ขอท้าวความถึงแมตซ์ที่ถล่มเวียดนามหงายเงิบในบ้าน 6 ต่อ 0 ก็มีรายชื่อนักเตะในตอนนั้นดังนี้
ทีมชาติไทย U-19 : ชาคร พิลาคลัง (GK) - อาทิตย์ การสังเวชน์ (อดิศักดิ์ นารัตโท น.55) , มีโชค มหาศรานุกูล , ศฤงคาร พรมสุภะ , ศรายุธ สมพิมพ์ - สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ - อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ , วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ - สุขสันต์ มุ่งเป้า , ฤทธิเดช เพ็ญสวัสดิ์ (ศุภชัย ใจเด็ด น.84), วิศรุต อิ่มอุรา (จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ น.37)
จากแมตซ์นั้นไอ้หนูชุดเล็กได้ประกาศศักดาในภูมิภาคอาเซียนอย่างเต็มภาคภูมิ
แต่จากจุดนั้นชุด U19 เวียดนามก็มีนักเตะบางรายสามารถถีบตัวเองขึ้นมานำด้วย เหงียนควงไฮ และผองเพื่อน จนทำให้ทีมชาติเวียดนามกลับเข้าสู่ยุครุ่งเรืองที่สุดก็ว่าได้
กลับมาที่ U19 ไทยในยุคนั้นอีกครั้ง กลับมีเพียง ศุภชัย ใจเด็ดเพียงคนเดียวที่สามารถยกระดับตัวเองขึ้นไปเล่นทีมชาติชุดใหญ่และสามารถแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัว ส่วนนักเตะรายอื่นถ้าไม่นับอายุที่มากขึ้นแล้วยังดูเหมือนอยู่ในโหมดเดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสรีระ และฝีเท้า
กลับมาอีกครั้งในยุคอเล็กซานเดอร์ กาม่า เรียกใช้นักเตะ 38 ราย ดังนี้
#ผู้รักษาประตู
1. กรพัฒน์ นารีจันทร์ (ขอนแก่น เอฟซี)
2. ชาคร พิลาคลัง (ขอนแก่น เอฟซี)
3. นนท์ ม่วงงาม (เชียงใหม่ เอฟซี)
4. นพพล ละครพล (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
5. แจ๊ค เคราซ์ (สุโขทัย เอฟซี)
.
#กองหลัง
6. เควิน ดีรมรัมย์ (การท่าเรือ เอฟซี)
7. มาร์โค บัลลินี (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
8. อภิสิทธิ์ โสรฎา (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
9. ศฤงคาร พรมศุภะ (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
10. พัชรพล อินทนี (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
11. ชาติชาย แสงดาว (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
12. นาคิน วิเศษชาติ (อาร์มี ยูไนเต็ด)
13. พีฬาวัช อรรคธรรม (พีที ประจวบ เอฟซี)
14. ศรายุธ สมพิมพ์ (พีทีที ระยอง เอฟซี)
15. ทิตาวีร์ อักษรศรี (โปลิศ เทโร เอฟซี)
16. ทิตาธร อักษรศรี (โปลิศ เทโร เอฟซี)
17. จักกฤษณ์ เวชภิรมย์ (สมุทรปราการ ซิตี้)
18. มีโชค มหาศรานุกูล (สุพรรณบุรี เอฟซี)
19. ชินภัทร์ ลีเอาะ (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)
.
#กองกลาง
20. ธัญพิสิทธิ์ คุขะละโม (อุบล ยูไนเต็ด)
21. อนนต์ สมากร (การท่าเรือ เอฟซี)
22. วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (ชลบุรี เอฟซี)
23. เอกนิษฐ์ ปัญญา (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)
24. สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ (ชลบุรี เอฟซี)
25. วิศรุต อิ่มอุระ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
26. อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
27. รัตนากร ใหม่คามิ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
28. สุภโชค สารชาติ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
29. กานต์นรินทร์ ถาวรศักดิ์ (ศรีสะเกษ เอฟซี)
30. เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ (สมุทรปราการ ซิตี้)
.
#กองหน้า
31. ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
32. นัฐวุฒิ มูลสุวรรณ (โปลิศ เทโร)
33. สิทธิโชค ภาโส (ชลบุรี เอฟซี)
34. ศุภชัย ใจเด็ด (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
35. สีหนาท สุทธิศักดิ์ (อุดรธานี เอฟซี)
36. สกุลชัย แสงโทโพธิ์ (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
37. ปรเมศย์ อาจวิไล (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
38. กรวิชญ์ ทะสา (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
ถือว่าแต่ละคนในไทยกับผู้เล่นระดับเดียวกันถือว่าที่สุด กาม่าจะให้เล่นใน formation ไหนก็ถือว่ายืดหยุ่น
แล้วมาดูกันว่าตั้งแต่รายการ ซีเกมส์ไปจนถึงปรีโอลิมปิคส์ นักเตะชุดนี้พอที่จะขึ้นมาเป็นความหวังทีมชาติในรุ่นต่อไปได้หรือเปล่า
#Road to Olympic2020
จาก U19 ถล่มอาเซียนสู่ รุ่น U22
ทีมชาติไทย U-19 : ชาคร พิลาคลัง (GK) - อาทิตย์ การสังเวชน์ (อดิศักดิ์ นารัตโท น.55) , มีโชค มหาศรานุกูล , ศฤงคาร พรมสุภะ , ศรายุธ สมพิมพ์ - สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ - อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ , วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ - สุขสันต์ มุ่งเป้า , ฤทธิเดช เพ็ญสวัสดิ์ (ศุภชัย ใจเด็ด น.84), วิศรุต อิ่มอุรา (จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ น.37)
จากแมตซ์นั้นไอ้หนูชุดเล็กได้ประกาศศักดาในภูมิภาคอาเซียนอย่างเต็มภาคภูมิ
แต่จากจุดนั้นชุด U19 เวียดนามก็มีนักเตะบางรายสามารถถีบตัวเองขึ้นมานำด้วย เหงียนควงไฮ และผองเพื่อน จนทำให้ทีมชาติเวียดนามกลับเข้าสู่ยุครุ่งเรืองที่สุดก็ว่าได้
กลับมาที่ U19 ไทยในยุคนั้นอีกครั้ง กลับมีเพียง ศุภชัย ใจเด็ดเพียงคนเดียวที่สามารถยกระดับตัวเองขึ้นไปเล่นทีมชาติชุดใหญ่และสามารถแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัว ส่วนนักเตะรายอื่นถ้าไม่นับอายุที่มากขึ้นแล้วยังดูเหมือนอยู่ในโหมดเดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสรีระ และฝีเท้า
กลับมาอีกครั้งในยุคอเล็กซานเดอร์ กาม่า เรียกใช้นักเตะ 38 ราย ดังนี้
#ผู้รักษาประตู
1. กรพัฒน์ นารีจันทร์ (ขอนแก่น เอฟซี)
2. ชาคร พิลาคลัง (ขอนแก่น เอฟซี)
3. นนท์ ม่วงงาม (เชียงใหม่ เอฟซี)
4. นพพล ละครพล (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
5. แจ๊ค เคราซ์ (สุโขทัย เอฟซี)
.
#กองหลัง
6. เควิน ดีรมรัมย์ (การท่าเรือ เอฟซี)
7. มาร์โค บัลลินี (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
8. อภิสิทธิ์ โสรฎา (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
9. ศฤงคาร พรมศุภะ (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
10. พัชรพล อินทนี (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
11. ชาติชาย แสงดาว (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
12. นาคิน วิเศษชาติ (อาร์มี ยูไนเต็ด)
13. พีฬาวัช อรรคธรรม (พีที ประจวบ เอฟซี)
14. ศรายุธ สมพิมพ์ (พีทีที ระยอง เอฟซี)
15. ทิตาวีร์ อักษรศรี (โปลิศ เทโร เอฟซี)
16. ทิตาธร อักษรศรี (โปลิศ เทโร เอฟซี)
17. จักกฤษณ์ เวชภิรมย์ (สมุทรปราการ ซิตี้)
18. มีโชค มหาศรานุกูล (สุพรรณบุรี เอฟซี)
19. ชินภัทร์ ลีเอาะ (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)
.
#กองกลาง
20. ธัญพิสิทธิ์ คุขะละโม (อุบล ยูไนเต็ด)
21. อนนต์ สมากร (การท่าเรือ เอฟซี)
22. วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (ชลบุรี เอฟซี)
23. เอกนิษฐ์ ปัญญา (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)
24. สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ (ชลบุรี เอฟซี)
25. วิศรุต อิ่มอุระ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
26. อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
27. รัตนากร ใหม่คามิ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
28. สุภโชค สารชาติ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
29. กานต์นรินทร์ ถาวรศักดิ์ (ศรีสะเกษ เอฟซี)
30. เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ (สมุทรปราการ ซิตี้)
.
#กองหน้า
31. ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
32. นัฐวุฒิ มูลสุวรรณ (โปลิศ เทโร)
33. สิทธิโชค ภาโส (ชลบุรี เอฟซี)
34. ศุภชัย ใจเด็ด (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
35. สีหนาท สุทธิศักดิ์ (อุดรธานี เอฟซี)
36. สกุลชัย แสงโทโพธิ์ (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
37. ปรเมศย์ อาจวิไล (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
38. กรวิชญ์ ทะสา (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
ถือว่าแต่ละคนในไทยกับผู้เล่นระดับเดียวกันถือว่าที่สุด กาม่าจะให้เล่นใน formation ไหนก็ถือว่ายืดหยุ่น
แล้วมาดูกันว่าตั้งแต่รายการ ซีเกมส์ไปจนถึงปรีโอลิมปิคส์ นักเตะชุดนี้พอที่จะขึ้นมาเป็นความหวังทีมชาติในรุ่นต่อไปได้หรือเปล่า
#Road to Olympic2020