ทริปไต้หวันทริปนี้เกิดขึ้นแบบรวดเร็วในไม่กี่วันก่อนจะสิ้นปี
ความตั้งใจของทริปนี้คือ ไปนับถอยหลังเข้าสู่ปี 2019 พร้อมดูพลุสวยๆที่ตึก Taipei 101 (โดนในคลิปป้ายยามาเหมือนกัน555)
ตื่นเต้นมากกก เพราะนี่จะเป็นการ Countdown นอกประเทศไทยครั้งแรกของเรา!

Chapter 1: Taipei in the rain
Sun 30 December 2018

เราออกเดินทางกันวันที่ 30 ธันวาคม 2018 เวลาประมาณตีสองไทย
และไปถึงสนามบินเถาหยวน (Taoyuan Airport) ประมาณ 6 - 7 โมงเช้า


แชะมุมยอดฮิตสนามบินเถาหยวนหน่อย เดี๋ยวเค้าหาว่ามาไม่ถึง

ว่าด้วยบัตร Easy Card บัตรจ่ายเงินสารพัดนึก จ่ายได้ตั้งแต่รถเมล์ รถไฟ ยันร้านสะดวกซื้อ
ยังไม่ต้องสอยเจ้าบัตรนี่ตั้งแต่ที่สนามบินก็ได้นะ ไปซื้อตามร้านสะดวกซื้อ 7-11 หรือ Family Mart
จะมีลายน่ารักๆให้เลือกเยอะกว่ามาก มีแบบเป็นพวงกุญแจด้วย และใช่ค่ะ ดิฉันไม่รู้ รีบสอยตั้งแต่สนามบินไปแล้ว555

เราใช้ MRT ในการเดินทางจากสนามบินเถาหยวนมายังไทเป และเราจะแวะไปฝากกระเป๋าที่โรงแรมใน Ximending กันก่อน

อุณหภูมิวันแรกที่เราไปก็คือ 13 องศาเซลเซียส เมฆเยอะ ไม่มีแดด และมีละอองฝนเม็ดเล็กๆอยู่ตลอดเวลา
แอบไปถามคนพื้นที่มา เค้าบอกว่าเดือนธันวาคมคือฝนตกตลอดอยู่แล้ว
ใครตั้งใจจะมาธันวาคมก็เตรียมตัวกันดีๆน้า แล้วก็เผื่อใจไว้นิดนึง ว่าอาจจะไม่ได้เห็นฟ้าใสๆเลยทั้งทริป

หลังจากแวะดรอปกระเป๋าเดินทางเสร็จ เราก็บังเอิญเจอแก๊งร้านรถเข็นที่มาตั้งขายอาหารช่วงเช้า
ซึ่งจะมีอยู่ร้านนึงที่คนต่อแถวซื้อยาวมาก เลยไปต่อแถวกะเค้าด้วยความอยากรู้อยากลอง
เพราะไม่เคยเห็นอาหารชนิดนี้มาก่อนในชีวิต แถมป้ายหน้าร้านก็เป็นภาษาจีนอี๊กกก555

พ่อค้าร้านนี้ก็มีความเกรี้ยวกราดเบาๆด้วยจ้า นางเห็นคนมาต่อคิวกันเยอะๆ
นางเลยตะโกนไล่ลูกค้าประมาณว่า “ไปกินร้านอื่นบ้างก็ได้!” พร้อมสะบัดมือไล่ด้วยสีหน้าจริงจัง เอ้าลุง! ไล่ลูกค้าก็ได้เหรอ555

เราสั่งไส้แฮม กับเบค่อนไป พอได้ชิมละติดใจเลย อร่อยอะ!
แป้งเค้าจะคล้ายๆโรตี ตอกไข่ ใส่ไส้ (แฮมเอย เบค่อนเอย ตามลูกค้าสั่ง) ปรุงรส แต่จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้นะว่ามันเรียกว่าอะไร555

ถัดจากร้านนี้ไปไม่ไกลจะเจอร้านบะหมี่อาจง (Ay-Chung Flour Rice Noodle)
นี่ก็เป็นอีกอย่างที่ถ้าไม่กิน ก็จะดูเหมือนมาไม่ถึงไต้หวัน มันคือบะหมี่ที่มีแต่เส้น กับไส้ น้ำซุปจะแอบคล้ายๆกะเพราะปลา
หลังจากกินกันจนอิ่ม เราก็ไปอนุสรณ์สถานเจียงไคเชกกันต่อ


ที่ห้ามพลาดอย่างแรกเลยคือ การไปดูพี่ๆทหารเปลี่ยนเวรกันทุกต้นชั่วโมง
แต่ไม่รู้เพราะว่าไปช่วงเทศกาล หรือปกตินักท่องเที่ยวเยอะอยู่แล้ว คนยืนมุงดูกันแน่นเอี้ยด
เขย่งแบบสุดที่เส้นเอ็นตรีนจะทำได้แล้ว ก็ยังฝ่าดงหัวและเหล่าไม้เซลฟี่ไปไม่ได้ TT ถึงจะมองเห็นแค่นิดเดียว
แต่ก็แอบเห็นพี่ทหารตบปืนกันป้าบๆ สวยงามและพร้อมเพรียงมากจนอยากดูแบบเวอร์ชั่นเต็ม
ซึ่งอันนี้ให้เป็นเรื่องของทริปหน้าละกัน ขี้เกียจยืนรอแล้ววว5555

ห้ามพลาดอย่างที่สองของที่นี่คือ การมากินชานมไข่มุกกก
ถ้าหันหน้าเข้าวิหารที่มีรูปปั้นท่านเจียงอยู่ ร้านนี้จะอยู่ใต้ตึกทางซ้ายมือ ชือร้าน Chun Shui Tang - Cultural Tea house

ได้ชาเขียวมัทฉะเย็น กับชานมมะลิร้อนมาลอง อร่อยทั้งสองอย่างเลย แต่ปลื้มชานมมะลิร้อนเป็นพิเศษ เพราะมันหอมมากๆๆๆ


ที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่ไม่อยากให้พลาดนะ โดยเฉพาะหนุ่มสาวที่ยังกล้ามเนื้อฟิตเปรี๊ยะอยู่ รีบปีนก่อนที่สังขารจะไม่ไหว555
และเราจะปีนเขาช้างเพื่อไปดูตึก Taipei 101 จากมุมสูงกัน

ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นเขา แต่เราก็ไม่ต้องไปปีนป่ายย่ำดินย่ำโคลนอะไรทำนองนั้นนะ
ที่นี่เค้าทำบันไดให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปข้างบนได้สะดวกๆแล้ว
แต่! ถึงจะเป็นบันได และระยะทางไม่ไกลมาก (ประมาณ 500 – 600 เมตร) แต่เหนื่อยเอาเรื่องนะ555
จุดชมวิวที่นี่ จะมีหลายจุดนะ ซื่งเราไปทั้งหมด 2 จุดที่เค้าฮิตๆกัน (เดินๆตามชาวบ้านเค้าไปทั้งนั้น555)

จุดแรก

แล้วก็ไต่ไปจุดที่สองกัน จุดนี้ก็เป็นจุดยอดฮิตนะ ทุกๆคนจะไปต่อแถวปีนขึ้นหินแล้วถ่ายรูปกัน

ช่วงที่เราไปฝนลง หมอกหนาตึ้บ วิวเลยหมองๆหมอกๆ ไม่ค่อยจะชัดเท่าไหร่ บางจังหวะคือหนามาก แบบรูปด้านบนเลย555

เริ่มเปิดไฟแล้ว

ขอเล่า Effect หลังจากการปีนเขาช้างหน่อย คืนนั้นเราตื่นมาประมาณตี 1 ด้วยความปวดขาขั้นรุนแรง ปวดจนนอนไม่หลับ
ต้องค่อยๆลากตัวเองไปห้องน้ำด้วยความอนาถ แล้วเปิดน้ำร้อนแช่ขา ฮือTT
สรุปก็คือคืนนั้นนอนไม่หลับเลย มาหลับอีกทีตอน 6 โมงเช้า ขาพังตั้งแต่วันแรกของทริป 555


Chapter 2: I Love you King Crab!
Mon 31 December 2018
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฟ้าครึ้ม และฝนตกเป็นฝอยๆทั้งวัน



เราจะเริ่มต้นวันสิ้นปีกันที่ตลาดปลา Taipei Fish Market สวรรค์ของคนรักอาหารทะเล!

เราแวะทานอาหารภายในตึกห้องแอร์ (Addition Aquatic Development)
สั่งมาทั้งหมด 2 อย่าง คือเซตปลาดิบ กับขา king crab
ค่าเสียหายเอาเรื่อง แต่คุ้มกับความอร่อยมาก อยากให้ไปโดนขา King Crab กันนะ เนื้อหวานอร่อยมาก ยิ่งสดยิ่งอร่อย



เราจะไปดูน้ำพุร้อนที่เป่ยโถวกัน ซึ่งงงง...! นางปิดวันจันทร์จ้าาา!
เด๋อมากกก แต่จะบอกว่ามีผู้ร่วมเด๋อด้วยกันหลายคนมาก ที่เดินมาถึงแล้วเจอประตูปิดงงๆ แล้วต้องเดินกลับ5555
สำหรับที่นี่ก็เลยชมวิวข้างนอกแทน กลิ่นกำมะถันฉุนจมูกมาก

แล้วก็ห้องสมุดอันเลื่องชื่อ อย่างกะเรือเลย

สรุปคือไม่ได้ไปตาม List ที่ตั้งใจไว้เลย555 ไว้ถ้าได้มารอบหน้าจะตามมาเก็บใหม่


จากนั้นก็แวะไปเดินเล่น Creative Park กัน ด้านในจะมีซุ้มแสดงนิทรรศการต่างๆ แต่ต้องเสียเงินค่าเข้านะ
แต่ถ้าเดินชมบริเวณรอบนอก หรือตามร้านค้า จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
ซึ่งเราก็โดนน้องหมีบราวล่อลวงเข้าไปในนิทรรศการ Line Friends World Tour
ด้านในจะจัดมีหุ่นน้องๆแก๊ง Line Friends ยืนเป็นนายแบบ นางแบบอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆให้พวกเราได้ถ่ายรูปกัน


เดินเล่นใน Creative Park กันถึงประมาณหัวค่ำ ก็ได้เวลาออกไป Survey หาที่ยืนสำหรับ Countdown แล้ว!