มันเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่เรายังจำความอบอุ่นนั้นจนถึงวันนี้. ตอนแรกๆที่มาตามวง เราไม่มีคามิเลยนะ แอบถามตัวเองอยู่เหมือนกันนะตอนนั้น ว่าจะมี เมมเบอร์คนไหนที่ทำให้เราเรียกเค้าว่าเป็นคามิได้?  นั้นแหละ เราเริ่มมีอาการตงิดๆล่ะ จากไลฟ์ตูปล้า ชราไลน์ย้อนยุค น้ำหนึ่งในไลฟ์นั้นคือ ตลกมาก ละสายตาจาก นน ไม่ได้เลย เอ๋ คนนี้มันไม่ธรรมดาเลยเว้ย อ่ะะะ เอ่ออ!!! คนนี้แหละ ตลกดีนะ สวยด้วย. เราเลยเริ่มตาม น้ำหนึ่ง จากทวิตเตอร์บ้าง แฟนเพจบ้าง ไอจีบ้าง.
และแล้ว มันมีวันหนึ่ง กำลังดูทวิตอยู่ แล้วมีน้องคนหนึ่งถามว่า พี่ชอบ น้ำหนึ่งหรอคะ? เราก็ตอบไปว่า ค่ะ. น้องบอกต่อมาว่า หนูมีห้องไลน์ มลล อยู่นะคะ พี่จะเข้ามั้ย? เราก็ เข้าก็ได้ค่ะ กำลังหาอยู่เหมือนกัน จากนั้นน้องก็ดึงเราเข้าไป.
นั้นแหละค่ะ ที่มาที่ไปของประโยคยอดฮิต “เมมเป็นยังไงโอตะเป็นงั้น”. เข้าไปปุ๊บ อหหหหหห บันเทิงมากกกกกกกกกก ตลกกาแฟปะเนี่ย ตลกมากๆ แต่ละคนคือ ออกหน้าออกตากันมาก ตอนรับอย่างดี เล่นมุกบ้าง ตบมุกกันบ้าง ไม่ตบบ้าง แกล้งปล่อยจางบ้างไรบ้าง กันเองสุดๆ ที่สำคัญอวดหลัวสุด ขายของเก่ง 555555555555  แล้วตัวเราเนี่ย จากคนที่ชอบ น้ำหนึ่งBNK48 มาระดับหนึ่งอยู่แล้ว พอมาเจอคนในบ้านเป็นแบบนี้.
คือไม่คิดไม่ได้ว่า ที่น้ำหนึ่งเป็นคนที่ร่าเริงแบบนี้ ก็เพราะว่าเค้ามีแฟนคลับที่น่ารักแบบนี้ และถ้าไม่ใช่ว่า เมมเบอร์เป็นคนที่มีบุคลิกเฮฮาร่าเริงแบบนี้ ด้อมก็ไม่อบอุ่นแบบนี้ ทั้งหมดคือยกความดีความชอบให้ทุกๆคนเลย.
และจากการดึงเข้าบ้านวันนั้นมา นับวันเรายิ่งมันใจได้เลยว่านี้แหละ คามิของข้าพเจ้า แม้จะมาช้ากว่าคนอื่น แต่เรายอมที่จะต่อคิว ถวายชีวีให้แกเธอเลยนะ น้ำหนึ่ง. ขอบคุณ มลล ที่รัก ขอให้เราอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปนานตลอดกาลและนานเถิด ส๊าธุ  

ปล.1 ขอบคุณคนในบ้านด้วย ที่ทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ในการเลือกคามิ
ปล.2 แฟนเกิร์ลคือแบบ หยหาแนหบไทหนกวกม มากแม่. ว๊ากกก