wallet บ้านเรา) ซึ่งตอนนั้นก็ได้ศึกษาดูว่าถ้าไม่ใช่คนจีนจะใช้ได้มั้ย ปราฏว่าไปเจอเพจนึงรับแลกเงินจีนผ่าน We-chat Alipay พวกนี้แล้วเค้าสอนการลงทะเบียน เลยได้ลองใช้จริงๆตอนอยู่ที่นู่น ค่อนข้างสะดวกมากๆ แลกเงินกับเค้าได้เรื่อยๆเลยผ่านการโอนเงินธนาคารที่ไทย พอไปโน่นก็กดเปิดบาร์โคดจ่ายเงินได้เลย แถมร้านทุกร้านใน Disneyland รับ Alipay หมดเลย
Tips and Tricks (จะมีลงรายละเอียดเพิ่มเติมในช่วงรีวิวเลย)
- ตอนที่ไป มีโอกาสได้ไปต่อคิวถ่ายรูปกับ Characters เยอะมาก เพราะคิวค่อนข้างสั้น แล้วพอมาดูรูปที่เค้าถ่ายให้ มันหลายช็อตมากๆ อย่างตัวละครนึงก็ได้ซัก 20-30 รูปแล้ว เลยจำใจยอมซื้อ Photo Pass ในราคาประมาณ 750 บาทผ่านทาง Klook แต่ตอนนั้นรูปโดนแยกไป 2 accounts เลยเมลไปให้เค้ารวมให้ ดังนั้นถ้าใครไปกับเพื่อนเยอะๆ ก็อาจจะใช้พาสใบเดียวกันเลย แล้วกดซื้อรูปทีเดียว คุ้มมาก
- เครื่องเล่นที่ฮิตที่สุดก็คือ Soarin’ ซึ่งถ้าใครไปไวหน่อยก็อาจจะไปต่อแถวเอาเลย แล้วกดฟาสพาสอย่างอื่นแทน จะได้คุ้มหน่อย
- อาหารที่ประหยัดที่สุดคือ ร้านขาวที่ Food Republic ใน Disney Town ซึ่งทางลัดอยู่แถวๆก่อนถึง Tomorrowland แถมยังได้ลดอีก 10% ถ้าโชว์บัตรสวนสนุก (อันนี้คุ้มมากๆ เสียดายเพิ่งมาเจอตอนมื้อเย็น เพราะแวะไปกินข้าวก่อนดูพลุ)
ต่อไปก็มาถึงประสบการณ์การไปเที่ยวจริงๆในครั้งนี้ละ จะขอไล่ยาวๆ เลยตั้งแต่แรกละกันครับ
ปล. รูปภาพบางส่วนคือตัดมาจากวิดีโอที่ถ่ายไว้ เลยอาจจะไม่ชัดบ้าง
เริ่มต้น ตามที่แพลนไว้ก็คือบินไฟลท์เช้า ไปเซี่ยงไฮ้ก็พุ่งตรงไป Disneyland เลย (จริงๆรถไฟจากสนามบิน เส้นทางจะแอบวนหน่อย ถ้านั่งแท็กอาจจะคุ้มกว่า) เพื่อไปฝากกระเป๋าไว้ รวมถึง check-in ไว้ก่อนเลย จากสถานี Disneyland ก็จะมีรถบัสไปโรงแรมเลย ตอนแรกหายากหน่อยเพราะไม่มีป้ายบอกไว้ ต้องถามคนแถวนั้นเอา มันคือช่องจอดบัสช่องแรกที่อยู่หน้าสุดเลย คิดว่ามีของทั้งสองโรงแรมแยกกันนะ แต่ตอนนั้นคือบัสตรงไป Toy Story Hotel เลย
มาถึงโรงแรมก็ยื่นเอกสารปกติ เค้าจะมีให้ถ่ายรูปด้วย ทุกคนที่พักเลย สงสัยจะเป็นด้าน security แล้วก็จะให้บัตรมา เป็นลาย toy story เลย ส่วนถ้าจะใช้สิทธิ์กดฟาสพาสได้ก่อน ต้องซื้อตั๋วเข้าสวนสนุกที่โรงแรมเลย แล้วเค้าก็จะมีให้เลือกเครื่องเล่น เลือกเวลา (ตอนนั้นเลือก Mine Train ไว้ตอนบ่าย) หลังจากนั้นก็ออกไปเที่ยวในเมือง ค่อยกลับมาตอนเย็นอีกทีเลย
อันนี้เป็นรูปตอนที่ออกมา กำลังจะไปขึ้นรถไฟเที่ยวในเมือง คนรอเข้าสวนสนุกเยอะมากๆ
เป็ดยักษ์ลอยอยู่หน้าทางเข้าเลย เดินไปอีกนิดนึง
กลับมาถึงโรงแรม รีเควสห้องชั้น ground ไว้ จะได้สะดวกหน่อย (ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกมันคือชั้น 2) แต่ก็แอบไปขึ้นลิฟต์นะ ได้ยินเสียงตัวการ์ตูนพูดด้วย เวลาลิฟต์เปิด-ปิด มีทั้งภาษาจีนและอังกฤษ
หน้าตา key card เข้าห้อง + บัตรเข้าสวนสนุก + PhotoPass
ข้างในห้อง เปิดไปก็เจอธีม Toy Story เข้าจังๆเลย ทั้งชุดที่นอน รวมถึงในห้องน้ำก็ยังมีประปราย
แวะมาเดินเล่นรอบๆโรงแรม มีมุมถ่ายรูปสวยๆเยอะมาก
ร้านค้ามีขายถุง Lucky Bag ด้วย ถุงละ 439 หยวน แต่มูลค่าข้างในอาจจะสูงถึง 850 หยวน
มาถึงวันเข้าสวนสนุกคือ 15 มกราคม 2561 ซึ่งวันนั้นเค้าเปิด 9 โมง แต่เคยถามแล้วว่าพักโรงแรมเข้าไปตั้งแต่กี่โมง เค้าบอกเวลาแน่ชัดไม่ได้ เลยลองถามว่าซัก 8 ใช่มั้ย เค้าก็ทำท่าเห็นด้วย (ตอนแรกนึกว่าเข้าก่อนได้ 15-30 นาทีงี้ (ตามที่ญี่ปุ่น) แต่นี่เข้าได้ตั้ง 1 ชั่วโมงก่อนเลย คุ้มมากๆ) เลยตื่นมาประมาณ 7 โมงเช้า (อย่าลืมโทรไปตั้ง Morning Call กันนะครับ พอถึงเวลามันจะมีเสียงตัวการ์ตูนมาปลุก ดีมากๆ จำทริคมาจาก รร.ดิสนีย์ที่ญี่ปุ่น)
เสร็จสรรพก็เดินไปขึ้นบัสหน้าโรงแรมประมาณ 8 โมง คนก็เยอะพอประมาณนะ ไม่ได้ถึงขั้นแน่น โดยรถบัสจะพาเราไปส่งตรง Disney Town ซึ่งจะมีทางเข้าพิเศษให้แขกที่พักโรงแรมโดยเฉพาะ ใช้บัตรที่ซื้อมาจากโรงแรมได้เลย
พอเข้ามาได้ เลยลองกดจองฟาสพาสในแอพดู มันก็ไม่ขึ้นเวลาให้จองเลย มีแต่ขึ้น Premier Access (คือแบบเสียเงินซื้อแต่ละอย่าง) เลยสงสัยว่ามีปัญหาอะไรรึเปล่า ตอนนี้ก็ยังไม่ได้อะไร
เดินตรงไปเรื่อยๆ ความพาร์คว่างเปล่านี้ 5555
ตรงไปเล่น Soarin’ ใน Adventure Isle ก่อนเลยเป็นอันดับแรก
หน้าทางเข้า ยังโล่งๆอยู่เลย เพราะเพิ่งเปิด ด้านในพอมีแถวอยู่บ้าง แต่ก็ขยับเรื่อยๆ รอไม่นาน โดยจะเริ่มที่โซน Loading เป็นการยืนตั้งแถวในตำแหน่งในจะไปนั่งจริงบนเครื่องเล่น ก็จะมีวิดีโอ Instruction + Intro ของเครื่องเล่นนี้ พร้อมแล้วเราก็จะเดินเข้าไปสู่เครื่องเล่นกัน ถึงจะเคยเล่นที่อื่นมาแล้ว ก็ยังประทับใจไม่หายเลย มันดีมากๆ complete immersive เลยอะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนถึงต่อคิวเล่นเป็นอันดับต้นๆของที่นี่เลย
ต่อมา ใกล้ๆกันก็เป็นเครื่องเล่น Pirate of the Caribbean แถวน้อยเช่นกัน
ตัวเครื่องเล่นก็ถือว่าสนุกใช้ได้ มันคือนั่งเรือ แล้วผจญภัยไปตามเนื้อเรื่อง มีอะไรให้ตื่นตาตื่นใจหลายๆอย่าง ไม่ใช่แค่ล่องเรือตรงไปดูเรื่องราวเฉยๆ
ต่อมาก็เดินไปสำรวจเรือ ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ แต่ทำออกมาได้สมจริงมากๆ
แวปไปเล่น Seven Dwarfs Mine Train ซะหน่อย ไม่รู้ทำไมรู้สึกมันสั้น ยังไม่ทันสะใจเลยก็จบแล้ว
เดินต่อมา ไปสำรวจดินแดน Wonderland ต่อ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกดิสนีย์ที่อื่นไม่มีอันนี้นะ
จบที่โต๊ะน้ำชา อันนี้จะออกแนวเดินสำรวจ พร้อมมีจุดให้ถ่ายรูป ถ้าใครไม่อยากเสียเวลาก็ข้ามไปได้เลย
เดินต่อไปที่ Toy Story Land ซึ่งลักษณะการตกแต่งคือแนวเดียวกับที่ฮ่องกงเลย เครื่องเล่นก็เกือบเหมือนกัน ต่างกันแค่ชื่อ (เช่น RC Racer >> Rex’s Racer)
อย่างแรกที่ไปเล่นเลยก็คือ Woody’s Roundup มันจะเหวี่ยงเราไปมา เคยเห็นที่อื่นก็ไม่อยากเล่นเท่าไหร่เพราะดูไม่มีอะไรเลย แต่พอมาเล่นจริงก็ใช้ได้อะ สนุกดี พร้อมกับเพลงประกอบด้วย เพลินมาก
ต่อแถวถ่ายรูป คนน้อยมาก สบายละ
เดินต่อมาที่ Rex’s Racer ครั้งก่อนที่ฮ่องกงไม่กล้าเล่น แต่ครั้งนี้ต้องเล่นแล้วจริงๆ ไหนๆก็มาละ แถมมีแค่ที่นี่กับฮ่องกงเอง
ด้วยความที่ไปคนเดียว แต่เครื่องเล่นนี้ไม่มี Single Rider นะ เลยต้องต่อแถวไปก่อน พอใกล้ๆจะมี cast member มาเรียก เลยได้ลัดคิวไปเล่นตรงที่นั่งว่างพอดีเลย
[CR] เที่ยวให้สุดที่ Shanghai Disneyland + Toy Story Resort ฉบับ 2019
(DCA: https://ppantip.com/topic/36976567 )
(WDW:https://ppantip.com/topic/36960353 )
รอบนี้ ได้มีโอกาสไปอีกที่นึงที่ใกล้ๆ คือที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งไปมาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จริงๆการไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ครั้งนี้คือหลักๆเพราะอยากไปเที่ยว Disneyland เลย เรื่องอื่นค่อยว่ากัน
ตอนแรกก็กลัวนะว่าจะเที่ยวยากมั้ย เพราะมันเป็นประเทศจีนด้วย แน่นอนว่าการใช้ภาษาอังกฤษจะน้อย ถึงขั้นน้อยมากๆ แล้วช่วงไปเที่ยวในเมืองก็อาจจะเป็นอุปสรรคเช่นกัน แต่จบทริปมาเลยรู้ว่าเซี่ยงไฮ้เนี่ยเป็นเมืองนึงที่เที่ยวง่ายที่สุดในจีนแล้ว ขนาดไม่ค่อยรู้ภาษาจีนเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยก็มี Google Translate / Google Maps ช่วยไว้ได้เยอะมากๆ
ในรีวิวนี้ก็จะครอบคลุมถึงการเที่ยว Disneyland เป็นหลัก.. ส่วนแรกก็จะเป็นการเตรียมความพร้อมต่างๆก่อนการไปเที่ยว ซึ่งจะแบ่งเป็นหลายๆ ข้อตามที่พอนึกออก
ที่พัก
ตอนนั้นเห็นโปรโมชั่น Toy Story Hotel ลดราคา 25% ถ้าพักสองคืน จากคืนละประมาณ 850-900 หยวน ก็จะตกทั้งหมดประมาณ 7000-8000 ต่อสองคืน ส่วนสิทธิประโยชน์ที่ได้ คร่าวๆก็จะมี
- ได้เข้าปาร์คก่อน ประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าคุ้มนะ ไว้จะลงในรายละเอียดอีกที
- จอง Fast Pass ล่วงหน้าได้ก่อนเลย 1 อย่าง โดยต้องซื้อตั๋วที่โรงแรม หรือซื้อไว้พร้อมกับจองห้องพัก
- มีรถรับส่งจากโรงแรมไปสวนสนุก ซึ่งก็สามารถไปเข้าทางเข้าพิเศษได้ ค่อนข้างสะดวกอยู่ ไม่ต้องไปแย่งกับผู้คนเยอะๆ
- ถ้าโชคดีก็จะได้มีโอกาสไปถ่ายรูปกับ Woody / Jessie ที่โรงแรมเลย
- ของใช้ amenities ในห้องพักที่เก็บกลับบ้านได้คุ้มมาก
- ในโรงแรมก็มีจุดให้ถ่ายรูปได้หลากหลาย ตามธีม Toy Story เลย
Application ‘Shanghai Disney Resort’
อันนี้ถือว่ามีความสำคัญมาก ถ้าใครเคยไป Disneyland ที่อื่นๆในโลกก็จะเห็นว่ามันเอาไว้ใช้ขณะอยู่ในสวนสนุกได้คุ้มมาก
- ดูแผนที่ จะเห็นได้เลยว่าเราอยู่ตรงไหน กำลังมุ่งหน้าไปทางไหน
- ดู wait times ของแต่ละเครื่องเล่น
- กด fast pass (ตอนที่ไปเค้าเปิดให้กดที่ตู้ได้แค่ที่เดียวในสวนสนุก ถ้าใครไม่ได้ใช้แอพนี่ไม่สนุกเลย
- ถ้ามากับเพื่อนก็สามารถตั้ง party แล้วใช้โทรศัพท์เครื่องเดียวกด fast pass เอาก็ได้
Alipay
ตอนนั้นได้มีโอกาสลองใช้แอพจ่ายเงินของจีนตัวนี้ (อารมณ์ True Wallet บ้านเรา) ซึ่งตอนนั้นก็ได้ศึกษาดูว่าถ้าไม่ใช่คนจีนจะใช้ได้มั้ย ปราฏว่าไปเจอเพจนึงรับแลกเงินจีนผ่าน We-chat Alipay พวกนี้แล้วเค้าสอนการลงทะเบียน เลยได้ลองใช้จริงๆตอนอยู่ที่นู่น ค่อนข้างสะดวกมากๆ แลกเงินกับเค้าได้เรื่อยๆเลยผ่านการโอนเงินธนาคารที่ไทย พอไปโน่นก็กดเปิดบาร์โคดจ่ายเงินได้เลย แถมร้านทุกร้านใน Disneyland รับ Alipay หมดเลย
Tips and Tricks (จะมีลงรายละเอียดเพิ่มเติมในช่วงรีวิวเลย)
- ตอนที่ไป มีโอกาสได้ไปต่อคิวถ่ายรูปกับ Characters เยอะมาก เพราะคิวค่อนข้างสั้น แล้วพอมาดูรูปที่เค้าถ่ายให้ มันหลายช็อตมากๆ อย่างตัวละครนึงก็ได้ซัก 20-30 รูปแล้ว เลยจำใจยอมซื้อ Photo Pass ในราคาประมาณ 750 บาทผ่านทาง Klook แต่ตอนนั้นรูปโดนแยกไป 2 accounts เลยเมลไปให้เค้ารวมให้ ดังนั้นถ้าใครไปกับเพื่อนเยอะๆ ก็อาจจะใช้พาสใบเดียวกันเลย แล้วกดซื้อรูปทีเดียว คุ้มมาก
- เครื่องเล่นที่ฮิตที่สุดก็คือ Soarin’ ซึ่งถ้าใครไปไวหน่อยก็อาจจะไปต่อแถวเอาเลย แล้วกดฟาสพาสอย่างอื่นแทน จะได้คุ้มหน่อย
- อาหารที่ประหยัดที่สุดคือ ร้านขาวที่ Food Republic ใน Disney Town ซึ่งทางลัดอยู่แถวๆก่อนถึง Tomorrowland แถมยังได้ลดอีก 10% ถ้าโชว์บัตรสวนสนุก (อันนี้คุ้มมากๆ เสียดายเพิ่งมาเจอตอนมื้อเย็น เพราะแวะไปกินข้าวก่อนดูพลุ)
ต่อไปก็มาถึงประสบการณ์การไปเที่ยวจริงๆในครั้งนี้ละ จะขอไล่ยาวๆ เลยตั้งแต่แรกละกันครับ
ปล. รูปภาพบางส่วนคือตัดมาจากวิดีโอที่ถ่ายไว้ เลยอาจจะไม่ชัดบ้าง
เริ่มต้น ตามที่แพลนไว้ก็คือบินไฟลท์เช้า ไปเซี่ยงไฮ้ก็พุ่งตรงไป Disneyland เลย (จริงๆรถไฟจากสนามบิน เส้นทางจะแอบวนหน่อย ถ้านั่งแท็กอาจจะคุ้มกว่า) เพื่อไปฝากกระเป๋าไว้ รวมถึง check-in ไว้ก่อนเลย จากสถานี Disneyland ก็จะมีรถบัสไปโรงแรมเลย ตอนแรกหายากหน่อยเพราะไม่มีป้ายบอกไว้ ต้องถามคนแถวนั้นเอา มันคือช่องจอดบัสช่องแรกที่อยู่หน้าสุดเลย คิดว่ามีของทั้งสองโรงแรมแยกกันนะ แต่ตอนนั้นคือบัสตรงไป Toy Story Hotel เลย
อันนี้เป็นรูปตอนที่ออกมา กำลังจะไปขึ้นรถไฟเที่ยวในเมือง คนรอเข้าสวนสนุกเยอะมากๆ
เสร็จสรรพก็เดินไปขึ้นบัสหน้าโรงแรมประมาณ 8 โมง คนก็เยอะพอประมาณนะ ไม่ได้ถึงขั้นแน่น โดยรถบัสจะพาเราไปส่งตรง Disney Town ซึ่งจะมีทางเข้าพิเศษให้แขกที่พักโรงแรมโดยเฉพาะ ใช้บัตรที่ซื้อมาจากโรงแรมได้เลย
พอเข้ามาได้ เลยลองกดจองฟาสพาสในแอพดู มันก็ไม่ขึ้นเวลาให้จองเลย มีแต่ขึ้น Premier Access (คือแบบเสียเงินซื้อแต่ละอย่าง) เลยสงสัยว่ามีปัญหาอะไรรึเปล่า ตอนนี้ก็ยังไม่ได้อะไร
เดินตรงไปเรื่อยๆ ความพาร์คว่างเปล่านี้ 5555
ตรงไปเล่น Soarin’ ใน Adventure Isle ก่อนเลยเป็นอันดับแรก
ต่อมา ใกล้ๆกันก็เป็นเครื่องเล่น Pirate of the Caribbean แถวน้อยเช่นกัน
ตัวเครื่องเล่นก็ถือว่าสนุกใช้ได้ มันคือนั่งเรือ แล้วผจญภัยไปตามเนื้อเรื่อง มีอะไรให้ตื่นตาตื่นใจหลายๆอย่าง ไม่ใช่แค่ล่องเรือตรงไปดูเรื่องราวเฉยๆ
ต่อมาก็เดินไปสำรวจเรือ ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ แต่ทำออกมาได้สมจริงมากๆ
เดินต่อมา ไปสำรวจดินแดน Wonderland ต่อ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกดิสนีย์ที่อื่นไม่มีอันนี้นะ
ต่อแถวถ่ายรูป คนน้อยมาก สบายละ
เดินต่อมาที่ Rex’s Racer ครั้งก่อนที่ฮ่องกงไม่กล้าเล่น แต่ครั้งนี้ต้องเล่นแล้วจริงๆ ไหนๆก็มาละ แถมมีแค่ที่นี่กับฮ่องกงเอง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้