1. ลี โบวเยอร์ และ คีรอน ดายเออร์
ในรอบพรีเมียร์ลีกปี 2005 ระหว่างการพบกันของนิวคาสเซิลและแอชตันวิลลา เหมือนว่าสกอร์ 3-0 ยังแย่ไม่พอสำหรับแฟนๆ นิวคาสเซิล เมื่อโบวเยอร์และดายเออร์ เปิดฉากอาละวาดใส่กัน หลังจากที่ดายเออร์ไม่ยอมส่งลูกให้โบวเยอร์(สักที) เหตุการณ์ ด่าทอ ชกและดึงเสื้อจนขาด กลายเป็นการวิวาทท่ามกลางแฟนบอล หลังจากจบแมทช์ทั้งสองออกมาขอโทษแฟนบอล เพื่อนร่วมทีม สตาฟ ครอบครัว และทุกคนที่เกี่ยวข้อง

2. รุด ฟาน นิสเตลรอย และ ผู้เล่นทีมอาร์เซนอล
แมทช์ที่สร้างชื่อ(ฉาว) ในปี 2003 หลังจากที่นิสเตลรอยยิงลูกโทษพลาดไปชนคาน และจบลงไปด้วยสกอร์ 0-0 ทำให้อาร์เซนอลทำสถิติไร้พ่ายไปได้ แต่เหตุการณ์แย่ๆก็เกิดขึ้น เมื่อผู้เล่นของอาร์เซนอลเดินเข้ามาเยาะเย้ย(แรงๆ)กับนิสเตลรอย จนทำให้เพื่อนร่วมทีมต้องข้ามาช่วย จนได้ชื่อว่า “ศึกแห่งโอลด์แทรฟฟอร์ด”

3. เดวิด แบ็ตตี้ และ แกรม เลอ โซ
ย้อนกลับไปในปี 1995 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ พบกับ สปาร์ตัก มอสโก หลังจากเริ่มเตะได้เพียงแค่ 4 นาที ผู้เล่นของทีมแบล็คเบิร์นก็เริ่มปะทะกันเอง แบ็ตตี้วิ่งไปรับบอล แต่เลอ โซ ก็วิ่งมาแย่งบอลไป จากนั้นก็กระทบกระทั่งกันตลอดเกม จนแบ็ตตี้ทนไม่ไหว โวยเลอ โซ แต่เลอ โซ ตอบกลับด้วยการชกแบ็ตตี้เข้าที่คอหอย (และนั่นคือเหตุการณ์ที่ทำให้กระดูกมือของเลอ โซ หัก) จนเพื่อนๆ ต้องเข้ามาจับทั้งคู่แยกออกจากกัน

4. อลัน พาร์ดิว และ เดวิด เมเลอร์
เมื่อฮัลล์ ซิตี้กำลังจะแพ้ให้กับนิวคาสเซิลถึง 1-3 ขณะที่เมเลอร์กำลังจะทุ่มบอล พาร์ดิวก็ปรี่เอาศีรษะมาโหม่งหน้าของเมเลอร์ สร้างความอึ้งไปทั่วทั้งสนามฟุตบอล แม้พาดิวจะอ้างว่าไม่พอใจที่เมเลอร์มาผลักหลังเขาเพื่อหยิบลูกบอล อย่างไรก็ตามพาดิวถูกปรับไปเป็นเงินถึง 100,000 ปอนด์ และโดนแบนจากการคุมทีมข้างสนามถึง 7 นัด

5. ฟรานเชสโก ต๊อตติ และ มาริโอ บาโลเตลลี
ในปี 2010 โรม่าแพ้ให้กับอินเตอร์มิลาน ด้วยสกอร์ 0-1 ในช่วงท้ายของการแข่ง ต๊อตติคุมอารมณ์ไม่อยู่ จงใจสกัดเตะขาบาโลเตลลีเข้าอย่างจัง เขาบอกว่าสาเหตุของการตัดสินใจลงมือในครั้งนี้คือ บาโลเตลลีดูถูก เขาและแฟนของทีมโรม่ามาตลอดทั้งปี การสัมภาษณ์ล่าสุดของต็อตติ เขาอ้างว่า ขากลับออกจากสนาม ไมคอน(อินเตอร์มิลาน) เข้ามาขอไฮไฟว์ด้วย แสดงว่าบาโลเตลลีคงเป็นคนที่น่ารำคาญจริงๆ

6. โจอี้ บาร์ตัน และ ทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้
บาร์ตันถูกแบนจากการแข่งมากที่สุด 12 นัด เป็นประวัติศาสตร์ของการแบนนักเตะ สาเหตุมาจากการแข่งครั้งสุดท้ายในปี 2011 จากการสร้างวีรกรรมเกรียนๆ กับทีมฝ่ายตรงข้าม อย่างการแทงเข่าใส่อาเกโร เอาหัวโขกกอมปานี และตีศอกใส่เตเบซ ก่อนจะโดนไล่ออกจากทีมในเวลาต่อมา

7. เอแดน อาซาร์ และ เด็กเก็บบอล
ปี 2013 ในรอบรองชนะเลิศของ เแคปิตอลวันคัพ สวอนซีเสมอกับเซลซี 0-0 เกิดเหตุการณ์ช็อคแฟนๆ ขึ้น อาซาร์เตะเข้าที่บริเวณซี่โครงด้านข้างของเด็กเก็บบอล ก่อนที่จะได้ใบแดงและโดนไล่ออกจากสนาม อาซาร์เล่าถึงสาเหตุไว้ว่า เด็กเก็บบอลจงใจคืนบอลให้ช้าเพื่อถ่วงเวลาให้สวอนซี เขาจึงคุมอารมณ์ไม่อยู่ บันดาลโทสะไป อย่างไรก็ตามมีการสอบสวนอย่างละเอียดและพบว่า เด็กเก็บบอลคือลูกชายของผู้บริหารทีมสวอนซี และเอฟเอยกเลิกโทษแบน เพราะมองว่าเป็นการเตะให้บอลหลุดจากตัวเด็กเท่านั้น ไม่ได้จงใจเตะไปที่ตัวเด็ก

8. รอย คีน และ แอลัน เชียเรอร์
ปี 2001 นัดแข่งพรีเมียร์ลีก ระหว่าง นิวคาสเซิล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกิดการกระทบกระทั่งระหว่างคีนและเชียเรอร์กันมาตลอดการแข่งขัน จนในที่สุดช่วงท้ายเกม เชียเรอร์พาบอลไปถึงขอบสนาม คีนและเนวิลล์ต่างเข้าไปแย่งลูก บอลโดนเชียเรอร์ออกข้าง เขาจึงเหวี่ยงแขนไปโดนอกคีน คีนเข้าใจว่าจงใจหาเรื่อง จึงโยนบอลใส่หัวเชียเรอร์ คีนได้ใบแดงและโดนไล่ออกจากสนาม คีนไม่พอใจจะเอาเรื่องเชียเรอร์ให้ได้  เพื่อนในทีมจึงต้องแยกทั้งสองออกจากกัน จนล่าสุดเชียเรอร์ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากจบเกมคีนดักรอเขาที่อุโมงค์ทางเข้าสนาม แต่สุดท้ายเราก็ไม่ได้ประจันหน้ากัน แม้ทั้งคู่ไม่ได้ต่อยกันในสนาม แต่เชียเรอร์ยังบอกติดตลกด้วยว่าถึงแม้จะต้องปะทะกัน เขาก็สามารถน็อกคีนได้อยู่แล้ว

9. เปาโล ดิ คานิโอ และ กรรมการ
ในปี 1998 การแข่งระหว่างเชฟฟิลด์ เวนส์เดย์กับอาร์เซนอล วิเอราทำให้คานิโอได้ฟาวล์ คานิโอจึงทำให้วิเอราได้ฟาวล์กลับ ทั้งคู่ได้ใบแดงไปคนใบ แต่หลังจากที่ยื่นใบแดงให้ คานิโอกลับผลักกรรมการ พอล อัลค็อค จนกลิ้งล้มลงไปที่พื้น ทำให้ถูกแบนไปถึง 11 แมทช์ และโดนปรับ 10,000 ปอนด์

10. โชเซ่ มูรินโญ่ และ ตีโต้ บิลาโนบา
ในปี 2011 ระหว่างการแข่งสแปนิช ซูเปอร์คัพ เรอัล มาดริด พบกับ บาร์เซโลนา เกิดการวิวาทใหญ่โตของนักเตะทั้งสองทีม เมื่อมาร์เซโล่บุกฟาเบรกาสอย่างหนักในช่วงท้ายเกม นักเตะทั้งสองทีมต่างกรูเข้าหากันนัวอยู่ในสนาม บานปลายจนผู้เล่นและสตาฟโค้ชก็ลงไปร่วมด้วย ระหว่างนั้นเอง มูรินโญ่เดินปรี่เอานิ้วเข้าไปจิ้มตาของบิลาโนบา ก่อนจะออกมาบอกตอนแถลงข่าวว่าไม่รู้จักบิลาโนบา

ที่มา https://bit.ly/2Xf7py7 , https://bit.ly/2GzH7ll