ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าไม่เคยรีวิวอะไรมาก่อน
แต่การไปกระบี่ครั้งนี้ เราคิดว่ามันคุ้มค่า สนุก ประทับใจ
ก็เลยอยากจะมารีวิวเพื่อเป็นแนวทางให้เพื่อนๆที่สนใจ
หรือกำลังตัดสินใจไปเที่ยวที่กระบี่ อาจจะใช้คำไม่สละสลวยหรือเรียงคำงง
ก้ขออภัยด้วยนะคะ
เราไปกระบี่เมื่อวันที่ 7-9 กุมภาพันธ์ 2562 ไปกับแฟน 2 คนนะคะ
จองตั๋วแอร์เอเชียแบบโปรถูกไว้ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว 2 คนไปกลับประมาณ 2 พันนิดๆ
ก่อนไปก็วางแพลนทั้งสถานที่ๆต้องการไป รถยนต์เช่า ห้องพัก ร้านอาหาร
ทำเป็นโปรแกรมไว้ วัตถุประสงค์หลักในการไปคือเกาะ อยากไปดำน้ำ ดูน้ำทะเลสวยๆใสๆ
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
วันที่ 1
ขึ้นเครื่องตอน 0640 ถึงสนามบินกระบี่ 0800
ไปรับรถยนต์เช่า (จองไว้ก่อนไป 1 อาทิตย์)
เราโชคดีที่ได้รถวีออสคันละ 800 บาท เช่า 3 วัน ไม่รวมค่าน้ำมัน
(แต่ 3 วันหมดค่าน้ำมันไปแค่ 700 บาท)
สถานีแรกที่ไปคือหาอะไรกิน 555+
เราติดใจติ่มซำ (ราชรสติ่มซำที่ภูเก็ต)
เห็นว่าที่กระบี่มีจึงไม่ลังเลที่จะไป
ร้านนี้มีอาหารให้เลือกค่อนข้างเยอะ เนื้อเน้นๆ รสชาติดี เข่งละ 25 บาท
สั่งมาพอประมาณ เห็นน้อยๆ อย่างนี้ แต่พอกินเสร็จรู้สึกอิ่มมาก อร่อยทุกอย่าง
ทานเสร็จก็ลุยต่อ เนื่องจากทำโปรแกรมไว้ เดี๋ยวเวลาไม่พอ
สถานีต่อไป สระมรกต เมื่อไปถึงจะมีลานจอดรถ เสียค่าจอด 40 บาท
ตรงทางเข้าอุทยานต้องเสียค่าเข้าอีกคนละ 20 บาท
มีสองเส้นทางให้ไปถึงสระมรกต ทางหลัก 800 เมตร
ถ้าชอบธรรมชาติก็ไปทางเส้นศึกษาธรรมชาติ 1,400 เมตร
เดินเรื่อยๆ ก็เพลินๆ ดี แต่มันจะมีทางแยกต้องดูดีๆ
พอเรามาถึงถึงสระมรกต คนค่อนข้างเยอะ และแดดแรง
แต่โดยรวมสวยงาม แวะถ่ายรูป แต่ไม่ได้ลงเล่นน้ำ เพราะต้องขับรถไปอีกหลายที่
แนะนำถ้าไม่ชอบคนเยอะควรมาถึงสัก 0800 - 0830 จะฟินมาก
ระหว่างทางไปสระมรกต
มุมนี้คนอาจไม่เยอะ
สถานีต่อไปที่น้ำตกร้อน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสระมรกต
ค่าจอดรถ 30 บาท ค่าเข้าอุทยานอีกคนละ 20 บาท
ที่นี่เราว่าไม่ค่อยมีอะไร แต่ถ้าอยากแช่น้ำอุ่นๆ ก็โอเคอยู่
มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาตินิดหน่อย ก็โอเคนะ เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ไม่นาน หย่อนขาแช่น้ำพอเป็นพิธีพอ 555+
สถานีต่อไป ไปแวะร้านคาเฟ่สวยๆ สักร้านหากาแฟกับขนมทานเบาๆ
ภายนอกร้านดูสวยงาม ตามรูป
เราว่ารสชาติ ค่อนข้างหวานไปหน่อย
ขนมหวานใช้ได้
ไปต่อกันเลยที่คลองสระแก้ว เนื่องจากอยากพายเรือคายักที่นี่
ค่าเข้าคนละ 20 บาทค่าเช่าเรือคนละ 100 บาท พายเรือระยะทาง 2 กิโล
น้ำใสมาก ธรรมชาติสุดๆ พายแบบเพลินมาก
รูปน้อยไปหน่อย เน้นเล่นมากกว่า
พายเรือเสร็จก็ลงเล่นน้ำ ถ้าเช่าเรือ จะมีห่วงยางให้เล่นน้ำฟรี น้ำค่อนข้างเย็นทีเดียว
อยู่ตรงนี้ค่อนข้างนานจนเกือบปิด ประมาณ 1700
อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เข้าที่พัก ซึ่งอยู่บริเวณอ่าวนาง
เราเลือกที่พักถูกๆ เพราะไม่เน้นอยู่ห้อง แค่เอาไว้นอน
คืนละ 500 เศษ ไม่มีอาหารเช้านะ โดยรวมก็โอเคนะ
อ่อ เราจองผ่าน booking.com
ได้เวลาทานข้าวเย็น เราเลือกร้านอาหารน้องโจ๊ก
จากที่อ่านรีวิว ก็มีทั้งดีและไม่ดี แต่พอได้ไปสัมผัสเอง
ดีกว่าที่คิดเยอะ ร้านโดยรวมดูสะอาดตา ดูกว้างขวาง
เหมือนทานข้าวอยู่บ้าน เราเน้นสั่งอาหารพื้นเมือง
และที่อยากกิน
แกงกะทิเนื้อปู + เส้นหมี่ อร่อยจริง เนื้อเน้นๆ
ผักเหมียงผัดไข่กุ้งเสียบวุ้นเส้น อันนี้เราว่าจืดไปหน่อย ถ้าสั่งไม่ควรใส่วุ้นเส้น
ปูนิ่มทอดกระเทียม (ชอบส่วนตัว ไปไหนถ้ามีต้องสั่ง) บอกได้คำเดียวอร่อย ได้เยอะ
ปลาอินทรีทอดซีอิ๋ว อันนี้ก็อร่อย
โดยรวม อร่อย ราคาไม่แพง สั่งมา 4 อย่าง กิน 2 คน บอกเลยแทบอ้วก ได้เยอะทุกเมนู
วันแรกก็จบลงด้วยดี เตรียมลุยต่อวันพรุ่งนี้
วันที่ 2 เกาะห้อง
วัตถุประสงค์เราคืออยากไปแบบชิวๆส่วนตัวๆ
ก่อนไปเราเซิสหาข้อมูลเรือหางยาวเหมาลำ
มีคนบอกให้วอคอินไปเลยที่คลองม่วงจะได้ราคาถูก
ซึ่งเราตั้งงบไม่เกิน2000บาท แต่ตอนไปถามเราไปถามในวันแรก
บริเวณนั้นก็มีร้านอาหารริมชายหาด 2-3ร้าน ด้วยความไม่รู้ก็ถามป้าที่ขายอาหาร
เกี่ยวกับเรือที่จะเช่าไปเกาะ ป้าก็บอก "อ๋อ เดี๋ยวป้าติดต่อให้ "
สักพักป้าบอก ไปเกาะห้องอย่างเดียว 2000 บาท
ถ้าไป 3 เกาะ ราคา 2500 บาท ซึ่งปัจจุบันก็ราคานี้
เราเลยต่อรองเลยได้มา 2300 บาท
ถ้าติดต่อโดยตรงเราว่าได้ราคาที่ถูกกว่านี้นะ
(ใครสนใจอินบ็อคมาถามได้ค่ะ)
เช้าวันที่ 2 นัดเรือไว้ 0730 แต่ด้วยการสื่อสารที่ไม่เข้าใจ
บังที่ขับบอกปกติวันนี้ (วันศุกร์) จะไม่ออกเรือเพราะชาวมุสลิมต้องเข้ามัสยิส
บังบอกในเมื่อบอกไปแล้วก็ต้องรับ แต่ให้ลูกชายเป็นคนออกเรือพาไป
ปกติจะมีน้ำผลไม้ตามฤดูกาลให้ดื่ม แต่ด้วยเตรียมอะไรไม่ทันจึงไม่มี
ระหว่างรอก้ถ่ายรูปเล่นชิวๆ ริมชายหาด
แปดโมงนิดๆ ได้เวลาเรือออก เราอยากไปตรงไหนก็บอกคนขับได้เลย
ที่แรกที่ไปคือเกาะห้อง ยิ่งไปเช้าคนยิ่งน้อย
ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที เสียค่าเข้าเองคนละ 60 บาท
คนน้อยตามที่คาดการณ์ไว้ สวยงามเหมือนที่คิดเลย
คือชอบเลยล่ะ เงียบสงบ ที่นี่มีร้านอาหารและห้องน้ำไว้บริการ
แต่อาหารก็จะแพงนิดนึง ควรเตรียมของกินไปเองนะจ้ะ
เจ้าถิ่นตัวนี้เดินมาชาวต่างชาติ ถ่ายรูปกันเต็มเลย
เราใช้เวลาอยู่ที่เป็นชั่วโมง ลมพัดเย็นๆ แอบหลับไปงีบนึง
หลังจากนั้น ไปต่อที่เขาเรียกกันลากูน จริงก็ไม่มีอะไรนะแวะถ่ายรูปแปปนึง
มันแค่มีมุมที่เป็นซิกเนเจอร์ อยู่มุมนึง
แล้วก็ไปแวะที่เกาะพาราไดซ์ พอสายๆ คนเริ่มเยอะ เรือก็จอดเยอะ เลยอาจมองไม่ค่อยสวยเท่าไหร่
เราก็อยู่ที่นี่แค่พักเดียว ถ้ามากับทัวร์จะแวะทานข้าวที่เกาะนี้
ที่สุดท้ายคือไปดำน้ำที่บริเวณเกาะผักเบี้ย
โชคไม่มีวันนี้น้ำขุ่น มองไม่ค่อยเห็นปลาสักเท่าไหร่
อยู่ดำน้ำแค่พักเดียว
เรารู้สึกว่าพอใจแล้วกับทริปวันนี้ก็เลยกลับ ใช้เวลาอยู่เกาะประมาณบ่ายโมง
กลับห้องมาอาบน้ำ จากนั้นจึงไปท่าปอมคลองสองน้ำ
เสียค่าเข้าคนละ 20 บาท ที่นี่เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ แต่สวยสุดเท่าที่เคยเดินมา
มันมีอะไรให้ชวนมองได้เรื่อยๆ มีทั้งน้ำใส ภูเขา ต้นไม้ ป่าโกงกาง
มีจุดให้เล่นน้ำ1จุด น้ำไม่ลึก
เสร็จจากนี้มีเวลา เพื่อใช้ให้คุ้มค่าจึงไปวัดถ้ำเสือ
ต้องแต่งกายให้สุภาพนะคะ แต่ถ้าใส่สั้นเขามีผ้าถุงให้ใส่ (เงินหยอดตู้)
ไฮไลท์คือด้านบน ซึ่งต้องเดินขึ้นบันได 1260 ขั้น
เราไม่ไหวเพราะทางชัน แฟนจึงขึ้นไปคนเดียว
มองเห็นถึงสนามบินกระบี่เลย
จบจากนี้ก็มืดพอดี จึงไปเดินเล่นหาของกินที่ตลาดคนเดิน
ของกินเราว่าก็ทั่วๆไป ไม่แตกต่าง แต่มีร้านปิ่ง ย่าง หมาล่าอยากแนะนำ อร่อยใช้ได้
คนซื้อเยอะมาก วนมาซื้อรอบ 2 ต้องรอคิวซักพักเลยละ
ส่วนร้านนี้ขายแมงกระพุนย่าง กรอบๆ กรุบๆ แซบกำลังดี
ร้านต่อไปเป็นร้านยำส้มโอ ป้าเค้าให้เยอะดี มีทั้งปลากรอบ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ อร่อยครบรส
ใครชอบกินชานมไข่มุกเราว่าร้านนี้อร่อยใช้ได้ เราสั่งชาใต้หวัน
รสชาติ เหมือนได้กินชาของโอชายะเลย แต่รสสัมพัสจะอ่อนกว่านิดนึง
กินจนพุงกางแล้วก็กลับไปพักผ่อนเตรียมลุยพรุ่งนี้ต่อ จบแล้ว วันที่2 เหลือภารกิจวันสุดท้าย
วันที่ 3 ทัวร์ 4 เกาะ จอยทริป
วันสุดท้ายเลือกเที่ยวเกาะใกล้ๆ จึงเลือกทัวร์ 4 เกาะ
อันนี้จองผ่านเอเจนซี่ ก็หาตามเว็บว่าอันไหนดี ไม่แพง
เลยได้ที่ Krabiteerapongtour เราเลือกเป็นจอยทริปเรือหางยาว
ราคา 400 บาทต่อคน ได้อาหารกลางวัน 1 กล่อง ฟรีค่าเข้า อุปกรณ์ดำน้ำ
เราไม่ได้คาดหวังว่าจะดี เพราะเคยไปเที่ยวแบบจอยทริปแต่เป็นสปีดโบ๊ทไม่ค่อยชอบ
เจ้าหน้าที่บอกให้ไปเช็คอินก่อน 0830 ไปที่ท่าเรือวังทรายสปีดโบ๊ทนะ
โอเค เมื่อถึงวันไปก็ทำตามเจ้าหน้าที่บอกไปถึงก็แปดโมงครึ่งแหละ คนก็มารอไปเกาะกันเยอะอยู่
ทั้งฝรั่งเอย คนจีนเอย เราก็เข้าไปเช็คอินกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะมีหลายกลุ่มอยู่
เราก็เซ็นชื่อและรับริสแบนด์เพื่อให้รู้ว่าเราอยู่กลุ่มไหน
ก็จะมีเจ้าหน้าที่ประกาศว่าใครมาถึงแล้ว เชิญทานข้าวเช้าก่อนได้นะคะ
มันจะมีซุ้มอาหารเล็กๆ ไว้บริการ มีน้ำ กาแฟ เราแบบประทับใจอะ เพราะบางทีไม่มีให้นะ
ส่วนตัวติดใจเครื่องทำกาแฟร้อนอัตโนมัติ เลือกได้ว่าอยากดื่มอะไร รสชาติก็ดีด้วย
เมื่อถึงเวลาขึ้นเรือ โชคดีที่กลุ่มเรามีแต่คนไทย ทั้งลำมี 15 คน ซึ่งไม่เยอะเกินไป
ที่แรกที่ไปคือถ้ำพระนาง อ่าวไร่เลย์
แล้วก้ไปต่อที่เกาะปอดะ จะพักทานข้าวกล่องที่นี่ น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา
ข้าวกล่องโอเคเลยได้เยอะ รสชาติก็ดี แล้วก็มีนำ้ดื่ม ขนม ไว้บริการ
จากนั้นนั่งเรือผ่านเกาะไก่ และไปดำน้ำเกาะหินปูนกลางทะเล
ที่สุดท้ายคือทะเลแหวก จ้าา
[CR] กระบี่ 3 วัน 2 คืน 2019 คุ้มค่า สนุก ประทับใจ
แต่การไปกระบี่ครั้งนี้ เราคิดว่ามันคุ้มค่า สนุก ประทับใจ
ก็เลยอยากจะมารีวิวเพื่อเป็นแนวทางให้เพื่อนๆที่สนใจ
หรือกำลังตัดสินใจไปเที่ยวที่กระบี่ อาจจะใช้คำไม่สละสลวยหรือเรียงคำงง
ก้ขออภัยด้วยนะคะ
เราไปกระบี่เมื่อวันที่ 7-9 กุมภาพันธ์ 2562 ไปกับแฟน 2 คนนะคะ
จองตั๋วแอร์เอเชียแบบโปรถูกไว้ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว 2 คนไปกลับประมาณ 2 พันนิดๆ
ก่อนไปก็วางแพลนทั้งสถานที่ๆต้องการไป รถยนต์เช่า ห้องพัก ร้านอาหาร
ทำเป็นโปรแกรมไว้ วัตถุประสงค์หลักในการไปคือเกาะ อยากไปดำน้ำ ดูน้ำทะเลสวยๆใสๆ
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
วันที่ 1
ขึ้นเครื่องตอน 0640 ถึงสนามบินกระบี่ 0800
ไปรับรถยนต์เช่า (จองไว้ก่อนไป 1 อาทิตย์)
เราโชคดีที่ได้รถวีออสคันละ 800 บาท เช่า 3 วัน ไม่รวมค่าน้ำมัน
(แต่ 3 วันหมดค่าน้ำมันไปแค่ 700 บาท)
สถานีแรกที่ไปคือหาอะไรกิน 555+
เราติดใจติ่มซำ (ราชรสติ่มซำที่ภูเก็ต)
เห็นว่าที่กระบี่มีจึงไม่ลังเลที่จะไป
ร้านนี้มีอาหารให้เลือกค่อนข้างเยอะ เนื้อเน้นๆ รสชาติดี เข่งละ 25 บาท
สั่งมาพอประมาณ เห็นน้อยๆ อย่างนี้ แต่พอกินเสร็จรู้สึกอิ่มมาก อร่อยทุกอย่าง
ทานเสร็จก็ลุยต่อ เนื่องจากทำโปรแกรมไว้ เดี๋ยวเวลาไม่พอ
สถานีต่อไป สระมรกต เมื่อไปถึงจะมีลานจอดรถ เสียค่าจอด 40 บาท
ตรงทางเข้าอุทยานต้องเสียค่าเข้าอีกคนละ 20 บาท
มีสองเส้นทางให้ไปถึงสระมรกต ทางหลัก 800 เมตร
ถ้าชอบธรรมชาติก็ไปทางเส้นศึกษาธรรมชาติ 1,400 เมตร
เดินเรื่อยๆ ก็เพลินๆ ดี แต่มันจะมีทางแยกต้องดูดีๆ
พอเรามาถึงถึงสระมรกต คนค่อนข้างเยอะ และแดดแรง
แต่โดยรวมสวยงาม แวะถ่ายรูป แต่ไม่ได้ลงเล่นน้ำ เพราะต้องขับรถไปอีกหลายที่
แนะนำถ้าไม่ชอบคนเยอะควรมาถึงสัก 0800 - 0830 จะฟินมาก
ระหว่างทางไปสระมรกต
มุมนี้คนอาจไม่เยอะ
สถานีต่อไปที่น้ำตกร้อน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสระมรกต
ค่าจอดรถ 30 บาท ค่าเข้าอุทยานอีกคนละ 20 บาท
ที่นี่เราว่าไม่ค่อยมีอะไร แต่ถ้าอยากแช่น้ำอุ่นๆ ก็โอเคอยู่
มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาตินิดหน่อย ก็โอเคนะ เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ไม่นาน หย่อนขาแช่น้ำพอเป็นพิธีพอ 555+
สถานีต่อไป ไปแวะร้านคาเฟ่สวยๆ สักร้านหากาแฟกับขนมทานเบาๆ
ภายนอกร้านดูสวยงาม ตามรูป
เราว่ารสชาติ ค่อนข้างหวานไปหน่อย
ขนมหวานใช้ได้
ไปต่อกันเลยที่คลองสระแก้ว เนื่องจากอยากพายเรือคายักที่นี่
ค่าเข้าคนละ 20 บาทค่าเช่าเรือคนละ 100 บาท พายเรือระยะทาง 2 กิโล
น้ำใสมาก ธรรมชาติสุดๆ พายแบบเพลินมาก
รูปน้อยไปหน่อย เน้นเล่นมากกว่า
พายเรือเสร็จก็ลงเล่นน้ำ ถ้าเช่าเรือ จะมีห่วงยางให้เล่นน้ำฟรี น้ำค่อนข้างเย็นทีเดียว
อยู่ตรงนี้ค่อนข้างนานจนเกือบปิด ประมาณ 1700
อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เข้าที่พัก ซึ่งอยู่บริเวณอ่าวนาง
เราเลือกที่พักถูกๆ เพราะไม่เน้นอยู่ห้อง แค่เอาไว้นอน
คืนละ 500 เศษ ไม่มีอาหารเช้านะ โดยรวมก็โอเคนะ
อ่อ เราจองผ่าน booking.com
ได้เวลาทานข้าวเย็น เราเลือกร้านอาหารน้องโจ๊ก
จากที่อ่านรีวิว ก็มีทั้งดีและไม่ดี แต่พอได้ไปสัมผัสเอง
ดีกว่าที่คิดเยอะ ร้านโดยรวมดูสะอาดตา ดูกว้างขวาง
เหมือนทานข้าวอยู่บ้าน เราเน้นสั่งอาหารพื้นเมือง
และที่อยากกิน
แกงกะทิเนื้อปู + เส้นหมี่ อร่อยจริง เนื้อเน้นๆ
ผักเหมียงผัดไข่กุ้งเสียบวุ้นเส้น อันนี้เราว่าจืดไปหน่อย ถ้าสั่งไม่ควรใส่วุ้นเส้น
ปูนิ่มทอดกระเทียม (ชอบส่วนตัว ไปไหนถ้ามีต้องสั่ง) บอกได้คำเดียวอร่อย ได้เยอะ
ปลาอินทรีทอดซีอิ๋ว อันนี้ก็อร่อย
โดยรวม อร่อย ราคาไม่แพง สั่งมา 4 อย่าง กิน 2 คน บอกเลยแทบอ้วก ได้เยอะทุกเมนู
วันแรกก็จบลงด้วยดี เตรียมลุยต่อวันพรุ่งนี้
วันที่ 2 เกาะห้อง
วัตถุประสงค์เราคืออยากไปแบบชิวๆส่วนตัวๆ
ก่อนไปเราเซิสหาข้อมูลเรือหางยาวเหมาลำ
มีคนบอกให้วอคอินไปเลยที่คลองม่วงจะได้ราคาถูก
ซึ่งเราตั้งงบไม่เกิน2000บาท แต่ตอนไปถามเราไปถามในวันแรก
บริเวณนั้นก็มีร้านอาหารริมชายหาด 2-3ร้าน ด้วยความไม่รู้ก็ถามป้าที่ขายอาหาร
เกี่ยวกับเรือที่จะเช่าไปเกาะ ป้าก็บอก "อ๋อ เดี๋ยวป้าติดต่อให้ "
สักพักป้าบอก ไปเกาะห้องอย่างเดียว 2000 บาท
ถ้าไป 3 เกาะ ราคา 2500 บาท ซึ่งปัจจุบันก็ราคานี้
เราเลยต่อรองเลยได้มา 2300 บาท
ถ้าติดต่อโดยตรงเราว่าได้ราคาที่ถูกกว่านี้นะ
(ใครสนใจอินบ็อคมาถามได้ค่ะ)
เช้าวันที่ 2 นัดเรือไว้ 0730 แต่ด้วยการสื่อสารที่ไม่เข้าใจ
บังที่ขับบอกปกติวันนี้ (วันศุกร์) จะไม่ออกเรือเพราะชาวมุสลิมต้องเข้ามัสยิส
บังบอกในเมื่อบอกไปแล้วก็ต้องรับ แต่ให้ลูกชายเป็นคนออกเรือพาไป
ปกติจะมีน้ำผลไม้ตามฤดูกาลให้ดื่ม แต่ด้วยเตรียมอะไรไม่ทันจึงไม่มี
ระหว่างรอก้ถ่ายรูปเล่นชิวๆ ริมชายหาด
แปดโมงนิดๆ ได้เวลาเรือออก เราอยากไปตรงไหนก็บอกคนขับได้เลย
ที่แรกที่ไปคือเกาะห้อง ยิ่งไปเช้าคนยิ่งน้อย
ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที เสียค่าเข้าเองคนละ 60 บาท
คนน้อยตามที่คาดการณ์ไว้ สวยงามเหมือนที่คิดเลย
คือชอบเลยล่ะ เงียบสงบ ที่นี่มีร้านอาหารและห้องน้ำไว้บริการ
แต่อาหารก็จะแพงนิดนึง ควรเตรียมของกินไปเองนะจ้ะ
เจ้าถิ่นตัวนี้เดินมาชาวต่างชาติ ถ่ายรูปกันเต็มเลย
เราใช้เวลาอยู่ที่เป็นชั่วโมง ลมพัดเย็นๆ แอบหลับไปงีบนึง
หลังจากนั้น ไปต่อที่เขาเรียกกันลากูน จริงก็ไม่มีอะไรนะแวะถ่ายรูปแปปนึง
มันแค่มีมุมที่เป็นซิกเนเจอร์ อยู่มุมนึง
แล้วก็ไปแวะที่เกาะพาราไดซ์ พอสายๆ คนเริ่มเยอะ เรือก็จอดเยอะ เลยอาจมองไม่ค่อยสวยเท่าไหร่
เราก็อยู่ที่นี่แค่พักเดียว ถ้ามากับทัวร์จะแวะทานข้าวที่เกาะนี้
ที่สุดท้ายคือไปดำน้ำที่บริเวณเกาะผักเบี้ย
โชคไม่มีวันนี้น้ำขุ่น มองไม่ค่อยเห็นปลาสักเท่าไหร่
อยู่ดำน้ำแค่พักเดียว
เรารู้สึกว่าพอใจแล้วกับทริปวันนี้ก็เลยกลับ ใช้เวลาอยู่เกาะประมาณบ่ายโมง
กลับห้องมาอาบน้ำ จากนั้นจึงไปท่าปอมคลองสองน้ำ
เสียค่าเข้าคนละ 20 บาท ที่นี่เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ แต่สวยสุดเท่าที่เคยเดินมา
มันมีอะไรให้ชวนมองได้เรื่อยๆ มีทั้งน้ำใส ภูเขา ต้นไม้ ป่าโกงกาง
มีจุดให้เล่นน้ำ1จุด น้ำไม่ลึก
เสร็จจากนี้มีเวลา เพื่อใช้ให้คุ้มค่าจึงไปวัดถ้ำเสือ
ต้องแต่งกายให้สุภาพนะคะ แต่ถ้าใส่สั้นเขามีผ้าถุงให้ใส่ (เงินหยอดตู้)
ไฮไลท์คือด้านบน ซึ่งต้องเดินขึ้นบันได 1260 ขั้น
เราไม่ไหวเพราะทางชัน แฟนจึงขึ้นไปคนเดียว
มองเห็นถึงสนามบินกระบี่เลย
จบจากนี้ก็มืดพอดี จึงไปเดินเล่นหาของกินที่ตลาดคนเดิน
ของกินเราว่าก็ทั่วๆไป ไม่แตกต่าง แต่มีร้านปิ่ง ย่าง หมาล่าอยากแนะนำ อร่อยใช้ได้
คนซื้อเยอะมาก วนมาซื้อรอบ 2 ต้องรอคิวซักพักเลยละ
ส่วนร้านนี้ขายแมงกระพุนย่าง กรอบๆ กรุบๆ แซบกำลังดี
ร้านต่อไปเป็นร้านยำส้มโอ ป้าเค้าให้เยอะดี มีทั้งปลากรอบ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ อร่อยครบรส
ใครชอบกินชานมไข่มุกเราว่าร้านนี้อร่อยใช้ได้ เราสั่งชาใต้หวัน
รสชาติ เหมือนได้กินชาของโอชายะเลย แต่รสสัมพัสจะอ่อนกว่านิดนึง
กินจนพุงกางแล้วก็กลับไปพักผ่อนเตรียมลุยพรุ่งนี้ต่อ จบแล้ว วันที่2 เหลือภารกิจวันสุดท้าย
วันที่ 3 ทัวร์ 4 เกาะ จอยทริป
วันสุดท้ายเลือกเที่ยวเกาะใกล้ๆ จึงเลือกทัวร์ 4 เกาะ
อันนี้จองผ่านเอเจนซี่ ก็หาตามเว็บว่าอันไหนดี ไม่แพง
เลยได้ที่ Krabiteerapongtour เราเลือกเป็นจอยทริปเรือหางยาว
ราคา 400 บาทต่อคน ได้อาหารกลางวัน 1 กล่อง ฟรีค่าเข้า อุปกรณ์ดำน้ำ
เราไม่ได้คาดหวังว่าจะดี เพราะเคยไปเที่ยวแบบจอยทริปแต่เป็นสปีดโบ๊ทไม่ค่อยชอบ
เจ้าหน้าที่บอกให้ไปเช็คอินก่อน 0830 ไปที่ท่าเรือวังทรายสปีดโบ๊ทนะ
โอเค เมื่อถึงวันไปก็ทำตามเจ้าหน้าที่บอกไปถึงก็แปดโมงครึ่งแหละ คนก็มารอไปเกาะกันเยอะอยู่
ทั้งฝรั่งเอย คนจีนเอย เราก็เข้าไปเช็คอินกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะมีหลายกลุ่มอยู่
เราก็เซ็นชื่อและรับริสแบนด์เพื่อให้รู้ว่าเราอยู่กลุ่มไหน
ก็จะมีเจ้าหน้าที่ประกาศว่าใครมาถึงแล้ว เชิญทานข้าวเช้าก่อนได้นะคะ
มันจะมีซุ้มอาหารเล็กๆ ไว้บริการ มีน้ำ กาแฟ เราแบบประทับใจอะ เพราะบางทีไม่มีให้นะ
ส่วนตัวติดใจเครื่องทำกาแฟร้อนอัตโนมัติ เลือกได้ว่าอยากดื่มอะไร รสชาติก็ดีด้วย
เมื่อถึงเวลาขึ้นเรือ โชคดีที่กลุ่มเรามีแต่คนไทย ทั้งลำมี 15 คน ซึ่งไม่เยอะเกินไป
ที่แรกที่ไปคือถ้ำพระนาง อ่าวไร่เลย์
แล้วก้ไปต่อที่เกาะปอดะ จะพักทานข้าวกล่องที่นี่ น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา
ข้าวกล่องโอเคเลยได้เยอะ รสชาติก็ดี แล้วก็มีนำ้ดื่ม ขนม ไว้บริการ
จากนั้นนั่งเรือผ่านเกาะไก่ และไปดำน้ำเกาะหินปูนกลางทะเล
ที่สุดท้ายคือทะเลแหวก จ้าา
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้