สวัสดีครับ วันนี้ผมจะขอพาทุกคนไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตเบียร์ยี่ห้อยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Budweiser ถึงถิ่นโรงงานผลิตที่เมือง St Louis รัฐ Missouri สหรัฐอเมริกา ที่สำคัญคืองานนี้ได้ชิมเบียร์ Budweiser กันแบบฟรีๆ ด้วยครับ และแถมท้ายด้วยการแวะช็อปซื้อเบียร์ Budweiser หลากหลายรสชาติเอากลับไปฝากคนที่เมืองไทยกันในแบบราคาประทับใจสุดๆ ครับ

รู้จักเบียร์ยี่ห้อ Budweiser กันก่อน
หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินชื่อเบียร์ยี่ห้อนี้กันมาบ้างนะครับ Budweiser คือเบียร์สัญชาติอเมริกันซึ่งผลิตโดยบริษัท Anheuser-Busch ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันมีส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share) ในธุรกิจเบียร์สูงที่สุดในประเทศกว่า 41% เลยทีเดียวครับ (อ้างอิงข้อมูลตาม https://www.nbwa.org/resources/industry-fast-facts) และมียอดขายสูงที่สุดในระดับโลกอีกด้วยครับ สุดยอดจริงๆ


Budweiser มีฐานการผลิตและสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมือง St Louis รัฐ Missouri ในแถบภูมิภาค Midwest ของสหรัฐอเมริกาครับ ก่อตั้งมานานกว่า 143 ปีตั้งแต่ค.ศ. 1876 ถือเป็นแบรนด์เก่าแก่และอยู่คู่กันคนอเมริกันมาอย่างยาวนาน เรียกได้ว่าถ้าใครที่จะมาเที่ยวอเมริกาก็ควรมาลองชิมเบียร์ยี่ห้อนี้ดูซักครั้งนะครับ

Budweiser Brewery Tour Experience
ปัจจุบัน Budweiser Brewery Tour มีเปิดให้เข้าชมอยู่ในหลายเมืองของอเมริกาครับ แต่ในวันนี้ผมจะพามาที่ Original หรือจุดเริ่มต้นของเบียร์ยี่ห้อนี้กันที่เมือง St Louis เลยครับ โรงงานผลิตเบียร์ของ Budweiser ที่ St Louis ตั้งอยู่บนถนน Lynch St ย่าน Soulard ใกล้แม่น้ำ Mississipi อยู่เยื้องมาทางตอนใต้ของเมืองครับ


โดยทัวร์นั้นเปิดให้นักท่องเที่ยวรวมถึงประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมกระบวนการผลิตเบียร์สุด Exclusive นี้ได้แต่ต้องเตรียม Passport หรือ ID Card (สำหรับใครที่ถือ Green Card หรือ Student ID Card) มาด้วยนะครับ เพราะที่นี่จะอนุญาตให้คนที่อายุ 21 ปีขึ้นไปถึงจะสามารถชิมเบียร์ได้ครับ ถ้าน้องๆ คนไหนอายุยังไม่ถึงสามารถเข้าร่วมทัวร์ได้ แต่จะไม่ได้รับอนุญาตให้ชิมเบียร์นะครับ

โดย Budweiser Brewery Experience ที่เมือง St Louis นี้จะแบ่งทัวร์ออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้ครับ

1. The General Brewery Tour: คือทัวร์ดูการผลิตเบียร์ 7 ขั้นตอนแถมได้ชิมเบียร์ฟรีด้วยครับ ซึ่งสามารถเข้าร่วมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายหรือฟรีนั่นเอง แต่จะใช้ระบบ First Come First Serve มาก่อนได้ก่อนนะครับ แต่ถ้าใครอยากจะจองทัวร์ในเวลาที่ตัวเองต้องการจะเสียค่าจองเพิ่ม $5 ครับ ใช้เวลาเข้าชมประมาณ 45 นาทีครับ

2. The Bud Light Tour: เป็นทัวร์ที่พาไปดูการผลิตเบียร์รุ่นที่ขายดีที่สุดอย่าง Bud Light ได้เข้าชมการหมักเบียร์ และการทำ Packaging ต่างๆ มีค่าเข้าชม $10 ใช้เวลาประมาณ​ 75 นาที

3. Beermaster Tour: เป็นทัวร์จะพาไปดูเบื้องหลังและขั้นตอนการผลิตเบียร์ Budweiser อย่างละเอียด และมีเบียร์ให้ชิมสดๆ ตักให้ชิมจากในถังเลยทีเดียว มีค่าเข้าชม $35 ใช้เวลาราวๆ 2 ชม.

ในการมาเที่ยว Budweiser Brewery Tour ครั้งนี้ แน่นอนครับ ผมเลือก General Brewery (Free) Tour แบบแรก ฮ่าฮ่า แนะนำให้มาช่วงเช้าๆ นะครับ คนจะไม่เยอะมาก มาถึงก็ทำการจองคิวและรับบัตรคิวเข้าร่วมทัวร์ตามเวลาที่ทาง Budweiser จัดไว้ให้


เข้ามาด้านในจะเจอผู้คนรอเข้าร่วมทัวร์มากมาย


ทำการลงทะเบียนและจองคิว แล้วก็จะได้บัตรคิวมาแบบนี้ครับ

Budweiser Clydesdales

จุดแรกที่ไกด์ทัวร์พาผมมาดูคือคอกม้าคลายเดสเดลส์ (Clydesdales) ซึ่งเป็นพันธุ์ของม้าที่ Budweiser ใช้เป็นสัญลักษณ์ในการโปรโมทสินค้ารวมถึงการทำ Branding การตลาด ต่างๆ ก็จะใช้ม้าพันธุ์นี้ทั้งหมดครับ ซึ่งเจ้าม้า Clydesdales นี้มีการเลี้ยงอยู่ในพื้นที่แถบเมือง St Louis เป็นจำนวนมาก และยังเคยมีการใช้ม้าพันธุ์นี้ในอีเว้นท์ใหญ่ๆ ของคนอเมริกันเช่น เอาไปใช้เป็นพรีเซ็นเตอร์ถ่ายทำโฆษณาเบียร์ Budweiser ในเกม SuperBowl ซึ่งเป็นอีเว้นท์ใหญ่ประจำปีของคนอเมริกันเลยทีเดียว


โฆษณา Budweiser ในเกม Super Bowl 2019 ที่ผ่านมาก็ใช้ม้า Clydesdales เป็น Presenter เช่นกัน

Beechwood Aging Cellars
หลังจากชมคอกม้า Clydesdales แล้วไกด์ทัวร์ก็พาเราเข้ามาที่โรงงานผลิตเบียร์กันแล้วครับ เริ่มต้นกันที่โรงหมักเบียร์ Beechwood Aging Cellars ซึ่งใช้ในการหมักเบียร์​ Budweiser ครับ โดยเบียร์ Budweiser นั้นมีส่วนผสมมาจากข้าวบาร์เลย์มอลต์ ข้าว น้ำ ฮ็อปส์ และยีสต์ หมักรวมกันโดยใช้ไม้ Beechwood ในการบ่มครับ โดยถังหมักเบียร์ที่นี่ 1 ถังจุได้ถึง 3600 บาร์เรลเลยทีเดียว ใหญ่มากกก


ชิมเบียร์ฟรี จุดที่ 1
หลังจากเที่ยวชมโรงหมักเบียร์แล้ว ไกด์ทัวร์ก็พาเรามายังโรงผลิตเบียร์ที่อยู่อีกอาคารหนึ่ง พอเปิดประตูเข้าไปก็มีเบียร์ Budweiser ไว้ให้เราชิมฟรีได้คนละ 1 แก้วโดยให้เลือกระหว่าง Budweiser Original กับ Bud Light ครับ ซึ่งระหว่างนั่งชิมเบียร์ ไกด์ก็ได้เล่าอธิบายส่วนผสมต่างๆ ของเบียร์ว่าทำมาจากอะไรยังไงบ้าง ก็เป็นไปตามที่ผมได้บอกไปในก่อนหน้าเลยครับ บอกตรงๆ ว่าแทบไม่ได้ฟังอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เพราะมัวแต่ชิมเบียร์ ฮ่าฮ่า ในจุดๆ นี้ผมเลือกชิม Budweiser Original รสชาติก็อร่อยดีครับ ไม่ขม ไม่บาดคอ


ความแตกต่างระหว่าง Budweiser และ Bud Light คร่าวๆ ก็คือเค้าบอกว่า Bud Light จะให้รสชาติที่นุ่มกว่าและมีปริมาณแอลกอฮอล์และแคลอรี่ที่ต่ำกว่า Budweiser เล็กน้อยครับ ได้ฟังแล้วก็ยิ่งทำให้ผมอยากชิม Bud Light ขึ้นมาเลยย

Mashing Process
หลังจากชิมเบียร์เสร็จแล้ว ไกด์ก็พาเราไปดูกระบวนการ Mashing Process เป็นหนึ่งในขั้นตอนของการผลิตเบียร์ของ Budweiser ครับ ซึ่งมันคือกระบวนการผสมข้าวบาร์เลย์มอลต์ ข้าว และน้ำร้อนเข้าด้วยกัน และเพื่อกระตุ้นให้เอ็นไซม์ของแป้งที่อยู่ในข้าวบาร์เลย์มอลต์เปลี่ยนเป็นน้ำตาล (ความหวานของเบียร์ก็มาจากจุดๆ นี้แหละครับ)​ มีการควบคุมอุณหภูมิซึ่งจะมีผลต่อรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการของเบียร์ครับ


Straining Process
หลังจากที่ผ่าน Mashing Process แล้วเราจะได้เบียร์ในรูปแบบที่ยังไม่ผ่านการหมัก (Unfermented Beer) หรือที่ภาษาทางเทคนิคจะเรียกว่า “Wort” ซึ่งก่อนที่จะนำไปหมักจะต้องนำมาผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Straining Process (หรือบางคนก็เรียกว่า “Lautering Process”) ซึ่งเป็นวิธีการแยกเปลือก (Husks) หรือของแข็ง (Solid) ของพวกเมล็ดข้าวมอลต์ต่างๆ ออกจากของเหลวให้หมด ผลที่ได้คือจะได้ Wort ที่เป็นของเหลวที่พร้อมจะนำไปสกัดออกมาเป็นเบียร์ต่อไป


สมัยก่อนจะมีเครื่องที่เรียกว่า “Grant” ใช้ในกระบวนการ Straining Process

หลังจากผ่านกระบวนการหมัก เบียร์ของ Budweiser จะใช้เวลาในการผลิตรวมแล้วทั้งหมดประมาณ 30 วันก่อนจะนำออกไปวางจำหน่ายได้ครับ ซึ่งผมว่าค่อนข้างเร็วมากๆ เลยนะ

ชิมเบียร์ฟรีจุดที่ 2
หลังจากที่ได้ไปดูกระบวนการผลิตเบียร์มาทั้งหมดแล้ว ไกด์ก็พาเรามายังจุดสุดท้ายของทัวร์นี้ก็คือการให้ชิมเบียร์ฟรีอีก 1 รอบ คราวนี้มาแก้วใหญ่กว่าเดิมอีกครับ ดื่มได้คนละ 1 แก้วเหมือนเช่นเคย คราวนี้ผมเลือกชิมเบียร์ Bud Light ผลคือชอบมากครับ รสชาติดี นุ่ม ไม่หวานจนเกินไป ดื่มได้เรื่อยๆ

พนง. Budweiser กดเบียร์ให้ชิมกันสดๆ ทีละแก้วเลย

ซื้อเบียร์ Budweiser กลับบ้านในราคาประทับใจ
หลังจากชิมเบียร์ไปสองแก้วก็เริ่มมึนครับ ต้องเดินหาอะไรดูหน่อยแล้วครับ ฮ่าฮ่า ที่โรงงาน Budweiser นี้จะมีส่วนที่เป็น Gift Shop ขายสินค้าที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยวสามารถซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านกันได้ครับ ซึ่งที่นี่มีเบียร์ขายเยอะมากก ไม่เฉพาะ Budweiser และ Bud Light แต่ยังมี Brand อื่นๆ ในเครือของ Anheuser-Busch วางจำหน่ายอีกเพียบ ซึ่งราคาดีงามมาก เบียร์ 6 ขวดราคา $9.95 (ไม่รวม Tax) ซึ่งถือว่าถูกมากครับ นอกจากนี้ก็ยังมีของใช้ต่างๆ อีกมากมายไม่ได้มีขายเฉพาะเบียร์ครับ ใครที่ไม่ดื่มก็สามารถมาเลือกช็อปได้เช่นกัน

เบียร์ 6 ขวด ยี่ห้อไหนก็ได้ เหมาๆ ราคา $9.95 กันไปเลยย

ที่นี่ไม่ขายแยกขวดด้วยนะครับ ต้องซื้อเหมา 6 ขวดเท่านั้น

ก็ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกที่ที่ประทับใจสำหรับผมในการไปเที่ยวอเมริกาครั้งนี้ครับ ถ้าใครสนใจลองเข้าไปเช็ควันเวลาเปิด-ปิด รายละเอียดของทัวร์ รวมถึง Budweiser Brewery Tour ที่เมืองอื่นๆ ได้ที่ https://www.budweisertours.com/ เลยครับ Enjoy~