วันนี้จะมาขอรีวิวการท่องเที่ยวหลีเป๊ะ ฉบับประหยัด งบห้าพันยังเหลือ...!!!
เริ่มมาจากเราได้ซื้อแพคเกจทัวร์ ของ มัณดาวีต์ ทัวร์ ไว้ ตั้งแต่ 2 ปี ที่แล้ว
โดยซื้อมาจากงานไทยเที่ยวไทย ได้ในราคา 2000 บาท
จะเที่ยวไหนก็ได้ ตามแพคเกจที่เค้าระบุไว้
ตั๋วมีอายุให้ 3ปี ว่างวันไหนก็โทรจองระบุสถานที่ ระบุวันที่จะไป
แต่....!!! ของถูกก็ต้องแลกมาด้วยการ รอคอยที่ยาวนานนนน
ควรจะโทรจองล่วงหน้าเกือบๆครึ่งปีทีเดียว เนื่องจากห้องพักจะเต็มยาวไปหลายเดือนมาก
แนะนำ ให้สอบถามเลย ว่าเราว่างเดือนนี้ มีห้องว่างวันไหนบ้าง
จะง่ายกว่า เราไประบุวันแล้วโดนเซย์โนว ห้องพักเต็ม
เพราะต้องส่งอีเมลล์คุยกัน มันจะเสียเวลา
และ.....ห้ามจองตั๋วเครื่องบินก่อนการจองห้องโดยเด็ดขาด!!! มิฉะนั้นคุณอาจต้องทิ้งตั๋วเครื่องบินคุณได้
ให้ระบุวันคอนเฟิมให้เรียบร้อย และค่อยๆดูโปรตั๋วเครื่องบินไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบร้อน
เจอโปรถูกๆ มั่นใจว่าได้ไป ค่อยกดจองนะคะ
สำหรับเรา
กดจองตั๋ว thai lion air ช่วงโปรโมชั่นก่อนที่หมดโปรฟรีน้ำหนักกระเป๋า
ได้ในราคา ขาไป ดอนเมือง-หาดใหญ่ 555 บาท และขากลับ 495 บาท (ใช้โค้ดส่วนลดจองครั้งแรกของ traveloka ไปด้วย)
จากนั้นก็เริ่มทำแพลนทริปเลยจ้า
ทริปนี้ เราจะไปกันทั้งหมด 4 วัน 3 คืน
วันแรก เดินทางไปที่พัก
วันที่สอง ล่องเรือ ดำน้ำ ที่เกาะหลีเป๊ะ
วันที่สาม เช่ารถขับ ไปเที่ยวที่ถนนนางงาม จ. สงขลา
วันที่สี่ ขับเที่ยวเขาคอหงส์ หาของกินในตัวเมืองหาดใหญ่ และแวะตลาดกิมหยงซื้อของฝากกัน
ลุยกันเล้ย......!!!!!
หนีเมืองฝุ่นจากกรุงเทพฯ ไปสูดอากาศสดชื่นที่หาดใหญ่กันเถอะ....!!
เราลงมาถึงสนามบินหาดใหญ่ ประมาณ 11 โมง
ภายในสนามบินจะมีพวกบริษัทเช่ารถมากมาย
และจะมีพวกมินิบัสพาเข้าเมือง ถ้าไปที่คิวรถตู้ตลาดเกษตร คนละ 60 บาท
แต่...เราจะไม่ขึ้น แฮ่!!!
ให้เดินตรงออกมาเลยค่ะ อย่าหันไปสบตาพี่ๆมินิบัสที่กำลังยืนเรียกเราให้ขึ้นรถ
มุ่งมั่นออกไปข้างนอกเลยค่ะ เดินผ่านลานจอดรถออกไป จนถึงป้อมยามที่เป็นทางรถออก
ยืนรอรถสองแถวสีฟ้าตรงนั้นได้เลย คนละ 30 บาทเท่านั้น
ถ้าไม่แน่ใจ จุดยืนรอรถ ถามพี่รปภ.ตรงป้อมได้เลยจ้า
นั่งรถมาไม่นาน ก็ถึงคิวรถตู้ตลาดเกษตร
อย่าคิดว่า ชื่อตลาดเกษตรแล้วจะมีอาหารขายเยอะแยะนะคะ
มันเป็นแค่ชื่อค่ะ ไม่มีร้านอาหารใดๆทั้งสิ้น มีแต่รถตู้ และพี่ๆคนขับ กับร้านเล็กๆน้อยๆเท่านั้น
ถ้าใครอยากซื้อขนม หรือหาของกิน
ให้เดินไปโลตัสใหญ่ข้างๆค่ะ มีร้านอาหารเยอะ กินและซื้อขนมตุนให้เรียบร้อยค่ะ
เพราะที่พักเราไม่มีร้านขายขนม
จากนั้นก็มาขึ้นรถตู้ ซื้อตั๋วช่องเบอร์ 9 หาดใหญ่-ปากบารา คนละ 110 บาท
ประมาณชั่วโมงกว่า
เราพักอยู่ที่ lake terrace resort พี่แจ้งให้ลงรถที่เซเว่นตรงท่าเรือปากบารา หรือที่กศน.ปากน้ำ
แต่เราเลือกลงที่ชายหาด เพราะมีร้านอาหารทะเลเรียงรายให้แวะกินก่อนเข้าโรงแรม
จะอยู่ก่อนถึงท่าเรือ ถามพี่คนขับรถตู้ได้เลย
พี่คนขับใจดีมาก มาส่งให้ถึงหน้าร้าน และบอกเจ้าของร้านเรียบร้อยว่าพาลูกค้ามาส่ง
ก็เลยไม่ได้เลือกร้าน เข้ามาที่ร้าน ชมวิวซีฟู๊ด @ปากบารา
ด้วยความเป็นผู้หญิงผอมบางร่างน้อย 555 เลยสั่งมาแค่สองอย่าง
ต้มยำของที่นี่จะออกไปทางเผ็ดเค็ม ส่วนตัวชอบแบบเปรี้ยวนำมากกว่า ชามละ 150 บาท
ส่วนปลาทอดน้ำปลา ดีเลย ชอบซอสน้ำปลากำลังดี จานละ 450 บาท
หลังจากอิ่มแล้ว ก็โทรเรียกให้รีสอร์ทมารับที่นี่ได้เลย ใกล้กว่าเซเว่นปากบาราอีก
ระหว่างทาง ที่พักจะอยู่บนภูเขา ไกลหน่อย แต่เห็นทะเลเหมือนกัน
ไม่ค่อยมีร้านค้า มีแต่ร้านรถเข็น แต่ในที่พักมีร้านอาหารเปิดอยู่
มาเห็นทะเลแล้ว
รีบไปถ่ายรูปก่อนพระอาทิตย์ตกก่อน
บรรยากาศที่พักโอเคเลย ไม่ได้แย่ เค้าจะแบ่งห้องพักเป็นชื่อประเทศ ซึ่งไม่ได้แตกต่างอะไรกัน
เช้าวันที่สอง จะมีรถแวะมารับเราและลูกทัวร์ดำน้ำจากรีสอร์ทอื่นๆ ไปส่งที่ออฟฟิศ ลารีน่า ชาร์เตอร์
เพื่อไปเซ็นชื่อ น่าจะประกันมั้ง และก็ขึ้นรถไปท่าเรือกัน
ท่าเรือ ปากบารา
แถวนี้จะมีพวกร้านขนมพื้นเมืองไว้เป็นของฝากขากลับได้
นั่งรอสักพัก ก็ถึงเวลาขึ้นเรือ ไปค่ะ คุณพี่!!!
นั่งเรือประมาณชั่วโมงกว่า ใครที่ว่าแน่ก็เมาเรืออ้วกกันมาแล้ว ดังนั้นขอยาแก้เมาเรือจากไกด์ทัวร์ได้เลยนะจ๊ะ
โปรแกรมทัวร์ของเรา
ที่แรกที่ลงมาเหยียบหาดทรายก็คือ เกาะไข่ จ.สตูล
ที่นี่จะมีจุดที่ต้องแวะถ่ายรูป นั่นคือ
"ซุ้มรักนิรันดร"
เป็นซุ้มประตูหินโค้งขนาดใหญ่และเล็ก 2 ช่องวางเรียงตัวอยู่คู่กัน มีความเชื่อว่าหากใครพาคู่รักลอดเข้าประตูช่องหนึ่งแล้วลอดกลับออกมาทางอีกช่องหนึ่งจะได้พบกับความรักที่มั่นคง..........ยืนยาว
ต่อมาก็แวะที่หาดทรายขาว ใครอยากจะว่ายน้ำ หรือใครอยากจะกินข้าวก็แล้วแต่ได้เลย
ให้เวลา1 ชั่วโมง
สำหรับเราก็ต้อง ถ่ายรูปสิคะ
ข้าวกล่องเป็นผัดกระเพราปลาหมึก กับไก่ทอด มีของหวานเป็นสัปปะรดกับแตงโม หั่นสวยๆ
น้ำดื่มมีทั้งน้ำเปล่าและน้ำเฉาก๊วยแช่ถังน้ำแข็งเย็นๆดีมากกก
สถานที่ต่อไป ดำน้ำดูประการังที่เกาะยางและเกาะอาดัง
เกาะหินงาม
และเข้าสู่เกาะหลีเป๊ะ
เกาะหลีเป๊ะ จะมีร้านขายอาหารเยอะมาก แต่มักจะเปิดในเวลากลางคืน
บางคนก็จะพักที่เกาะเลยเพื่อดูสีสันถนนคนเดินยามค่ำคืนของที่นี่
แต่อาหารที่นี่ก็ราคาสูงอยู่ ขายนักท่องเที่ยว
ส่วนมากจะมีแต่ต่างชาตินอนอาบแดดกันเรียงราย
ที่นี่สำหรับคนที่ไม่ได้พักค้างคืนที่เกาะ เค้าให้เวลาชั่วโมงนึง เดินเล่นกินโรตีชาชัก
และกลับตอนสี่โมงเย็น
ลาทริปดำน้ำหลีเป๊ะกันด้วยภาพสวยๆ
และพรุ่งนี้เราจะเดินทางมุ่งหน้าสู่สงขลาหาของกินกันค่ะ
[CR] งบห้าพัน ก็เที่ยวหลีเป๊ะได้! 4วัน3คืน ไปเล่นน้ำหลีเป๊ะ ถ่ายรูปถนนนางงาม สงขลา และไปกินที่ หาดใหญ่ ฉบับมัณดาวีต์ ทัวร์
เริ่มมาจากเราได้ซื้อแพคเกจทัวร์ ของ มัณดาวีต์ ทัวร์ ไว้ ตั้งแต่ 2 ปี ที่แล้ว
โดยซื้อมาจากงานไทยเที่ยวไทย ได้ในราคา 2000 บาท
จะเที่ยวไหนก็ได้ ตามแพคเกจที่เค้าระบุไว้
ตั๋วมีอายุให้ 3ปี ว่างวันไหนก็โทรจองระบุสถานที่ ระบุวันที่จะไป
แต่....!!! ของถูกก็ต้องแลกมาด้วยการ รอคอยที่ยาวนานนนน
ควรจะโทรจองล่วงหน้าเกือบๆครึ่งปีทีเดียว เนื่องจากห้องพักจะเต็มยาวไปหลายเดือนมาก
แนะนำ ให้สอบถามเลย ว่าเราว่างเดือนนี้ มีห้องว่างวันไหนบ้าง
จะง่ายกว่า เราไประบุวันแล้วโดนเซย์โนว ห้องพักเต็ม
เพราะต้องส่งอีเมลล์คุยกัน มันจะเสียเวลา
และ.....ห้ามจองตั๋วเครื่องบินก่อนการจองห้องโดยเด็ดขาด!!! มิฉะนั้นคุณอาจต้องทิ้งตั๋วเครื่องบินคุณได้
ให้ระบุวันคอนเฟิมให้เรียบร้อย และค่อยๆดูโปรตั๋วเครื่องบินไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบร้อน
เจอโปรถูกๆ มั่นใจว่าได้ไป ค่อยกดจองนะคะ
สำหรับเรา
กดจองตั๋ว thai lion air ช่วงโปรโมชั่นก่อนที่หมดโปรฟรีน้ำหนักกระเป๋า
ได้ในราคา ขาไป ดอนเมือง-หาดใหญ่ 555 บาท และขากลับ 495 บาท (ใช้โค้ดส่วนลดจองครั้งแรกของ traveloka ไปด้วย)
จากนั้นก็เริ่มทำแพลนทริปเลยจ้า
ทริปนี้ เราจะไปกันทั้งหมด 4 วัน 3 คืน
วันแรก เดินทางไปที่พัก
วันที่สอง ล่องเรือ ดำน้ำ ที่เกาะหลีเป๊ะ
วันที่สาม เช่ารถขับ ไปเที่ยวที่ถนนนางงาม จ. สงขลา
วันที่สี่ ขับเที่ยวเขาคอหงส์ หาของกินในตัวเมืองหาดใหญ่ และแวะตลาดกิมหยงซื้อของฝากกัน
ลุยกันเล้ย......!!!!!
หนีเมืองฝุ่นจากกรุงเทพฯ ไปสูดอากาศสดชื่นที่หาดใหญ่กันเถอะ....!!
เราลงมาถึงสนามบินหาดใหญ่ ประมาณ 11 โมง
ภายในสนามบินจะมีพวกบริษัทเช่ารถมากมาย
และจะมีพวกมินิบัสพาเข้าเมือง ถ้าไปที่คิวรถตู้ตลาดเกษตร คนละ 60 บาท
แต่...เราจะไม่ขึ้น แฮ่!!!
ให้เดินตรงออกมาเลยค่ะ อย่าหันไปสบตาพี่ๆมินิบัสที่กำลังยืนเรียกเราให้ขึ้นรถ
มุ่งมั่นออกไปข้างนอกเลยค่ะ เดินผ่านลานจอดรถออกไป จนถึงป้อมยามที่เป็นทางรถออก
ยืนรอรถสองแถวสีฟ้าตรงนั้นได้เลย คนละ 30 บาทเท่านั้น
ถ้าไม่แน่ใจ จุดยืนรอรถ ถามพี่รปภ.ตรงป้อมได้เลยจ้า
นั่งรถมาไม่นาน ก็ถึงคิวรถตู้ตลาดเกษตร
อย่าคิดว่า ชื่อตลาดเกษตรแล้วจะมีอาหารขายเยอะแยะนะคะ
มันเป็นแค่ชื่อค่ะ ไม่มีร้านอาหารใดๆทั้งสิ้น มีแต่รถตู้ และพี่ๆคนขับ กับร้านเล็กๆน้อยๆเท่านั้น
ถ้าใครอยากซื้อขนม หรือหาของกิน
ให้เดินไปโลตัสใหญ่ข้างๆค่ะ มีร้านอาหารเยอะ กินและซื้อขนมตุนให้เรียบร้อยค่ะ
เพราะที่พักเราไม่มีร้านขายขนม
จากนั้นก็มาขึ้นรถตู้ ซื้อตั๋วช่องเบอร์ 9 หาดใหญ่-ปากบารา คนละ 110 บาท
ประมาณชั่วโมงกว่า
เราพักอยู่ที่ lake terrace resort พี่แจ้งให้ลงรถที่เซเว่นตรงท่าเรือปากบารา หรือที่กศน.ปากน้ำ
แต่เราเลือกลงที่ชายหาด เพราะมีร้านอาหารทะเลเรียงรายให้แวะกินก่อนเข้าโรงแรม
จะอยู่ก่อนถึงท่าเรือ ถามพี่คนขับรถตู้ได้เลย
พี่คนขับใจดีมาก มาส่งให้ถึงหน้าร้าน และบอกเจ้าของร้านเรียบร้อยว่าพาลูกค้ามาส่ง
ก็เลยไม่ได้เลือกร้าน เข้ามาที่ร้าน ชมวิวซีฟู๊ด @ปากบารา
ด้วยความเป็นผู้หญิงผอมบางร่างน้อย 555 เลยสั่งมาแค่สองอย่าง
ต้มยำของที่นี่จะออกไปทางเผ็ดเค็ม ส่วนตัวชอบแบบเปรี้ยวนำมากกว่า ชามละ 150 บาท
ส่วนปลาทอดน้ำปลา ดีเลย ชอบซอสน้ำปลากำลังดี จานละ 450 บาท
หลังจากอิ่มแล้ว ก็โทรเรียกให้รีสอร์ทมารับที่นี่ได้เลย ใกล้กว่าเซเว่นปากบาราอีก
ระหว่างทาง ที่พักจะอยู่บนภูเขา ไกลหน่อย แต่เห็นทะเลเหมือนกัน
ไม่ค่อยมีร้านค้า มีแต่ร้านรถเข็น แต่ในที่พักมีร้านอาหารเปิดอยู่
มาเห็นทะเลแล้ว
รีบไปถ่ายรูปก่อนพระอาทิตย์ตกก่อน
บรรยากาศที่พักโอเคเลย ไม่ได้แย่ เค้าจะแบ่งห้องพักเป็นชื่อประเทศ ซึ่งไม่ได้แตกต่างอะไรกัน
เช้าวันที่สอง จะมีรถแวะมารับเราและลูกทัวร์ดำน้ำจากรีสอร์ทอื่นๆ ไปส่งที่ออฟฟิศ ลารีน่า ชาร์เตอร์
เพื่อไปเซ็นชื่อ น่าจะประกันมั้ง และก็ขึ้นรถไปท่าเรือกัน
ท่าเรือ ปากบารา
แถวนี้จะมีพวกร้านขนมพื้นเมืองไว้เป็นของฝากขากลับได้
นั่งรอสักพัก ก็ถึงเวลาขึ้นเรือ ไปค่ะ คุณพี่!!!
นั่งเรือประมาณชั่วโมงกว่า ใครที่ว่าแน่ก็เมาเรืออ้วกกันมาแล้ว ดังนั้นขอยาแก้เมาเรือจากไกด์ทัวร์ได้เลยนะจ๊ะ
โปรแกรมทัวร์ของเรา
ที่แรกที่ลงมาเหยียบหาดทรายก็คือ เกาะไข่ จ.สตูล
ที่นี่จะมีจุดที่ต้องแวะถ่ายรูป นั่นคือ
"ซุ้มรักนิรันดร"
เป็นซุ้มประตูหินโค้งขนาดใหญ่และเล็ก 2 ช่องวางเรียงตัวอยู่คู่กัน มีความเชื่อว่าหากใครพาคู่รักลอดเข้าประตูช่องหนึ่งแล้วลอดกลับออกมาทางอีกช่องหนึ่งจะได้พบกับความรักที่มั่นคง..........ยืนยาว
ต่อมาก็แวะที่หาดทรายขาว ใครอยากจะว่ายน้ำ หรือใครอยากจะกินข้าวก็แล้วแต่ได้เลย
ให้เวลา1 ชั่วโมง
สำหรับเราก็ต้อง ถ่ายรูปสิคะ
ข้าวกล่องเป็นผัดกระเพราปลาหมึก กับไก่ทอด มีของหวานเป็นสัปปะรดกับแตงโม หั่นสวยๆ
น้ำดื่มมีทั้งน้ำเปล่าและน้ำเฉาก๊วยแช่ถังน้ำแข็งเย็นๆดีมากกก
สถานที่ต่อไป ดำน้ำดูประการังที่เกาะยางและเกาะอาดัง
เกาะหินงาม
และเข้าสู่เกาะหลีเป๊ะ
เกาะหลีเป๊ะ จะมีร้านขายอาหารเยอะมาก แต่มักจะเปิดในเวลากลางคืน
บางคนก็จะพักที่เกาะเลยเพื่อดูสีสันถนนคนเดินยามค่ำคืนของที่นี่
แต่อาหารที่นี่ก็ราคาสูงอยู่ ขายนักท่องเที่ยว
ส่วนมากจะมีแต่ต่างชาตินอนอาบแดดกันเรียงราย
ที่นี่สำหรับคนที่ไม่ได้พักค้างคืนที่เกาะ เค้าให้เวลาชั่วโมงนึง เดินเล่นกินโรตีชาชัก
และกลับตอนสี่โมงเย็น
ลาทริปดำน้ำหลีเป๊ะกันด้วยภาพสวยๆ
และพรุ่งนี้เราจะเดินทางมุ่งหน้าสู่สงขลาหาของกินกันค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้