"โอะโมะเตนาชิ" Omotenashi (おもてなし) ไม่แน่ใจว่าหลายคนเคยได้ยินคำนี้มาก่อนหรือไม่
แต่ถ้าใครเป็นแฟนญี่ปุ่นตัวยงแบบผม ก็คงเคยได้ยินและสัมผัสกับ "จิตวิญญาณการบริการแบบญี่ปุ่น"
ซึ่งน่าจะเป็นนิยามที่ชัดเจนที่สุดของ โอะโมะเตนาชิ
Omote – โอะโมะเต แปลว่า เบื้องหน้า
Nashi – นาชิ แปลว่า ไม่มี
ดังนั้น Omotenashi (おもてなし) จึงมีความหมายถึง การบริการแบบที่ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง เป็นการให้บริการด้วยความบริสุทธิ์ใจ
เป็นการบริการที่ทำเพื่อลูกค้าหรือผู้รับบริการที่อยู่ตรงหน้า เฉพาะคนนั้น ในเวลานั้น ณ สถานที่นั้นเท่านั้น
นั่นเพราะลูกค้าแตกต่างกัน เราจึงต้องให้การบริการที่แตกต่างกัน ไม่ได้มองว่าลูกค้าคือพระเจ้า
แต่คือเพื่อนมนุษย์ที่เราเข้าไปบริการจากใจโดยไม่หวังผลตอบแทน โดยแลกกับความสุขที่ได้รับการจากได้ให้บริการ
จากการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นมานานนับสิบปี สิ่งหนึ่งที่ผมสัมผัสได้คือเรื่องพื้นฐานการทำความเข้าใจในเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
เป็นธรรมชาติที่ชัดเจนของคนญี่ปุ่น เห็นได้จากสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่สอดแทรกไว้
เพื่ออำนวยความสะดวกและสามารถตอบสนองความต้องการของแต่ละคน ตลอดจนการเคารพในเพื่อนมนุษย์
ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นลูกค้าหรือว่าคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก
ถ้าจะนำมาปรับใช้ในธุรกิจโรงแรม Omotenashi ก็น่าจะเป็นคำว่า Hospitality หรือการดูแลเอาใจใส่ ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
แต่จะเป็นขั้นกว่า คือการยกระดับการให้บริการที่มาจากจิตวิญญาณแท้ๆ เพราะความใส่ใจแม้เพียงเล็กน้อย
สร้างความแตกต่างให้องค์กรได้ โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมที่เน้นขายงานบริการเป็นหลัก ไล่ระดับไปตั้งแต่การใส่ใจ
และการทำเรื่องเล็กน้อยๆ ให้กับลูกค้า การปรับการให้บริการของพนักงานให้เหมาะสมตามสถานการณ์อย่างถูกที่ถูกเวลา
เพื่อให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ต้องการ ในช่วงเวลาที่ตรงตามความต้องการอย่างแท้จริง
เรื่อยไปจนถึงการแก้ไขปัญหาบางอย่างที่ลูกค้านึกไม่ถึงมาก่อน
เหล่านี้เป็นการสะท้อนถึงหลักคิดอย่าง OMOTENASHI ที่นำมาใช้ในงานบริการ
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาผมเพิ่งไปเข้าพักที่โรงแรม
Nikko Bangkok โรงแรมน้องใหม่ในเครือ Okura ที่เพิ่งเปิดให้เข้าพัก
แต่ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ด้วยความที่ประทับใจใน Omotenashi
ตลอดจนเห็นว่าในกรุงเทพฯ เองก็ไม่ค่อยมีโรงแรมสัญชาติญี่ปุ่นมาเปิดให้บริการมากนัก
ก่อนหน้านี้ก็มีเพียงพี่ใหญ่อย่าง Okura Pretige Hotel ย่านเพลินจิต
Hotel Nikko Bangkok ก็อยู่เส้นสุขุมวิทเหมือนกัน แต่เป็นย่านทองหล่อครับ การเดินทางง่ายมากจากปากซอยทองหล่อ (สุขุมวิท 55)
เข้ามาประมาณ 100 เมตร (เดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ก็สะดวกครับ) อาคารเป็นรูปทรงโค้งของกลีบดอกไม้
สามารถเดินเข้ามาด้านในประตูด้านหน้าได้เลย แต่หากใครขับรถมา สามารถขับตรงเข้ามายังจุด Drop-Off ของโรงแรมซึ่งอยู่ด้านใน
ซึ่งจะพบกับปฏิมากรรมใหญ่เป็นรูปใบแปะก๊วย สื่อถึงความรักตามความหมายของคนญี่ปุ่น เป็นตัวแทนของความคงทน ไม่เปลี่ยนแปลง
“JAPANESE HOSPITALITY OF OMOTENASHI”
เป็นคำโปรยแรกของทางโรงแรมที่สื่อสารออกไปยังผู้เข้าพัก
ซึ่งอยากจะเชิญทุกคนมาดื่มด่ำสัมผัสกับการให้บริการมาตรฐานโรงแรมญี่ปุ่นในประเทศไทย
เช็คอินที่ล็อบปี้ เซลลิ่งบริเวณนี้สูงโปร่งและตัวอาคารโอ่โถงดีมากครับ รู้สึกได้ถึงความโล่งสบาย
มอบความรู้สึกดีๆ ให้กันตั้งแต่วินาทีแรกของการเข้าพักเลยทีเดียว
ส่วนดีไซน์ผนังกระจกด้านหลังเป็นลักษณะของการตัดทอนรูปทรงลวดลายแบบไทยๆ ให้ออกมาดูเรียบง่ายมีความมินิมอล
โดยจะเน้นสีโรสโกล์ด สะท้อนถึงความหรูหรา มีระดับ
พนักงานที่นี่จะดูแลเอาใจใส่ให้บริการด้วยจิตวิญญาณแบบญี่ปุ่น ซึ่งนอกจากภาษาไทยและภาษาอังกฤษแล้ว
พนักงานทุกคนยังพูดภาษาญี่ปุ่นในระดับพื้นฐานของผู้ให้บริการได้ แต่หากต้องการพนักงานที่ชำนาญภาษาญี่ปุ่นแล้ว
จะสังเกตว่าบริเวณปกเสื้อจะมีเข็มกลัดรูปธงชาติญี่ปุ่นเพื่อคอยให้บริการผู้เข้าพักชาวญี่ปุ่นอีกด้วยครับ
ผมถือโอกาสนี้สมัครเมมเบอร์ One Harmony ซึ่งเป็นโปรแกรมสะสมคะแนนระหว่างการเข้าพักของโรงแรมในเครือทั่วโลก
ไม่ว่าจะเป็น Okura, Nikko, JAL สมัครครั้งแรกจะได้รับบัตรเป็นระดับ Member ตัวบัตรเป็นสีทอง-ดำ ดูสวยงามดีครับ
ระหว่างสมัครก็คุยกับพนักงานไปเรื่อยถึงเรื่อง Benefit ที่จะได้รับ เรื่อยไปจนถึงการทำงานที่โรงแรมญี่ปุ่นว่าเป็นอย่างไรบ้าง
2-3 คนพูดตรงกันว่าที่นี่ระเบียบข้อปฏิบัติสำหรับพนักงานเยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องการให้บริการ
แต่ก็ดูเหมือนทุกคน Happy ดี เพราะได้เรียนรู้การให้บริการด้วยจิตวิญญาณของญี่ปุ่นจริงๆ
(GM ที่นี่ค่อนข้างเข้มและเป๊ะ เพราะเป็นคนญี่ปุ่น)
เช็คอินเสร็จแล้ว ขึ้นห้องพักดีกว่าครับ ผมพักที่ชั้น 8 จากทั้งหมด 22 ชั้น ทั้งหมด 301 ห้อง Room Types มีด้วยกัน 9 แบบ
กระทู้ "KANT" ก่อนหน้านี้
https://ppantip.com/topic/38450740
KANT x SANTIBURI SAMUI
https://ppantip.com/topic/38439399
KANT x Pullman Bangkok Hotel G
https://ppantip.com/topic/38438584
KANT x Scarlett Wine Bar & Restaurant
https://ppantip.com/topic/38302342
KANT x AVANI สโลว์ไลฟ์ที่หลวงพระบาง
https://ppantip.com/topic/38018787
KANT x PHUKET MARRIOTT RESORT AND SPA, NAI YANG BEACH
https://ppantip.com/topic/38119205
KANT/SM x SALA Rattanakosin Bangkok
https://ppantip.com/topic/38016250
KANT x Mövenpick Asara Resort & Spa Hua Hin
https://ppantip.com/topic/37865764
KANT x BABA BEACH CLUB PHUKET / BEACH : LIFE : MUSIC : WEEKEND
__
เข้ามาพูดคุยกัน กับเรื่องราวของ TRAVEL • HOTEL • LIFESTYLE ได้ที่
www.facebook.com/kantjourney
และที่
www.kantjourney.com
www.kantism.co
ฟัง Podcast คุยเกี่ยวกับ TRAVEL • HOTEL • LIFESTYLE ได้ที่
https://soundcloud.com/kantism
[SR] KANT x HOTEL NIKKO BANGKOK
"โอะโมะเตนาชิ" Omotenashi (おもてなし) ไม่แน่ใจว่าหลายคนเคยได้ยินคำนี้มาก่อนหรือไม่
แต่ถ้าใครเป็นแฟนญี่ปุ่นตัวยงแบบผม ก็คงเคยได้ยินและสัมผัสกับ "จิตวิญญาณการบริการแบบญี่ปุ่น"
ซึ่งน่าจะเป็นนิยามที่ชัดเจนที่สุดของ โอะโมะเตนาชิ
Omote – โอะโมะเต แปลว่า เบื้องหน้า
Nashi – นาชิ แปลว่า ไม่มี
ดังนั้น Omotenashi (おもてなし) จึงมีความหมายถึง การบริการแบบที่ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง เป็นการให้บริการด้วยความบริสุทธิ์ใจ
เป็นการบริการที่ทำเพื่อลูกค้าหรือผู้รับบริการที่อยู่ตรงหน้า เฉพาะคนนั้น ในเวลานั้น ณ สถานที่นั้นเท่านั้น
นั่นเพราะลูกค้าแตกต่างกัน เราจึงต้องให้การบริการที่แตกต่างกัน ไม่ได้มองว่าลูกค้าคือพระเจ้า
แต่คือเพื่อนมนุษย์ที่เราเข้าไปบริการจากใจโดยไม่หวังผลตอบแทน โดยแลกกับความสุขที่ได้รับการจากได้ให้บริการ
จากการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นมานานนับสิบปี สิ่งหนึ่งที่ผมสัมผัสได้คือเรื่องพื้นฐานการทำความเข้าใจในเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
เป็นธรรมชาติที่ชัดเจนของคนญี่ปุ่น เห็นได้จากสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่สอดแทรกไว้
เพื่ออำนวยความสะดวกและสามารถตอบสนองความต้องการของแต่ละคน ตลอดจนการเคารพในเพื่อนมนุษย์
ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นลูกค้าหรือว่าคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก
ถ้าจะนำมาปรับใช้ในธุรกิจโรงแรม Omotenashi ก็น่าจะเป็นคำว่า Hospitality หรือการดูแลเอาใจใส่ ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
แต่จะเป็นขั้นกว่า คือการยกระดับการให้บริการที่มาจากจิตวิญญาณแท้ๆ เพราะความใส่ใจแม้เพียงเล็กน้อย
สร้างความแตกต่างให้องค์กรได้ โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมที่เน้นขายงานบริการเป็นหลัก ไล่ระดับไปตั้งแต่การใส่ใจ
และการทำเรื่องเล็กน้อยๆ ให้กับลูกค้า การปรับการให้บริการของพนักงานให้เหมาะสมตามสถานการณ์อย่างถูกที่ถูกเวลา
เพื่อให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ต้องการ ในช่วงเวลาที่ตรงตามความต้องการอย่างแท้จริง
เรื่อยไปจนถึงการแก้ไขปัญหาบางอย่างที่ลูกค้านึกไม่ถึงมาก่อน
เหล่านี้เป็นการสะท้อนถึงหลักคิดอย่าง OMOTENASHI ที่นำมาใช้ในงานบริการ
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาผมเพิ่งไปเข้าพักที่โรงแรม Nikko Bangkok โรงแรมน้องใหม่ในเครือ Okura ที่เพิ่งเปิดให้เข้าพัก
แต่ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ด้วยความที่ประทับใจใน Omotenashi
ตลอดจนเห็นว่าในกรุงเทพฯ เองก็ไม่ค่อยมีโรงแรมสัญชาติญี่ปุ่นมาเปิดให้บริการมากนัก
ก่อนหน้านี้ก็มีเพียงพี่ใหญ่อย่าง Okura Pretige Hotel ย่านเพลินจิต
Hotel Nikko Bangkok ก็อยู่เส้นสุขุมวิทเหมือนกัน แต่เป็นย่านทองหล่อครับ การเดินทางง่ายมากจากปากซอยทองหล่อ (สุขุมวิท 55)
เข้ามาประมาณ 100 เมตร (เดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ก็สะดวกครับ) อาคารเป็นรูปทรงโค้งของกลีบดอกไม้
สามารถเดินเข้ามาด้านในประตูด้านหน้าได้เลย แต่หากใครขับรถมา สามารถขับตรงเข้ามายังจุด Drop-Off ของโรงแรมซึ่งอยู่ด้านใน
ซึ่งจะพบกับปฏิมากรรมใหญ่เป็นรูปใบแปะก๊วย สื่อถึงความรักตามความหมายของคนญี่ปุ่น เป็นตัวแทนของความคงทน ไม่เปลี่ยนแปลง
“JAPANESE HOSPITALITY OF OMOTENASHI”
เป็นคำโปรยแรกของทางโรงแรมที่สื่อสารออกไปยังผู้เข้าพัก
ซึ่งอยากจะเชิญทุกคนมาดื่มด่ำสัมผัสกับการให้บริการมาตรฐานโรงแรมญี่ปุ่นในประเทศไทย
เช็คอินที่ล็อบปี้ เซลลิ่งบริเวณนี้สูงโปร่งและตัวอาคารโอ่โถงดีมากครับ รู้สึกได้ถึงความโล่งสบาย
มอบความรู้สึกดีๆ ให้กันตั้งแต่วินาทีแรกของการเข้าพักเลยทีเดียว
ส่วนดีไซน์ผนังกระจกด้านหลังเป็นลักษณะของการตัดทอนรูปทรงลวดลายแบบไทยๆ ให้ออกมาดูเรียบง่ายมีความมินิมอล
โดยจะเน้นสีโรสโกล์ด สะท้อนถึงความหรูหรา มีระดับ
พนักงานที่นี่จะดูแลเอาใจใส่ให้บริการด้วยจิตวิญญาณแบบญี่ปุ่น ซึ่งนอกจากภาษาไทยและภาษาอังกฤษแล้ว
พนักงานทุกคนยังพูดภาษาญี่ปุ่นในระดับพื้นฐานของผู้ให้บริการได้ แต่หากต้องการพนักงานที่ชำนาญภาษาญี่ปุ่นแล้ว
จะสังเกตว่าบริเวณปกเสื้อจะมีเข็มกลัดรูปธงชาติญี่ปุ่นเพื่อคอยให้บริการผู้เข้าพักชาวญี่ปุ่นอีกด้วยครับ
ผมถือโอกาสนี้สมัครเมมเบอร์ One Harmony ซึ่งเป็นโปรแกรมสะสมคะแนนระหว่างการเข้าพักของโรงแรมในเครือทั่วโลก
ไม่ว่าจะเป็น Okura, Nikko, JAL สมัครครั้งแรกจะได้รับบัตรเป็นระดับ Member ตัวบัตรเป็นสีทอง-ดำ ดูสวยงามดีครับ
ระหว่างสมัครก็คุยกับพนักงานไปเรื่อยถึงเรื่อง Benefit ที่จะได้รับ เรื่อยไปจนถึงการทำงานที่โรงแรมญี่ปุ่นว่าเป็นอย่างไรบ้าง
2-3 คนพูดตรงกันว่าที่นี่ระเบียบข้อปฏิบัติสำหรับพนักงานเยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องการให้บริการ
แต่ก็ดูเหมือนทุกคน Happy ดี เพราะได้เรียนรู้การให้บริการด้วยจิตวิญญาณของญี่ปุ่นจริงๆ
(GM ที่นี่ค่อนข้างเข้มและเป๊ะ เพราะเป็นคนญี่ปุ่น)
เช็คอินเสร็จแล้ว ขึ้นห้องพักดีกว่าครับ ผมพักที่ชั้น 8 จากทั้งหมด 22 ชั้น ทั้งหมด 301 ห้อง Room Types มีด้วยกัน 9 แบบ
กระทู้ "KANT" ก่อนหน้านี้
https://ppantip.com/topic/38450740
KANT x SANTIBURI SAMUI
https://ppantip.com/topic/38439399
KANT x Pullman Bangkok Hotel G
https://ppantip.com/topic/38438584
KANT x Scarlett Wine Bar & Restaurant
https://ppantip.com/topic/38302342
KANT x AVANI สโลว์ไลฟ์ที่หลวงพระบาง
https://ppantip.com/topic/38018787
KANT x PHUKET MARRIOTT RESORT AND SPA, NAI YANG BEACH
https://ppantip.com/topic/38119205
KANT/SM x SALA Rattanakosin Bangkok
https://ppantip.com/topic/38016250
KANT x Mövenpick Asara Resort & Spa Hua Hin
https://ppantip.com/topic/37865764
KANT x BABA BEACH CLUB PHUKET / BEACH : LIFE : MUSIC : WEEKEND
__
เข้ามาพูดคุยกัน กับเรื่องราวของ TRAVEL • HOTEL • LIFESTYLE ได้ที่
www.facebook.com/kantjourney
และที่ www.kantjourney.com
www.kantism.co
ฟัง Podcast คุยเกี่ยวกับ TRAVEL • HOTEL • LIFESTYLE ได้ที่ https://soundcloud.com/kantism
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้