สืบเนื่องจากความเดิมตอนที่แล้ว
[CR] Wuhan ( อู่ฮั่น ) ไร้แผน ใบไม้แดงและวันฝนพรำ ตอน1 มหาวิทยาลัยอู่ฮั่น
https://ppantip.com/topic/38550328
แต่ถ้าใครมีเวลาน้อย การเดินทางของเราก็จบในตอนนะ ก่อนเข้าสู่การเดินทาง
ขอฝากช่องทางของเราได้ที่
Facebook :
https://www.facebook.com/gobemeee/
Instagram :
https://instagram.com/go_bme
และขอฝากกระทู้เก่าของเราด้านล่างเลยจ้า
[CR] Wusong Island : Rime ของฉันและวันอันหนาวเหน็บ
https://ppantip.com/topic/38499589
3 Dec 2018 Day 3
วันนี้เราตื่นสายๆประมาณ 9 โมงได้ เพราะจากที่กล่าวไปตอนแรกว่าเราไม่มีแผนอีกต่อไป ก็เลยตื่นมาคิดว่าจะไปไหนดี เราก็ตัดสินใจว่าจะไปหอกระเรียนเหลืองหรือภาษาจีนคือ ฮวงเห้อโหลว (黄鹤楼) ซึ่งก็เป็นแลนด์มาร์คประจำเมืองที่ถ้าใครมาครั้งแรกคิดไม่ออกก็ไป แต่เราเคยมาแล้ว แต่เมื่อครั้งนั้นมันปิดซ่อมบางส่วน เราก็เลยคิดว่าไปซ่อม ภาพคงจะดีกว่าเดิม (มั้ง) การเดินทางจากโรงแรมก็ไม่ยากอะไร เราก็จัด metro ไปเดิมๆของเราที่ถนนเจียงฮัน (江汉路) แต่ฝนตกไม่หยุดเลยและอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 5 องศา อุปกรณ์ที่เราขาดไม่ได้คือร่ม ระหว่างเดินไปรถไฟฟ้าเราขอเหลาหน่อย
ความประทับใจที่เมืองอู่ฮั่น คือความพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
ถ้าเทียบจากที่มาเมืองจีนหลายๆเมือง อู่ฮั่น(武汉) เป็นหนึ่งในเมืองที่ทั้งเมืองและมารยาทของคนพัฒนาไปเร็วมากๆ เราจะเห็นความสะอาด ที่ตอนเช้าตรู่เจ้าหน้าที่จะมีการล้างถนนทุกๆวัน สะอาดนะ
แม้แต่มารยาทของคน เมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ เช่น เซียงไฮ้ (上海) ที่นี่คนเป็นมิตรกว่าเยอะ ปกติเราจะทราบว่าคนจีนชอบขาก
เนอะ แต่ที่อู่ฮั่นถือว่าน้อยมากและมักจะพบในคนรุ่นเก่าๆที่มีอายุแล้ว และถ้าเขาจะขาก เขาก็จะเดินไป
ที่ถังขยะด้วยนะ คือเราเคยมาเมื่อ 6 ปีก่อน (2012) คือคนละเรื่องราว ถนนเจียงฮัน (江汉路) สั้นกะปิ๊ดเดียวตอนนี้เป็นถนนช็อปปิ้งยาวไปถึงดาวอังคาร แล้ว Metro ตอนนั้นมีแค่ 2 สาย ตอนนี้เขามี 11 สายแล้วนะ
หลังจากเหลาไปเดินไป เราก็เดินมาถึง Metro สถานีถนนเจียงฮัน (江汉路) การไปหอกระเรียนเหลือง (黄鹤楼) ไปลงได้หลายสถานี รอบนี้เราเลือกลงสถานี เสียวตงเหมิน Xiao Dong Men (小东门) ใช้เวลาเดินทาง 18 นาที ก็ถึง
พอลงปุ๊บก็ออกทางออก B1 ขึ้นมาบนพื้นดิน จะเจอทางเดินที่มีใบไม่เปลี่ยนสีเต็มไปหมด
เดินไปถ่ายรูปไปสักพักก็หิว สอดส่ายสายตาหาอะไรกิน แล้วก็เจอป้าสามล้อ
เราก็เลยตัดสินใจใช้เงินแก้ปัญหา จ่ายตังป้าแล้วรีบนั่งไปให้ถึงหอกระเรียนเหลืองเพื่อกินอะไรสักหน่อย เพราะจำความได้ว่าใกล้หอกระเรียนมีร้านบ้านๆเต็มไปหมด ก็ต่อรองราคาก็ได้ความว่า 10 หยวน จริงๆก็แพงไปนิด แต่ก็เหมาๆ ไง ก็จัดไป ป้าแกซิกแซก สุดยอด
แป็บเดียวถึง แต่ป้าแกเล่น VIP ขับเลาะไปถึงด้านบนเลย ก็เลยไม่ต้องเดินเยอะ แต่ก็ไม่มีอะไรขายเลยไง....
เรามาถึงหอกระเรียนเหลือง (黄鹤楼) เวลาประมาณ 10 โมง
ด้วยความเปียกและหนาวเย็น เราก็ต้องรีบตัดสินใจ เดินขึ้นบันไดไปข้างในก่อน เพราะดูจากด้านล่างแล้ว เดินย้อนฝ่าฝนลงไป คงอีกสักพักกว่าจะได้กิน ก็เลยไปวัดดวงข้างในเอา
พอไปด้านในตั๋วก็ยังไม่ซื้อ มันจะมีมุมขายของและร้านอาหารอยู่ด้านขวามือ เราเดินไปด้านในสุดมุมจะมีร้านทังเปา ( เปาน้ำที่มีน้ำซุปข้างใน )อยู่ คิดในใจ อยู่ในหอกระเรียนเหลือง (黄鹤楼) ราคาไส้แตกแน่นอน แต่ 10 โมงกว่าแล้วยังไม่ได้กินไรเลย ก็ต้องยอมล่ะ
พอเข้าไปเราก็สั่ง เมนูหากิน “เซียนโหร่วทังเปา”(鲜肉汤包)
ทังเปา (หรือเสี่ยวหลงเปา)ไส้หมูสับเข่งนี้ เราให้ 100/10 อร่อยมาก อยากจะให้มาลอง เราเคยกินที่ในหลายๆ เมือง รวมถึงในไต้หวันเอง ร้านนี้กินแล้วฟินมาก ( แต่ร้านนี้เป็นแฟรนไชซ์นะ ความอร่อยก็คงจะแตกต่างกันไปตามสาขา )
ซึ่งจากประสบการณ์ เซียนโหร่ว แปลตรงตัวคือเนื้อสดแต่มันคือเนื้อหมูอ่ะแหละ สำหรับคนที่พยายามจะหาเนื้อหมูหรือจูโร่ว (猪肉) แล้วไม่เจอตัวจีนตัวนี้ ก็สั่ง เซียนโหร่วทังเปา(鲜肉汤包) รอดชัวร์ เราให้ร้อยละ 99.9 เป็นเนื้อหมู ป่ะ
อีกชามเราสั่งบะหมี่เนื้อหรือนิ๋วโหร่วเมี่ยน (牛肉面)ก็ อร่อยเกินขาดแม้จะดูแพงไปนิด น้ำซุปเรียกว่าเด็ด อันนี้ให้ 8/10 ละกัน
**บางคนงง ทำไมหน้าตามันเหมือนเสี่ยวหลงเปา ทำไมมันเรียกทังเปา เราจะเล่าให้ฟัง
เสี่ยวหลงเปา (小笼包) แปลว่า เปาเข่งเล็ก มีต้นกำเนิดจากเมืองไคเฟิง (开封)หรือคนไทยเรียกไคฟง แรกเริ่มเลยจะเป็นซาลาเปาขนาดและหน้าตาเหมือนที่ไทยแต่จะมีน้ำซุปข้างใน คนจีนเลยเรียกว่า ทังเปา (汤包) ซึ่งทัง (汤) แปลว่าซุป พอย้ายเมืองหลวงมาเป็นหางโจว (杭州) ก็มีการปรับเปลี่ยนเป็นลูกเล็กลงและแป้งบางขึ้นจนเป็น เสี่ยวหลงเปา ซึ่งคนไทยจะรู้จักดีในแบบอาหารไต้หวัน แต่รูปแบบที่ไต้หวันถือกำเนิดที่หางโจว (杭州) แต่ทังเปาแบบแรกก็ยังมีอยู่ เพราะฉะนั้นคนจีนจึงจะสามารถเรียกเปามีน้ำข้างในว่า "ทังเปา"ทั้งหมด ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก แป้งบางหรือไม่บาง และการสั่งบางร้านว่า เสี่ยวหลงเปา อาจจะไม่ได้สื่อว่าเปาลูกเล็กแป้งบางมีน้ำซุป อาจจะเป็นเปาแป้งหนามีน้ำซุปข้างในแต่"เข่งเล็ก" นั่นเองและอูฮั่นเป็นเมืองที่ถูกเรตให้เป็นเมืองที่ เสี่ยวหลงเปาอร่อยที่สุดในจีน ( ถามๆเขามานะ) เราก็ไม่พลาดที่จะกิน
ซื่อจี้เหม่ย เสี่ยวหลงเปา ต้นตำหรับอู่ฮั่นตั้งแต่ปี 1922
บนกำแพงมีวิธีการกินเสี่ยวหลงเปาที่ถูกต้อง 5 ขั้นตอนด้วย อ่านเพลินๆ
พอเรากินเสร็จก็ราวๆ 11 โมง เดินย้อนออกมาซื้อตั๋วเข้าหอกระเรียนเหลือง (黄鹤楼) ราคาสนนที่ 70 หยวน
ที่นี่ เมษายน - ตุลาคม เวลาเปิดปิดคือ 8:00 - 18:00 น. ส่วนพฤศจิกายน – มีนาคม เวลาเปิด 8:00 - 17:00 น. ไงก็วางแผนกันดีๆนะ
พอมาซื้อตั๋วมีความตกใจเบาๆ ที่ทางเข้า ห้องจ่ายตั๋วต่างๆเปลี่ยนไปจาก 6 ปีก่อนมากๆ แล้วเราก็เดินเข้าไปเลย
ตรงส่วนแรกจะเป็นเหมือนสวนเนาะ มีสระน้ำ มีศาบา อะไรก็ว่าไป ใบไม้ก็แดง เหลืองตามสไตล์ คือแบบธันวาแล้วยังแดงอยู่อีก ดูขนาดเปียกปอน สีสันยังสดใสขนาด
ป่ะ เราลุยกันต่อเลย
[CR] Wuhan ( อู่ฮั่น ) ไร้แผน ใบไม้แดงและวันฝนพรำ ตอน2 หอกระเรียนเหลืองและวัดกุ้ยหยวน
สืบเนื่องจากความเดิมตอนที่แล้ว
[CR] Wuhan ( อู่ฮั่น ) ไร้แผน ใบไม้แดงและวันฝนพรำ ตอน1 มหาวิทยาลัยอู่ฮั่น
https://ppantip.com/topic/38550328
แต่ถ้าใครมีเวลาน้อย การเดินทางของเราก็จบในตอนนะ ก่อนเข้าสู่การเดินทาง
ขอฝากช่องทางของเราได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/gobemeee/
Instagram : https://instagram.com/go_bme
และขอฝากกระทู้เก่าของเราด้านล่างเลยจ้า
[CR] Wusong Island : Rime ของฉันและวันอันหนาวเหน็บ
https://ppantip.com/topic/38499589
3 Dec 2018 Day 3
วันนี้เราตื่นสายๆประมาณ 9 โมงได้ เพราะจากที่กล่าวไปตอนแรกว่าเราไม่มีแผนอีกต่อไป ก็เลยตื่นมาคิดว่าจะไปไหนดี เราก็ตัดสินใจว่าจะไปหอกระเรียนเหลืองหรือภาษาจีนคือ ฮวงเห้อโหลว (黄鹤楼) ซึ่งก็เป็นแลนด์มาร์คประจำเมืองที่ถ้าใครมาครั้งแรกคิดไม่ออกก็ไป แต่เราเคยมาแล้ว แต่เมื่อครั้งนั้นมันปิดซ่อมบางส่วน เราก็เลยคิดว่าไปซ่อม ภาพคงจะดีกว่าเดิม (มั้ง) การเดินทางจากโรงแรมก็ไม่ยากอะไร เราก็จัด metro ไปเดิมๆของเราที่ถนนเจียงฮัน (江汉路) แต่ฝนตกไม่หยุดเลยและอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 5 องศา อุปกรณ์ที่เราขาดไม่ได้คือร่ม ระหว่างเดินไปรถไฟฟ้าเราขอเหลาหน่อย
ความประทับใจที่เมืองอู่ฮั่น คือความพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
ถ้าเทียบจากที่มาเมืองจีนหลายๆเมือง อู่ฮั่น(武汉) เป็นหนึ่งในเมืองที่ทั้งเมืองและมารยาทของคนพัฒนาไปเร็วมากๆ เราจะเห็นความสะอาด ที่ตอนเช้าตรู่เจ้าหน้าที่จะมีการล้างถนนทุกๆวัน สะอาดนะ
แม้แต่มารยาทของคน เมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ เช่น เซียงไฮ้ (上海) ที่นี่คนเป็นมิตรกว่าเยอะ ปกติเราจะทราบว่าคนจีนชอบขากเนอะ แต่ที่อู่ฮั่นถือว่าน้อยมากและมักจะพบในคนรุ่นเก่าๆที่มีอายุแล้ว และถ้าเขาจะขาก เขาก็จะเดินไปที่ถังขยะด้วยนะ คือเราเคยมาเมื่อ 6 ปีก่อน (2012) คือคนละเรื่องราว ถนนเจียงฮัน (江汉路) สั้นกะปิ๊ดเดียวตอนนี้เป็นถนนช็อปปิ้งยาวไปถึงดาวอังคาร แล้ว Metro ตอนนั้นมีแค่ 2 สาย ตอนนี้เขามี 11 สายแล้วนะ
หลังจากเหลาไปเดินไป เราก็เดินมาถึง Metro สถานีถนนเจียงฮัน (江汉路) การไปหอกระเรียนเหลือง (黄鹤楼) ไปลงได้หลายสถานี รอบนี้เราเลือกลงสถานี เสียวตงเหมิน Xiao Dong Men (小东门) ใช้เวลาเดินทาง 18 นาที ก็ถึง
พอลงปุ๊บก็ออกทางออก B1 ขึ้นมาบนพื้นดิน จะเจอทางเดินที่มีใบไม่เปลี่ยนสีเต็มไปหมด
เดินไปถ่ายรูปไปสักพักก็หิว สอดส่ายสายตาหาอะไรกิน แล้วก็เจอป้าสามล้อ
เราก็เลยตัดสินใจใช้เงินแก้ปัญหา จ่ายตังป้าแล้วรีบนั่งไปให้ถึงหอกระเรียนเหลืองเพื่อกินอะไรสักหน่อย เพราะจำความได้ว่าใกล้หอกระเรียนมีร้านบ้านๆเต็มไปหมด ก็ต่อรองราคาก็ได้ความว่า 10 หยวน จริงๆก็แพงไปนิด แต่ก็เหมาๆ ไง ก็จัดไป ป้าแกซิกแซก สุดยอด
แป็บเดียวถึง แต่ป้าแกเล่น VIP ขับเลาะไปถึงด้านบนเลย ก็เลยไม่ต้องเดินเยอะ แต่ก็ไม่มีอะไรขายเลยไง....
เรามาถึงหอกระเรียนเหลือง (黄鹤楼) เวลาประมาณ 10 โมง
ด้วยความเปียกและหนาวเย็น เราก็ต้องรีบตัดสินใจ เดินขึ้นบันไดไปข้างในก่อน เพราะดูจากด้านล่างแล้ว เดินย้อนฝ่าฝนลงไป คงอีกสักพักกว่าจะได้กิน ก็เลยไปวัดดวงข้างในเอา
พอไปด้านในตั๋วก็ยังไม่ซื้อ มันจะมีมุมขายของและร้านอาหารอยู่ด้านขวามือ เราเดินไปด้านในสุดมุมจะมีร้านทังเปา ( เปาน้ำที่มีน้ำซุปข้างใน )อยู่ คิดในใจ อยู่ในหอกระเรียนเหลือง (黄鹤楼) ราคาไส้แตกแน่นอน แต่ 10 โมงกว่าแล้วยังไม่ได้กินไรเลย ก็ต้องยอมล่ะ
พอเข้าไปเราก็สั่ง เมนูหากิน “เซียนโหร่วทังเปา”(鲜肉汤包)
ทังเปา (หรือเสี่ยวหลงเปา)ไส้หมูสับเข่งนี้ เราให้ 100/10 อร่อยมาก อยากจะให้มาลอง เราเคยกินที่ในหลายๆ เมือง รวมถึงในไต้หวันเอง ร้านนี้กินแล้วฟินมาก ( แต่ร้านนี้เป็นแฟรนไชซ์นะ ความอร่อยก็คงจะแตกต่างกันไปตามสาขา )
ซึ่งจากประสบการณ์ เซียนโหร่ว แปลตรงตัวคือเนื้อสดแต่มันคือเนื้อหมูอ่ะแหละ สำหรับคนที่พยายามจะหาเนื้อหมูหรือจูโร่ว (猪肉) แล้วไม่เจอตัวจีนตัวนี้ ก็สั่ง เซียนโหร่วทังเปา(鲜肉汤包) รอดชัวร์ เราให้ร้อยละ 99.9 เป็นเนื้อหมู ป่ะ
อีกชามเราสั่งบะหมี่เนื้อหรือนิ๋วโหร่วเมี่ยน (牛肉面)ก็ อร่อยเกินขาดแม้จะดูแพงไปนิด น้ำซุปเรียกว่าเด็ด อันนี้ให้ 8/10 ละกัน
**บางคนงง ทำไมหน้าตามันเหมือนเสี่ยวหลงเปา ทำไมมันเรียกทังเปา เราจะเล่าให้ฟัง
เสี่ยวหลงเปา (小笼包) แปลว่า เปาเข่งเล็ก มีต้นกำเนิดจากเมืองไคเฟิง (开封)หรือคนไทยเรียกไคฟง แรกเริ่มเลยจะเป็นซาลาเปาขนาดและหน้าตาเหมือนที่ไทยแต่จะมีน้ำซุปข้างใน คนจีนเลยเรียกว่า ทังเปา (汤包) ซึ่งทัง (汤) แปลว่าซุป พอย้ายเมืองหลวงมาเป็นหางโจว (杭州) ก็มีการปรับเปลี่ยนเป็นลูกเล็กลงและแป้งบางขึ้นจนเป็น เสี่ยวหลงเปา ซึ่งคนไทยจะรู้จักดีในแบบอาหารไต้หวัน แต่รูปแบบที่ไต้หวันถือกำเนิดที่หางโจว (杭州) แต่ทังเปาแบบแรกก็ยังมีอยู่ เพราะฉะนั้นคนจีนจึงจะสามารถเรียกเปามีน้ำข้างในว่า "ทังเปา"ทั้งหมด ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก แป้งบางหรือไม่บาง และการสั่งบางร้านว่า เสี่ยวหลงเปา อาจจะไม่ได้สื่อว่าเปาลูกเล็กแป้งบางมีน้ำซุป อาจจะเป็นเปาแป้งหนามีน้ำซุปข้างในแต่"เข่งเล็ก" นั่นเองและอูฮั่นเป็นเมืองที่ถูกเรตให้เป็นเมืองที่ เสี่ยวหลงเปาอร่อยที่สุดในจีน ( ถามๆเขามานะ) เราก็ไม่พลาดที่จะกิน
ซื่อจี้เหม่ย เสี่ยวหลงเปา ต้นตำหรับอู่ฮั่นตั้งแต่ปี 1922
บนกำแพงมีวิธีการกินเสี่ยวหลงเปาที่ถูกต้อง 5 ขั้นตอนด้วย อ่านเพลินๆ
พอเรากินเสร็จก็ราวๆ 11 โมง เดินย้อนออกมาซื้อตั๋วเข้าหอกระเรียนเหลือง (黄鹤楼) ราคาสนนที่ 70 หยวน
ที่นี่ เมษายน - ตุลาคม เวลาเปิดปิดคือ 8:00 - 18:00 น. ส่วนพฤศจิกายน – มีนาคม เวลาเปิด 8:00 - 17:00 น. ไงก็วางแผนกันดีๆนะ
พอมาซื้อตั๋วมีความตกใจเบาๆ ที่ทางเข้า ห้องจ่ายตั๋วต่างๆเปลี่ยนไปจาก 6 ปีก่อนมากๆ แล้วเราก็เดินเข้าไปเลย
ตรงส่วนแรกจะเป็นเหมือนสวนเนาะ มีสระน้ำ มีศาบา อะไรก็ว่าไป ใบไม้ก็แดง เหลืองตามสไตล์ คือแบบธันวาแล้วยังแดงอยู่อีก ดูขนาดเปียกปอน สีสันยังสดใสขนาด
ป่ะ เราลุยกันต่อเลย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้