“There is a pleasure in the pathless woods,
There is a rapture on the lonely shore,
There is society, where none intrudes,
By the deep Sea, and music in its roar:
I love not Man the less, but Nature more."
― Lord Byron, Childe Harold's Pilgrimage
เชียงใหม่เป็นเมืองที่เรียกได้ว่าเหมาะกับการวิ่งทั้ง City run และ Trail running ด้วยความที่ภูเขากับเมืองอยู่ใกล้กันมาก ทำให้ตอนนี้เชียงใหม่แทบจะกลายเป็นเมืองหลวงแห่งการวิ่งเทรลไปแล้ว โดยเฉพาะในปี 2019 นี้ มีงานวิ่งเทรลให้เหล่านักวิ่งได้เลือกกันเยอะมากๆ
สำหรับตัวผู้เขียนเพิ่งจะรู้จักกับการวิ่งเทรลแบบจริงๆ จังๆ เมื่อราวๆ 2 ปีก่อน ซึ่งก็สนใจมากเพราะชอบการเดินป่าอยู่แล้ว ป่าหลายๆ ที่ในเชียงใหม่ก็ไปเดินตั้งแต่เด็ก หลังจากที่วิ่งบนถนนมาเกือบๆ 3 ปี ครบทุกระยะแล้ว จึงเกิดความรู้สึกอิ่มตัว อยากจะหาอะไรตื่นเต้น เลยหันมาวิ่งเทรลจริงจังในปีนี้ จริงๆ จะเริ่มตั้งแต่ปีที่แล้วแต่ดันหัวเข่าเจ็บจากงาน CMU เลยต้องพักไปเกือบปี ปีนี้จึงเป็นนิมิตหมายของการวิ่งเทรล...
เกริ่นมาซะยาว ฮร่าๆ สาเหตุที่มาทำเส้นทางนี้ก็เพราะ หลังจากที่จะเริ่มวิ่งเทรลก็ลองไปหาข้อมูลในกูเกิ้ล พบว่า...แทบจะไม่มีเส้นทางโดยละเอียดเลย TT ดังนั้นผมก็เลยอยากจะทำเป็นฐานข้อมูลให้เพื่อนๆ ที่วิ่งเทรลกันอยู่มีข้อมูลเส้นทางกัน ซึ่งผมจะพยายามใส่ข้อมูลให้ละเอียดที่สุด ไปชมกันโลดดดดด
........................................................................
EP01 : Monk's trail - วัดพระธาตุดอยสุเทพ - ห้วยคอกม้า
สำหรับเส้นทาง Monk's trail - วัดพระธาตุดอยสุเทพนั้นเป็นเส้นทางยอดนิยมของทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ เพราะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ จึงจะพบผู้คนมาเดินกันแทบทุกวัน เป็นเส้นทางที่นักวิ่งเทรลรู้จัก และคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามผมก็อยากจะทำเส้นทางนี้ไว้เผื่อจะมีนักวิ่งหน้าใหม่ หรือนักวิ่งจากต่างถิ่นไว้เป็นข้อมูล
การเริ่มต้นเส้นทางนี้ ผมจะเริ่มต้นจากบริเวณหลัง มช. ตรงแถวๆ D Condo เพราะมีที่จอดรถเยอะพอสมควร
หลังจากที่ยืด วอร์ม อัพเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้วิ่งเลี้ยวขวาไปตามทางเลยครับ
ให้วิ่งตามถนนไปเรื่อยๆ เลยครับ ถนนก็จะค่อนข้างชันหน่อย ถือว่าเป็นการอุ่นเครื่องก่อนเข้าป่า
ระหว่างทางก็จะเจอวัยรุ่นเจ้าถิ่นมาคอยต้อนรับ
.
เมื่อมาจนสุดเส้นทางถนน เราก็จะเจอทางเข้าสู่ Monk's trail หรือที่เด็ก มช. บางกลุ่มจะรู้จักกันในชื่อ "เส้นตะกายดอย" ซึ่งเป็นที่ซุ้มซ้อมกำลังขาก่อนวันรับน้องขึ้นดอย ตรวจเช็คความเรียบร้อยกันเสร็จแล้วก็ลุยครับ!
เส้นทางในช่วงแรกจะมีหินกระโดดเยอะมาก ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
วิ่งตามเส้นทางไปเรื่อยๆ ไม่มีทางแยกให้งงครับ
ในที่สุดเราก็จะมาถึงวัดผาลาด สามารถผักชมวิวชมพระอาทิตย์ขึ้น เข้าห้องน้ำได้ตามสะดวก
เสร็จแล้วก็มาต่อกัน ไปตามเส้นทางตามรูปครับ
บริเวณนี้จะเป็นเส้นทางที่จะไปสุดที่ถนน ซึ่งทางจะชันมากๆ ต้องระมัดระวัง บางจุดต้องใช้มือช่วยปืนป่าย
ในที่สุดเราก็จะออกมาต้องจุดนี้ครับ จากนั้นก็วิ่งไปตามถนน 20 เมตร ทางวิ่งอีกพาทจะอยู่อีกฝั่งถนน
.
บริเวณทางเข้าในพาทนี้จะมีป้ายบอกอยู่ครับ ลุยเลย!
สำหรับใครที่คิดว่าเส้นทางในพาทแรกนี่ยาก และชัน ขอบอกว่าเด็กๆ ไปเลยครับเมื่อเจอพาทนี้ มีแต่ขึ้นๆๆๆๆๆ ฮร่าๆๆ
.
.
สักสองอาทิตย์ก่อนผมมาวิ่งหนนึง ในใจก็คิดว่าแฮรี่ (Harry Jones) นางมาวิ่งรูทนี้ได้ไงเพซ 4 เพซ 5 ในขณะที่ Garmin ของเรา 2 หลักไปแล้ว ก็คิดต่อว่านางต้องไม่ใช้คน ไม่ก็ต้องขายวิญญาณให้ซาตาน ยังคิดไม่ทันจบ เห็นคนเสื้อขาววิ่งมาไวๆ เห้ย! แฮรี่นี่หว่า 555 โดยความตกใจเหมือนตอนเจอดารา เลยไม่ทันได้ขอถ่ายรูป ได้แต่ทักทายไป แต่ปกติก็เจอนางหิ้วถุงสับปะรดอยู่หลัง มช. บ่อยๆ 555
*** Harry Jones เป็นนักวิ่งเทรลที่มีชื่อเสียงระดับโลกครับ นางมาเก็บตัวอยู่เชียงใหม่ แถวหลัง มช. นี่ Elite และขาโหดเยอะครับ วันดีคืนดีก็จะเจอ Lee Grantham มาวิ่งชิวๆ ไหนจะโปรหนำที่เจอได้ทุกวัน วันก่อนก็เจอพี่เจ จันทรบูรณ์ มาเดินโต๋เต๋อยู่แถวนี้ สมกับเป็นเมืองหลวงของการวิ่งเทรลครับ 5555
กลับมาต่อเรื่องของเราครับ 555 วิ่งๆ เดินๆ ไปเรื่อยๆ ครับ เห็นแสงสว่างที่ปลายทางนั่นมั้ยครับ นั้นแหละครับทั่นผู้โชมมมมม!
ในที่สุดเราก็มาถึงโค้งขุนกัน ชนะนนท์ แต่ยังครับ ยังไม่ถึงชุด Check point 1 ของเรา ไปต่อครับ! และเพื่อให้เทรลให้สุด เราจะไปขึ้นพระธาตุทางถนนครับ เลี้ยวขวาเลยครับ เลี้ยวขวาไปยาวๆ
เราก็จะเจอถนนสุดชันเส้นนี้ วิ่งตามทางไปต่อราวๆ 150 เมตรครับ
จะเจอบันไดทางขึ้นบิเวณนี้ ไปเลย!
ที่สุดบันไดจะเข้าเส้นทางเทรลอีกครั้ง ชันสุดๆ เหมือนเดิม
ถ้าเห็นเสาเหล็กแปลว่ามาสุดทางแล้วครับ ให้เลี้ยขวา
จากนั้นก็ไปตามทาง ขึ้นบันไดตรงนี้ ซึ่งจะนำทุกท่านขึ้นไปสู่บริเวณพระธาตุ
ในที่สุด ในที่สุด! ก็ถึงจุด Check point แรกของเราสักที
หมอกยามเช้าสวยงามมากครับ หยอกๆ 555 เห็นสภาพหมอกควันกันแล้ว เรามาอดทนไปด้วยกัน จนกว่าฝนแรกจะมานะครับ N95 ในมือผมสั่นไปหมด 555
.
พักเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วก็ลุยต่อครับ ลงบันไดพระธาตุไปเลย! สายๆ คนจะเยอะหน่อย ให้ระมัดระวังเด็กกับคนแก่ด้วยนะครับ
มาถึงจุดนี้แล้วเลี้ยวขวาครับ เพื่อไปห้วยคอกม้ากันต่อ
ระยะทางราวๆ 1.5 km
เมื่อมาถึงทางโค้งที่มีการก่อสร้าง ให้สังเกตุทางขวามือที่อยู่อีกฝั่งครับ
ที่ทางเข้าจะมีป้ายบอก เข้าไปเลยยยยยยยย วิ่งไปเรื่อยๆ ชิลๆ เส้นนี้จะวิ่งง่าย วิ่งสบายกว่าทางที่เรามาครับ
เมื่อมาเจอทางแยกให้เลี้ยวซ้าย ซ้ายนะครับ!
วิ่งต่อไปเรื่อยๆ ครับ เมื่อเจอกับรั้วสีแดงนี้ เป็นสัญญาณว่าเราเข้าใกล้ Check point ที่สองกันแล้ว
วิ่งคนเดี่ยวเหงาๆ มาตั้งนานได้เจอมนุษย์สักที 5555 มีกลุ่มน้องๆ จาก ม.เกษตร เดินหลังไวๆ
เมื่อเจอกันฝายปูนตรงนี้ แปลว่าเรามาสุดเส้นทางของเราแล้วครับ นี่แหละครับ Check point ที่สองของเรา แต่น้องๆ เค้าไปไหนต่อกันไม่รู้ ถามไม่ทัน 555
พักเติมถัง E ฟังเสียงนกเสียงไม้กันก่อนสักแปปครับ อุตส่าวิ่งมาซะไกล (อย่าลืมเก็บขยะกันออกมาให้หมดด้วยนะจ๊ะ
เมื่อพร้อมแล้วก็ตรวจเช็คสิ่งของ เชือกรองเท้า ขากลับนี่ความสนุกของการวิ่งเทรลเลยครับ เราจะมา Down Hill กันยาวๆ เย้!!!!!!
ขากลับผมจะไม่ขึ้นไปทางพระธาตุนะครับ จะลงถนนตรงหน้าพระธาตุ เพราะว่ารีบกลับแฮร่!
กลับมาถึงโค้งขุนกัณฑ์อีกครั้งในขาลง เพื่อนๆ วิ่งลงด้วยความระมัดระวังกันนะครับ คราวนี้ก็วิ่งกลับกันยาวๆ ไปกันถึงจุดเริ่มต้นเลย เป็นอันจบรูทนี้ครับผม...
..............................
***Routes วิ่งเส้นนี้คร่าวๆ โดย Strava (ผมไม่สามารถลากเส้นทางลัดขึ้นพระธตุได้นะครับ ให้อิงข้อมูลในบทความเอา)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.strava.com/routes/17177210
***ข้อมูลจาก Garmin 235***
Distance 19.52 km
Elev. Gain 1,157 m
***คำแนะนำอื่นๆ***
1. ควรมีสภาพร่างกายที่แข็งแรง
2. ควรมีเพื่อนร่วมวิ่ง (แต่ผมไปคนเดียว เพื่อนๆ หนีไปทำงานในเมืองกรุงหมด เหลือผมอยูเฝ้าดอยคนเดียว TT)
3. ระมัดระวังหินกระโดดในช่วงแรก
4. แมลงสร้างความน่าลำคาญ ก่อนถึงพระธาตุมดดำเยอะมากๆ ในขณะที่เส้นห้วยคอกม้าแมงหวี่ก็เยอะมากเช่นเดียวกัน
5. ใบไม้ในห้วยคอกม้า ช่วงนี้(กุมภาพันธ์) ต้นไม้เริ่มผลัดใบทำให้ใบไม้ทับถมกันเยอะ ทำให้เรามองไม่เห็นหลุม หรือหินต่างๆ ซึ่งอันตรายมาก อาจทำให้ข้อเท้าพลิกรุนแรงได้
สุดท้ายนี้ก็ขอให้เพื่อนๆ วิ่งกันอย่างมีความสุขนะครับ ใครมีข้อมูลดีๆ อะไรก็มาแบ่งปันกันได้ หรือใครจะมาชวนผมวิ่งก็ได้นะครับ แต่บอกไว้ก่อนว่าผมเป็นนักวิ่งสายจาวบ้าน (ชาวบ้าน) ขาไม่แรง ค่อยๆ ชมนก ชมไม้ไป ฮร่าๆๆๆ
แนะนำเส้นทางวิ่งเทรลในเชียงใหม่ EP01 : Monk's trail - วัดพระธาตุดอยสุเทพ - ห้วยคอกม้า
There is a rapture on the lonely shore,
There is society, where none intrudes,
By the deep Sea, and music in its roar:
I love not Man the less, but Nature more."
เชียงใหม่เป็นเมืองที่เรียกได้ว่าเหมาะกับการวิ่งทั้ง City run และ Trail running ด้วยความที่ภูเขากับเมืองอยู่ใกล้กันมาก ทำให้ตอนนี้เชียงใหม่แทบจะกลายเป็นเมืองหลวงแห่งการวิ่งเทรลไปแล้ว โดยเฉพาะในปี 2019 นี้ มีงานวิ่งเทรลให้เหล่านักวิ่งได้เลือกกันเยอะมากๆ
สำหรับตัวผู้เขียนเพิ่งจะรู้จักกับการวิ่งเทรลแบบจริงๆ จังๆ เมื่อราวๆ 2 ปีก่อน ซึ่งก็สนใจมากเพราะชอบการเดินป่าอยู่แล้ว ป่าหลายๆ ที่ในเชียงใหม่ก็ไปเดินตั้งแต่เด็ก หลังจากที่วิ่งบนถนนมาเกือบๆ 3 ปี ครบทุกระยะแล้ว จึงเกิดความรู้สึกอิ่มตัว อยากจะหาอะไรตื่นเต้น เลยหันมาวิ่งเทรลจริงจังในปีนี้ จริงๆ จะเริ่มตั้งแต่ปีที่แล้วแต่ดันหัวเข่าเจ็บจากงาน CMU เลยต้องพักไปเกือบปี ปีนี้จึงเป็นนิมิตหมายของการวิ่งเทรล...
เกริ่นมาซะยาว ฮร่าๆ สาเหตุที่มาทำเส้นทางนี้ก็เพราะ หลังจากที่จะเริ่มวิ่งเทรลก็ลองไปหาข้อมูลในกูเกิ้ล พบว่า...แทบจะไม่มีเส้นทางโดยละเอียดเลย TT ดังนั้นผมก็เลยอยากจะทำเป็นฐานข้อมูลให้เพื่อนๆ ที่วิ่งเทรลกันอยู่มีข้อมูลเส้นทางกัน ซึ่งผมจะพยายามใส่ข้อมูลให้ละเอียดที่สุด ไปชมกันโลดดดดด
EP01 : Monk's trail - วัดพระธาตุดอยสุเทพ - ห้วยคอกม้า
สำหรับเส้นทาง Monk's trail - วัดพระธาตุดอยสุเทพนั้นเป็นเส้นทางยอดนิยมของทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ เพราะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ จึงจะพบผู้คนมาเดินกันแทบทุกวัน เป็นเส้นทางที่นักวิ่งเทรลรู้จัก และคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามผมก็อยากจะทำเส้นทางนี้ไว้เผื่อจะมีนักวิ่งหน้าใหม่ หรือนักวิ่งจากต่างถิ่นไว้เป็นข้อมูล
การเริ่มต้นเส้นทางนี้ ผมจะเริ่มต้นจากบริเวณหลัง มช. ตรงแถวๆ D Condo เพราะมีที่จอดรถเยอะพอสมควร
หลังจากที่ยืด วอร์ม อัพเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้วิ่งเลี้ยวขวาไปตามทางเลยครับ
ให้วิ่งตามถนนไปเรื่อยๆ เลยครับ ถนนก็จะค่อนข้างชันหน่อย ถือว่าเป็นการอุ่นเครื่องก่อนเข้าป่า
ระหว่างทางก็จะเจอวัยรุ่นเจ้าถิ่นมาคอยต้อนรับ
.
เมื่อมาจนสุดเส้นทางถนน เราก็จะเจอทางเข้าสู่ Monk's trail หรือที่เด็ก มช. บางกลุ่มจะรู้จักกันในชื่อ "เส้นตะกายดอย" ซึ่งเป็นที่ซุ้มซ้อมกำลังขาก่อนวันรับน้องขึ้นดอย ตรวจเช็คความเรียบร้อยกันเสร็จแล้วก็ลุยครับ!
เส้นทางในช่วงแรกจะมีหินกระโดดเยอะมาก ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
วิ่งตามเส้นทางไปเรื่อยๆ ไม่มีทางแยกให้งงครับ
ในที่สุดเราก็จะมาถึงวัดผาลาด สามารถผักชมวิวชมพระอาทิตย์ขึ้น เข้าห้องน้ำได้ตามสะดวก
เสร็จแล้วก็มาต่อกัน ไปตามเส้นทางตามรูปครับ
บริเวณนี้จะเป็นเส้นทางที่จะไปสุดที่ถนน ซึ่งทางจะชันมากๆ ต้องระมัดระวัง บางจุดต้องใช้มือช่วยปืนป่าย
ในที่สุดเราก็จะออกมาต้องจุดนี้ครับ จากนั้นก็วิ่งไปตามถนน 20 เมตร ทางวิ่งอีกพาทจะอยู่อีกฝั่งถนน
.
บริเวณทางเข้าในพาทนี้จะมีป้ายบอกอยู่ครับ ลุยเลย!
สำหรับใครที่คิดว่าเส้นทางในพาทแรกนี่ยาก และชัน ขอบอกว่าเด็กๆ ไปเลยครับเมื่อเจอพาทนี้ มีแต่ขึ้นๆๆๆๆๆ ฮร่าๆๆ
.
.
สักสองอาทิตย์ก่อนผมมาวิ่งหนนึง ในใจก็คิดว่าแฮรี่ (Harry Jones) นางมาวิ่งรูทนี้ได้ไงเพซ 4 เพซ 5 ในขณะที่ Garmin ของเรา 2 หลักไปแล้ว ก็คิดต่อว่านางต้องไม่ใช้คน ไม่ก็ต้องขายวิญญาณให้ซาตาน ยังคิดไม่ทันจบ เห็นคนเสื้อขาววิ่งมาไวๆ เห้ย! แฮรี่นี่หว่า 555 โดยความตกใจเหมือนตอนเจอดารา เลยไม่ทันได้ขอถ่ายรูป ได้แต่ทักทายไป แต่ปกติก็เจอนางหิ้วถุงสับปะรดอยู่หลัง มช. บ่อยๆ 555
*** Harry Jones เป็นนักวิ่งเทรลที่มีชื่อเสียงระดับโลกครับ นางมาเก็บตัวอยู่เชียงใหม่ แถวหลัง มช. นี่ Elite และขาโหดเยอะครับ วันดีคืนดีก็จะเจอ Lee Grantham มาวิ่งชิวๆ ไหนจะโปรหนำที่เจอได้ทุกวัน วันก่อนก็เจอพี่เจ จันทรบูรณ์ มาเดินโต๋เต๋อยู่แถวนี้ สมกับเป็นเมืองหลวงของการวิ่งเทรลครับ 5555
กลับมาต่อเรื่องของเราครับ 555 วิ่งๆ เดินๆ ไปเรื่อยๆ ครับ เห็นแสงสว่างที่ปลายทางนั่นมั้ยครับ นั้นแหละครับทั่นผู้โชมมมมม!
ในที่สุดเราก็มาถึงโค้งขุนกัน ชนะนนท์ แต่ยังครับ ยังไม่ถึงชุด Check point 1 ของเรา ไปต่อครับ! และเพื่อให้เทรลให้สุด เราจะไปขึ้นพระธาตุทางถนนครับ เลี้ยวขวาเลยครับ เลี้ยวขวาไปยาวๆ
เราก็จะเจอถนนสุดชันเส้นนี้ วิ่งตามทางไปต่อราวๆ 150 เมตรครับ
จะเจอบันไดทางขึ้นบิเวณนี้ ไปเลย!
ที่สุดบันไดจะเข้าเส้นทางเทรลอีกครั้ง ชันสุดๆ เหมือนเดิม
ถ้าเห็นเสาเหล็กแปลว่ามาสุดทางแล้วครับ ให้เลี้ยขวา
จากนั้นก็ไปตามทาง ขึ้นบันไดตรงนี้ ซึ่งจะนำทุกท่านขึ้นไปสู่บริเวณพระธาตุ
ในที่สุด ในที่สุด! ก็ถึงจุด Check point แรกของเราสักที
หมอกยามเช้าสวยงามมากครับ หยอกๆ 555 เห็นสภาพหมอกควันกันแล้ว เรามาอดทนไปด้วยกัน จนกว่าฝนแรกจะมานะครับ N95 ในมือผมสั่นไปหมด 555
.
พักเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วก็ลุยต่อครับ ลงบันไดพระธาตุไปเลย! สายๆ คนจะเยอะหน่อย ให้ระมัดระวังเด็กกับคนแก่ด้วยนะครับ
มาถึงจุดนี้แล้วเลี้ยวขวาครับ เพื่อไปห้วยคอกม้ากันต่อ
ระยะทางราวๆ 1.5 km
เมื่อมาถึงทางโค้งที่มีการก่อสร้าง ให้สังเกตุทางขวามือที่อยู่อีกฝั่งครับ
ที่ทางเข้าจะมีป้ายบอก เข้าไปเลยยยยยยยย วิ่งไปเรื่อยๆ ชิลๆ เส้นนี้จะวิ่งง่าย วิ่งสบายกว่าทางที่เรามาครับ
เมื่อมาเจอทางแยกให้เลี้ยวซ้าย ซ้ายนะครับ!
วิ่งต่อไปเรื่อยๆ ครับ เมื่อเจอกับรั้วสีแดงนี้ เป็นสัญญาณว่าเราเข้าใกล้ Check point ที่สองกันแล้ว
วิ่งคนเดี่ยวเหงาๆ มาตั้งนานได้เจอมนุษย์สักที 5555 มีกลุ่มน้องๆ จาก ม.เกษตร เดินหลังไวๆ
เมื่อเจอกันฝายปูนตรงนี้ แปลว่าเรามาสุดเส้นทางของเราแล้วครับ นี่แหละครับ Check point ที่สองของเรา แต่น้องๆ เค้าไปไหนต่อกันไม่รู้ ถามไม่ทัน 555
พักเติมถัง E ฟังเสียงนกเสียงไม้กันก่อนสักแปปครับ อุตส่าวิ่งมาซะไกล (อย่าลืมเก็บขยะกันออกมาให้หมดด้วยนะจ๊ะ เมื่อพร้อมแล้วก็ตรวจเช็คสิ่งของ เชือกรองเท้า ขากลับนี่ความสนุกของการวิ่งเทรลเลยครับ เราจะมา Down Hill กันยาวๆ เย้!!!!!!
ขากลับผมจะไม่ขึ้นไปทางพระธาตุนะครับ จะลงถนนตรงหน้าพระธาตุ เพราะว่ารีบกลับแฮร่!
กลับมาถึงโค้งขุนกัณฑ์อีกครั้งในขาลง เพื่อนๆ วิ่งลงด้วยความระมัดระวังกันนะครับ คราวนี้ก็วิ่งกลับกันยาวๆ ไปกันถึงจุดเริ่มต้นเลย เป็นอันจบรูทนี้ครับผม...
***Routes วิ่งเส้นนี้คร่าวๆ โดย Strava (ผมไม่สามารถลากเส้นทางลัดขึ้นพระธตุได้นะครับ ให้อิงข้อมูลในบทความเอา)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
***ข้อมูลจาก Garmin 235***
Distance 19.52 km
Elev. Gain 1,157 m
***คำแนะนำอื่นๆ***
1. ควรมีสภาพร่างกายที่แข็งแรง
2. ควรมีเพื่อนร่วมวิ่ง (แต่ผมไปคนเดียว เพื่อนๆ หนีไปทำงานในเมืองกรุงหมด เหลือผมอยูเฝ้าดอยคนเดียว TT)
3. ระมัดระวังหินกระโดดในช่วงแรก
4. แมลงสร้างความน่าลำคาญ ก่อนถึงพระธาตุมดดำเยอะมากๆ ในขณะที่เส้นห้วยคอกม้าแมงหวี่ก็เยอะมากเช่นเดียวกัน
5. ใบไม้ในห้วยคอกม้า ช่วงนี้(กุมภาพันธ์) ต้นไม้เริ่มผลัดใบทำให้ใบไม้ทับถมกันเยอะ ทำให้เรามองไม่เห็นหลุม หรือหินต่างๆ ซึ่งอันตรายมาก อาจทำให้ข้อเท้าพลิกรุนแรงได้
สุดท้ายนี้ก็ขอให้เพื่อนๆ วิ่งกันอย่างมีความสุขนะครับ ใครมีข้อมูลดีๆ อะไรก็มาแบ่งปันกันได้ หรือใครจะมาชวนผมวิ่งก็ได้นะครับ แต่บอกไว้ก่อนว่าผมเป็นนักวิ่งสายจาวบ้าน (ชาวบ้าน) ขาไม่แรง ค่อยๆ ชมนก ชมไม้ไป ฮร่าๆๆๆ