การสอบ GRE ในปัจจุบัน สามารถลงทะเบียนสอบได้ที่
https://www.ets.org/gre
โดยเนื่องจากเป็นการสอบระบบคอมพิวเตอร์ จึงมีวันสอบให้เลือกมากมาย สำหรับกระทู้นี้จะขอรีวิวในส่วนประสบการณ์ ที่ไปสอบ เพื่อให้ทุกท่านได้ไอเดียว่าเวลาไปสอบเป็นอย่างไร โดยในการสมัครและขั้นตอนต่างๆสามารถหาอ่านได้ใน website นะคะ
ก่อนสอบ
แนะนำเตรียมตัวให้มากๆ อ่านแนวข้อสอบ ทำโจทย์เยอะๆ เพราะว่าตอนไปสอบจะเป็นคล้ายๆกับแนวข้อสอบเลย ส่วนตัว เตรียมตัวสอบค่อนข้างน้อยประมาณ 1 เดือน
ข้อสอบจะเป็น 3 part คือ quatitative, analytic และ verbal
คำแนะนำค่ะ
ในส่วนที่เป็น quantitative ---- แนะนำ Magoosh เลยค่ะ ซื้อเลยทำโจทย์ทุกวัน นั่งรถไปก็ดู VDO ไป ดูได้ทุกที่
Verbal reasoning -- อันนี้ท่องศัพท์เยอะๆ เพราะว่าถึงจะอ่านโจทย์ และวิเคราะห์ได้ แต่ว่า part คำศัพท์ยากมาก ซื้อ Barron GRE vocab มาท่องได้เลยค่ะ
Analytic writing-- ฝึกเขียนและวิเคราะห์ จะเน้น reasoning มากกว่า ตัวโจทย์ ก็จะเป็นตามแนวข้อสอบให้ ประโยค หรือเนื้อความแล้วให้เราวิเคราะห์เห็นด้วยไม่เห็นด้วยยังไงบ้าง
วันสอบ
สนามสอบจะอยู่ไกลมาก ที่ KBU problematic test center
แนะนำให้ไปก่อนเวลาสอบอย่างน้อยประมาณ 1 ชั่วโมง
เมื่อไปถึงเค้าจะให้ลงทะเบียน และเก็บของใน locker โดย ผู้สอบในวันจะมีสอบแต่ละอย่างหลากหลายไม่ใช่สอบ GRE อย่างเดียว
ตอนเราไปถึงเค้าบอกว่าสอบ รอบ 9 โมงเราไปถึง 8.30 น คิดว่ามีเวลาเข้าห้องน้ำห้องท่าสรุป จนท บอกว่าให้เก็บของและเริ่มสอบเลย กะว่าจะมาท่องศัพท์ ก็อดทันที
ก่อนเข้าห้องสอบเค้าจะให้เราเก็บของทุกอย่างเข้า locker ถ่ายรูป แสกนอุปกรณ์ทุกอย่าง จะมีกระดาษ ดินสอให้ ของส่วนตัวไม่ให้เอาเข้าไปเลย กระเป๋ากางเกงทุกอันโดนเช็คหมด ว่ามีอะไรหรือเปล่า เสื้อหนาวเอาเข้าไปได้ค่ะ แต่ห้องสอบไม่หนาวมาก
ห้องสอบ เป็นห้องคอมพิวเตอร์ ที่มีคอกกั้น โดยตัวคอก ทำจากกระดาษแข็งตัดเป็นคอกจ๊า !! งงมาก ว่าเก็บค่าสอบแพง ศูนย์สอบแบบ ดูกระจอกมากอ่ะ
คอมพิวเตอร์ที่สอบโอเคอยู่ทั่วไป ธรรมดา คล้ายๆกับการสอบ TOFLE
เมื่อเริ่มสอบ จะมีให้กรอก code โดยแต่ละคน จะเริ่มไม่ต้องพร้อมกันก็ได้ เพราะไม่มี listening อยู่แล้ว
ข้อสอบจะเริ่มด้วย Quantitative ก่อน หลังจากนั้นก็มา Verbal วนไปมา แล้วต่อด้วย writing จากนั้นมีพัก ถ้าไม่พักก็ต่อเลย กลับมาทำ quantitative ใหม่ และ verbal อีกรอบหลังพัก
โดยสามารถกลับไปมาใน section ได้แต่ถ้าเลยไป section ต่อไปแล้วกลับมาไม่ได้ เช่น section quanti ไป verbal จะย้อนกลับมาไม่ได้ แต่จริงๆก็คงไม่ได้ย้อน เพราะเวลาแทบจะไม่พอ ต้องทำไปเรื่อยๆเลย สมองไม่ได้คิดไตร่ตรอง คิดออกกดตอบ next เลย ถ้าคิดไม่ออกก็ข้ามแล้วกลับมาทำได้ แต่อย่าลืมนะคะ
ส่วนของ verbal นั้น อ่านจบ ทำตอบ ไปเลย เพราะไม่งั้นจะอ่านไม่ทัน มันเยอะมาก
หลังๆจะรู้สึกว่าทำโดยสัญชาตญาณ เพราะว่าข้อสอบมันเยอะมาก ทำไปเรื่อยๆ สมองจะคิดแต่ว่าเมื่อไรมันจะจบเสียทีฟะ !!
หลังสอบเสร็จจะรู้คะแนน Verbal กับ Quanti เลยนะ ส่วน Analytic ก็รอก่อนผลจะออกทีหลัง
ถ้ามีมหาลัยที่จะส่งคะแนนแล้วให้เตรียมรหัสไปกรอกส่งเลยนะ จะฟรี ถ้ามาส่งคะแนนทีหลังจะเสียเงินค่ะ ( เช่นเรา โง่อ่ะ ไม่ได้เตรียมรหัส มหาลัยไป )
คิดว่าคล้ายๆที่ฝึกทำโจทย์ เหมือนในหนังสือนะ คือแนวประมาณนี้เลย ดังนั้นตอนเตรียมตัวแนะนำให้ ฝึกทำโจทย์ เยอะๆ จะได้เวลาไปทำจริงจะชินก็จะรู้ว่าแนวๆ นี้จะหาคำตอบอย่างไร
กระดาษทดเลขมีให้นะคะ หมดแล้วก็ขอเพิ่มได้ค่ะ เราทดจนเต็มเลยค่ะ
ความสงบของห้องสอบไม่ค่อยสงบนะ ห้องสอบเก่า ได้ยินเสียงคนข้างๆ เสียงแอร์ แถมมีแสงแดดลอดออกมาจากหน้าต่างอีกด้วย
แต่ถ้ามีปัญหาอะไรก็ยกมือถาม จนท ได้ตลอดเวลา
สุดท้าย รายละเอียดบางอย่างจำไม่ได้แล้ว เนื่องจากว่าคิดว่าถ้าได้ตอบรับก่อน แต่ถ้าใครสงสัยอะไรก็หลังไมค์มาได้ค่ะ
ได้ คะแนน ไม่ค่อยน่าพอใจ เตรียมตัวประมาณ 1 เดือน แต่ว่าได้ ivy league ตามที่เล็งไว้ ดีใจมากเลย ถ้าสอบใหม่ก็ไม่รู้จะได้ดีไปกว่านี้หรือเปล่า
[CR] รีวิว GRE computer สอบเมื่อ 2018
โดยเนื่องจากเป็นการสอบระบบคอมพิวเตอร์ จึงมีวันสอบให้เลือกมากมาย สำหรับกระทู้นี้จะขอรีวิวในส่วนประสบการณ์ ที่ไปสอบ เพื่อให้ทุกท่านได้ไอเดียว่าเวลาไปสอบเป็นอย่างไร โดยในการสมัครและขั้นตอนต่างๆสามารถหาอ่านได้ใน website นะคะ
ก่อนสอบ
แนะนำเตรียมตัวให้มากๆ อ่านแนวข้อสอบ ทำโจทย์เยอะๆ เพราะว่าตอนไปสอบจะเป็นคล้ายๆกับแนวข้อสอบเลย ส่วนตัว เตรียมตัวสอบค่อนข้างน้อยประมาณ 1 เดือน
ข้อสอบจะเป็น 3 part คือ quatitative, analytic และ verbal
คำแนะนำค่ะ
ในส่วนที่เป็น quantitative ---- แนะนำ Magoosh เลยค่ะ ซื้อเลยทำโจทย์ทุกวัน นั่งรถไปก็ดู VDO ไป ดูได้ทุกที่
Verbal reasoning -- อันนี้ท่องศัพท์เยอะๆ เพราะว่าถึงจะอ่านโจทย์ และวิเคราะห์ได้ แต่ว่า part คำศัพท์ยากมาก ซื้อ Barron GRE vocab มาท่องได้เลยค่ะ
Analytic writing-- ฝึกเขียนและวิเคราะห์ จะเน้น reasoning มากกว่า ตัวโจทย์ ก็จะเป็นตามแนวข้อสอบให้ ประโยค หรือเนื้อความแล้วให้เราวิเคราะห์เห็นด้วยไม่เห็นด้วยยังไงบ้าง
วันสอบ
สนามสอบจะอยู่ไกลมาก ที่ KBU problematic test center
แนะนำให้ไปก่อนเวลาสอบอย่างน้อยประมาณ 1 ชั่วโมง
เมื่อไปถึงเค้าจะให้ลงทะเบียน และเก็บของใน locker โดย ผู้สอบในวันจะมีสอบแต่ละอย่างหลากหลายไม่ใช่สอบ GRE อย่างเดียว
ตอนเราไปถึงเค้าบอกว่าสอบ รอบ 9 โมงเราไปถึง 8.30 น คิดว่ามีเวลาเข้าห้องน้ำห้องท่าสรุป จนท บอกว่าให้เก็บของและเริ่มสอบเลย กะว่าจะมาท่องศัพท์ ก็อดทันที
ก่อนเข้าห้องสอบเค้าจะให้เราเก็บของทุกอย่างเข้า locker ถ่ายรูป แสกนอุปกรณ์ทุกอย่าง จะมีกระดาษ ดินสอให้ ของส่วนตัวไม่ให้เอาเข้าไปเลย กระเป๋ากางเกงทุกอันโดนเช็คหมด ว่ามีอะไรหรือเปล่า เสื้อหนาวเอาเข้าไปได้ค่ะ แต่ห้องสอบไม่หนาวมาก
ห้องสอบ เป็นห้องคอมพิวเตอร์ ที่มีคอกกั้น โดยตัวคอก ทำจากกระดาษแข็งตัดเป็นคอกจ๊า !! งงมาก ว่าเก็บค่าสอบแพง ศูนย์สอบแบบ ดูกระจอกมากอ่ะ
คอมพิวเตอร์ที่สอบโอเคอยู่ทั่วไป ธรรมดา คล้ายๆกับการสอบ TOFLE
เมื่อเริ่มสอบ จะมีให้กรอก code โดยแต่ละคน จะเริ่มไม่ต้องพร้อมกันก็ได้ เพราะไม่มี listening อยู่แล้ว
ข้อสอบจะเริ่มด้วย Quantitative ก่อน หลังจากนั้นก็มา Verbal วนไปมา แล้วต่อด้วย writing จากนั้นมีพัก ถ้าไม่พักก็ต่อเลย กลับมาทำ quantitative ใหม่ และ verbal อีกรอบหลังพัก
โดยสามารถกลับไปมาใน section ได้แต่ถ้าเลยไป section ต่อไปแล้วกลับมาไม่ได้ เช่น section quanti ไป verbal จะย้อนกลับมาไม่ได้ แต่จริงๆก็คงไม่ได้ย้อน เพราะเวลาแทบจะไม่พอ ต้องทำไปเรื่อยๆเลย สมองไม่ได้คิดไตร่ตรอง คิดออกกดตอบ next เลย ถ้าคิดไม่ออกก็ข้ามแล้วกลับมาทำได้ แต่อย่าลืมนะคะ
ส่วนของ verbal นั้น อ่านจบ ทำตอบ ไปเลย เพราะไม่งั้นจะอ่านไม่ทัน มันเยอะมาก
หลังๆจะรู้สึกว่าทำโดยสัญชาตญาณ เพราะว่าข้อสอบมันเยอะมาก ทำไปเรื่อยๆ สมองจะคิดแต่ว่าเมื่อไรมันจะจบเสียทีฟะ !!
หลังสอบเสร็จจะรู้คะแนน Verbal กับ Quanti เลยนะ ส่วน Analytic ก็รอก่อนผลจะออกทีหลัง
ถ้ามีมหาลัยที่จะส่งคะแนนแล้วให้เตรียมรหัสไปกรอกส่งเลยนะ จะฟรี ถ้ามาส่งคะแนนทีหลังจะเสียเงินค่ะ ( เช่นเรา โง่อ่ะ ไม่ได้เตรียมรหัส มหาลัยไป )
คิดว่าคล้ายๆที่ฝึกทำโจทย์ เหมือนในหนังสือนะ คือแนวประมาณนี้เลย ดังนั้นตอนเตรียมตัวแนะนำให้ ฝึกทำโจทย์ เยอะๆ จะได้เวลาไปทำจริงจะชินก็จะรู้ว่าแนวๆ นี้จะหาคำตอบอย่างไร
กระดาษทดเลขมีให้นะคะ หมดแล้วก็ขอเพิ่มได้ค่ะ เราทดจนเต็มเลยค่ะ
ความสงบของห้องสอบไม่ค่อยสงบนะ ห้องสอบเก่า ได้ยินเสียงคนข้างๆ เสียงแอร์ แถมมีแสงแดดลอดออกมาจากหน้าต่างอีกด้วย
แต่ถ้ามีปัญหาอะไรก็ยกมือถาม จนท ได้ตลอดเวลา
สุดท้าย รายละเอียดบางอย่างจำไม่ได้แล้ว เนื่องจากว่าคิดว่าถ้าได้ตอบรับก่อน แต่ถ้าใครสงสัยอะไรก็หลังไมค์มาได้ค่ะ
ได้ คะแนน ไม่ค่อยน่าพอใจ เตรียมตัวประมาณ 1 เดือน แต่ว่าได้ ivy league ตามที่เล็งไว้ ดีใจมากเลย ถ้าสอบใหม่ก็ไม่รู้จะได้ดีไปกว่านี้หรือเปล่า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้