เขียนกระทู้แรกเพราะไม่รู้จะหาทางออกยังไง เราแต่งงานมาแล้ว 10 ปี สามีเป็นคนรักครอบครัวมาตลอด เลิกงานรับลูกกลับจากโรงเรียนกลับบ้านทุกวัน เราทำงานกันทั่งคู่ แต่ที่ทำงานสามีจะใกล้กับที่พักและโรงเรียนลูก ส่วนเราต้องเดินทางไปทำงานใช้เวลาเที่ยวละ 1-2 ชั่วโมง สามีเลยเป็นพ่อบ้าน ส่วนเรามีหน้าที่จัดการทำอาหารให้ทุกๆ คน อยู่กัน 3 คนพ่อ แม่ ลูกมีความสุขดี สามีรักลูกสาวมาก เริ่มเมื่อตอนปลายปี 60 สามีได้โปรโมทตำแหน่งงานซึ่งทำให้เวลาทำงานเปลี่ยนไป ไม่สามารถไปรับส่งลูกได้ เราทั้งคู่เลยตัดสินใจเอาลูกไปฝากแม่เราเลี้ยงที่ต่างจังหวัด พอลูกไม่อยู่ เราอยู่กันแค่ 2 คน แต่เวลาครอบครัวที่มีให้กันก็น้อยลงๆ ออกจากบ้านแต่เช้า กลับเข้าบ้านหลัง 1 ทุ่มทุกวัน ตามปกติวิสัยของคงทำงานในกรุงเทพ เลยเพิ่มช่องว่างระหว่างเรากับสามีมากขึ้นๆ
เราเริ่มรู้สึกว่าสามีมีความกดดันบางอย่าง เขาดูเคลียด แต่ถามก็ไม่บอกตั้งแต่ช่วงต้นปี ช่วงเดือนเมษายนเรามีปากเสียงกันหนัก เพราะเรารู้สึกว่าสามีติดโทรศัพท์หนักมาก ติดแชทตลอดเวลา โทรศัพท์ไม่เคยห่างตัว จนวันนึงบังเอิญไปเจอคีการ์ดอพาร์ทเมนท์ที่อื่นอยู่ในกระเป๋าสามี ทะเลาะกันใหญ่โต แต่เขาปากแข็งไม่ยอมรับ อ้างว่าคนเราทบหากันไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องชู้สาว แต่มันมีความเปลี่ยนแปลงในตัวสามีอย่างเป็นได้ชัด คือ เขาไม่มีความสุขเวลาอยู่กับครอบครัว ชอบเหม่อลอย อารมย์แปรปรวน เดี๋ยวก็หงุดหงิด เดี๋ยวก็ร้องไห้ ห่วงแต่เพื่อนแชทในโทรศัพท์คนนั้น
เราเองทำใจมาตลอดระยะเวลา 10 เดือนที่ต้องอยู่ด้วยกันในสภาพนั้น จนถึงขั้นถอดใจว่า ถ้าสามีเขาหมดใจจากเราแล้ว เราก็จะขออยู่กับลูก 2 คนดีกว่าทนทรมานอยู่ด้วยกัน เลยตัดสินใจคุยกับสามี ว่าเราอยากแยกทาง แล้วเหมือนวันนั้นเขาตัดสินใจพูดเหมือนกัน จากที่ไม่ยอมพูดไม่ยอมบอกอะไรเลย
เหมือนฟ้าผ่า สามีบอกว่ามีเมียน้อย แล้วตอนนี้เมียน้อยท้อง 7 เดือน เขาเคลียดมาก วันนี้เป็นไงเป็นกัน ขุกเข่ากอดขาขอโทษเราร้องไห้ฟูมฟาย ขอให้เรายกโทษให้ เราถามว่าทำไมถึงปล่อยให้รุกรามอย่างนี้ ทำไมไม่ป้องกัน แต่มันก็เหมือนพูดเรื่องอะไรที่มันแก้ไขไม่ได้
เขาบอกว่ามีอะไรกับเมียน้อย 2 เดือน เมียน้อยก็ท้อง ตอนคบกันแรกๆ ก็บอกว่าคบกันแบบไม่มีข้อผูกมัด เพราะ ผญ รู้ตั้งแต่แรกว่าสามีแต่งงานมีลูกเมียแล้ว แต่นางก็ปล่อยให้ท้อง พอตั้งท้องนางก็ออกแนวขู่ว่าจะร้องเรียนออกสื่อ ลงโซเชียล นางให้ส่งค่าเลี้ยงดูเดือนละหลายๆ หมื่น ยิ่งนานเข้า ผญ ยิ่งทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ถึงวันเงินเดือนออกก็ตามมาเอาเงินกับสามี ยิ่งพอท้องหลายเดือน นางตามสามีทุกที สามีไปทำงานต่างประเทศนางก็ตามมาช่วงที่เรากับลูกกลับมาไทย พอเรารู้เรื่องเปิดกล้องวงจรปิดที่บ้านดูก็เห็นว่ามาอยู่เป็นอาทิตย์ พอเราจะมานางถึงกลับ
ตอนนี้รู้เรื่องกันหมดทุกคนยกเว้นพ่อแม่เรา แม่สามีให้เลือกว่าจะเอาเมียคนไหน สามีบอกไม่เอาเมียน้อย แต่จะรับผิดชอบส่งเสียเด็กที่เกิด ตอนนี้ตกลงกันกับเมียน้อยเรื่องค่าเลี้ยงดูไม่ได้ นางเรียกสูงมาก เกือบๆ ครึ่งแสนต่อเดือน ที่ทางเราเสนอให้นางก็ไม่ยอมรับ ขู่ว่าจะร้องเรียน จะลงโซเชียลตลอด ทางเราขอไปเจรจากับทางพ่อแม่เธอก็ไม่ยอม
คือ ปกติสามีรับเงินเดือนหลักไม่เกิน 2 หมื่น แต่พอทำงานตำแหน่งใหม่ ต้องมีไปทำงานต่างประเทศด้วยมีเบี้ยเลี้ยง รายรับต่อเดือนก็เยอะขึ้น แต่ไม่ใช่ตลอดไป แค่ช่วง 2 ปีนี้ หมดสัญญาก็กลับไปรับเงินเดือนอัตราเดิม พอเมียน้อยรู้สามีเงินเดือนขึ้นเยอะก็จะเอาเยอะๆ ด้วย ทุกวันนี้เมียน้อยก็ยังข้อความมาอยู่ทุกวัน เรากับสามีตกลงกันให้เธอติดต่อฝ่ายทางทนายคนกลาง เพราะดูท่าทางแล้วไม่ยอมจบ จะเอาชนะให้ได้ถ้าไม่ได้อย่างที่เรียก
ระหว่างเรากับสามีก็ประคับประคองกันไป เขาขอโทษสำนึกผิด ขอให้เราเห็นแก่ลูก เขาว่าถึงเราไม่อยู่กับเขา เขาก็ไม่เอาผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาแทนเรา มันผิดตรงที่ผู้ชายก็มักง่าย เห็นแก่ตัว เมียน้อยก็หวังจะเอาลูกจับ สามีอยากให้เราฟ้องเมียน้อย แต่ดูจากท่าทางของเธอก็ไม่ได้เกรงกลัวว่าเมียหลวงอย่างเราจะฟ้องเลยสักนิด เธอพูดด้วยซ้ำว่าฟ้องก็ไม่มีอะไรจะให้ แล้วทุกคนจะเข้าใจเธอว่าทำไมเธอถึงเป็นเมียน้อย ความยุติธรรมจะเข้าข้างเธอ ยิ่งคุยยิ่งตกลงกันไม่ได้ ที่เธอบอกไม่มีอะไรให้ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะเมียน้อยไม่มีงานประจำ ไม่มีรายได้อะไรนอกจากเงินที่สามีส่งเสีย ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าเหมือนเราทำอะไรเมียน้อยไม่ได้เลย ถึงจะมีกระบวนการยุติธรรมก็ยังบังคับอะไรไม่ได้อยู่ดี
นับวันเมียน้อยยิ่งแสดงอิทธิฤิทธิ์ โทร/ส่งข้อความแชทไปที่ทำงานสามี ตีโพยตีพายกับหัวหน้าสามีที่ต่างประเทศ ทำให้เกิดความวุ่นวาย ให้เสียชื่อเสียง หวังผลให้เกิดความเสียหายมาถึงตัวเราและลูก ประมาณว่าในเมื่อไม่ได้ ก็ให้มันพังให้หมด สามีพยายามปกป้องเราและลูกโดยการฟ้องหมิ่นประมาท ส่วนเราก็ห้องร้องเมียน้อยไปพร้อมๆ กัน พอนางได้หมายศาลก็โทษคนนั้นคนนี้ ส่งข้อความแชทถึงหัวหน้างานสามีว่าจะร้องเรียนว่าเอาข้อความขอเธอไปเปิดเผย ยิ่งวุ่ยวายมากขึ้นไปอีก ตอนนี้สามีอาจถูกพิจารณาส่งตัวกลับก่อนกำหนด เพราะเป็นสาเหตุให้เกิดความวุ่นวาย
ตอนนี้ทำได้แค่ตั้งสติและพยายามคิด แต่ทุกอย่างดูเหมือนจะยังไม่มีทางออก รับมือกับปัญหาแล้วแก้กันวันต่อวัน เมื่อเธอต้องการทำลายครอบครัวไม่ได้หวังให้รับผิดชอบ เราจะปกป้องลูกจากผู้หญิงคนนี้ได้ยังไง พูดกับใครก็ไม่ได้ เลยมาเล่าให้เพื่อนในพันทิปฟัง เพื่อนที่มีคำแนะนำช่วยแสดงความเห็นให้ทีค่ะ
เพิ่งรู้ว่าตัวเป็นเมียหลวง จะรับมืเมียน้อยชนิดแค้นฝังหุ่นยังไงดี?
เราเริ่มรู้สึกว่าสามีมีความกดดันบางอย่าง เขาดูเคลียด แต่ถามก็ไม่บอกตั้งแต่ช่วงต้นปี ช่วงเดือนเมษายนเรามีปากเสียงกันหนัก เพราะเรารู้สึกว่าสามีติดโทรศัพท์หนักมาก ติดแชทตลอดเวลา โทรศัพท์ไม่เคยห่างตัว จนวันนึงบังเอิญไปเจอคีการ์ดอพาร์ทเมนท์ที่อื่นอยู่ในกระเป๋าสามี ทะเลาะกันใหญ่โต แต่เขาปากแข็งไม่ยอมรับ อ้างว่าคนเราทบหากันไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องชู้สาว แต่มันมีความเปลี่ยนแปลงในตัวสามีอย่างเป็นได้ชัด คือ เขาไม่มีความสุขเวลาอยู่กับครอบครัว ชอบเหม่อลอย อารมย์แปรปรวน เดี๋ยวก็หงุดหงิด เดี๋ยวก็ร้องไห้ ห่วงแต่เพื่อนแชทในโทรศัพท์คนนั้น
เราเองทำใจมาตลอดระยะเวลา 10 เดือนที่ต้องอยู่ด้วยกันในสภาพนั้น จนถึงขั้นถอดใจว่า ถ้าสามีเขาหมดใจจากเราแล้ว เราก็จะขออยู่กับลูก 2 คนดีกว่าทนทรมานอยู่ด้วยกัน เลยตัดสินใจคุยกับสามี ว่าเราอยากแยกทาง แล้วเหมือนวันนั้นเขาตัดสินใจพูดเหมือนกัน จากที่ไม่ยอมพูดไม่ยอมบอกอะไรเลย
เหมือนฟ้าผ่า สามีบอกว่ามีเมียน้อย แล้วตอนนี้เมียน้อยท้อง 7 เดือน เขาเคลียดมาก วันนี้เป็นไงเป็นกัน ขุกเข่ากอดขาขอโทษเราร้องไห้ฟูมฟาย ขอให้เรายกโทษให้ เราถามว่าทำไมถึงปล่อยให้รุกรามอย่างนี้ ทำไมไม่ป้องกัน แต่มันก็เหมือนพูดเรื่องอะไรที่มันแก้ไขไม่ได้
เขาบอกว่ามีอะไรกับเมียน้อย 2 เดือน เมียน้อยก็ท้อง ตอนคบกันแรกๆ ก็บอกว่าคบกันแบบไม่มีข้อผูกมัด เพราะ ผญ รู้ตั้งแต่แรกว่าสามีแต่งงานมีลูกเมียแล้ว แต่นางก็ปล่อยให้ท้อง พอตั้งท้องนางก็ออกแนวขู่ว่าจะร้องเรียนออกสื่อ ลงโซเชียล นางให้ส่งค่าเลี้ยงดูเดือนละหลายๆ หมื่น ยิ่งนานเข้า ผญ ยิ่งทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ถึงวันเงินเดือนออกก็ตามมาเอาเงินกับสามี ยิ่งพอท้องหลายเดือน นางตามสามีทุกที สามีไปทำงานต่างประเทศนางก็ตามมาช่วงที่เรากับลูกกลับมาไทย พอเรารู้เรื่องเปิดกล้องวงจรปิดที่บ้านดูก็เห็นว่ามาอยู่เป็นอาทิตย์ พอเราจะมานางถึงกลับ
ตอนนี้รู้เรื่องกันหมดทุกคนยกเว้นพ่อแม่เรา แม่สามีให้เลือกว่าจะเอาเมียคนไหน สามีบอกไม่เอาเมียน้อย แต่จะรับผิดชอบส่งเสียเด็กที่เกิด ตอนนี้ตกลงกันกับเมียน้อยเรื่องค่าเลี้ยงดูไม่ได้ นางเรียกสูงมาก เกือบๆ ครึ่งแสนต่อเดือน ที่ทางเราเสนอให้นางก็ไม่ยอมรับ ขู่ว่าจะร้องเรียน จะลงโซเชียลตลอด ทางเราขอไปเจรจากับทางพ่อแม่เธอก็ไม่ยอม
คือ ปกติสามีรับเงินเดือนหลักไม่เกิน 2 หมื่น แต่พอทำงานตำแหน่งใหม่ ต้องมีไปทำงานต่างประเทศด้วยมีเบี้ยเลี้ยง รายรับต่อเดือนก็เยอะขึ้น แต่ไม่ใช่ตลอดไป แค่ช่วง 2 ปีนี้ หมดสัญญาก็กลับไปรับเงินเดือนอัตราเดิม พอเมียน้อยรู้สามีเงินเดือนขึ้นเยอะก็จะเอาเยอะๆ ด้วย ทุกวันนี้เมียน้อยก็ยังข้อความมาอยู่ทุกวัน เรากับสามีตกลงกันให้เธอติดต่อฝ่ายทางทนายคนกลาง เพราะดูท่าทางแล้วไม่ยอมจบ จะเอาชนะให้ได้ถ้าไม่ได้อย่างที่เรียก
ระหว่างเรากับสามีก็ประคับประคองกันไป เขาขอโทษสำนึกผิด ขอให้เราเห็นแก่ลูก เขาว่าถึงเราไม่อยู่กับเขา เขาก็ไม่เอาผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาแทนเรา มันผิดตรงที่ผู้ชายก็มักง่าย เห็นแก่ตัว เมียน้อยก็หวังจะเอาลูกจับ สามีอยากให้เราฟ้องเมียน้อย แต่ดูจากท่าทางของเธอก็ไม่ได้เกรงกลัวว่าเมียหลวงอย่างเราจะฟ้องเลยสักนิด เธอพูดด้วยซ้ำว่าฟ้องก็ไม่มีอะไรจะให้ แล้วทุกคนจะเข้าใจเธอว่าทำไมเธอถึงเป็นเมียน้อย ความยุติธรรมจะเข้าข้างเธอ ยิ่งคุยยิ่งตกลงกันไม่ได้ ที่เธอบอกไม่มีอะไรให้ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะเมียน้อยไม่มีงานประจำ ไม่มีรายได้อะไรนอกจากเงินที่สามีส่งเสีย ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าเหมือนเราทำอะไรเมียน้อยไม่ได้เลย ถึงจะมีกระบวนการยุติธรรมก็ยังบังคับอะไรไม่ได้อยู่ดี
นับวันเมียน้อยยิ่งแสดงอิทธิฤิทธิ์ โทร/ส่งข้อความแชทไปที่ทำงานสามี ตีโพยตีพายกับหัวหน้าสามีที่ต่างประเทศ ทำให้เกิดความวุ่นวาย ให้เสียชื่อเสียง หวังผลให้เกิดความเสียหายมาถึงตัวเราและลูก ประมาณว่าในเมื่อไม่ได้ ก็ให้มันพังให้หมด สามีพยายามปกป้องเราและลูกโดยการฟ้องหมิ่นประมาท ส่วนเราก็ห้องร้องเมียน้อยไปพร้อมๆ กัน พอนางได้หมายศาลก็โทษคนนั้นคนนี้ ส่งข้อความแชทถึงหัวหน้างานสามีว่าจะร้องเรียนว่าเอาข้อความขอเธอไปเปิดเผย ยิ่งวุ่ยวายมากขึ้นไปอีก ตอนนี้สามีอาจถูกพิจารณาส่งตัวกลับก่อนกำหนด เพราะเป็นสาเหตุให้เกิดความวุ่นวาย
ตอนนี้ทำได้แค่ตั้งสติและพยายามคิด แต่ทุกอย่างดูเหมือนจะยังไม่มีทางออก รับมือกับปัญหาแล้วแก้กันวันต่อวัน เมื่อเธอต้องการทำลายครอบครัวไม่ได้หวังให้รับผิดชอบ เราจะปกป้องลูกจากผู้หญิงคนนี้ได้ยังไง พูดกับใครก็ไม่ได้ เลยมาเล่าให้เพื่อนในพันทิปฟัง เพื่อนที่มีคำแนะนำช่วยแสดงความเห็นให้ทีค่ะ