คือเรื่องมีอยู่ว่า.. พ่อของสามีเรามีแฟนใหม่เป็นคนภาคอีสานอายุยังน้อย พ่อสามีเราอายุเลข5แล้ว ได้แฟนใหม่อายุเลย3ต้นๆอยู่เลยค่ะ
เมื่อ4-5วันที่ผ่านมาเขาทะเลาะกันหนักมาก และแม่ก็เลยกลับไปบ้านที่อุดรค่ะ พ่อไม่กินอะไรอยู่2-3วัน ไม่คุยกับคนในบ้านเลย กลับมากจากทำงานเย็นก็อยู่แต่ในห้อง ข้าวปลาไม่กิน ร้องไห้ฟูมฟาย
แล้ววันรุ่งเช้า ป้าซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆของพ่อ ได้ไปกวาดห้อง ถอดปลอกหมอน ผ้าปูที่นอนไปซัก ดันไปเจอ ผ้าอนามัยเปื้อนเลือด เป็นก้อนๆ เท่านิ้วโป้งอะค่ะ 3ก้อน ม้วนๆ พันกระดาษทิษชู่แล้วมัดด้วยสายสิน 3มัด ใส่อยู่ในปลอกหมอนของพ่อ ที่พ่อนอน ป้าเลยแกะออกแล้วนำไปเผาไฟ
แล้วพ่อกลับมาตอนเย็น (ป้าไม่บอกพ่อนะค่ะว่าเจออะไรในปลอกหมอน ป้ามาบอกสามีเรา สามีเลยมาเล่าให้เราฟัง) พ่อซึ่งเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยค่ะ จากที่อยู่แต่ในห้องข้าวปลาไม่กิน วันนี้กลับมานั่งกินข้าวกันพร้อมหน้าปกติเหมือนทุกๆวัน หลังจากที่เอาของนั้นไปเผา
มาวันรุ่งเช้ามืด เขานั่งคุยกันหน้าบ้าน ลุงซึ่งเป็นสามีป้า บอกพ่อว่าพ่อโดนของนะ ป้าเขาเจอผ้าอนามัยใต้หมอนพ่อ จากนั้น พ่อก็เล่าว่า เมื่อคืนนอน มีน้ำเหลืองย้อยใส่พ่อแก ต๊อบๆๆ เราได้ยินเขาเล่าก็ตกใจ เมื่อคืนเราเห็นพ่อเปิดไฟนอนทั้งคืนเลย น่ากลัวมากๆค่ะ
เราอยากทราบว่าของแบบนี้ที่เขาทำ ได้เอาไปเผาแล้วของจะหายไหมค่ะหรือต้องไปให้หมอบ้านแก้ให้ ให้พระแก้ให้อีกที ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นค่ะ
**เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะค่ะ ตอนแรกเราก็ไม่เชื่อ จนมาเจอกับคนในครอบครัวของสามีนี่แหละค่ะถึงได้เชื่อ