เหตุผลที่บะหมี่ไม่มีชื่อถูกเรียกทดสอบสมรรถภาพ และคนที่เรียกร้องอยากให้บะหมี่มีชื่อติดทีมชาติ

ผมมีความเชื่อว่า บะหมี่อาจจะเป็นฝ่ายปฏิเสธทีมชาติเองก็ได้ เพราะเป้าหมายของบะหมี่ในการเล่นทีมชาติคือการได้ร่วมทีมไปแข่ง OG โดยเฉพาะ OG 2020 ที่กรุงโตเกียว ซึ่งน่าจะเป็น OG ครั้งสุดท้ายของบะหมี่และรุ่นพี่ 6 เซียน ที่ทุกคนต่างใฝ่ฝันอยากจะมีโอกาสได้ไปแข่ง OG สักครั้งหนึ่งในชีวิต

บะหมี่เคยให้สัมภาษณ์ในรายการ THAI HERO Dream Team : ตบ ท้า ฝัน ( EP ตอนที่เท่าไหร่จำไม่ได้) ว่า ตนเองชอบเล่นในตำแหน่งตัวตีหัวเสาที่สามารถตีทำคะแนนให้ทีมได้มากกว่า แต่เนื่องจากตนเองเสียเปรียบเรื่องส่วนสูง จึงยอมที่จะเป็นตัวสำรองทำหน้าที่เป็นตัวเปลี่ยนเกมให้กับทีม และรู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่ตนเองมีส่วนช่วยเปลี่ยนเกมให้ทีมกลับมาชนะได้ ซึ่งคำสัมภาษณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับข้อเท็จจริง เรื่องบะหมี่ปฏิเสธที่จะเล่นในตำแหน่งลิบเบอโร่ทีมชาติชุดใหญ่มาตลอด เพราะตำแหน่งลิบเบอโร่ไม่สามารถเล่นเกมรุกตีทำคะแนนอย่างที่ตนเองชอบได้นั่นเอง ซึ่งตอนนั้นทีมชาติก็ยอมโอนอ่อนให้บะหมี่ได้เล่นตำแหน่ง OH ตามที่บะหมี่ต้องการ เพราะตอนนั้นบะหมี่ยังสามารถทำหน้าที่เป็นซุปเปอร์ซับเปลี่ยนตัวลงมาช่วยทำคะแนนใหักับทีมได้บ่อย ๆ ทำให้บะหมี่เชะล่าใจคิดว่าความสูงของตนเองไม่ได้เป็นอุปสรรคในการลงเล่นเกมระดับโลกกับผู้เล่นตัวสูงใหญ่ที่มีบล็อกใหญ่ และยังมั่นใจในฝีมือตนเองว่ายังไงก็ไม่หลุดทีมชาติแน่นอน

อย่าลืมว่าบะหมี่ติดทีมชาติมาตั้งแต่ปี 2008 ถ้าไม่เจ๋งจริงคงไม่สามารถอยู่กับทีมชาติได้ยาวนานขนาดนี้ อีกทั้งบะหมี่ได้เคยผ่านเหตุการณ์ร่วมคัดโอลิมปิกกับทีมชาติชุดใหญ่มาแล้ว 2 ครั้ง คือคัด OG 2008 และคัด OG 2012 ส่วนคัด OG 2016 บะหมี่ไม่ได้ไปร่วมคัดเพราะพักรักษาอาการบาดเจ็บ แต่ทีมชาติไทยก็ยังไม่เคยคัดโอลิมปิกผ่านมาก่อน บะหมี่จึงมีส่วนร่วมและรับรู้ถึงรสชาติของคนที่มีความฝันแต่ยังทำตามที่ฝันไม่สำเร็จได้เป็นอย่างดี เป้าหมายไปเล่น OG 2020 จึงเป็นความฝันของทีมชาติชุดใหญ่ทุกคนในเวลานั้น พอมาถึงปี 2017 ทีมชาติก็ได้ บิ๋ม และ บีม ก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริงในตำแหน่ง OH และ OPP และเป็นกำลังหลักของทีมชาติชุดใหญ่ในปัจจุบัน ทำให้ไม่มีที่ว่างในตำแหน่ง OH หรือ OPP ในทีมชาติสำหรับบะหมี่อีกต่อไป ทางเดียวที่บะหมี่จะร่วมงานกับทีมชาติต่อไปได้ คือ บะหมี่จะต้องเปลี่ยนตัวเองมาเล่นในตำแหน่งลิบเบอโร่แทน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่บะหมี่ไม่เสียเปรียบส่วนสูง และเวลานั้นโค้ชด่วนยังไม่ตัดสินใจว่าระหว่างเป็ดกับบะหมี่ ใครคู่ควรที่จะเป็นลิบเบอโร่คนที่ 2 ลงเล่นสลับกับแป้น การที่บะหมี่เคยปฏิเสธที่จะเล่นตำแหน่งลิบเบอโร่มาตลอด แต่ยอมกลับลำเปลี่ยนใจยอมมาเล่นตำแหน่งลิบเบอโร่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เหตุผลเรื่องนี้เดาได้ไม่ยาก เพราะเป้าหมายของบะหมี่คือทำยังไงก็ได้ ขอให้ตนเองติดทีมชาติชุดใหญ่ได้ไปแข่ง OG 2020 สักครั้งในชีวิต เหมือนกับรุ่นพี่ 6 เซียน ซึ่งน่าจะเป็น OG ครั้งสุดท้ายของรุ่นพี่ 6 เซียนและบะหมี่ที่ปัจจุบันมีอายุย่าง 30 ปีแล้วนั่นเอง

ทีนี้หันมาพิจารณาถึงสาเหตุที่บะหมี่ไม่มีชื่อถูกเรียกทดสอบสมรรถภาพร่างกายครั้งที่ 1 และ 2 อาจเป็นไปได้ว่า เป็นเพราะทีมชาติเทบะหมี่แล้ว เพราะบะหมี่ไม่สามารถตอบโจทย์ในการเป็นลิบเบอโร่ให้กับทีมชาติชุดใหญ่ได้ หลังจากที่บะหมี่ทำผลงานในรายการ VNL 2018 ได้ไม่สู้จะดีนัก โดยเฉพาะการรับบอลแรกแหกในแต้ม set point ของเซตที่ 1 และทำให้ทีมไทยเสียเซตให้กับทีมเบลเยี่ยมไป ซึ่งถ้าหากไทยไม่เสียเซตนั้นให้กับเบลเยี่ยม ไทยกับเบลเยี่ยมอาจจะสู้กันถึงเซตที่ 5 เพื่อตัดสินหาผู้ชนะในแม็ทช์นั้นก็ได้ และเซตนั้นก็เป็นเซตสุดท้ายที่บะหมี่ได้ลงทำหน้าที่ลิบเบอโร่ให้กับทีมชาติชุดใหญ่ หลักจากเซตนั้นบะหมี่ก็ไม่มีโอกาสได้ลงทำหน้าที่ลิบเบอโร่ให้กับทีมชาติชุดใหญ่อีกเลยจวบจนถึงปัจจุบัน และจากความผิดพลาดในการรับบอลแรกของบะหมี่ในครั้งนั้น ทำให้บะหมี่ไม่มีชื่อติดทีมชาติ 14 คนที่ได้ไปแข่งอีก 2 รายการต่อมา คือรายการ AG 2018 และรายการ WCH 2018 ในที่สุด

ลองวิเคราะห์ในแง่มุมของบะหมี่ดูบ้าง บะหมี่เองก็คงรู้ตัวดีแล้วว่า การที่ตัวเองไม่มีชื่อติดทีมชาติไปแข่ง AG 2018 และ WCH 2018 ซึ่งเป็นรายการใหญ่ระดับทวีปและระดับโลกนั้น มันเป็นสัญญาณบ่งบอกให้รู้กลาย ๆ แล้วว่า ทีมชาติได้ตัดสินใจเทตัวเองแล้ว ตนเองคงหมดโอกาสที่จะได้ร่วมกับทีมชาติชุดใหญ่ไปคัดโอลิมปิกในกลางปีนี้และต้นปีหน้าอย่างแน่นอนแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงโอกาสที่จะได้เป็น 12 ผู้เล่นตัวจริงคนสุดท้ายของทีมชาติชุดใหญ่ไปแข่ง OG 2020 ที่กรุงโตเกียว ยิ่งเป็นไปไม่ได้แน่นอน เพราะถึงยังไงโค้ชด่วนก็ต้องพิจารณาจากรายชื่อนักกีฬาชุด AG 2018 และ WCH 2018 ซึ่งทีมไทยสามารถทำผลงานได้ค่อนข้างดีทั้งสองรายการเป็นหลักก่อนแน่นอน โอกาสที่จะมีชื่อนักกีฬาคนนอกแทรกเข้ามาแทนที่ชุด AG 2018 และ WCH 2018 จึงเป็นไปได้น้อยมาก

เมื่อเป้าหมายในการไปแข่ง OG 2020 ของบะหมี่ได้จบสิ้นลง และรู้ตัวดีว่าตนเองไม่ได้อยู่ในกลุ่มเป้าหมายในการทำทีมของโค้ช ต่อให้บะหมี่อยู่ในแคมป์ทีมชาติ บะหมี่ก็ได้เล่นแต่รายการเล็ก ๆ ร่วมกับนักกีฬารุ่นน้องหน้าใหม่ ๆ ที่ยังอายุน้อย ๆ ที่เพิ่งติดทีมชาติครั้งแรก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายการที่ไม่มีความสำคัญหรือมีความหมายอะไรกับทีมชาติมากนัก บะหมี่จะมีบทบาทเป็นเพียงแค่พี่เลี้ยงของนักกีฬารุ่นน้องที่เพิ่งติดทีมชาติเข้ามาใหม่ ถามว่าหากคุณเป็นแบบบะหมี่คุณยังมีความกระตือรือร้นอยากที่จะเล่นให้กับทีมชาติอยู่อีกหรือไม่

สำหรับคนที่เรียกร้องอยากให้บะหมี่ได้ติดทีมชาติ ถ้าคุณเข้าใจสถานการณ์ของบะหมี่ในปัจจุบัน คุณยังอยากให้บะหมี่เปลี่ยนใจกลับมารับใช้ทีมชาติหรือไม่ พอพูดถึงตรงนี้หลายคนอาจจะแย้งว่าแล้วทำไมทีอุ๊ถึงยอมเล่นให้ทีมชาติได้ แต่บะหมี่กลับเล่นให้ทีมชาติไม่ได้ ต้องเข้าใจก่อนนะครับว่า บะหมี่อยู่กับทีมชาติชุดใหญ่และมีความฝันร่วมกับทีมชาติชุดใหญ่มาตลอด แล้วอยู่มาวันหนึ่งความฝันนั้นได้สูญสลายหายไปเพราะทีมชาติได้คนใหม่ที่ดีกว่า ทำให้ความฝันไม่มีวันกลับคืนมาเหมือนเดิม เป็นใครก็ต้องคิดน้อยเนื้อต่ำใจในวาสนาของตนเอง แม้ว่าส่วนหนึ่งเกิดจากการทำตัวเองก็ตาม ถ้าวันนั้นบะหมี่ไม่ปฏิเสธการเล่นในตำแหน่งลิบเบอโร่ วันนี้บะหมี่อาจจะเป็นลิบเบอโร่เบอร์ 1 ของทีมชาติชุดใหญ่แทนแป้นก็ได้ ประกอบกับตอนนั้น บะหมี่ยังไปได้ดีกับตำแหน่ง OH ในบทซุปเปอร์ซับของทีมชาติไทย จนคิดว่าตนเองมีดีพอและมีความสำคัญกับทีมชาติชุดใหญ่ ไม่มีวันที่จะหลุดจากทีมชาติอย่างแน่นอน จนกระทั่งวันหนึ่งมาถึง ความจริงก็ได้ปรากฏ ถึงตอนนี้บะหมี่จะยอมเปลี่ยนมาเล่นตำแหน่งลิบเบอโร่มันก็สายเกินไปแล้ว เพราะบะหมี่ทำผลงานในตำแหน่งลิบเบอโร่ในเกมระดับโลกได้ไม่ดีอย่างที่โค้ชและทุกคนคาดหวัง บะหมี่จึงต้องยอมรับสภาพและยอมรับการตัดสินใจจากโค้ชโดยปริยาย ต่างกับอุ๊ที่ไม่ได้อยู่กับทีมชาติแต่แรก แต่เพิ่งจะถูกทาบทามให้มาช่วยทีมชาติ ซึ่งอุ๊น่าจะรู้ตัวเองดีกว่า ทีมชาติต้องการให้อุ๊ไปช่วยเล่นในรายการเล็ก ๆ แทนทีมชาติชุดใหญ่ ซึ่งบริบทที่มาที่ไปของ อุ๊ กับ บะหมี่ นั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ที่ผมวิเคราะห์มาทั้งหมด ผมไม่ได้มีอคติหรือไม่อยากให้บะหมี่กลับมาติดทีมชาติอะไรอีกนะครับ ต่อให้บะหมี่กลับมาติดทีมชาติ ยังไงก็ไม่มีทางเบียดแย่งตัวจริงในตำแหน่งลิบเบอโร่จากแป้นและเป็ดไปได้แน่นอน ผมจึงไม่มีความจำเป็นอะไรต้องกีดกันหรือไปปิดกั้นขัดขวางบะหมี่ไม่ให้กลับมาติดทีมชาติอีก ตรงกันข้าม ผมก็อยากให้บะหมี่ยอมลงเล่นในรายการเล็ก ๆ แทนนักกีฬาตัวจริงของทีมชาติชุดใหญ่ด้วยซ้ำ จะได้ถนอมร่างกายนักกีฬาตัวจริงไว้เล่นในรายการสำคัญ ๆ ได้เต็มที่
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่