ถึงแม้เราจะมีหน้าเดียว แต่แป้งฝุ่นที่เราใช้จะมีตัวเดียวไม่ได้ !! 555555
ที่ต้องพูดยังงี้ เพราะจากตัวเราเอง ก็มีหลายตัวมากๆ ตัวไหนใครว่าดีเราก็ตามไปสอยมาลอง
จนตอนนี้ที่ใช้อยู่หลักๆก็จะมีอยู่ 4 แบรนด์ด้วยกัน ที่ใช้วนๆอยู่ช่วงนี้
วันนี้เลยอยากหยิบออกมาเปรียบเทียบให้เพื่อนๆได้ดูกันว่าแต่ละตัวที่ได้ลองใช้มา ตัวไหนจะเลิศกว่ากันนนนน
เอาล่ะก่อนอื่นก็ไปดูกันหน่อยว่ามีตัวไหนบ้าง และแต่ละเป็นยังไง ไปดูกันเล้ยยยยย
Laura Mercier
มาเริ่มต้นด้วยแป้งในตำนาน สำหรับแป้งลอร่า ตัวนี้อยู่กับเรามาได้ 3 ปีแล้ว ยาวนานมาก 55555555555
ใช้ไม่หมดสักทีเพราะพอมีตัวใหม่มาเราก็จะหลงลืมนางไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นตัวแรกที่ตัดสินใจซื้อมาเลยนะ
นางเป็นแป้งฝุ่นโปร่งแสง ตัวนี้ทาแล้วหน้าจะดูโกลว์ๆหน่อย ใครผิวมันอาจไม่ชอบ เหมาะกับสาวผิวแห้งมากกว่า
ช่วยให้ผิวดูโกลว์สุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถช่วยเซตเมคอัพให้ติดทนนานขึ้น แป้งไม่หนาแต่ก็ปกปิดได้ในระดับนึง
ข้อดี – มีพัฟ ทาแล้วโปร่งแสง ผิวดูโกลว์ๆ
ข้อเสีย – ไม่ค่อยปกปิด ไม่เหมาะกับผิวมัน
Pure skin minerals Daily Finish Foundation
ตัวต่อมาเป็นแป้งฝุ่นจากแบรนด์ Pure skin minerals เป็นแบรนด์ของคนไทยเองจ้า
ตัวนี้มีชื่อเรียกว่าแป้งเฮลตี้ สูตรลดสิวควบคุมความมัน ตัวนี้ใช้มาได้ 1 ปีแล้ว
ติดใจมากเพราะนางมีความพิเศษที่เนื้อแป้ง ผลิตและสกัดมาจากธรรมชาติล้วนๆ ช่วงที่หน้าเราไปทำศัลยกรรมมา
ก็จะเลือกใช้แค่ตัวนี้เลย เพราะนางดูบางเบาดี ผิวบางผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้ดี ตัวนี้สามารถใช้แทน บีบี รองพื้นได้เลยนะ
ถึงแม้เนื้อจะบางเบาแต่ก็ปกปิดได้ดี ติดทนนาน คุมมันก็ดี
ข้อดี – ปกปิดดี ทาแล้วโปร่งแสง ไม่หนา ถ้าใช้พัฟกดจะสามารถใช้แทนแป้งบีบีได้เลย ติดทนนาน
ข้อเสีย – ไม่มีมีพัฟแถมมาให้
NALIO LLARIAS
มาที่ตัวต่อมาค่ะ เป็นของ แบรนด์ NALIO LLARIAS เป็นแบรนด์ของคนไทยเช่นกัน
มีชื่อเต็มๆว่า All Day Bright Perfect Invisible Translucent Powder โดยนางก็ทำออกมาได้ระยะนึงแล้ว
เราลองใช้มาก็ถือว่าผ่านนะ ตัวนี้คุมมันได้ดี อยู่ติดทนนาน เนื้อแป้งไม่หนา แต่ไม่ปกปิดเท่าไหร่ ข้อนี้คงไม่ใช่เรื่องแปลก
เพราะส่วนใหญ่อย่างที่ทราบแป้งฝุ่นก็ไม่ได้เน้นให้ปกปิดไรเบอร์นั้น เรื่องนี้เลยทำให้ไม่ได้ซีเรียดจ้า
NALIO LLARIAS ทำแพ็คเกทออกมาได้ค่อนข้างดี มีพัฟ มีกระจก แตกต่างจากแป้งฝุ่นทั่วๆไป ที่ไม่ค่อยจะมีกระจกติดมาด้วยไรงี้
ข้อดี – มีพัฟ มีกระจก แพ็คเกทดูดี ทาแล้วโปร่งแสง บางเบา
ข้อเสีย – ไม่ค่อยปกปิดเท่าไหร่ อยู่ได้ไม่นาน
THREE Ultimate Diaphanous Loose Powder
ตัวสุดท้ายยย แป้ง TRREE นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก ด้วยชื่อเสียงเรียงนามมายาวนาน
สำหรับเรื่องเนื้อแป้งของนางนั้น ก็ต้องบอกเลยว่าเป็นตัวที่มีความเนียนละเอียด และใสมากๆ
สามารถช่วยพรางรูขุมขนได้ดีเลยทีเดียว และในเรื่องของการควบคุมความมันจัดได้ว่าเป็นตัวที่สามารถคุมมันได้ยาวนานมากกก
แม้จะเป็นแค่แป้งฝุ่นนะ ตัวนี้ซื้อมาก็เมื่อต้นปีเอง เพราะทนกระแสไม่ไว้ อยากลองบ้างอะไรบ้าง
ใครที่หน้ามันอยากได้แป้งคุมมัน นุ่นว่าตัวนี้ก็ตอบโจทย์ค่อนข้างดีเลย
ข้อดี – คุมมันดีมาก ติดทนยาวนาน มีพัฟแถมมาให้
ข้อเสีย – ราคาสูง
อันนี้เป็นเนื้อแป้งของแต่ละแบรนด์น้า
พอเกลี่ยแล้วก็จะประมาณนี้จ้า เราเป็นคนผิวขาว ส่วนมากก็จะมีแต่เบอร์ต้นๆน้า
ทดสอบกันหน่อยยย
ให้ภาพเล่าเรื่องไปเนอะ ใครชอบแนวไหนก็ปักมุดกันไว้เลย ตัวเราเองนั้นก็จะชอบ Pure skin กับ THREE
2 ตัวนี้ค่อนข้างจะสูสีกันพอสมควรจ้า แต่ราคาแตกต่างกัน
เอาล่ะ เราได้ทำตารางคะแนนเพิ่มเติมสำหรับ แป้งฝุ่น 4 ตัวที่ได้ลองใช้มาว่าตัวไหนให้ความรู้สึกยังไงบ้างนะคะ
เป็นยังไงกันบ้างเอยสำหรับ แบรนด์ที่ได้หยิบออกมาในวันนี้ มีตัวที่ถูกใจเพื่อนๆบ้างไหมค่ะ
แต่ละตัวก็จะมีข้อดีของมันเองยังไงก็เลือกตัวที่เหมาะกับผิวของแต่ละคนไป ยังไงก็ไม่ผิดหวังแน่นอนค้า
ทั้งนี้ทั้งนั้นการเปรียบเทียบที่ได้ทำออกมา ก็มาจากความรู้สึกส่วนตัวของเราเองน้า
เพื่อนๆอาจมีผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไปยังไงก็ลองศึกษาดูรีวิวเพิ่มเติมอีกก่อนซื้อน้าจ้า
งั้นวันนี้ก็ขอตัวลาไปก่อนน้า
บะบายยยย
[CR] เปรียบเทียบแป้งฝุ่น 4 แบรนด์ ที่ได้ลองใช้เองมาแบบยาวนาน
ที่ต้องพูดยังงี้ เพราะจากตัวเราเอง ก็มีหลายตัวมากๆ ตัวไหนใครว่าดีเราก็ตามไปสอยมาลอง
จนตอนนี้ที่ใช้อยู่หลักๆก็จะมีอยู่ 4 แบรนด์ด้วยกัน ที่ใช้วนๆอยู่ช่วงนี้
วันนี้เลยอยากหยิบออกมาเปรียบเทียบให้เพื่อนๆได้ดูกันว่าแต่ละตัวที่ได้ลองใช้มา ตัวไหนจะเลิศกว่ากันนนนน
ใช้ไม่หมดสักทีเพราะพอมีตัวใหม่มาเราก็จะหลงลืมนางไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นตัวแรกที่ตัดสินใจซื้อมาเลยนะ
นางเป็นแป้งฝุ่นโปร่งแสง ตัวนี้ทาแล้วหน้าจะดูโกลว์ๆหน่อย ใครผิวมันอาจไม่ชอบ เหมาะกับสาวผิวแห้งมากกว่า
ช่วยให้ผิวดูโกลว์สุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถช่วยเซตเมคอัพให้ติดทนนานขึ้น แป้งไม่หนาแต่ก็ปกปิดได้ในระดับนึง
ข้อดี – มีพัฟ ทาแล้วโปร่งแสง ผิวดูโกลว์ๆ
ข้อเสีย – ไม่ค่อยปกปิด ไม่เหมาะกับผิวมัน
ตัวนี้มีชื่อเรียกว่าแป้งเฮลตี้ สูตรลดสิวควบคุมความมัน ตัวนี้ใช้มาได้ 1 ปีแล้ว
ติดใจมากเพราะนางมีความพิเศษที่เนื้อแป้ง ผลิตและสกัดมาจากธรรมชาติล้วนๆ ช่วงที่หน้าเราไปทำศัลยกรรมมา
ก็จะเลือกใช้แค่ตัวนี้เลย เพราะนางดูบางเบาดี ผิวบางผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้ดี ตัวนี้สามารถใช้แทน บีบี รองพื้นได้เลยนะ
ถึงแม้เนื้อจะบางเบาแต่ก็ปกปิดได้ดี ติดทนนาน คุมมันก็ดี
ข้อดี – ปกปิดดี ทาแล้วโปร่งแสง ไม่หนา ถ้าใช้พัฟกดจะสามารถใช้แทนแป้งบีบีได้เลย ติดทนนาน
ข้อเสีย – ไม่มีมีพัฟแถมมาให้
มีชื่อเต็มๆว่า All Day Bright Perfect Invisible Translucent Powder โดยนางก็ทำออกมาได้ระยะนึงแล้ว
เราลองใช้มาก็ถือว่าผ่านนะ ตัวนี้คุมมันได้ดี อยู่ติดทนนาน เนื้อแป้งไม่หนา แต่ไม่ปกปิดเท่าไหร่ ข้อนี้คงไม่ใช่เรื่องแปลก
เพราะส่วนใหญ่อย่างที่ทราบแป้งฝุ่นก็ไม่ได้เน้นให้ปกปิดไรเบอร์นั้น เรื่องนี้เลยทำให้ไม่ได้ซีเรียดจ้า
NALIO LLARIAS ทำแพ็คเกทออกมาได้ค่อนข้างดี มีพัฟ มีกระจก แตกต่างจากแป้งฝุ่นทั่วๆไป ที่ไม่ค่อยจะมีกระจกติดมาด้วยไรงี้
ข้อดี – มีพัฟ มีกระจก แพ็คเกทดูดี ทาแล้วโปร่งแสง บางเบา
ข้อเสีย – ไม่ค่อยปกปิดเท่าไหร่ อยู่ได้ไม่นาน
สำหรับเรื่องเนื้อแป้งของนางนั้น ก็ต้องบอกเลยว่าเป็นตัวที่มีความเนียนละเอียด และใสมากๆ
สามารถช่วยพรางรูขุมขนได้ดีเลยทีเดียว และในเรื่องของการควบคุมความมันจัดได้ว่าเป็นตัวที่สามารถคุมมันได้ยาวนานมากกก
แม้จะเป็นแค่แป้งฝุ่นนะ ตัวนี้ซื้อมาก็เมื่อต้นปีเอง เพราะทนกระแสไม่ไว้ อยากลองบ้างอะไรบ้าง
ใครที่หน้ามันอยากได้แป้งคุมมัน นุ่นว่าตัวนี้ก็ตอบโจทย์ค่อนข้างดีเลย
ข้อดี – คุมมันดีมาก ติดทนยาวนาน มีพัฟแถมมาให้
ข้อเสีย – ราคาสูง
2 ตัวนี้ค่อนข้างจะสูสีกันพอสมควรจ้า แต่ราคาแตกต่างกัน
เอาล่ะ เราได้ทำตารางคะแนนเพิ่มเติมสำหรับ แป้งฝุ่น 4 ตัวที่ได้ลองใช้มาว่าตัวไหนให้ความรู้สึกยังไงบ้างนะคะ
แต่ละตัวก็จะมีข้อดีของมันเองยังไงก็เลือกตัวที่เหมาะกับผิวของแต่ละคนไป ยังไงก็ไม่ผิดหวังแน่นอนค้า
ทั้งนี้ทั้งนั้นการเปรียบเทียบที่ได้ทำออกมา ก็มาจากความรู้สึกส่วนตัวของเราเองน้า
เพื่อนๆอาจมีผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไปยังไงก็ลองศึกษาดูรีวิวเพิ่มเติมอีกก่อนซื้อน้าจ้า
งั้นวันนี้ก็ขอตัวลาไปก่อนน้า
บะบายยยย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้