เริ่มต้นจากลูกชายวัย5 เดือนไม่สะบายหายใจครืดคราด จึงพาไปตรวจที่ รพ.รัฐเเห่งหนึ่งในธัญบุรี หมอจึงมีการเอ็กเรย์เเต่ว่าผลที่ออกมาเด็กไม่มีอะไรเกี่ยวกับปอด เเต่หมอก็ให้เเอดมิทดูอาการ จากเด็กที่ร่าเริง ไม่ได้เป็นอะไรมาก
เเค่มีน้ำมูกนิดหน่อย กลายเป็นเด็กที่เซื่องซึม มีไข้สูงหมอก็สั่งให้ฉีดยาหลายอย่างเเบบถี่มาก ถามพยาบาลก็พูดจาไม่ดีมากๆ ถามประวัติยังกับจะกินเลือดกินเนื้อ นานๆเดินมาดูอาการที ให้รอเป็น ชั่วโมงๆ
ให้น้องอดน้ำ อดนม ด้วยความที่เด็กหิวเเละร้องไห้งอเเงมากทำให้น้องหายใจเร็วด้วยความที่น้องตัวอ้วน 5 เดือนเเต่หนัก9 กิโลกว่า ทำให้น้องเหนื่อยเเละหอบ พยาบาลก็ยิ่งเพิ่มยาให้มากขึ้น จนสุดท้ายพยาบาลก็บอกน้องหายใจเองไม่ไหวนะ น้องเหนื่อยจำเป็นต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ตอนนั้นความรู้สึกเเบบกลัวมาก
จากที่มีเเค่เสมหะ กลายเป็นว่าต้องใส่ท่อช่วยหายใจเราก็งง จึงบอกกับทางพยาบาลว่า จะขอย้ายไป รพ.อีกที่หนึ่งซึ่งน่าจะมีเครื่องมือที่พร้อมกว่านี้ เเต่กลับโดนด่ากลับว่าไม่ให้ย้าย ทั้งที่เราจะขอย้าย เเละพร้อมที่จะเสียเงินค่ารักษาเอง
สุดท้ายนางพยาบาลกับหมอก็กันเราให้ออกจากลูก เเล้วทำการใส่ท่อช่วยหายใจโดยที่ไม่รอญาติเรามาดูอาการก่อนเลย ไม่ตรวจไม่อะไรเเค่มายืนวินิจฉัยเเล้วก็สรุปอาการไม่ถึง5 นาทีด้วยซ้ำ
พอสุดความสามารถก็ส่งตัวลูกชายของเราไปให้อีก รพ.อีกที่หนึ่งซึ่งเขาอ้างว่า รพ.ไม่มีเครื่องมือที่ทันสมัย เเถมยังบอกกับเราอีกว่า
" จะไปรักษาโรงพยาบาลไหนก็เหมือนๆกันเเหล่ะ"
เราก็ได้เเต่ งง
คุณเรียนพยาบาลมาตั้งกี่ปีจบมาเพื่อช่วยคน ทุกคนที่เขาเข้ารับการรักษาเขาก็หวังว่าจะหายป่วย อยากฝากฝีฝากไข้ด้วย เเต่นี่คุณอธิบายอาการอะไรให้ญาติฟังไม่ได้เลย ถามอะไรก็พูดวกไปวนมา มีเเต่รับฉีดยาตัวนั้นตัวนี้โดยที่ไม่บอกว่ามันรักษาโรคอะไรบ้าง พอเด็กเริ่มไม่ไหวคุณก็ส่งตัวไปที่อื่น ย้อนเวลากลับไปได้จะไม่เข้าเด็ดขาด ถึงจะอยู่ใกล้บ้าน หรือไม่เสียเงินก็ตาม
เเย่มากๆ
เเละ ตอนนี้ลูกชายได้ย้ายมารักษาตัวที่ ใหม่ อาการก็ไม่ดีขึ้นเลย ถามหมอ หมอก็บอกว่าปอดติดเชื้อ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตรวจไม่พบ นอนเป็นเดือนเเล้วเเต่ไม่ดีขึ้น อยากทราบว่าถ้าจะขอย้ายไป รพ.ที่เกี่ยวกับเด็กโดยตรงจะได้ไหม เเล้วจะเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่คะ
อีกอย่างไม่ได้ทำประกันด้วย เพราะน้องเพิ่งมาจาก ต่างจังหวัด มาป่วยที่กรุงเทพ รบกวนสอบถามทุกท่านที่เคยเจอเหตุการณ์เเบบนี้ด้วยนะคะ สงสารลูกคนเป็นเเม่ใจจะขาดเเทนเเล้วคะ
ลูกเป็นโรคปอดติดเชื้อ ใส่ท่อช่วยหายใจ นอน รพ.เป็นเดือนเเล้วเเต่ อาการก็ไม่ดีขึ้นจะขอย้ายไป รพ.เด็กโดยตรงเสียเท่าไหร่คะ
เเค่มีน้ำมูกนิดหน่อย กลายเป็นเด็กที่เซื่องซึม มีไข้สูงหมอก็สั่งให้ฉีดยาหลายอย่างเเบบถี่มาก ถามพยาบาลก็พูดจาไม่ดีมากๆ ถามประวัติยังกับจะกินเลือดกินเนื้อ นานๆเดินมาดูอาการที ให้รอเป็น ชั่วโมงๆ
ให้น้องอดน้ำ อดนม ด้วยความที่เด็กหิวเเละร้องไห้งอเเงมากทำให้น้องหายใจเร็วด้วยความที่น้องตัวอ้วน 5 เดือนเเต่หนัก9 กิโลกว่า ทำให้น้องเหนื่อยเเละหอบ พยาบาลก็ยิ่งเพิ่มยาให้มากขึ้น จนสุดท้ายพยาบาลก็บอกน้องหายใจเองไม่ไหวนะ น้องเหนื่อยจำเป็นต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ตอนนั้นความรู้สึกเเบบกลัวมาก
จากที่มีเเค่เสมหะ กลายเป็นว่าต้องใส่ท่อช่วยหายใจเราก็งง จึงบอกกับทางพยาบาลว่า จะขอย้ายไป รพ.อีกที่หนึ่งซึ่งน่าจะมีเครื่องมือที่พร้อมกว่านี้ เเต่กลับโดนด่ากลับว่าไม่ให้ย้าย ทั้งที่เราจะขอย้าย เเละพร้อมที่จะเสียเงินค่ารักษาเอง
สุดท้ายนางพยาบาลกับหมอก็กันเราให้ออกจากลูก เเล้วทำการใส่ท่อช่วยหายใจโดยที่ไม่รอญาติเรามาดูอาการก่อนเลย ไม่ตรวจไม่อะไรเเค่มายืนวินิจฉัยเเล้วก็สรุปอาการไม่ถึง5 นาทีด้วยซ้ำ
พอสุดความสามารถก็ส่งตัวลูกชายของเราไปให้อีก รพ.อีกที่หนึ่งซึ่งเขาอ้างว่า รพ.ไม่มีเครื่องมือที่ทันสมัย เเถมยังบอกกับเราอีกว่า
" จะไปรักษาโรงพยาบาลไหนก็เหมือนๆกันเเหล่ะ"
เราก็ได้เเต่ งง คุณเรียนพยาบาลมาตั้งกี่ปีจบมาเพื่อช่วยคน ทุกคนที่เขาเข้ารับการรักษาเขาก็หวังว่าจะหายป่วย อยากฝากฝีฝากไข้ด้วย เเต่นี่คุณอธิบายอาการอะไรให้ญาติฟังไม่ได้เลย ถามอะไรก็พูดวกไปวนมา มีเเต่รับฉีดยาตัวนั้นตัวนี้โดยที่ไม่บอกว่ามันรักษาโรคอะไรบ้าง พอเด็กเริ่มไม่ไหวคุณก็ส่งตัวไปที่อื่น ย้อนเวลากลับไปได้จะไม่เข้าเด็ดขาด ถึงจะอยู่ใกล้บ้าน หรือไม่เสียเงินก็ตาม
เเย่มากๆ
เเละ ตอนนี้ลูกชายได้ย้ายมารักษาตัวที่ ใหม่ อาการก็ไม่ดีขึ้นเลย ถามหมอ หมอก็บอกว่าปอดติดเชื้อ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตรวจไม่พบ นอนเป็นเดือนเเล้วเเต่ไม่ดีขึ้น อยากทราบว่าถ้าจะขอย้ายไป รพ.ที่เกี่ยวกับเด็กโดยตรงจะได้ไหม เเล้วจะเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่คะ
อีกอย่างไม่ได้ทำประกันด้วย เพราะน้องเพิ่งมาจาก ต่างจังหวัด มาป่วยที่กรุงเทพ รบกวนสอบถามทุกท่านที่เคยเจอเหตุการณ์เเบบนี้ด้วยนะคะ สงสารลูกคนเป็นเเม่ใจจะขาดเเทนเเล้วคะ