นั่งดูเชลซี vs แมนยู ก่อนเกมส์คิดว่า ซาร์รี่คงเห็นจุดอ่อนทีมตัวเองบ้าง จากนัดที่แพ้ แมนซิยับเยิน
เกมส์เชลซี ถ้าหยุด อาซาร์ได้ และไล่บี้ไม่ให้จอร์จินโย่ ได้ขึ้นเกมส์ถนัดๆ เกมส์เชลซีแทบไม่มีอะไรเลย คือครองบอลได้ วนไปมานอกกรอบ แต่พอถึงเขตอันตราย แทบไม่มีนักเตะเชลซี อยู่ในกรอบโทษเลยสักคน
การเปลี่ยนตัวยิ่งแย่ไปใหญ่ เปลี่ยนตามตำแหน่งทั้งหมด ไล่ตั้งแต่ บาร์คลี่ (แทนโควาเซวิช) วิลเลี่ยน (แทนเปโดร) ซับปาคอสต้า (แทนแอซปิลิกวยเอต้า)
เมื่อเล่นแผนเดิมๆ รูปเกมส์มันก็เหมือนเดิม คือบอลจะวนไปมาซ้ายขวา รอบๆกรอบโทษ พอจะเข้าทำในพื้นที่สุดท้าย ก็ไม่ค่อยมีใครในกรอบให้เป็นเป้าหมาย
วนเวียนแบบนี้
ในส่วนของแมนยู และโซลชา หลังจากเข้าไปนั่งดูเกมส์นัดที่แมนซิถล่มเชลซี คงได้ไอเดียมาเยอะ ทั้งเรื่องการปิดอาซาร์ การบีบจอร์จินโย่ และการใช้นักเตะความเร็ว โจมตีด้านข้าง (บริเวณแบ็ค) เนื่องจากเชลซี มักจะใช้แบ็คดันสูง เพื่อใช้การโอเวอร์แลป ดังนั้นเมื่อแมนยูตัดเกมส์ได้ ก็จะโจมตีบริเวณนั้นด้วยนักเตะที่มีความเร็ว
ประตูทั้ง 2 ที่ได้ ก็ได้จากการเริ่มเกมส์ในบริเวณด้านข้างทั้งหมด ประตูแรก ทางซ้าย (ของแมนยู) ป้อกบาได้ดวลเดี่ยวกับรูดิเกอร์ และมีชอว์วิ่งแลปมา ทำให้ป้อกบาได้เปิดอย่างสบายๆ และก็เป็น เอร์เรร่าที่วิ่งมาจากแถวสอง เข้ามาโหม่ง
ส่วนประตูที่สอง เกิดจากการขึ้นเกมส์ด้านขวา ป้อกบาแย่งบอลได้ตรงกลางสนาม แทงสวนทางแบ็คอลอนโซ่ที่ลอยสูง ทำให้ ลุยซ์ต้องออกมาปิดแทน และก็ต้องชม แรชฟอร์ด ที่เปิดได้แม่นยำและป้อกบาที่วิ่งมาจากแถวสองเช่นเดิม โถมมาโขกได้พอเหมาะ
จุดที่ต้องปรับปรุง ก็คือ ตัวของ ลูกากูเอง ที่มักจะเสียบอลง่ายเกินไป ตัวใหญ่ แต่การบังบอล การพักบอล ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไร เสียบอลง่ายมากๆ และเป็นนักเตะที่ไม่ค่อยวิ่งเข้าช่อง มักจะยืนหันหลังให้ประตู (เหมือนจะพยายามเป้นตัวคอยพักบอล แต่ด้วยความที่จับบอลไม่ดีอย่างมาก จ่ายไปก็เสียบอลตลอด) อย่างลูกที่สอง กลับเป็นป้อกบาที่วิ่งมาจากแถวสอง ทั้งๆที่ในกรอบควรจะมีลูกากูคอยเข้าฮอสด้วยซ้ำ
สุดท้าย ก็ต้องชมแมนยู และโชลซา ที่มีการวางแผนมาดี วิเคราะห์จุดอ่อนของคู่ต่อสู้ และใช้จุดนั้นให้เป็นประโยชน์ได้ดี
หวังว่ารอบหน้า จะเจอทีมเล็กๆบ้าง จะได้หายใจหายคอกันได้สะดวกหน่อย ช่วงนี้เกมส์ใหญ่ๆชุกเหลือเกิน
ซาร์รี่ หมดมุขแล้วมั้งครับ แผนเดียวทั้งเกมส์ และหลายๆเกมส์ก็แผนเดิมๆ
เกมส์เชลซี ถ้าหยุด อาซาร์ได้ และไล่บี้ไม่ให้จอร์จินโย่ ได้ขึ้นเกมส์ถนัดๆ เกมส์เชลซีแทบไม่มีอะไรเลย คือครองบอลได้ วนไปมานอกกรอบ แต่พอถึงเขตอันตราย แทบไม่มีนักเตะเชลซี อยู่ในกรอบโทษเลยสักคน
การเปลี่ยนตัวยิ่งแย่ไปใหญ่ เปลี่ยนตามตำแหน่งทั้งหมด ไล่ตั้งแต่ บาร์คลี่ (แทนโควาเซวิช) วิลเลี่ยน (แทนเปโดร) ซับปาคอสต้า (แทนแอซปิลิกวยเอต้า)
เมื่อเล่นแผนเดิมๆ รูปเกมส์มันก็เหมือนเดิม คือบอลจะวนไปมาซ้ายขวา รอบๆกรอบโทษ พอจะเข้าทำในพื้นที่สุดท้าย ก็ไม่ค่อยมีใครในกรอบให้เป็นเป้าหมาย
วนเวียนแบบนี้
ในส่วนของแมนยู และโซลชา หลังจากเข้าไปนั่งดูเกมส์นัดที่แมนซิถล่มเชลซี คงได้ไอเดียมาเยอะ ทั้งเรื่องการปิดอาซาร์ การบีบจอร์จินโย่ และการใช้นักเตะความเร็ว โจมตีด้านข้าง (บริเวณแบ็ค) เนื่องจากเชลซี มักจะใช้แบ็คดันสูง เพื่อใช้การโอเวอร์แลป ดังนั้นเมื่อแมนยูตัดเกมส์ได้ ก็จะโจมตีบริเวณนั้นด้วยนักเตะที่มีความเร็ว
ประตูทั้ง 2 ที่ได้ ก็ได้จากการเริ่มเกมส์ในบริเวณด้านข้างทั้งหมด ประตูแรก ทางซ้าย (ของแมนยู) ป้อกบาได้ดวลเดี่ยวกับรูดิเกอร์ และมีชอว์วิ่งแลปมา ทำให้ป้อกบาได้เปิดอย่างสบายๆ และก็เป็น เอร์เรร่าที่วิ่งมาจากแถวสอง เข้ามาโหม่ง
ส่วนประตูที่สอง เกิดจากการขึ้นเกมส์ด้านขวา ป้อกบาแย่งบอลได้ตรงกลางสนาม แทงสวนทางแบ็คอลอนโซ่ที่ลอยสูง ทำให้ ลุยซ์ต้องออกมาปิดแทน และก็ต้องชม แรชฟอร์ด ที่เปิดได้แม่นยำและป้อกบาที่วิ่งมาจากแถวสองเช่นเดิม โถมมาโขกได้พอเหมาะ
จุดที่ต้องปรับปรุง ก็คือ ตัวของ ลูกากูเอง ที่มักจะเสียบอลง่ายเกินไป ตัวใหญ่ แต่การบังบอล การพักบอล ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไร เสียบอลง่ายมากๆ และเป็นนักเตะที่ไม่ค่อยวิ่งเข้าช่อง มักจะยืนหันหลังให้ประตู (เหมือนจะพยายามเป้นตัวคอยพักบอล แต่ด้วยความที่จับบอลไม่ดีอย่างมาก จ่ายไปก็เสียบอลตลอด) อย่างลูกที่สอง กลับเป็นป้อกบาที่วิ่งมาจากแถวสอง ทั้งๆที่ในกรอบควรจะมีลูกากูคอยเข้าฮอสด้วยซ้ำ
สุดท้าย ก็ต้องชมแมนยู และโชลซา ที่มีการวางแผนมาดี วิเคราะห์จุดอ่อนของคู่ต่อสู้ และใช้จุดนั้นให้เป็นประโยชน์ได้ดี
หวังว่ารอบหน้า จะเจอทีมเล็กๆบ้าง จะได้หายใจหายคอกันได้สะดวกหน่อย ช่วงนี้เกมส์ใหญ่ๆชุกเหลือเกิน