**กระทู้นี้เราเคยเขียนแล้วครั้งนึง เราอยากให้มารวมในไอดีนี้ จึงอัพใหม่อีกครั้งพร้อมกับแก้ไขเพิ่มเติมค่ะ**
สืบเนื่องจากทำงานหนักจนรู้สึกแรมต่ำ เรากับเพื่อนซี๊เลยตกลงว่าไปตำกันสักทริปเหอะที่ไหนก็ได้ กาญจนบุรี เลยกลายเป็นคำตอบที่ลงตัวสำหรับพวกเรา เรายังไม่เคยไปกาญจนบุรีอย่างจริงจังเลยตื่นเต้นตัวดีดเป็นพิเศษค่ะ โดยเราอาสาเป็นคนขับในตลอดทริป
เขี้ยวเงิน ตัวน้อย เป็นเพื่อนคู่ใจในทริปนี้ค่ะ
พวกเราเดินทางจากระยองถึงกาญจนบุรีประมาณเที่ยงค่ะ มื้อเที่ยงเราไปทานข้าวกันที่ "ครัวลุงรัตน์" อาหารอร่อย จานใหญ่ ราคาสมเหตุผลค่ะ ใครไปลองแวะไปดูนะคะ เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปเลยค่ะเพราะหิวจัด จากนั้นเราก็เข้าไปที่ที่พักเพื่อเช็คอินและเอาสัมภาระไปเก็บค่ะ
เราพักที่ "ทายันรีสอร์ทแอนด์สปา" ค่ะ เป็นแพริมแม่น้ำแควค่ะ ราคา 1,500 บ.ต่อคืน ค่ะ ห้องพักหน้าตาประมาณนี้ค่ะ
เอาสัมภาระไปเก็บที่พักเรียบร้อยแล้ว เตรียมเที่ยวต่อเลย....
"พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด" ค่ะ เสียดายที่เราไปถึงช่องเขาขาดช้าค่ะ อีก 20 นาที
พิพิธภัณฑ์ใกล้จะปิดแล้ว เราเลยอ่านประวัติต่างๆได้ไม่ละเอียดนัก พิพิธภัณฑ์ปิด 4 โมงเย็นนะคะ
เผื่อเวลาไว้สักหน่อยก็ดี จะได้ซึมซับและได้ทำความเข้าใจประวัติต่างๆเกี่ยวกับที่นั่นได้ละเอียดขึ้นค่ะ
พิพิธภัณฑ์ "ช่องเขาขาด"
จุดชมวิวของพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด ของจริงสวยมากๆค่ะ
ทางเดินลงไปดูเส้นทางประวัติศาสตร์ ทางรถไฟช่องเขาขาด ค่ะ
มีเก้าอี้ให้นั่งพักด้วย
พอลงมาด้านล่างก็สัมผัสได้ถึงอากาศเย็นๆ สดชื่นมาก มีแต่สีเขียวๆเต็มไปหมด
อุปกรณ์ที่เชลยศึกใช้ทำงานในสมัยนั้นค่ะ น่าเศร้านะคะทั้งที่สถานที่สวยงาม
แต่ต้องมีผู้คนตายมากมายเพราะความโลภของมนุษย์
ประวัติศาสตร์มีให้อ่านตามจุดต่างๆเพื่อความเข้าใจถึงที่มาที่ไป
ดอกไม้สีแดงและไม้กางเขนเพื่อเป็นการไว้อาลัยแด่เชลยศึกผู้วายชนม์ค่ะ
ดอกป๊อปปี้สีแดงแสนเศร้า
มองอะไรแบบนี้แล้วก็รู้สึกใจหดหู่ไม่ได้จริงๆค่ะ
ขอไว้อาลัยแด่ทุกการสูญเสียด้วยคนค่ะ
ความเจ็บปวดที่ไม่มีวันลืมได้ลง
ได้โปรดอย่าเกิดการสูญเสียแบบนี้อีกเลยค่ะ
ขอให้ได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดีนะคะ
อุปกรณ์ไว้สำหรับขนย้ายของที่ใช้ในยุคนั้นค่ะ
เราใช้เวลาอยู่ที่ช่องเขาขาดนานอยู่พอสมควรจนแสงเริ่มหมดแล้ว เรากับเพื่อนก็เลยชวนกันกลับ
แล้วก็ถึงเวลาที่เรารอคอยค่ะ ทานข้าวเย็น อิ้ววววว มื้อนี้เราเลือกไปทานข้าวกันที่
"ร้านอาหารในโฮมพุเตยรีสอร์ท" ค่ะ บรรยากาศฟินาเร่เฟ่อร์
วิวแม่น้ำแควน้อย ในโฮมพุเตยรีสอร์ทค่ะ
รอไม่นาน อาหารมาแล้ว อาหารที่นี่รสชาติดีค่ะ ราคาก็พอควร
แต่ก็ไม่ได้เวอร์วังจนจ่ายไม่ได้นะคะ อิอิ
น้ำสัปปะรดปั่น กับ แตงโมปั่น กับอากาศเย็นนิดๆกำลังสบาย เข้ากันพอดีค่ะ
แกงส้มผักรวมกุ้งสด
ไก่ห่อใบเตย
ปลาทอดราดพริกสามรส
ทานอาหารเสร็จ ได้เวลากลับที่พัก เตรียมตัวเที่ยวกันต่อวันพรุ่งนี้ค่ะ
แอบเก็บวิวดอกหญ้าข้างทางมาฝากอีกนิด อิอิ
ถึงที่พักแล้ว ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะจ๊ะ เตรียมเดินทางไป อ.สังขละบุรี พรุ่งนี้ค่ะ
วันที่ 2 เราตื่นกันแต่เช้า วันนี้มีอาหารเช้าฟรีที่โรงแรมนะเทอว์
นั่งเล่นชิลวนไป ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศบริเวณที่พักค่ะ
อย่ามองตาได้ไหม๊ ถ้าเธอไม่รัก อร๊ายยยยย....ละลาย
มีเปลให้นอนเล่นรับอากาศดีๆในยามเช้าด้วยนะคะ
สบ๊ายยยยยย
น้องเหมียวเจ้าบ้านค่ะ มาวนเวียนกับพวกเราตลอด น่ารัก อยากอุ้มกลับบ้าน ><
แต่ถึงเวลาต้องอำลาแล้ว เจ้าเหมียว บ๊ายบายน้าาา
เดินทางต่อค่ะ เป้าหมายต่อไปของเราคือ อ.สังขละบุรี
ขับยาวไปจากตัวเมืองกาญจนบุรีไปถึงอ.สังขละบุรีราวๆ 200 กว่ากม.ค่ะ ประหนึ่งข้ามจังหวัดกันเลยทีเดียว
ระหว่างทางจอดถ่ายรูปซักหน่อย
ไหนๆก็ทางผ่าน...แวะ น้ำตกไทรโยคน้อย หน่อยแล้วกัน
ถึงน้ำตกไทรโยคน้อยแล้ว
หัวโบกี้รถไฟที่น้ำตกไทรโยคน้อย
น้ำตกไทรโยคน้อย น้ำไม่เยอะเท่าไหร่ แต่สวยดีนะคะ สดชื่น
ได้เวลาเดินทางไปจุดต่อไปแล้วค่ะ เราขับรถขึ้นไปที่อ.สังขละบุรี เส้นทางค่อนข้างมีทางขึ้นเขา
และมีทางโค้งอยู่ตลอดระยะทางค่ะ แต่ก็ไม่ได้สูงชันอะไรมาก ขับระวังๆ ก็ปลอดภัยไร้กังวลค่ะ
ใช้เวลาสักพัก ในที่สุดพวกเราก็ถึง
ที่พักคืนที่ 2 แล้ว Oh!Dee โฮสเทลคือที่พักของเราคืนนี้ค่ะ ราคาประมาณ 1500 บ.
มีแอร์ ทีวี ไวไฟ ห้องน้ำรวมค่ะ เราลืมถ่ายรูปเลยค่ะ มัวรีบๆ ได้มาเท่านี้ ><"
พอดีพี่เจ้าของที่พัก บังเอิญเค้าต้องพาน้องสองคนไปที่น้ำตกซองกาเรียอยู่แล้ว พวกเราเลยขอติดสอยห้อยตามไปด้วย แฮ่.....ดี๊ ดี
ที่ๆพวกเราไปเป็นร้านส้มตำยื่นเข้าไปในน้ำค่ะ กินส้มตำไป เอาเท้าจุ่มน้ำตกเย็นๆไป
สดชื่นมากเลยค่ะ ได้เพื่อนใหม่เป็นรุ่นน้องด้วย คุยไปคุยมากลายเป็นรุ่นน้องลาดกระบังเหมือนกัน
แต่แบบว่าพี่จบมา 10 กว่าปีแล้วค่ะ พูดไปก็เขิน 55555
เอาเท้าจุ่มน้ำเย็นๆ รู้สึกสงบใจ สบายใจบอกไม่ถูก
กินส้มตำไปเอาเท้าแช่น้ำไป เพลินวนไปจ้าาาาา
คุยไปคุยมาสรุปได้ว่าตอนเย็นพวกเราจะไปสะพานมอญแล้วไปเดินชมวิวแถวนั้น
เลยอาสาขับรถพาน้องๆไปด้วยกันเลยค่ะ เรานัดกันตอนราวๆ 5 โมงเย็นค่ะ
พร้อมแล้วก็ขับไปสะพานมอญกันเลยค่ะ ระยะจากที่พักราวๆ 2 กม.ค่ะ
วิวสะพานมอญยามเย็น ได้บรรยากาศไปอีกแบบนะคะ
พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าแล้วค่า
บรรยากาศดีจัง รู้สึกชีวิตช้าลงที่นี่เลยค่ะ
ชีวิตยามค่ำคืน ณ สะพานมอญ
พวกเราเดินเล่นที่ตลาดที่นั่นจนมืด ตกลงกันว่าจะไปหาอะไรทานที่ตลาดง่ายๆ แล้วก็เข้าที่พัก
ช่วงเช้าเราต้องเดินทางต่อไปอ.แก่งเสี้ยน เป็นจุดหมายต่อไปของเราค่ะ
วันนี้พวกเราตื่นกันแต่เช้า มาสังขละบุรีต้องขอแวะไปกราบหลวงพ่ออุตมะก่อนนะคะ พลาดไม่ได้
วัดหลวงพ่ออุตตมะค่ะ
กราบหลวงพ่อเสร็จเรียบร้อย สบายใจแล้ว กำลังจะออกจากตัวเมืองสังขละ
แอบเห็นวัดเล็กๆอยู่ระหว่างทาง ขอแวะหน่อย เพราะสะดุดตากับศิลปะสถาปัตยกรรมแปลกตา
มีป้ายชื่อวัดว่า "วัดสมเด็จ" ค่ะ ดูเหมือนไม่ค่อยมีคนแวะเท่าไหร่
น่าเสียดายนะคะ ทั้งที่ศิลปะน่าสนใจมากๆ ดูเก่าแก่โบราณและสวยงาม
ถ้าปรับปรุงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้คงดีกับทางวัดไม่น้อยเลยนะคะ
เจดีย์ที่วัดสมเด็จค่ะ
พระพุทธรูปองค์ใหญ่มากๆค่ะ
มองจากที่วัดนี้จะเห็นพระประธานองค์ใหญ่ด้วยค่ะ
เสพย์สถาปัตยกรรมอันสวยงาม ที่พบเจอโดยบังเอิญแล้ว
ขอต่อไปที่พักคืนสุดท้ายของเราอะ Heavenly Resort ราคาประมาณ 600 บ. เราไม่ได้ถ่ายที่พักมาเลยค่ะ
เพราะเหนื่อยล้าจากการขับรถด้วยส่วนนึง ไปถึงก็แบบโยนๆของ
นอนพักร่างรอช่วงเย็นจะออกไปสะพานข้ามแม่น้ำแควกันค่ะ ถ่ายรูปอีกแล้วววว
สะพานข้ามแม่น้ำแคว มาเมืองกาญจนบุรีถ้าไม่มาที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงนะคะ
แสงสวยๆยามเย็น
นั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศดีๆที่สะพานกันค่ะ
หลังจากดื่มด่ำกับบรรยากาศจนพอใจแล้ว
ถึงเวลาอาหารค่ะ รอบนี้เราเลือกร้าน "ครัวชุกโดน" อาหารอร่อย ราคาไม่แพงค่ะ
ไม่ได้ถ่ายรูปเพราะหิว 555 ทานเสร็จกลับที่พัก เตรียมตัวเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้ค่ะ
เช้าวันนี้เราจะไป " วัดถ้ำเสือ " กันค่ะ ขับรถไม่นานก็ถึงวัดค่ะ
วัดถ้ำเสือค่ะ
เราขึ้นไปไหว้พระบรมสารีริกธาตุด้วยค่ะ เล่นเอาหอบ
ยอมรับก็ได้ว่าแก่ 55555 ไหว้พระเสร็จพวกเราก็เดินทางต่อ
ถึงเป้าหมายแล้ว ต้นจามจุรียักษ์ ได้ยินว่าร่มเงากินพื้นที่ถึง 1 ไร่เลยทีเดียว
ที่นี่คือสถานที่ปิดทริปของพวกเราค่ะ หลังจากนั้นก็เดินทางกลับระยอง
แวะซื้อเมล่อนกับฟักทองญี่ปุ่นที่ฟาร์มเจียไต๋กับวุ้นเส้นท่าเรือด้วย
ทริปนี้มีความสุขสนุกสนานมากๆเลยค่ะ ถามว่า ดีไหม?
ลองมาสัมผัสด้วยตัวเองดีกว่าค่ะ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นนะคะ
แต่เราสำหรับเราแล้วแฮปปี้มากค่ะ
- ทุกภาพถ่ายด้วยกล้อง Oympus PEN Mini E-PM2 และซัมซุง S7
- ขอบคุณกล้อง Oympus PEN Mini E-PM2 ที่พี่สาวให้ยืมค่ะ
กาญจนบุรี....ดีไหม จัดว่าดี!!!! แล้วเจอกันใหม่ในทริปหน้านะคะ ^^ ขอบคุณค่ะ
**ทุกภาพเราถ่ายเอง ดังนั้นขอสงวนสิทธิ์การนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตทุกกรณีนะคะ ขอบคุณค่ะ
[CR] กาญจนบุรี ดีไหม.....ต้องไปให้รู้
สืบเนื่องจากทำงานหนักจนรู้สึกแรมต่ำ เรากับเพื่อนซี๊เลยตกลงว่าไปตำกันสักทริปเหอะที่ไหนก็ได้ กาญจนบุรี เลยกลายเป็นคำตอบที่ลงตัวสำหรับพวกเรา เรายังไม่เคยไปกาญจนบุรีอย่างจริงจังเลยตื่นเต้นตัวดีดเป็นพิเศษค่ะ โดยเราอาสาเป็นคนขับในตลอดทริป
เขี้ยวเงิน ตัวน้อย เป็นเพื่อนคู่ใจในทริปนี้ค่ะ
พวกเราเดินทางจากระยองถึงกาญจนบุรีประมาณเที่ยงค่ะ มื้อเที่ยงเราไปทานข้าวกันที่ "ครัวลุงรัตน์" อาหารอร่อย จานใหญ่ ราคาสมเหตุผลค่ะ ใครไปลองแวะไปดูนะคะ เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปเลยค่ะเพราะหิวจัด จากนั้นเราก็เข้าไปที่ที่พักเพื่อเช็คอินและเอาสัมภาระไปเก็บค่ะ
เราพักที่ "ทายันรีสอร์ทแอนด์สปา" ค่ะ เป็นแพริมแม่น้ำแควค่ะ ราคา 1,500 บ.ต่อคืน ค่ะ ห้องพักหน้าตาประมาณนี้ค่ะ
เอาสัมภาระไปเก็บที่พักเรียบร้อยแล้ว เตรียมเที่ยวต่อเลย....
"พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด" ค่ะ เสียดายที่เราไปถึงช่องเขาขาดช้าค่ะ อีก 20 นาที
พิพิธภัณฑ์ใกล้จะปิดแล้ว เราเลยอ่านประวัติต่างๆได้ไม่ละเอียดนัก พิพิธภัณฑ์ปิด 4 โมงเย็นนะคะ
เผื่อเวลาไว้สักหน่อยก็ดี จะได้ซึมซับและได้ทำความเข้าใจประวัติต่างๆเกี่ยวกับที่นั่นได้ละเอียดขึ้นค่ะ
พิพิธภัณฑ์ "ช่องเขาขาด"
จุดชมวิวของพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด ของจริงสวยมากๆค่ะ
ทางเดินลงไปดูเส้นทางประวัติศาสตร์ ทางรถไฟช่องเขาขาด ค่ะ
มีเก้าอี้ให้นั่งพักด้วย
พอลงมาด้านล่างก็สัมผัสได้ถึงอากาศเย็นๆ สดชื่นมาก มีแต่สีเขียวๆเต็มไปหมด
อุปกรณ์ที่เชลยศึกใช้ทำงานในสมัยนั้นค่ะ น่าเศร้านะคะทั้งที่สถานที่สวยงาม
แต่ต้องมีผู้คนตายมากมายเพราะความโลภของมนุษย์
ประวัติศาสตร์มีให้อ่านตามจุดต่างๆเพื่อความเข้าใจถึงที่มาที่ไป
ดอกไม้สีแดงและไม้กางเขนเพื่อเป็นการไว้อาลัยแด่เชลยศึกผู้วายชนม์ค่ะ
ดอกป๊อปปี้สีแดงแสนเศร้า
มองอะไรแบบนี้แล้วก็รู้สึกใจหดหู่ไม่ได้จริงๆค่ะ
ขอไว้อาลัยแด่ทุกการสูญเสียด้วยคนค่ะ
ความเจ็บปวดที่ไม่มีวันลืมได้ลง
ได้โปรดอย่าเกิดการสูญเสียแบบนี้อีกเลยค่ะ
ขอให้ได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดีนะคะ
อุปกรณ์ไว้สำหรับขนย้ายของที่ใช้ในยุคนั้นค่ะ
เราใช้เวลาอยู่ที่ช่องเขาขาดนานอยู่พอสมควรจนแสงเริ่มหมดแล้ว เรากับเพื่อนก็เลยชวนกันกลับ
แล้วก็ถึงเวลาที่เรารอคอยค่ะ ทานข้าวเย็น อิ้ววววว มื้อนี้เราเลือกไปทานข้าวกันที่
"ร้านอาหารในโฮมพุเตยรีสอร์ท" ค่ะ บรรยากาศฟินาเร่เฟ่อร์
วิวแม่น้ำแควน้อย ในโฮมพุเตยรีสอร์ทค่ะ
รอไม่นาน อาหารมาแล้ว อาหารที่นี่รสชาติดีค่ะ ราคาก็พอควร
แต่ก็ไม่ได้เวอร์วังจนจ่ายไม่ได้นะคะ อิอิ
น้ำสัปปะรดปั่น กับ แตงโมปั่น กับอากาศเย็นนิดๆกำลังสบาย เข้ากันพอดีค่ะ
แกงส้มผักรวมกุ้งสด
ไก่ห่อใบเตย
ปลาทอดราดพริกสามรส
ทานอาหารเสร็จ ได้เวลากลับที่พัก เตรียมตัวเที่ยวกันต่อวันพรุ่งนี้ค่ะ
แอบเก็บวิวดอกหญ้าข้างทางมาฝากอีกนิด อิอิ
ถึงที่พักแล้ว ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะจ๊ะ เตรียมเดินทางไป อ.สังขละบุรี พรุ่งนี้ค่ะ
วันที่ 2 เราตื่นกันแต่เช้า วันนี้มีอาหารเช้าฟรีที่โรงแรมนะเทอว์
นั่งเล่นชิลวนไป ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศบริเวณที่พักค่ะ
อย่ามองตาได้ไหม๊ ถ้าเธอไม่รัก อร๊ายยยยย....ละลาย
มีเปลให้นอนเล่นรับอากาศดีๆในยามเช้าด้วยนะคะ
สบ๊ายยยยยย
น้องเหมียวเจ้าบ้านค่ะ มาวนเวียนกับพวกเราตลอด น่ารัก อยากอุ้มกลับบ้าน ><
แต่ถึงเวลาต้องอำลาแล้ว เจ้าเหมียว บ๊ายบายน้าาา
เดินทางต่อค่ะ เป้าหมายต่อไปของเราคือ อ.สังขละบุรี
ขับยาวไปจากตัวเมืองกาญจนบุรีไปถึงอ.สังขละบุรีราวๆ 200 กว่ากม.ค่ะ ประหนึ่งข้ามจังหวัดกันเลยทีเดียว
ระหว่างทางจอดถ่ายรูปซักหน่อย
ไหนๆก็ทางผ่าน...แวะ น้ำตกไทรโยคน้อย หน่อยแล้วกัน
ถึงน้ำตกไทรโยคน้อยแล้ว
หัวโบกี้รถไฟที่น้ำตกไทรโยคน้อย
น้ำตกไทรโยคน้อย น้ำไม่เยอะเท่าไหร่ แต่สวยดีนะคะ สดชื่น
ได้เวลาเดินทางไปจุดต่อไปแล้วค่ะ เราขับรถขึ้นไปที่อ.สังขละบุรี เส้นทางค่อนข้างมีทางขึ้นเขา
และมีทางโค้งอยู่ตลอดระยะทางค่ะ แต่ก็ไม่ได้สูงชันอะไรมาก ขับระวังๆ ก็ปลอดภัยไร้กังวลค่ะ
ใช้เวลาสักพัก ในที่สุดพวกเราก็ถึง
ที่พักคืนที่ 2 แล้ว Oh!Dee โฮสเทลคือที่พักของเราคืนนี้ค่ะ ราคาประมาณ 1500 บ.
มีแอร์ ทีวี ไวไฟ ห้องน้ำรวมค่ะ เราลืมถ่ายรูปเลยค่ะ มัวรีบๆ ได้มาเท่านี้ ><"
พอดีพี่เจ้าของที่พัก บังเอิญเค้าต้องพาน้องสองคนไปที่น้ำตกซองกาเรียอยู่แล้ว พวกเราเลยขอติดสอยห้อยตามไปด้วย แฮ่.....ดี๊ ดี
ที่ๆพวกเราไปเป็นร้านส้มตำยื่นเข้าไปในน้ำค่ะ กินส้มตำไป เอาเท้าจุ่มน้ำตกเย็นๆไป
สดชื่นมากเลยค่ะ ได้เพื่อนใหม่เป็นรุ่นน้องด้วย คุยไปคุยมากลายเป็นรุ่นน้องลาดกระบังเหมือนกัน
แต่แบบว่าพี่จบมา 10 กว่าปีแล้วค่ะ พูดไปก็เขิน 55555
เอาเท้าจุ่มน้ำเย็นๆ รู้สึกสงบใจ สบายใจบอกไม่ถูก
กินส้มตำไปเอาเท้าแช่น้ำไป เพลินวนไปจ้าาาาา
คุยไปคุยมาสรุปได้ว่าตอนเย็นพวกเราจะไปสะพานมอญแล้วไปเดินชมวิวแถวนั้น
เลยอาสาขับรถพาน้องๆไปด้วยกันเลยค่ะ เรานัดกันตอนราวๆ 5 โมงเย็นค่ะ
พร้อมแล้วก็ขับไปสะพานมอญกันเลยค่ะ ระยะจากที่พักราวๆ 2 กม.ค่ะ
วิวสะพานมอญยามเย็น ได้บรรยากาศไปอีกแบบนะคะ
พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าแล้วค่า
บรรยากาศดีจัง รู้สึกชีวิตช้าลงที่นี่เลยค่ะ
ชีวิตยามค่ำคืน ณ สะพานมอญ
พวกเราเดินเล่นที่ตลาดที่นั่นจนมืด ตกลงกันว่าจะไปหาอะไรทานที่ตลาดง่ายๆ แล้วก็เข้าที่พัก
ช่วงเช้าเราต้องเดินทางต่อไปอ.แก่งเสี้ยน เป็นจุดหมายต่อไปของเราค่ะ
วันนี้พวกเราตื่นกันแต่เช้า มาสังขละบุรีต้องขอแวะไปกราบหลวงพ่ออุตมะก่อนนะคะ พลาดไม่ได้
วัดหลวงพ่ออุตตมะค่ะ
กราบหลวงพ่อเสร็จเรียบร้อย สบายใจแล้ว กำลังจะออกจากตัวเมืองสังขละ
แอบเห็นวัดเล็กๆอยู่ระหว่างทาง ขอแวะหน่อย เพราะสะดุดตากับศิลปะสถาปัตยกรรมแปลกตา
มีป้ายชื่อวัดว่า "วัดสมเด็จ" ค่ะ ดูเหมือนไม่ค่อยมีคนแวะเท่าไหร่
น่าเสียดายนะคะ ทั้งที่ศิลปะน่าสนใจมากๆ ดูเก่าแก่โบราณและสวยงาม
ถ้าปรับปรุงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้คงดีกับทางวัดไม่น้อยเลยนะคะ
เจดีย์ที่วัดสมเด็จค่ะ
พระพุทธรูปองค์ใหญ่มากๆค่ะ
มองจากที่วัดนี้จะเห็นพระประธานองค์ใหญ่ด้วยค่ะ
เสพย์สถาปัตยกรรมอันสวยงาม ที่พบเจอโดยบังเอิญแล้ว
ขอต่อไปที่พักคืนสุดท้ายของเราอะ Heavenly Resort ราคาประมาณ 600 บ. เราไม่ได้ถ่ายที่พักมาเลยค่ะ
เพราะเหนื่อยล้าจากการขับรถด้วยส่วนนึง ไปถึงก็แบบโยนๆของ
นอนพักร่างรอช่วงเย็นจะออกไปสะพานข้ามแม่น้ำแควกันค่ะ ถ่ายรูปอีกแล้วววว
สะพานข้ามแม่น้ำแคว มาเมืองกาญจนบุรีถ้าไม่มาที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงนะคะ
แสงสวยๆยามเย็น
นั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศดีๆที่สะพานกันค่ะ
หลังจากดื่มด่ำกับบรรยากาศจนพอใจแล้ว
ถึงเวลาอาหารค่ะ รอบนี้เราเลือกร้าน "ครัวชุกโดน" อาหารอร่อย ราคาไม่แพงค่ะ
ไม่ได้ถ่ายรูปเพราะหิว 555 ทานเสร็จกลับที่พัก เตรียมตัวเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้ค่ะ
เช้าวันนี้เราจะไป " วัดถ้ำเสือ " กันค่ะ ขับรถไม่นานก็ถึงวัดค่ะ
วัดถ้ำเสือค่ะ
เราขึ้นไปไหว้พระบรมสารีริกธาตุด้วยค่ะ เล่นเอาหอบ
ยอมรับก็ได้ว่าแก่ 55555 ไหว้พระเสร็จพวกเราก็เดินทางต่อ
ถึงเป้าหมายแล้ว ต้นจามจุรียักษ์ ได้ยินว่าร่มเงากินพื้นที่ถึง 1 ไร่เลยทีเดียว
ที่นี่คือสถานที่ปิดทริปของพวกเราค่ะ หลังจากนั้นก็เดินทางกลับระยอง
แวะซื้อเมล่อนกับฟักทองญี่ปุ่นที่ฟาร์มเจียไต๋กับวุ้นเส้นท่าเรือด้วย
ทริปนี้มีความสุขสนุกสนานมากๆเลยค่ะ ถามว่า ดีไหม?
ลองมาสัมผัสด้วยตัวเองดีกว่าค่ะ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นนะคะ
แต่เราสำหรับเราแล้วแฮปปี้มากค่ะ
- ทุกภาพถ่ายด้วยกล้อง Oympus PEN Mini E-PM2 และซัมซุง S7
- ขอบคุณกล้อง Oympus PEN Mini E-PM2 ที่พี่สาวให้ยืมค่ะ
กาญจนบุรี....ดีไหม จัดว่าดี!!!! แล้วเจอกันใหม่ในทริปหน้านะคะ ^^ ขอบคุณค่ะ
**ทุกภาพเราถ่ายเอง ดังนั้นขอสงวนสิทธิ์การนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตทุกกรณีนะคะ ขอบคุณค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้