Ultrabook จากทาง Asus กลับมากันอีกรอบแต่ในครั้งนี้นั้นมาในรุ่นระดับกลางในหน้าจอ 14 นิ้วแต่ตัวเครื่องเล็กมากๆ เน้นพกพากันมากขึ้นกว่าเดิมซึ่งมีขนาดที่สามารถพกพาได้ง่ายและการออกแบบที่พัฒนาให้ใช้งานในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น การออกแบบที่เข้าสู่สายแฟชั่นมากขึ้นสังเกตได้จากงานเปิดตัว ที่มีการดึงนักออกแบบสายแฟชั่นต่างๆมาร่วมงานและมีการเดินแบบด้วย จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างชัดเจนสำหรับทาง Asus ครับ ในรุ่นนี้เป็นตัวระดับกลางในการเปิดตัวครั้งนี้ ทั้ง 3 รุ่นนั้นมี 13-14-15 ในครั้งที่แล้วเป็นจอ 15 นิ้วรุ่นแรงสุดที่มาพร้อม GTX 1050 แต่ในครั้งนี้เป็นรุ่นกลางที่มี MX150 มาให้ คือตัว Zenbook14 เรามาส่องกันว่าจะมีอะไรน่าสนใจกันบ้าง
ในตัว Zenbook 14 รุ่นนี้เปิดตัวมาพร้อมกับความเบาบางและเล็กกว่าเดิม รวมถึงมีการใช้ Numpad แบบใหม่ที่รวมไปในตัว Touchbar ด้วยครับ การออกแบบยังคงสไตล์ Zenbook อยู่เหมือนเดิมในการออกแบบฝาหลังและการยกระดับของตัวเครื่อง Ergo Lift ครับ ส่วนการออกแบบหน้าจอยังคงความบางได้ดีและกล้องยังอยู่ตำแหน่งบนครับส่วนสเปคนั้นก็จัดมาให้ค่อนข้างดี และยังมี สแกนใบหน้า 3 มิติ และ รองรับการทดสอบ MIL-STD 810G อีกด้วย ในเรื่องของ CPU Intel® Core™ i7-8565U และการ์ดจอแยก MX150 รวมถึงการให้ RAM 8GB และ SSD 512GB เรียกได้ว่าค่อนข้างจัดให้พอดีกับการใช้งานที่รวดเร็วในการทำงานต่างๆครับ เป็นรุ่นกลางที่ทำออกมาได้ค่อนข้างตอนโจทย์ใช้งานทั่วไปเน้นแบตอึดพกพาได้ดีมากๆ
สำหรับทางด้านราคาของรุ่นนี้เป็น Zenbook 14 ที่มาพร้อมกับ การ์ดจอแยก MX150 2GB และตัวเครื่องมาพร้อมกับ I7 เปิดราคามาที่ ราคา 35,990 บาท มีด้วยกัน 2 สีคือน้ำเงิน และ เงิน ส่วนรุ่นอื่นๆนั้น จะมีคือ Windows 10 Home/Intel Core i5-8265U ราคา 26,990 บาท และ Windows 10 Home/Intel Core i5-8265U/MX150 ราคา 29,990 บาท
UNBOX
ในการแกะกล่องตัวนี้ตัวกล่องเป็นการออกแบบที่แบบเดียวกับรุ่นพี่มีชื่อรุ่น รูปตัวเครื่องอะไรชัดเจนครับแต่ไม่ได้บอกว่าเป็นตัวขนาดเท่าไรในหน้ากล่อง เมื่อเปิดกล่องออกมาก็มีของอะไรมาให้ค่อนข้างเรียบร้อย และพร้อมใช้งานครับ
- ตัวเครื่อง Zenbook 14
- ซองผ้าใส่ตัวเครื่อง
- ตัวแปลง USB-LAN
- Adaptor ชาร์จไฟรองรับ ชาร์จเร็ว
- คู่มือ การรับประกันต่างๆ
ตัวซองนั้นเป็นซองผ้าลื่นๆในด้านน้อง ป้องกันได้ดีและไม่เลอะง่าย ส่วนด้านในนั้นเป็นแบบบุนุ่มพอสมควรปกป้องได้ดีครับ การล็อตใช้ ตีนตุ๊กแกวงกลมยึดติดครับ เน้นสำหรับการพกพาไปข้างนอกที่พกแต่ตัวเครื่องจะค่อนข้างสะดวกเลย
DESIGN
การออกแบบนั้นยังคงดีไซน์ได้ดีเป็นแบบเดียวกันหมดทั้ง 3 รุ่นย่อย 13-14-15 ฝาหลังอะไรทั้งนั้นหมด แต่มีขนาดแตกต่างกันแค่นั้นครับ ตัวเครื่องเน้นที่ความบางเบาได้ดีและยังพกพาได้ง่ายรวมถึงการออกแบบฝาหลังที่หรูและสวยคงความเป็นตระกูล Zenbook ได้ดีเลย และมีการเล่นขอบสีทองอ่อนๆตรงข้างในด้วยงานประกอบจัดว่าแน่นเหมือนเดิมครับในรุ่นนี้จะเป็นสีเงิน จะมาในโทนสว่างทั้งข้างนอกและด้านในเลยทีเดียว ก็ดูสวยไปอีกแบบจากสีน้ำเงินครับ
การออกแบบทั้งภายในและภายนอกตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นชิ้นเดียวกันสีเดียวกันทั้งหมดผิวสัมผัสในการใช้งานทำออกมาดีครับ เป็นอลูมิเนียมทั้งหมดและยังรองรับมาตรฐานการทดสอบระดับ เกรดทหาร ตก ทนในหลายๆอุณหภูมิได้ เย็นได้สบายครับเป็นรุ่นที่จัดเต็มจริงๆเหมือนทาง Asus จะเน้นจุดนี้เข้ามาในหลายๆรุ่นครับตัวนี้เด่นๆคือความบางเบา และ พรีเมี่ยมของตัวเครื่องจะเห็นว่าหน้าจอนั้นบางมากๆ การใช้โทนสีเงินทองนั้นทำให้ตัวเครื่องโดยรวมสว่างมากๆรวมถึงตัวแป้นพิมพ์ก็เป็นสีเดียวกันทั้งหมด รวมถึงตัวโลโก้ก็ใช้สีทองเงาครับ เน้นความหรูหราเพิ่มขึ้นไปอีก
ในด้านของฝาหลังยังคงใช้ลาย Zenปัดเป็นวงกลม สวยงามตามแบบฉบับ Zenbook ครับและใช้โลโก้เป็นโครมเมี่ยมทีสีทองตัดกับโทนสีเงินของฝาหลัง เข้ากันได้ไม่ได้ตัดกันแบบตัวน้ำเงินครับ ซึ่งวัดสุแบบเดียวกัน แต่จะติดความมันนั้นยากกว่าตัวน้ำเงินนะที่ลองๆมาส่วนในเรื่องของฐานข้างล่างก็ยังใช้วัสดุเช่นเดียวกับตัวบอดี้มีน็อตยึดกรอบๆครับ และ เป็นที่อยู่ของลำโพงคู่ Harman/Kardon และ มีช่องระบายมาให้ทั้ง 2 ฝั่งซ้ายและขวาของตัวเครื่องครับส่วนฐานรองทั้ง 4 มุมเป็นยางรูปทรงกลมทั้งหมด แต่ก็จะมีส่วนยกขึ้นตรงขอบจอมียางรองเพิ่มเข้ามาครับ
ด้านหลังก็มีการเชียนชื่อรุ่นอะไรปกติ ขอบยางรองตรงขอบจอด้านหลังก็เป็นโทนสีทองทั้งหมดตัดกับตัวเครื่องได้ดี การเล่นตัดขอบเงาๆบริเวณขอบเครื่องไม่ได้มีเหมือนรุ่นอื่นๆแต่ก็เป็นการเล่นแถบสีทองทั้งหมดแทนในส่วนบริเวณข้อพับของตัวจอครับ และตัวสีนั้นก็จะเห็นได้แม้จะพับฝาเครื่องลงมา จะเป็นเหมือนแท่งยาวๆสอดเข้าไปครับในการออกแบบ ก็ถือว่าสวยดีเหมือนกัน ตัวขอบด้านขวาหนาจอจริงๆก็แอบหนาพอสมควรไม่ได้บางเฉียบเท่าไรในด้านข้าง
ตัวแถบสีทองนั้นมีการเล่นลวดลายสวยงามเลยแหละ พร้อมกับโลโก้ และจะเห็นว่าฐานของเครื่องนั้นยกขึ้นมาได้ นั้นก็คือในส่วนของ Ergo Lift ยังคงมีมาในรุ่นนี้และชอบมากๆเลย ทั้งช่วยในการพิมพ์องศาดีขึ้นไม่เมื่อยมือ และยังระบายความร้อนได้ดีกว่าเดิม รวมถึงทำให้ดูสวยและแปลกไปอีกแบบนึงด้วยครับ จะเห็นความบางว่าบางเอาเรื่องเลยแหละในการยกแบบนี้ทำให้ความร้อนระบายได้ดี และช่องระบายความร้อนตลอดแนวยาวของขอบจอนั้นก็ระบายได้ดีตัวนี้ไม่ได้ใช้การ์ดจอแรงอะไรมากก็ถือว่าระบายได้สบายๆไม่ต้องห่วงเลย
ขอบหน้าจอก็ทำได้บางพอสมควรครับ เป็นจอเงาทั้งหมดและกล้องหน้ายังคงอยู่ด้านบนขอบหน้าจอรวมๆทำได้บางมากๆโดยรวม แต่ด้านบนเอาจริงๆก็ยังรู้สึกหนาอยู่นิดหน่อยแต่เพื่อกล้องต้องมีอาจจะต้องยอมกันไปครับ และรองรับการสแกนใบหน้าแบบ 3 มิติด้วยเลยทำให้มันต้องอยู่ข้างบนและมีความหนาเข้ามาครับ อีกจุดที่แตกต่างกันแบบชัดเจนมากๆเลยระหว่างจอ 15-14 นั้นตัวจอเล็กจะเป็น NUMPAD แบบใหม่ที่ผสมเข้ามากับตัว Touchpad ทำได้ล้ำๆเลยแหละน่าจะคงคุ้นชินกันมาบ้างแล้วในพวก ROG ที่สลับไปมาได้ ก็มาอยู่ในรุ่นนี้แล้วนั้นเองถือว่าดีเลยแหละครับ
SPEC
- Windows 10 Home
- Intel® Core™ i7-8565U processor 1.8GHz quad-core with Turbo Boost (up to 4.6GHz) and 8MB cache
- NVIDIA® GeForce® MX150 2GB GDDR5 VRAM + Integrated Intel® UHD Graphics 620
- 14” LED-backlit FHD (1920 x 1080) 16:9 92% screen-to-body ratio Wide 100% sRGB color gamut 178° wide-view technology
- Memory 8GB 2133MHz LPDDR3 onboard
- Storage 512GB PCIe® 3.0 x2 SSD
- Interfaces
- 1 x USB 3.1 Gen 2 Type-C™ (up to 10Gbps) 1 x USB 3.1 Type-A (up to 10Gbps) 1 x USB 2.0 Type-A 1 x HDMI 1 x MicroSD card reader DC-in
- Keyboard Full-size backlit, with 1.4mm key travel
- Touchpad Glass-covered with integrated NumberPad; intelligent palm-rejection Precision Touchpad (PTP) technology supports up to four-finger smart gestures
- ASUS SonicMaster stereo audio system with surround-sound; smart amplifier for maximum audio performance Array microphone with Cortana and Alexa2 voice-recognition support 3.5mm headphone jack Certified by Harman Kardon
- 3D IR HD camera
- Wi-Fi Dual-band 802.11ac gigabit-class Wi-Fi
- Bluetooth® 5.0
- Up to 13 hours battery life3 50Wh 3-cell lithium-polymer battery 65W power adapter
- Weight and Dimensions
- Height: 1.59cm (0.63 inches)
- Width: 31.9cm (12.56 inches)
- Depth: 19.9cm (7.83 inches)
- Weight. 1.19kg
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพของรุ่นนี้มาให้แบบพอดีๆประหยัดไฟกับ CPU Intel i7-8565U และ ให้การ์ดจอแยกมาด้วยคือตัว MX150 2GB ครับ ให้ RAM 8GB แต่เป็น Onboard นะครับไม่สามารถเพิ่มได้ และความจุเป็น SDD 512GB แรงเร็วใช้ได้เลย รวมถึง Windows 10 ก็มีมาให้เลยครับหลายๆอย่างเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป และเล่นเกมนิดหน่อยได้อยู่ครับ หรือทำงาน Adobe ก็รองรับได้ดีเหมือนกันจากที่รองไม่เจอปัญหาอะไรแม้จะใช้หนักพอสมควร
ตัวนี้ใช้ CPU I7 รหัส U เป็นตัว Intel Core i7-8565U แบบประหยัดพลังงาน มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.8 GHz เป็น CPU แบบ 4 Core 8 Thread รุ่นนี้มีกราฟิกการ์ดออนบอร์ด Intel UHD Graphics 620 นั้นต้องบอกว่าตัวนี้รองรับการทำงาน 2 มิติสบายครับและ 3มิตินิดหน่อยมีติดเครื่องไว้ใช้ทำงานได้ ส่วนการ์ดจอแยกก็มี MX150 ก็รองรับสามมิติได้ดีขึ้นในด้านทำงานเล่นเกมแต่ก็ไม่ได้โหดเท่าพวก GTX อะไรมากพอใช้งานทั่วไปถูไถสบายครับ เหลือๆถ้าไม่ได้สายเกมหรือสายเรนเดอร์หนักๆ
ทางด้านคะแนนของ Cinebench R15 นั้นที่เน้นในเรื่องของพลังประมวลผลซีพียู ทำไปได้ 80 FPS และ 336 cb ซึ่งอยู่ในระดับกลางๆของพวกตระกูล ประหยัดไป U ทั้งหลายของพวก CPU Gen 8 i7 ตัวนี้ครับ ถือว่าเป็นคะแนนมาตรฐานเลยทีเดียว ส่วนในเรื่องของ SSD 512GB มาเลยครับในการใช้งานทั้งการเปิดโปรแกรม และทำงานทั่วๆ ไปได้เร็วมาก ก็ได้ความเร็วในระดับพอใช้ได้เลยแหละ ทำการอ่านได้ 1685 MB/s และเขียน 1441 MB/s นะครับในค่าของการต่อเนื่องชุดละ 128 KB ทำงานพร้อมกันหลายหน่วยประมวลผล และจริงๆเลยน่าจะเป็นตัวเดียวกันในตัว 15 นิ้วครับในเรื่องความจุเพราะทำคะแนนได้ใกล้ๆกันแบบไม่หนีกันเลยครับ
3D Mark นั้นเป็นการทดสอบในการประมวลผลแบบ 3 มิติหนักๆในหลายๆระดับ ในคะแนนพวกนี้ตัว 3มิติ เล่นเกม ทำงานเรนเดอร์ภาพ โมเดลต่างๆนั้นทำได้กลางๆตามมาตรฐาน MX150 ไม่ได้แรงอะไรมากนักใช้งานกลางๆพอได้เล่นเกมนิดหน่อย แอดมินทดสอบ 4 แบบตามภาพข้างบนเสร็จแล้วได้อุณหภูมิสูงสุดที่ CPU 64 องศา และ GPU 55 องศาครับผม ถือว่าคุมได้ดีเพราะมันไม่ได้แรงมากอุณหภูมิเลยไม่ได้สูงตามความประสิทธิภาพของมันไป
[SR] รีวิว ASUS ZENBOOK 14 ตัวกลางบางเบา เน้นพกพาพร้อม MX150 !
Ultrabook จากทาง Asus กลับมากันอีกรอบแต่ในครั้งนี้นั้นมาในรุ่นระดับกลางในหน้าจอ 14 นิ้วแต่ตัวเครื่องเล็กมากๆ เน้นพกพากันมากขึ้นกว่าเดิมซึ่งมีขนาดที่สามารถพกพาได้ง่ายและการออกแบบที่พัฒนาให้ใช้งานในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น การออกแบบที่เข้าสู่สายแฟชั่นมากขึ้นสังเกตได้จากงานเปิดตัว ที่มีการดึงนักออกแบบสายแฟชั่นต่างๆมาร่วมงานและมีการเดินแบบด้วย จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างชัดเจนสำหรับทาง Asus ครับ ในรุ่นนี้เป็นตัวระดับกลางในการเปิดตัวครั้งนี้ ทั้ง 3 รุ่นนั้นมี 13-14-15 ในครั้งที่แล้วเป็นจอ 15 นิ้วรุ่นแรงสุดที่มาพร้อม GTX 1050 แต่ในครั้งนี้เป็นรุ่นกลางที่มี MX150 มาให้ คือตัว Zenbook14 เรามาส่องกันว่าจะมีอะไรน่าสนใจกันบ้าง
ในตัว Zenbook 14 รุ่นนี้เปิดตัวมาพร้อมกับความเบาบางและเล็กกว่าเดิม รวมถึงมีการใช้ Numpad แบบใหม่ที่รวมไปในตัว Touchbar ด้วยครับ การออกแบบยังคงสไตล์ Zenbook อยู่เหมือนเดิมในการออกแบบฝาหลังและการยกระดับของตัวเครื่อง Ergo Lift ครับ ส่วนการออกแบบหน้าจอยังคงความบางได้ดีและกล้องยังอยู่ตำแหน่งบนครับส่วนสเปคนั้นก็จัดมาให้ค่อนข้างดี และยังมี สแกนใบหน้า 3 มิติ และ รองรับการทดสอบ MIL-STD 810G อีกด้วย ในเรื่องของ CPU Intel® Core™ i7-8565U และการ์ดจอแยก MX150 รวมถึงการให้ RAM 8GB และ SSD 512GB เรียกได้ว่าค่อนข้างจัดให้พอดีกับการใช้งานที่รวดเร็วในการทำงานต่างๆครับ เป็นรุ่นกลางที่ทำออกมาได้ค่อนข้างตอนโจทย์ใช้งานทั่วไปเน้นแบตอึดพกพาได้ดีมากๆ
สำหรับทางด้านราคาของรุ่นนี้เป็น Zenbook 14 ที่มาพร้อมกับ การ์ดจอแยก MX150 2GB และตัวเครื่องมาพร้อมกับ I7 เปิดราคามาที่ ราคา 35,990 บาท มีด้วยกัน 2 สีคือน้ำเงิน และ เงิน ส่วนรุ่นอื่นๆนั้น จะมีคือ Windows 10 Home/Intel Core i5-8265U ราคา 26,990 บาท และ Windows 10 Home/Intel Core i5-8265U/MX150 ราคา 29,990 บาท
UNBOX
ในการแกะกล่องตัวนี้ตัวกล่องเป็นการออกแบบที่แบบเดียวกับรุ่นพี่มีชื่อรุ่น รูปตัวเครื่องอะไรชัดเจนครับแต่ไม่ได้บอกว่าเป็นตัวขนาดเท่าไรในหน้ากล่อง เมื่อเปิดกล่องออกมาก็มีของอะไรมาให้ค่อนข้างเรียบร้อย และพร้อมใช้งานครับ
- ตัวเครื่อง Zenbook 14
- ซองผ้าใส่ตัวเครื่อง
- ตัวแปลง USB-LAN
- Adaptor ชาร์จไฟรองรับ ชาร์จเร็ว
- คู่มือ การรับประกันต่างๆ
ตัวซองนั้นเป็นซองผ้าลื่นๆในด้านน้อง ป้องกันได้ดีและไม่เลอะง่าย ส่วนด้านในนั้นเป็นแบบบุนุ่มพอสมควรปกป้องได้ดีครับ การล็อตใช้ ตีนตุ๊กแกวงกลมยึดติดครับ เน้นสำหรับการพกพาไปข้างนอกที่พกแต่ตัวเครื่องจะค่อนข้างสะดวกเลย
DESIGN
การออกแบบนั้นยังคงดีไซน์ได้ดีเป็นแบบเดียวกันหมดทั้ง 3 รุ่นย่อย 13-14-15 ฝาหลังอะไรทั้งนั้นหมด แต่มีขนาดแตกต่างกันแค่นั้นครับ ตัวเครื่องเน้นที่ความบางเบาได้ดีและยังพกพาได้ง่ายรวมถึงการออกแบบฝาหลังที่หรูและสวยคงความเป็นตระกูล Zenbook ได้ดีเลย และมีการเล่นขอบสีทองอ่อนๆตรงข้างในด้วยงานประกอบจัดว่าแน่นเหมือนเดิมครับในรุ่นนี้จะเป็นสีเงิน จะมาในโทนสว่างทั้งข้างนอกและด้านในเลยทีเดียว ก็ดูสวยไปอีกแบบจากสีน้ำเงินครับ
การออกแบบทั้งภายในและภายนอกตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นชิ้นเดียวกันสีเดียวกันทั้งหมดผิวสัมผัสในการใช้งานทำออกมาดีครับ เป็นอลูมิเนียมทั้งหมดและยังรองรับมาตรฐานการทดสอบระดับ เกรดทหาร ตก ทนในหลายๆอุณหภูมิได้ เย็นได้สบายครับเป็นรุ่นที่จัดเต็มจริงๆเหมือนทาง Asus จะเน้นจุดนี้เข้ามาในหลายๆรุ่นครับตัวนี้เด่นๆคือความบางเบา และ พรีเมี่ยมของตัวเครื่องจะเห็นว่าหน้าจอนั้นบางมากๆ การใช้โทนสีเงินทองนั้นทำให้ตัวเครื่องโดยรวมสว่างมากๆรวมถึงตัวแป้นพิมพ์ก็เป็นสีเดียวกันทั้งหมด รวมถึงตัวโลโก้ก็ใช้สีทองเงาครับ เน้นความหรูหราเพิ่มขึ้นไปอีก
ในด้านของฝาหลังยังคงใช้ลาย Zenปัดเป็นวงกลม สวยงามตามแบบฉบับ Zenbook ครับและใช้โลโก้เป็นโครมเมี่ยมทีสีทองตัดกับโทนสีเงินของฝาหลัง เข้ากันได้ไม่ได้ตัดกันแบบตัวน้ำเงินครับ ซึ่งวัดสุแบบเดียวกัน แต่จะติดความมันนั้นยากกว่าตัวน้ำเงินนะที่ลองๆมาส่วนในเรื่องของฐานข้างล่างก็ยังใช้วัสดุเช่นเดียวกับตัวบอดี้มีน็อตยึดกรอบๆครับ และ เป็นที่อยู่ของลำโพงคู่ Harman/Kardon และ มีช่องระบายมาให้ทั้ง 2 ฝั่งซ้ายและขวาของตัวเครื่องครับส่วนฐานรองทั้ง 4 มุมเป็นยางรูปทรงกลมทั้งหมด แต่ก็จะมีส่วนยกขึ้นตรงขอบจอมียางรองเพิ่มเข้ามาครับ
ด้านหลังก็มีการเชียนชื่อรุ่นอะไรปกติ ขอบยางรองตรงขอบจอด้านหลังก็เป็นโทนสีทองทั้งหมดตัดกับตัวเครื่องได้ดี การเล่นตัดขอบเงาๆบริเวณขอบเครื่องไม่ได้มีเหมือนรุ่นอื่นๆแต่ก็เป็นการเล่นแถบสีทองทั้งหมดแทนในส่วนบริเวณข้อพับของตัวจอครับ และตัวสีนั้นก็จะเห็นได้แม้จะพับฝาเครื่องลงมา จะเป็นเหมือนแท่งยาวๆสอดเข้าไปครับในการออกแบบ ก็ถือว่าสวยดีเหมือนกัน ตัวขอบด้านขวาหนาจอจริงๆก็แอบหนาพอสมควรไม่ได้บางเฉียบเท่าไรในด้านข้าง
ตัวแถบสีทองนั้นมีการเล่นลวดลายสวยงามเลยแหละ พร้อมกับโลโก้ และจะเห็นว่าฐานของเครื่องนั้นยกขึ้นมาได้ นั้นก็คือในส่วนของ Ergo Lift ยังคงมีมาในรุ่นนี้และชอบมากๆเลย ทั้งช่วยในการพิมพ์องศาดีขึ้นไม่เมื่อยมือ และยังระบายความร้อนได้ดีกว่าเดิม รวมถึงทำให้ดูสวยและแปลกไปอีกแบบนึงด้วยครับ จะเห็นความบางว่าบางเอาเรื่องเลยแหละในการยกแบบนี้ทำให้ความร้อนระบายได้ดี และช่องระบายความร้อนตลอดแนวยาวของขอบจอนั้นก็ระบายได้ดีตัวนี้ไม่ได้ใช้การ์ดจอแรงอะไรมากก็ถือว่าระบายได้สบายๆไม่ต้องห่วงเลย
ขอบหน้าจอก็ทำได้บางพอสมควรครับ เป็นจอเงาทั้งหมดและกล้องหน้ายังคงอยู่ด้านบนขอบหน้าจอรวมๆทำได้บางมากๆโดยรวม แต่ด้านบนเอาจริงๆก็ยังรู้สึกหนาอยู่นิดหน่อยแต่เพื่อกล้องต้องมีอาจจะต้องยอมกันไปครับ และรองรับการสแกนใบหน้าแบบ 3 มิติด้วยเลยทำให้มันต้องอยู่ข้างบนและมีความหนาเข้ามาครับ อีกจุดที่แตกต่างกันแบบชัดเจนมากๆเลยระหว่างจอ 15-14 นั้นตัวจอเล็กจะเป็น NUMPAD แบบใหม่ที่ผสมเข้ามากับตัว Touchpad ทำได้ล้ำๆเลยแหละน่าจะคงคุ้นชินกันมาบ้างแล้วในพวก ROG ที่สลับไปมาได้ ก็มาอยู่ในรุ่นนี้แล้วนั้นเองถือว่าดีเลยแหละครับ
SPEC
- Windows 10 Home
- Intel® Core™ i7-8565U processor 1.8GHz quad-core with Turbo Boost (up to 4.6GHz) and 8MB cache
- NVIDIA® GeForce® MX150 2GB GDDR5 VRAM + Integrated Intel® UHD Graphics 620
- 14” LED-backlit FHD (1920 x 1080) 16:9 92% screen-to-body ratio Wide 100% sRGB color gamut 178° wide-view technology
- Memory 8GB 2133MHz LPDDR3 onboard
- Storage 512GB PCIe® 3.0 x2 SSD
- Interfaces
- 1 x USB 3.1 Gen 2 Type-C™ (up to 10Gbps) 1 x USB 3.1 Type-A (up to 10Gbps) 1 x USB 2.0 Type-A 1 x HDMI 1 x MicroSD card reader DC-in
- Keyboard Full-size backlit, with 1.4mm key travel
- Touchpad Glass-covered with integrated NumberPad; intelligent palm-rejection Precision Touchpad (PTP) technology supports up to four-finger smart gestures
- ASUS SonicMaster stereo audio system with surround-sound; smart amplifier for maximum audio performance Array microphone with Cortana and Alexa2 voice-recognition support 3.5mm headphone jack Certified by Harman Kardon
- 3D IR HD camera
- Wi-Fi Dual-band 802.11ac gigabit-class Wi-Fi
- Bluetooth® 5.0
- Up to 13 hours battery life3 50Wh 3-cell lithium-polymer battery 65W power adapter
- Weight and Dimensions
- Height: 1.59cm (0.63 inches)
- Width: 31.9cm (12.56 inches)
- Depth: 19.9cm (7.83 inches)
- Weight. 1.19kg
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพของรุ่นนี้มาให้แบบพอดีๆประหยัดไฟกับ CPU Intel i7-8565U และ ให้การ์ดจอแยกมาด้วยคือตัว MX150 2GB ครับ ให้ RAM 8GB แต่เป็น Onboard นะครับไม่สามารถเพิ่มได้ และความจุเป็น SDD 512GB แรงเร็วใช้ได้เลย รวมถึง Windows 10 ก็มีมาให้เลยครับหลายๆอย่างเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป และเล่นเกมนิดหน่อยได้อยู่ครับ หรือทำงาน Adobe ก็รองรับได้ดีเหมือนกันจากที่รองไม่เจอปัญหาอะไรแม้จะใช้หนักพอสมควร
ตัวนี้ใช้ CPU I7 รหัส U เป็นตัว Intel Core i7-8565U แบบประหยัดพลังงาน มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.8 GHz เป็น CPU แบบ 4 Core 8 Thread รุ่นนี้มีกราฟิกการ์ดออนบอร์ด Intel UHD Graphics 620 นั้นต้องบอกว่าตัวนี้รองรับการทำงาน 2 มิติสบายครับและ 3มิตินิดหน่อยมีติดเครื่องไว้ใช้ทำงานได้ ส่วนการ์ดจอแยกก็มี MX150 ก็รองรับสามมิติได้ดีขึ้นในด้านทำงานเล่นเกมแต่ก็ไม่ได้โหดเท่าพวก GTX อะไรมากพอใช้งานทั่วไปถูไถสบายครับ เหลือๆถ้าไม่ได้สายเกมหรือสายเรนเดอร์หนักๆ
ทางด้านคะแนนของ Cinebench R15 นั้นที่เน้นในเรื่องของพลังประมวลผลซีพียู ทำไปได้ 80 FPS และ 336 cb ซึ่งอยู่ในระดับกลางๆของพวกตระกูล ประหยัดไป U ทั้งหลายของพวก CPU Gen 8 i7 ตัวนี้ครับ ถือว่าเป็นคะแนนมาตรฐานเลยทีเดียว ส่วนในเรื่องของ SSD 512GB มาเลยครับในการใช้งานทั้งการเปิดโปรแกรม และทำงานทั่วๆ ไปได้เร็วมาก ก็ได้ความเร็วในระดับพอใช้ได้เลยแหละ ทำการอ่านได้ 1685 MB/s และเขียน 1441 MB/s นะครับในค่าของการต่อเนื่องชุดละ 128 KB ทำงานพร้อมกันหลายหน่วยประมวลผล และจริงๆเลยน่าจะเป็นตัวเดียวกันในตัว 15 นิ้วครับในเรื่องความจุเพราะทำคะแนนได้ใกล้ๆกันแบบไม่หนีกันเลยครับ
3D Mark นั้นเป็นการทดสอบในการประมวลผลแบบ 3 มิติหนักๆในหลายๆระดับ ในคะแนนพวกนี้ตัว 3มิติ เล่นเกม ทำงานเรนเดอร์ภาพ โมเดลต่างๆนั้นทำได้กลางๆตามมาตรฐาน MX150 ไม่ได้แรงอะไรมากนักใช้งานกลางๆพอได้เล่นเกมนิดหน่อย แอดมินทดสอบ 4 แบบตามภาพข้างบนเสร็จแล้วได้อุณหภูมิสูงสุดที่ CPU 64 องศา และ GPU 55 องศาครับผม ถือว่าคุมได้ดีเพราะมันไม่ได้แรงมากอุณหภูมิเลยไม่ได้สูงตามความประสิทธิภาพของมันไป
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้