ต้องเข้าใจนะครับว่า   คุณไปซื้อรถมือสองจากเจ้าของเดิมมา  โดยที่คุณไปกู้เงินจากไฟแนนซ์มาจ่ายค่าซื้อ   ไฟแนนซ์ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคุณภาพของตัวรถว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร   เค้าประเมินแต่ตัวคุณว่ามีความสามารถในการหาเงินมาผ่อนคืนเงินต้นที่เค้าให้คุณยืมแค่ไหน

เมื่อซื้อมาแล้ว  ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร  ก็ต้องหาทางซ่อมไปจนกว่าจะชดใช้เงินที่ยืมมาซื้อจนหมด   ถูก/แพง ดี/ไม่ดี  อยู่ที่ตัวคุณตอนตัดสินในซื้อทั้งนั้นนะครับ

แต่ถ้าไม่อยากใช้ต่อ   ก็ต้องหาทางขายให้คนอื่นไป   แต่จะขายได้เงินแค่ไหน  ก็เป็นเรื่องของคนที่จะมาซื้อคุณว่าเค้าจะตีราคารถคุณให้มาก/น้อย แค่ไหน   แล้วก็เอาเงินที่ได้มาจ่ายเงินที่คุณยืม + ดอกเบี้ย  ซึ่งคุณก็รับสภาพว่าจะจ่ายให้ตั้งแต่ตอนที่เซ็นสัญญากับไฟแนนซ์แล้ว

แต่  ถ้าขี้เกียจจะขายเอง   เอาแบบง่ายๆ  ก็เอารถไปคืนให้กับไฟแนนซ์   แต่ไม่ใช่คืนแล้วจบแล้วจบกัน   ไฟแนนซ์เค้าก็จะเอาไปขายทอดตลาด    ถ้าขายได้แพงกว่ายอดหนี้คงเหลือ  คุณก็จะได้ส่วนต่างนั้นคืนมา (น้อยมากที่จะได้คืน  นอกจากผ่อนไปเยอะแล้ว)    แต่ถ้าขายได้น้อยกว่ายอดหนี้คงเหลือ   คุณก็ต้องหาเงินมาจ่ายส่วนต้างนั้น  

แต่  ถ้าขี้เกียจเอาไปคืนอีก  หยุดจ่ายค่างวดไป 3 งวด   ไฟแนนซ์ก็จะตามมายึดรถ   ซึ่งกรณีนี้  นอกจากยอดหนี้ที่เหลือ  ก็จะมีพวกเบี้ยปรับต่างๆ  เพิ่มขึ้นมาอีก  ทำให้ยอดหนี้คงเหลือเพิ่มไปอีกจากเดิม  และไฟแนนซ์ก็จะเอารถไปขายทอดตลาด   ได้เงินเท่าไรก็มาหักยอดหนี้ออก  คุณก็ต้องไปจ่ายส่วนต่างที่เหลือเหมือนเดิม

สุดท้าย  ถ้าไม่จ่าย  ก็จะโดนฟ้องยึดทรัพย์  ทั้งตัวคุณ  และคนที่ค้ำประกันคุณด้วย