แต่สารวัตรใหญ่คือละครที่มีครบทุกด้านจริงๆ
ด้านสะท้อนสังคม ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือปัญหาในสังคมที่เกี่ยวพันกับวงการตำรวจตั้งแต่ต้นเรื่อง อาทิเช่น ปัญหาปล้นจี้ ยา บ่อนการพนัน ซ่อง การตั้งด่านเพื่อทำยอดใบสั่ง การติดสินบนเจ้าพนักงานโดยอ้างว่าช่วยราชการ การจ่ายส่วยรถบรรทุก ตรงนี้ตีแผ่ปัญหาออกมาได้ตรงประเด็นมากๆ
เหนือกว่านั้นคือเนื้อหาที่นำสังคม สร้างแรงบันดาลใจและปลูกจิตสำนึกนี่แหละที่ทำให้ประทับใจในละครสารวัตรใหญ่มากๆ
เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่พระเอกที่เป็นวีรบุรุษ แต่ทุกคนสามารถเป็นวีรบุรุษได้ โดยการปลูกจิตสำนึกให้ทุกคน ทุกวงการเป็นคนดีซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ของตนเอง ไม่ได้เตือนสติแค่ตำรวจแต่ยังเตือนสติข้าราชการทุกภาคส่วนด้วย ในเมื่อคุณเป็นข้าราชการกินเงินเดือนจากภาษีประชาชนก็ควรที่จะเป็นมิตรและดูแลประชาชนให้ดี ไม่ใช่ก้มกราบแต่คนเลวๆที่เจียดเงินจากการทำผิดกฎหมายมาเป็นค่าผ่านทาง
นอกจากปลูกจิตสำนึกให้วงการสีกากีแล้วยังเผื่อแผ่ไปถึงวงการสื่อที่ควรคำนึงถึงจรรยาบรรณในวิชาชีพมากกว่าความรวดเร็วในการนำเสนอข่าวโดยยังไม่ทราบข้อเท็จจริง ไม่เคารพกฎหมายหรือเหยื่อผู้เสียชีวิต เตือนว่าสื่อที่ดีไม่ควรสร้างความแตกแยกและการจะเสนอข่าวแม้จะเป็นกลางก็ควรดูที่ความถูกต้องด้วย ไม่ใช่เป็นกลางแต่กลับผิดเป็นถูกทำให้ประชาชนเกิดความสับสน
และที่ชอบที่สุดคือปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนสวมหมวกกันน็อคและทำตามกฎจราจร เราจะเห็นฉากตั้งด่านจราจรจับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อค พอสารวัตรใหญ่มาถึงก็รณรงค์ให้สวมหมวกกันน็อค จากนั้นชาวบ้านก็สวมหมวกกันน็อคกันทั้งอำเภอเหมือนเป็นเรื่องปกติ เราว่ามันเป็นอะไรที่เท่มาก นอกจากจะไม่ผิดกฎหมาย ไม่เสียเงินแล้วยังปลอดภัยต่อชีวิติอีกด้วย
สารภาพว่าเพราะฉากนี้ทำให้ตอนนี้เรารวมทั้งคนในบ้านที่ปกติเวลาขับขี่จักรยานยนต์ออกจากบ้านไปใกล้ๆ มักจะไม่สวมหมวกกันน็อคตอนนี้หันมาสวมหมวกกันน็อคกันทุกครั้งเลยไม่ว่าจะใกล้หรือไกล
และละครยังได้สร้างแรงบันดาลใจส่งเสริมกำลังใจให้คนที่ทำดีด้วย คนที่กำลังคิดว่าทำดีแต่ไม่เคยได้ดี ถ้าได้ดูเรื่องนี้คงจะมีกำลังใจในการทำความดีต่อไป ความดีอาจจะเห็นผลช้าแต่มันก็สร้างอิมแพคที่ยิ่งใหญ่ได้มากกว่าความชั่วที่เห็นผลเร็ว ทั้งยังเป็นเกราะป้องกันเราจากอันตรายเพราะคนดีอยู่ที่ไหนใครก็รักและพร้อมช่วยเหลือ และทำให้คนที่ไม่เคยทำความดีหันมาเริ่มทำความดี
สารวัตรใหญ่เป็นวีรบุรุษที่สร้างวีรีบุรุษที่แท้จริง ซึ่งวีรบุรุษที่ว่าก็ไม่ใช่ใครแต่คือข้าราชการน้ำดี สื่อที่มีจรรยาบรรณ ชาวบ้านที่ร่วมแรงร่วมใจร่วมมือกันสร้างสรรค์สังคมและปกป้องดูแลบ้านเกิดของตัวเอง
หลายคนมักพูดว่ามีแบบนี้แค่ในละครเท่านั้นแหละ มันทำให้เรานึกถึงคำพูดของสารวัตรใหญ่ที่ว่า "ถ้าใครไม่เปลี่ยนเราก็เริ่มเปลี่ยนจากตัวเราเอง" ลองคิดดูว่าถ้าทุกคนในสังคมคิดแบบนี้สังคมเราจะน่าอยู่แบบในละครแค่ไหน
ใครที่เคยอยากได้ละครที่สร้างแรงบันดาลใจและปลูกจิตสำนึกที่ดีแบบที่ descendants of the sun ที่เกาหลีสร้างขึ้นเพื่อปลูกฝังให้ผู้ชายเกาหลีมีความเป็นสุภาพบุรุษ สุภาพ อ่อนโยนแบบกัปตันยูชีจินแล้วล่ะก็คุณต้องดูสารวัตรใหญ่สักครั้งแล้วคุณจะไม่ผิดหวังเลย
ขอชื่นชมและขอขอบคุณนักเขียน นักแสดงและทีมงานทุกคนที่บรรจงรังสรรค์ผลงานชิ้นนี้ออกมา พวกคุณคือส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมในอุดมคติ แม้ในวันนี้จะไม่มีคนคิดแบบนี้มากนักแต่สักวันหนึ่งก็ต้องมีคนฉุกคิดได้แบบเรา ขอบคุณค่ะ
สารวัตรใหญ่ไม่ใช่แค่ละครสะท้อนสังคมธรรมดา
ด้านสะท้อนสังคม ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือปัญหาในสังคมที่เกี่ยวพันกับวงการตำรวจตั้งแต่ต้นเรื่อง อาทิเช่น ปัญหาปล้นจี้ ยา บ่อนการพนัน ซ่อง การตั้งด่านเพื่อทำยอดใบสั่ง การติดสินบนเจ้าพนักงานโดยอ้างว่าช่วยราชการ การจ่ายส่วยรถบรรทุก ตรงนี้ตีแผ่ปัญหาออกมาได้ตรงประเด็นมากๆ
เหนือกว่านั้นคือเนื้อหาที่นำสังคม สร้างแรงบันดาลใจและปลูกจิตสำนึกนี่แหละที่ทำให้ประทับใจในละครสารวัตรใหญ่มากๆ
เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่พระเอกที่เป็นวีรบุรุษ แต่ทุกคนสามารถเป็นวีรบุรุษได้ โดยการปลูกจิตสำนึกให้ทุกคน ทุกวงการเป็นคนดีซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ของตนเอง ไม่ได้เตือนสติแค่ตำรวจแต่ยังเตือนสติข้าราชการทุกภาคส่วนด้วย ในเมื่อคุณเป็นข้าราชการกินเงินเดือนจากภาษีประชาชนก็ควรที่จะเป็นมิตรและดูแลประชาชนให้ดี ไม่ใช่ก้มกราบแต่คนเลวๆที่เจียดเงินจากการทำผิดกฎหมายมาเป็นค่าผ่านทาง
นอกจากปลูกจิตสำนึกให้วงการสีกากีแล้วยังเผื่อแผ่ไปถึงวงการสื่อที่ควรคำนึงถึงจรรยาบรรณในวิชาชีพมากกว่าความรวดเร็วในการนำเสนอข่าวโดยยังไม่ทราบข้อเท็จจริง ไม่เคารพกฎหมายหรือเหยื่อผู้เสียชีวิต เตือนว่าสื่อที่ดีไม่ควรสร้างความแตกแยกและการจะเสนอข่าวแม้จะเป็นกลางก็ควรดูที่ความถูกต้องด้วย ไม่ใช่เป็นกลางแต่กลับผิดเป็นถูกทำให้ประชาชนเกิดความสับสน
และที่ชอบที่สุดคือปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนสวมหมวกกันน็อคและทำตามกฎจราจร เราจะเห็นฉากตั้งด่านจราจรจับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อค พอสารวัตรใหญ่มาถึงก็รณรงค์ให้สวมหมวกกันน็อค จากนั้นชาวบ้านก็สวมหมวกกันน็อคกันทั้งอำเภอเหมือนเป็นเรื่องปกติ เราว่ามันเป็นอะไรที่เท่มาก นอกจากจะไม่ผิดกฎหมาย ไม่เสียเงินแล้วยังปลอดภัยต่อชีวิติอีกด้วย
สารภาพว่าเพราะฉากนี้ทำให้ตอนนี้เรารวมทั้งคนในบ้านที่ปกติเวลาขับขี่จักรยานยนต์ออกจากบ้านไปใกล้ๆ มักจะไม่สวมหมวกกันน็อคตอนนี้หันมาสวมหมวกกันน็อคกันทุกครั้งเลยไม่ว่าจะใกล้หรือไกล
และละครยังได้สร้างแรงบันดาลใจส่งเสริมกำลังใจให้คนที่ทำดีด้วย คนที่กำลังคิดว่าทำดีแต่ไม่เคยได้ดี ถ้าได้ดูเรื่องนี้คงจะมีกำลังใจในการทำความดีต่อไป ความดีอาจจะเห็นผลช้าแต่มันก็สร้างอิมแพคที่ยิ่งใหญ่ได้มากกว่าความชั่วที่เห็นผลเร็ว ทั้งยังเป็นเกราะป้องกันเราจากอันตรายเพราะคนดีอยู่ที่ไหนใครก็รักและพร้อมช่วยเหลือ และทำให้คนที่ไม่เคยทำความดีหันมาเริ่มทำความดี
สารวัตรใหญ่เป็นวีรบุรุษที่สร้างวีรีบุรุษที่แท้จริง ซึ่งวีรบุรุษที่ว่าก็ไม่ใช่ใครแต่คือข้าราชการน้ำดี สื่อที่มีจรรยาบรรณ ชาวบ้านที่ร่วมแรงร่วมใจร่วมมือกันสร้างสรรค์สังคมและปกป้องดูแลบ้านเกิดของตัวเอง
หลายคนมักพูดว่ามีแบบนี้แค่ในละครเท่านั้นแหละ มันทำให้เรานึกถึงคำพูดของสารวัตรใหญ่ที่ว่า "ถ้าใครไม่เปลี่ยนเราก็เริ่มเปลี่ยนจากตัวเราเอง" ลองคิดดูว่าถ้าทุกคนในสังคมคิดแบบนี้สังคมเราจะน่าอยู่แบบในละครแค่ไหน
ใครที่เคยอยากได้ละครที่สร้างแรงบันดาลใจและปลูกจิตสำนึกที่ดีแบบที่ descendants of the sun ที่เกาหลีสร้างขึ้นเพื่อปลูกฝังให้ผู้ชายเกาหลีมีความเป็นสุภาพบุรุษ สุภาพ อ่อนโยนแบบกัปตันยูชีจินแล้วล่ะก็คุณต้องดูสารวัตรใหญ่สักครั้งแล้วคุณจะไม่ผิดหวังเลย
ขอชื่นชมและขอขอบคุณนักเขียน นักแสดงและทีมงานทุกคนที่บรรจงรังสรรค์ผลงานชิ้นนี้ออกมา พวกคุณคือส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมในอุดมคติ แม้ในวันนี้จะไม่มีคนคิดแบบนี้มากนักแต่สักวันหนึ่งก็ต้องมีคนฉุกคิดได้แบบเรา ขอบคุณค่ะ