พลอย: เจ้ต่าย.. ไปเที่ยวกันเถอะ พลอยอยากพาป๊าไปด้วยกัน...
เจ้ต่าย: อือ เอาดิ.. เจ้จะได้พาป๊าม๊าไปด้วย เมื่อไหร่อ่ะ... ที่ไหนดี...
พลอย: ไปไต้หวันหล่ะกัน เอาช่วงหนาวๆ หาตั๋วแพร๊บบบ..
เจ้ต่าย: ป่ะ.. ไปโล้ดดดดด...

และนั่นก็คือที่มาของ การเขียนรีวิวกระทู้นี้ โดยก่อนไป เราก็ได้มาค้นหาข้อมูลจากในพันทิปซะส่วนใหญ่ และจากเวปไซด์ท่องเที่ยวอีกหลายๆเวป เอามาผสมๆ รวมๆกัน เพื่อให้เข้ากับกลุ่มของเราที่จะไปเที่ยว ไปกลับมาแล้ว ก็เลยคิดว่า อยากจะแชร์ ประสบการณ์ที่ไปมา เผื่อจะเป็นประโยชน์ก้บคนอื่นๆได้อีก
กลุ่มของเราก็จะมี ผู้ใหญ่ วัย 60 ขึ้น 3 คน วัยรุ่นตอนปลาย 2 คน และวัยรุ่นเอ๊าะๆ 1 คน คือน้องสาวเราเอง

เนื่องจากการไปเที่ยวครั้งนี้ เราอยากพาผู้ใหญ่ไปด้วย ดังนั้นการวางแผนเที่ยวจะต้องเอาใจผู้ใหญ่ เป็นส่วนใหญ่ค่ะ โจทย์คือ
1.    ขึ้นเครื่องที่สนามบิน สุวรรณภูมิ เพราะใกล้บ้าน
2.    โรงแรมที่พัก ต้องดูดี สะดวก สบาย มีอาหารเช้าหลากหลายบริการ (ทั้งๆที่ก็กินกันไม่เก่งเลยนะ)
3.    ตารางแผนเที่ยว ต้องยืดหยุ่นได้ ถ้าไม่ไหว ตัดออกอย่างเดียวเลย
4.    ดูความชอบว่า พวกเขา ชอบไปเที่ยวแบบไหน อย่างน้าชายเราชอบไหว้พระ เราก็แทรกไป สักที่ 2ที่ ส่วนพ่อเราชอบกิน ก็หาร้านอร่อยๆเตรียมไว้ด้วย
5.    การเดินทางระหว่างสถานที่ จัดกลุ่มที่ใกล้กันดีๆ ถ้าอันไหนไปไกล ให้เลือกการเดินทางแบบนั่งยาวรวดเดียวเลย ไม่ต้องหลายต่อ จะได้ไม่เหนื่อย

หลักๆก็ประมาณนี้ค่ะ

เราจองตั๋วของสายการบิน EVA Air ซึ่งก็ไม่ได้ถูกมาก หรือแพงเกินไป พอรับได้ รวมค่าประกันการเดินทางจะตกที่คนละ 9 พันกว่าบาท
ส่วนโรงแรม เราจองที่ Hotel Midtown Richardson โรงแรมระดับ 4 ดาว ใกล้สถานี รถไฟใต้ดินซีเหมิน สะดวกมากมาย ที่พักตกคืนละประมาณ พันกว่าบาทต่อคนค่ะ

แล้วก็ได้เวลาวางแผนการเดินทาง.. ช่วงนี้อ่านเยอะมาก.. อ่านไปก็พยายามนึกภาพตาม เราจะเดินทางยังไงนะ ออกจากตรงนี้ต้องไปต่อไหน คือไม่อยากหลง ไม่อยากพลาด เราไม่เท่าไหร่หรอก.. แต่กลัวผู้ใหญ่จะเหนื่อย
ทำกระทั่ง ดูระยะเวลาที่รถวิ่ง คำนวณค่าใช้จ่ายล่วงหน้าเลย.. พอไปกลับมาแล้ว ก็รู้สึกว่า ดีที่ทำไว้ เพราะทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า ควรจะตัดรายการอะไรออกบ้าง และเตรียมเงินไปพอเหลือ แบบไม่ต้องกังวลอีกด้วย

เราได้แผนที่มาใช้ในการแพลนเที่ยว และเดินทางส่วนใหญ่จากลิงค์นี้ https://ppantip.com/topic/37837203 ขอบคุณมากนะคะ

ได้เวลาออกเดินทางแล้ว ตามมาเที่ยวด้วยกันค่ะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้รูปที่ใช้รีวิวหลายๆรูป น้าชายถ่ายให้ค่ะ น้าเป็นคนชอบถ่ายรูป เลยมีภาพมาให้ดูค่อนข้างเยอะ แต่ก็แอบตลกเยอะค่ะ เพราะโดนแอบถ่าย

เรานัดเจอกันที่สนามบินตอนเที่ยงคืน เพราะได้ไฟล์ทออกตีสอง.. พรุ่งนี้น่าจะเหนื่อยหน่อย แต่เพื่อไปเที่ยวก็ต้องลุยหล่ะค่ะ..

อยู่บนเครื่อง ก็โดนปลุกมากินอาหารตอนประมาณตีสามกว่าๆ.. ไม่หิว เลย.. แต่กินหมดนะ.. เอ๊ะยังไง

มาถึงที่สนามบิน Taoyuan ประมาณ 8:30 ค่ะ ในช่วงนี้ถ้าใครกรอก ตม. ออนไลน์มาก่อน ก็ไม่ต้องกรอกใส่กระดาษที่เค้าแจกบนเครื่องก็ได้ค่ะ สามารถเข้าไปที่ลิงค์นี้ได้เลยค่ะ
https://oa1.immigration.gov.tw/nia_acard/acardAddAction.action

ประสบการณ์ที่เจอคือ แฟนเราต้องมากรอกใหม่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่พบข้อมูลออนไลน์ที่ลงไว้ แล้วถึงจะทำออนไลน์ไว้แล้ว ยังไงเราก็ต้องมาเข้าแถวเพื่อผ่าน ตม. เหมือนกัน เราเลยคิดว่า ไม่จำเป็นต้องทำล่วงหน้าก็ได้ ไม่ได้ทำให้เร็วขึ้นสักเท่าไหร่

พอผ่านตม. รับกระเป๋าเรียบร้อย เราก็แวะซื้อซิมก่อนเลยค่ะ เดินออกมาก็เลี้ยวซ้ายเลย จะเจออยู่ 3 บูธ



เราเลือกบูธสีแดง ซึ่งอยู่ตรงกลาง ไม่รู้ว่าชื่อว่าอะไร แต่เห็นป้ายทางซ้ายไม๊คะ บิน EVA Air กับ Uni Air ลด 100$ วิ่งเข้าใส่เลย... rate พอๆกันเลยค่ะ กับค่ายอื่นๆ เราอยู่ 4 วัน (วันที่ 4 กลับเช้าเลย เราเลือกแบบ 5 Day $300 Internet Unlimited and Voice $50 ซึ่งไม่ได้ใช้โทรเลย โทรแต่ไลน์กับน้องสาวแทน)  ซื้อมา 2 ซิม เรากับน้อง คนละ $200 เค้าใส่ซิม และตั้งค่าให้เลย บริการดี เจ้าหน้าที่น่ารัก ค่ายนี้ใช้ได้ สัญญาณเสถียรดี ยกเว้นตอนออกไปนอกเมืองสาย Pingxi ที่แอบสัญญาณหายไปหน่อยนึงค่ะ

พอซื้อเสร็จ เราก็เดินย้อนกลับมา ตรงกลางลานจะเจอ Tourist Service Center ให้เค้าช่วย Register เพื่อใช้ Wifi iTaiwan เค้าก็จะขอ passport เราไป แล้วบอกให้เราเข้า wifi ใช้ user name password ตามที่เค้าบอก ก็เป็นอันเสร็จสิ้นค่ะ


เรียบร้อยแล้ว เราก็พร้อมจะไปนั่งรถบัสเข้าเมืองกันแล้ว เดินไปทางขวามือของส่วนที่เราออกมาตอนแรกนั่นค่ะ จะมีป้ายบอก Bus to city เดินตามไปเลย...


จริงๆ มีการเดินทางที่ง่ายกว่านี้คือ นั่งรถไฟเข้าเมืองค่ะ แต่เราเลือกรถบัส นั่งสาย 1819 เพราะคิดว่ารถไม่น่าจะติด แล้วก็นั่งหลับได้สบายๆหน่อย ประมาณ 40 นาที ก็ถึง Taipei Main Station แล้วค่ะ


บนรถมีที่ให้ชาร์ตแบตด้วยนะ แบบหัว usb อยู่ข้างๆเบาะที่นั่ง แล้วก็มี wifi ให้ใช้ด้วยค่ะ

พอมาถึง Kuokuang Bus Taipei Terminal ก็แวะถ่ายรูปสักหน่อย น้าชายเราเป็นคนชอบถ่ายรูป

ลืมบอกค่ารถ $115 ต่อคนค่ะ (คิดว่าค่ารถ ขึ้นกับช่วงเวลาด้วยนะคะ เพราะขากลับค่ารถไม่เท่ากันอ่ะ)

คราวนี้ เดินเข้าไปใน Taipei Main Station เพื่อหาซื้อบัตร Easy Card กัน น้องสาว บอกให้ไปหาซื้อที่ เซเว่นจะได้เลือกลายน่ารักๆได้... แต่ตรงนั้นหาไม่เจอค่ะ เลยตัดใจ เข้าไปซื้อตรง Counter ที่ แลกเงินเข้ารถไฟ เหมือนบ้านเราอ่ะ เราซื้อ $1000 ค่ะ (มีค่าการ์ด $100 ที่ไม่ได้คืน เหลือใช้เป็นค่ารถได้ $900 นะคะ)


คราวนี้เราจะต่อรถไฟ ไปแค่ 1 สถานี เพราะ โรงแรมอยู่ที่ Ximen Station จะเอากระเป๋าไปฝากเค้าไว้ก่อน

ค่ารถไฟ ถ้าใช้บัตรจะถูกกว่าซื้อแยกแต่ละครั้งประมาณ $2 ค่ะ นั่งไป 1 สถานี $16 ประมาณ 3 นาทีเอง
เช็คค่าใช้จ่าย ระยะเวลาเดินทางโดยรถไฟใต้ดิน Metro Taipei ได้จาก ลิงค์นี้เลยค่ะ
https://english.metro.taipei/cp.aspx?n=46A82F0C116392CB&s=6792451B411431CA



ฝากกระเป๋าแล้วเรียบร้อย เดินเที่ยวกันค่ะ.. ที่แรก.. ไปกินบะหมี่อาจง เดินข้ามถนนมาทางฝั่ง Ximenting ถ้วยเล็ก $55 ถ้วยใหญ่ $70 (เปิด Google เดินตามได้เลย หาไม่ยากจริงๆ)


เนื่องจากอ่านรีวิวมา เค้าบอกว่า รสชาติโอเค เลยจัดถ้วยเล็กมา 6 ถ้วยเลย.. สรุปผู้ใหญ่บอก ไม่อร่อยอ่ะ พวกเราสามคนก็ว่า อร่อยดีนะ หอมกลิ่นซุปปลาแห้ง แต่ไม่มีเนื้อ.. ได้อะไรเหมือนเครื่องใน หนังไก่ ไรซักอย่าง ก็โอเค แต่ไม่กินซ้ำหล่ะ ลองให้รู้รสชาติเฉยๆ ร้านนี้เปิดตั้งแต่เช้าถึงเย็นเลย ต้องยืนกินนะคะ เห็นคนมากินเยอะเลยค่ะ สงสัยอ่านรีวิวมาเหมือนกัน เจอคนไทยด้วยนะ จริงๆ ไปที่ไหนก็เจอ ฮ่าาา


ความจริงหลังจากนี้ จะไปตลาดปลากันค่ะ แต่เนื่องจากว่าหลังจากกินบะหมี่อาจงเสร็จ คุณพ่อคุณแม่อยากกินอย่างอื่นอีก เลยเดินนำเข้าไป Ximenting ขึ้นไปสั่ง KFC กินน้ำ กินเฟรนฟรายเลยจ้ะ.. สรุปจึงต้องตัดรายการนั้นออกไป เนื่องจากว่าต้องนั่งรถเมล์ไปอีกประมาณ 30 นาที กว่าจะเลือก กว่าจะกิน.. กลัวคุมเวลาไม่ได้ (เสียดายยยย )




เมื่ออิ่มแล้ว (จริงๆ อิ่มตั้งแต่กิน บะหมี่อาจงแล้ว..) ก็ไป อนุสรณ์สถาน เจียงไคเช็คกัน.. วิธีไปก็ขึ้นรถไฟจากสถานี Ximen สายสีเขียว (G12) นั่งไป 2 สถานี ถึง C.K.S Memorial Hall (G10)


กะให้ไปถึงเกือบๆ ต้นชั่วโมง จะได้เห็นทหารเดินแถวเปลี่ยนเวรยามกันพอดี เราไปถึง 11:45 ค่ะ แต่มัวแต่ถ่ายรูปข้างล่างกัน เลยได้ยืนหลัง ต้องเขย่งๆดูเอา




ระหว่างที่รอ... เราก็เป็นแบบนี้...


พอคนเริ่มซา ก็มาถ่ายรูปหมู่กันเป็นที่ระลึก มีคนไทยช่วยถ่ายรูปให้เราด้วย ขอบคุณค่ะ


อากาศเย็นกำลังดี คุณพ่อคุณแม่ถอดเสื้อหนาวเลยอ่ะ
พอถ่ายรูปเสร็จ เดินไปทางด้านขวามือ (ตอนหันหน้าออก) จะมีพิพิธภัณฑ์ให้เข้าไปชมได้ด้วยค่ะ ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่เราไม่ได้เข้าไปนะ เลยได้แค่ถ่ายรูปให้น้องที่ด้านหน้าทางเข้า



ก่อนกลับ แวะกินชานมดั้งเดิมของที่นี่ก่อน Chun Shui Tang อยู่ใต้ตึกสีแดงๆ ถ้าหันหน้าออก ตึกจะอยู่ทางขวามือของรูปนี้ค่ะ


ที่นี่น้องสาวเราเจอเพื่อนคนไทยตั้ง 2 คนแหน่ะ.. บอกแล้วว่า คนไทยเยอะ เจอทุกที่เลย..
ร้านนี้ไม่ได้มีแค่ชาไข่มุก แต่มีอาหารกินเล่นอย่างอื่นด้วยค่ะ นั่งกิน นั่งพัก ให้พอหายเหนื่อยแล้วค่อยไปต่อกัน...


เราสามคนกินชานมดั้งเดิมกัน ไข่มุกเม็ดเล็กกว่าที่เคยคิด เคี้ยวหนึบหนับดี ชาก็ไม่หวานมาก กำลังดีค่ะ ส่วนของผู้ใหญ่ สั่งแนวเปรี้ยว หวาน ให้สดชื่นกัน เราไม่ได้ชิม แต่เห็นบอกว่า ชาน้ำผึ้งมะนาว อร่อยดี




ก่อนออกเดินทาง ก็เข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อยก่อน (จะรีวิวละเอียดไปไม๊..) ระหว่างรอลูกๆ ผู้ใหญ่ ก็ถ่ายรูปสนุกกันไปค่ะ...


คราวนี้จะไป Tamsui station  เพื่อไป Tianyuan Temple กันค่ะ ขึ้นรถไฟไม่ต้องต่อสถานีเลย นั่งจาก C.K.S Memorial Hall (R8) ไปสุดสายที่ Tamsui Station (R28) ประมาณ 40 นาทีถึง นั่งหลับไปเลยค่ะ



มาถึงแล้ว เราจะนั่งรถเมล์จากป้ายรถ ตรงสถานีเพื่อไปวัดเทียนหยวนกันก่อน อ่านรีวิว บอกว่ามีสาย 875 กับ 893 แต่พออ่านที่ป้ายเจอว่าสาย 893 ไม่วิ่งวันหยุด.. เจอคุณยายชาวไต้หวัน หน้าตาใจดี พยายามถามเราว่าจะไปไหน เป็นภาษาจีน คงคิดว่าเราไม่รู้จะไปยังไงแหล่ะ คุณยายบอกว่า มีสาย 879 ก็ไปได้นะ แต่พอดีตามตาราง 875 มาก่อน เราเลยเลือกที่จะรอสายนี้ และกลับสายนี้ (ลืมถ่ายรูปมาค่ะ... มัวแต่ตามแม่ที่ช๊อปปิ้งอยู่แถวนั้นให้มาต่อแถวรอรถ)