แชร์ ประสบการณ์ สาย ฝ. ที่เป็นได้แค่ Holiday Girlfriend เผื่อสอนใครหลายๆคนได้นะคะ

สวัสดีค่ะ สาวๆสายฝ. ทั้งหลาย
เราไปเที่ยวทะเลต่างจังหวัด พักผ่อนจากงาน และจากความรักด้วยเช่นกัน เพราะผิดหวังมาหลายรอบ
ณ ที่นี้ไม่ใช่ไม่มีคนมาจีบนะคะ มีค่ะ แต่เขาชอบเรา เราไม่ชอบเขา อยู่แบบนี้ เอาจริงๆ ใครไม่เป็นไม่รู้เลยค่ะ
ว่ามันบังคับกันไม่ได้ หลายๆคนด่า สมน่า เลือกมากนัก เอาจริงๆไม่ได้เลือกมาก ถ้าชอบใคร แล้วคนที่เราชอบ ฐานะด้อยกว่าคนที่มาชอบเรา
ถ้าชอบอะ เราไม่สนใจตรงนั้นเลยจริงๆ แต่ถ้าไม่ชอบ มีมากแค่ไหน มันก็ไม่ชอบอะค่ะ ของแบบนี้มันบังคับกันไม่ได้ คงเป็นกรรมมั้งคะ

อะ บ่นเยอะ เข้าเรื่อง
เราไปทะเลต่างจังหวัด ไปครั้งที่2 เลยไปพักที่พักเดิม เพราะก็รู้จักห่างๆกับเจ้าของ สุดท้ายก็ได้ไปเจอฝรั่งคนนึงในที่พักเดียวกัน เขามากับเพื่อนเขาอีก2คน
ซึ่ง2คนนั้นเป็นแฟนกัน สมมิว่าตัวเขาชื่อ Z เพื่อนเขาผชชื่อ A แฟนของA ชื่อB
เจอกันที่ร้านอาหารก่อน เขามานั่งที่หลังโต๊ะข้างๆคนเดียว สักพักก็ถามเราว่า โอเคไหม ถ้าผมจะสูบบุหรี่ตรงนี้ เพราะมันเป็นโต๊ะข้างเรา
เราก็บอกว่า โอเคค่ะ ไม่เป็นไร ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ค่ะว่าพักที่เดียวกัน

ตกค่ำ เราก็จะไปบาร์ๆนึง กับฝรั่งคนนึงที่เจอที่ร้านอาหารตอนค่ำ เพราะเราไม่มีเพื่อน ก็อะ อยากหาเพื่อนเที่ยวเว้ย แล้วเขาไม่รู้ว่ามีบาร์ๆนั้น เราเลยชวน เอ่า ไปด้วยกันไหม เดะพาไป กำลังจะไปพอดี สรุปก็ไปด้วยกัน เล่นสนุ๊กกันสักพัก A กับ Z ก็มาทีหลัง แล้วเขาก็มาขอเล่นต่อจากเกมส์เรา แล้วZ มองเราตลอด จนพอคนเยอะขึ้น Z ก็มานั่งข้างหลัง จนเริ่มดึก ผช ในนั้นเริ่มชวนคุยจนขอเบอร์ เราก็จำใจต้องให้ไปก่อน คิดในใจเดี๋ยวกูบลอคเอาทีหลังวะ ไม่กล้าปฏิเสธ แต่ก็มีคุยๆกับZบ้าง จนได้รู้ว่า อ๋อ พักที่เดียวกันนี่หว่า
Z บอกว่า ถ้าคุณอยากกลับเมื่อไหร่ บอกผมนะ แล้วตอนนั้นเขาก็ยังนั่งอยู่หลังเราไม่ขยับไปไหน อารมณ์แบบ ถ้าใครจู่โจมเข้ามา เขาพร้อมตั้งรับให้ตลอดเวลา จนเรารำคาญคนที่เขามาพยายามคุยด้วย เลยหันไปบอกZว่า เรากลับกันเหอะ แล้วเราไปส่งเพื่อนฝรั่งที่มากับเรา ด้วยกันได้ไหม เขาก็โอเค จนไปส่งฝรั่งคนนั้น แล้วกลับที่พักด้วยกัน ก็ขี่มอไซกันคนละคันเลยค่ะ พอถึงที่พัก ก็เลยเหมือนแลกไลน์กัน เขาก็ว่าพรุ่งนี้ ไปกินข้าวกี่โมง บอกนะ ไปด้วยกัน ชะนีก็ใจสั่นไป20%ละ
จนเช้าอีกวัน เราก็ไม่กล้าทักไปก่อน 9โมงเราก็เลยไปที่ร้านอาหารเองเลย เขาก็ทักมา พร้อมแล้วบอกนะ ผมพร้อมแล้ว เราเลยบอกว่า มาเลย เราอยู่ที่ร้านแล้ว เขาก็ตามมาแล้วก็มากันทั้งหมด A B Z สรุปเขาก็ชวนเราเที่ยวด้วยเลย กินข้าวก็คุยกันว่าเขาจะไปที่อื่นต่อ อยู่ได้อีกแค่2วัน แต่เราอยู่ต่ออีก4วัน
ใจลึกๆก็ แงว เพิ่งเจอกันเอง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เราก็ก้มหน้ารับฟังเฉยๆ สรุปก็ไปเล่นน้ำ ไปบีชด้วยกัน เป็นแก๊งไปเลย สนุกมาก เพราะ A มันโคตรมึน โคตรฮา เขาก็แบบเล่นน้ำกับเรา ยื้นมือมาจับมือเรา เดินเล่นที่หาด เทคแคร์ เรานั่งอ่านหนังสือ เขาก็เดินมานอนตัก คืออ้อนเบอแรงมากๆ (ชะนีก็อินไปอีก) ถึงเวลากลับ อาบน้ำแต่งตัวก็แยกย้ายกันไปอาบห้องใครห้องมัน ก่อนแยกZก็บอกว่า เสดแล้วไปที่ห้องผมนะ เราก็โอเคได้ เดะตามไปละกัน ใจก็แบบ เอาแล้ว...กู ใจแตกแน่กู สรุป อาบน้ำเสร็จเราก็ไปที่ห้องเขา แต่เราไม่เข้าห้องเขาเลย เรานั่งอยู่แต่หน้าห้อง ซึ่งหลังเล่นน้ำ ทุกคนมันจะเหนื่อยกันหมด จะหลับกัน เขาก็เลยชวนไปนั่งในห้อง เพราะเริ่มเย็น ข้างนอกเริ่มร้อน ในห้องมันเย็นกว่าจริงๆ (แม่* สภาพแวดล้อมเป็นใจอีก) ไอ้เราก็อะไป กูนั่งห่างเป็นเมตรค่ะ ก็คุยกันนั้นนี่ เขาก็พยามมาเข้าใกล้ ไอ้เราก็พยามออกห่าง สรุป ไม่ได้ค่ะ ชะนีไม่ยอม แต่เขาก็ไม่ได้จะจู่โจมอะไรมากนะ แค่จะ Kiss เฉยๆ ชะนีก็ไม่ให้ Kiss ค่ะ จนตกเย็น ก็ไปกินข้าวกันปกติ กลับมาที่พัก เขาก็บอกว่า กลับห้องไปทำอะไรเสร็จแล้ว ไปที่ห้องผมนะ เราก็ โอเค คิดในใจ อืม..... ชะนีใจแตกแน่คืนนี้

พอไปห้องเขา ก็นั้นแหระค่ะ อารมณ์แบบชวนนอนด้วย ชะนีก็แรดมาก เอ่านอนก็นอนวะ ก็นอนกอดกันเฉยๆ จนหลับไป พักใหญ่ก็ตื่นมา กับความอ้อนเบอแรงของเขา สรุปทนความอ้อนไม่ได้จริงๆ (อย่าด่าเลยนะคะ) ก็เรียบร้อยไปแบบใจแตกละเอียดกับความขี้อ้อน
วันต่อมาก็ยังใช้เวลาเที่ยวด้วยกันอยู่ เหมือนเขาคุยกับเพื่อนเขาว่าจะขออยู่ต่อที่นี่อีก แล้วกลับวันเดียวกับเรา เขาบอก เราอยู่ต่อกันเพราะคุณเลยนะ เราก็ ยิ้มแล้วบอกขอบคุณ แล้วสายการบินเราโทรมายกเลิกเที่ยวบินขากลับเรา ก็เลยคุยกับเขาใหม่ ว่าถ้าจะไปที่อื่น เราไปด้วยก็ได้นะ เพราะไหนๆสายการบินก็ยกเลิกเที่ยวบินไปแล้ว จองตั๋วกลับใหม่ก็ได้ ก็เลยไปเที่ยวอีกเกาะด้วยกันอีก เขาเทคแคร์ดีมาก มากๆ จูงมือ จับมือ ชอบอ้อน อยากกินอะไรไหม กินนี่สิ กินนั้น บอกไม่เอาก็สั่งมาให้ จ่ายให้หมด แต่เราก็แย่งจ่ายตลอด เพราะก็รู้สึกไม่ดี เวลาที่เขาต้องมาจ่ายให้เราหมดทุกอย่าง เพื่อนเขาถ่ายรูปรวม เขาก็เรียกเราถ่ายด้วย โอบเอว โอบไหล่ ถ่ายรูปคู่ ชะนีอินมากค่ะ ตอนนั้นบอกตรงๆ ใจแตกละเอียดเลย โทรคุยกับพี่ชาย ก็หันกล้องมาให้เรา Say Hi กับพี่ชายไปอีก
เปิดโทรศัพท์ให้ดูว่าแชทกับใครบ้าง มีแต่เพื่อนกับครอบครัว ผมไม่มีอะไรต้องซ้อนเลย จริงใจปะละเมิง..... ซึ่งเอาตรงๆตูจะรู้ได้ไง เพราะไม่ได้คุยภาษาอังกฤษอะ นั้นมันภาษาบ้านเมิงทั้งนั้นเลย
(เขาไม่เล่นเฟส ไม่มีไอจี ไม่เล่นโซเชียลกันทั้งทีม เขาไม่ชอบ เขาจะเรียกให้ดูตลอดว่า ดูดิ ทุกคนอยู่แต่กับมือถือ ทำใมไม่วางโทรศัพท์แล้วคุยกันอะ)
แล้วเราต้องกลับก่อน เพราะต้องไปทำงาน เลยนัดกันเจออีกทีที่ กทม ก่อนเขากลับประเทศ เขาอยู่กทมต่ออีก4วัน ก็เลยนัดกันว่า เอองั้นเจอกันอีกทีที่กทม
ตอนไปส่งเราขึ้นเรือ เขาไม่แบบกอดลาเราเลย ยืนมองอยู่เฉยๆ เป็นเราที่ไปจับแขนเขาแล้วบอกว่า เดี๋ยวเจอกัน

ระหว่างที่เรากลับมาทำงาน ก็คุยกันวันละครั้ง ตอนเย็นนิดๆหน่อย เพราะเขาจะคุยได้ก็ตอนมีวายฟาย ซึ่งพวกนี้เขาไปทำกิจกรรมกันทั้งวัน
จะจับโทรศัพท์อีกทีก็กินข้าวมื้อค่ำตลอด ตอนที่อยู่กับเขาและเพื่อนเขา เราก็จะไม่จับโทรศัพท์เลยเช่นกัน เพราะรู้สึกว่าเสียมารยาท เคยครั้งนึง หยิบขึ้นมาเล่นตอนอยู่กับZ แค่5นาทีได้ เขาก็บ่น ทำใมไม่คุยกับผม คุณจะอยู่กับผมได้อีกแค่ไม่กี่ ชม ทำใมไปให้ความสนใจกับอย่างอื่น ชะนีก็เก็บสิคะ รอไร
เลยทำให้เราคิดว่า เออ มันเป็นธรรมชาติของพวกเขา ไม่เหมือนคนไทยที่ติดโทรศัพท์ตลอดเวลา
เพราะเคยมีแฟนเป็นฝรั่ง แล้วพวกเขาก็เป็นแบบนี้กัน เลยรู้สึกเฉยๆกับตรงนี้ (ไม่รู้โลกสวยไปรึเปล่า)

จนมาเจอกันอีกทีที่กทม พวกเขานัดเจอกันกับเพื่อนแถวถนนข้าวสาร บาร์แห่งหนึ่ง เราเดินไปเข้าห้องน้ำ เขาก็เดินตามไปส่ง แบบหันหลังมาตกใจ เอ่า เดินตามมาส่งด้วยเหรอเนี่ย แล้วเขาก็ส่งตาปิ๊งให้ บอกไปไหนอะ ผมไปส่งหมดแหระ มันมืดมีแต่คนเมาๆ ยืนรอ จูงมือเดินออกมาด้วยกันอีก....
แต่เขาไม่เคยพูดคำว่า ชอบ กับเราแม้สักครั้งเดียว จะบอกแต่ว่าเราน่ารัก ขำความโก๊ะ ความสำเนียงพูดไม่ชัดแล้วน่ารัก เหมือนเวลาเราฟังฝรั่งพูดไทยอะค่ะ
สรุปคืนสุดท้ายจ่าาาาา เขา Make clear กับเราเลย คืนนั้นแบบเจ็บสุดๆ เขาบอกว่า เขาไม่ชอบกรุงเทพ ขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้ กทม วุ่นวายมาก รถเยอะ รถติด แทคซี่โกงตลอด เขาไม่ชอบประเทศไทยนัก มันล้าหลังกว่าบ้านเขาหลายปี เรื่องขยะ คนที่นี่ไม่มีจิตสำนึกแยกขยะ ทิ้งขยะ ทิ้งขวดพลาสติกนั้นนี่ ตอนนั้นแบบ อืม.... ลืมรึเปล่า ว่าตูคนไทย คนอื่นไม่มีจิตสำนึกเรื่องขยะแต่ตูมี ที่บ้านตูเองตูแยกขวด แยกกระป๋องตลอด ตูก็บอกนะ แล้วคือตูต้องรู้สึกยังไง ตอนนั้นก็ฟังอย่างเดียว จากนั้นค่าาาา
เขาบอก ผมไม่พร้อมจะคบกับใครตอนนี้ เขาเคยมีแฟน คบได้ปีเดียวก็เลิก ถูกระเวงไปหมดว่าจะมี ผญ คนอื่นตลอดเวลา เขารู้สึกว่าเขาถูกขัง ตั้งแต่เลิกมาเขาก็ไม่พร้อมจะมีคนอื่นอีกเลย เล่าเรื่องแฟนเก่าให้ฟัง บลาๆๆ แต่ในใจรู้เลยว่า อืม คือเมิงบอกตูทางอ้อมนั้นแหระ เขาบอกเรื่องนี้ผมไม่เคยบอกใครเลยนะ
แม้แต่ A กับ B ผมยังไม่เคยเล่าให้เขาฟังเลย คุณคนแรก พอเลิกกัน ผมก็บอกแต่ว่า เราเข้ากันไม่ได้
ผมอยากอยู่กับตัวเอง ผมมีหลายสิ่งที่ต้องทำ งานต้องทำ ทำงานตลอดเวลา 8เดือนไม่ได้หยุด จ-อา (เขาเปิดร้านไอติมออแกนิคด้วยกันทั้ง3คน)
เพิ่งย้ายแฟลทใหม่ก็ต้อง จัดการซ่อมแซมต่อเติมใหม่เอง นั้นโน้นนี่ โอ้ยย เยอะจ่ะ
สรุปคือไม่พร้อมคบใครตอนนี้ กลับบ้านแล้ว กลับแล้วก็กลับเลย ไม่มีการแบบ เดี๋ยวปีหน้าผมมาใหม่ไม่มี
ถามเราว่า คุณโอเคไหม แล้วคือ ตูต้องตอบว่าไง ตอนนั้นก็ต้องตอบไปอะค่ะ ว่าโอเค เราไม่ยื้อ ไม่ลั้งอะไรทั้งสิ้น ไม่ถามว่าอ่าว แล้วที่ผ่านมาอะ
ที่คุยกับเพื่อนให้เพื่อนอยู่ต่ออีก2วัน จนวันที่เรากลับ ค่อยย้ายไปเกาะอื่น คือไร ที่เปิดโทรศัพท์ให้ดู ที่ให้คุยกับพี่ชาย คืออะไรวะ
คือคำถามในหัวเต็มไปหมด แต่เราไม่ถามอะไรทั้งสิ้น เราคิดว่า นี่มันคือคำตอบแล้ว
จนเขาถามย้ำๆๆๆ แบบอ้อนๆเหมือนเดิม แล้วเราเลยบอกว่า โอเค งั้น ถ้าเราบอกว่าไม่โอเค คุณจะทำยังไง
เขาก็มองหน้าเราแบบอ้อนๆ แล้วก็เอาหมอนปิดหน้า
สักพักพูดนิ้มๆ เบาๆ ว่า ผมไม่ได้บังคับให้คุณมานะ พูดด้วยสีหน้าอ้อนๆอีก เราแบบ สะตั้นจ่าาาา ณ ตอนนี้ความอ้อนเมิง ไม่ได้ช่วยอะไรแล้วอะ Z
ตอนนั้นคิดในใจว่า นี่ตูมากทมทำใมวะ
หลังจากคืนนั้นคือสุดท้ายที่เขาอยู่ เขามีบินกลับบ้านเกือบเที่ยงคืนของวันถัดไป วันสุดท้ายก็เลยได้ใช้เวลาด้วยกันทั้งวันในวันสุดท้าย
ความรู้สึกเหมือนเขาเริ่มออกลายแล้วจ่าาาา เพราะ A กับ B ไปด้วยกัน2ต่อ2 เราเลยต้องยุกับเขา2คนในวันสุดท้าย แล้วเขาพูดแต่เรื่องลบๆ เกี่ยวกับ กทม แต่เอาจริงๆ กทมมันก็วุ่นวายจริงๆ แต่มันก็ไม่ควรจะพูดปะวะ มันประเทศตู เมิงเก็บไว้ก็ได้ เราแบบเห้ย Z คนเดิมหายไปไหน
คนที่น่ารัก เทคแคร์ ขี้อ้อนเบอแรง เริ่มบ่นเยอะมาก เราแบบ คือเสียใจก้เสียใจนะคะ แต่ก็คงต้องทำใจยอมรับ ก็คิดไปว่า เมิงก็ Holiday boyfriend เหมือนกัน ทั้งที่ใจลึกๆแล้ว เจ็บมากค่ะ แต่เราเลือกที่จะไม่วิ่งตามดีกว่า เพราะคิดเสมอว่า ความรัก มันไม่ต้องพยายาม
สุดท้ายไปดินเนอร์มื้อสุดท้ายกันทั้งหมดก่อนกลับ คืออาหารน่ากินมาก เขาก็บอกว่า Guys we have to wait, I need to take picture
ทุกคนก็ไม่มีใครกินก็รอกันหมด แต่เขาหันมาบอกเราว่า คุณกินเถอะ เราก็ไม่กินค่ะ เราก็รอ
พอได้อาหารครบ เขาก็ถ่ายรูปรวม ซึ่งมีความรู้สึกว่ากล้องมันไม่หันมาทางจานเราเลย เสร็จเขาถ่ายแยกจาน ถ่ายทุกจาน ยกเว้นจานเรา คือ.........ไรวะ
หลังจากนั้น ก็กลับ เราก็ขับรถกลับบ้าน เขาก็ว่า ขับดีๆ ขับช้าๆ ถึงแล้วทักมาบอกด้วย เดี๋ยวตอนผมเปลี่ยนเครื่อง เดี๋ยวผมหาวายฟายทักหา แล้วเขาก็กอดเรา ยิ้มอ้อนๆให้อีกตามเคย แล้วก้จุฟเราทีนึง แต่ใจเราอะ เจ็บไปแล้วค่ะ ดีใจที่กอด ที่จุฟ แต่ก็รู้อยู่แล้วว่าบทสรุป คือไม่มีสถานะ หรือสนานะเจ็บสุดๆที่เรียกว่า holiday girlfriend ที่ได้มาแบบไม่รู้ตัว
มันทำให้รู้เลยว่า ความอ้อน ความแมน ความเปิดตัว ความเปิดใจ เปิดโทรศัพท์แสดงความบริสุทธ์ใจ นั้นนี่ที่เขามีให้ มันเพียงเพื่อต้องการให้เราตายใจเท่านั้นเลย  สุดท้าย ตอนเปลี่ยนเครื่องเขาก็ไม่ได้พยายามหาวายฟายเพื่อทักหาเรา ทักมาอีกทีหลังถึงบ้านแล้ว2 ชม ว่าถึงแล้ว แล้วถามเรากลับว่าขับกลับบ้านโอเคใช่ไหม เราก็ตอบว่า ใช่ ทุกอย่างโอเค จบ จากนั้น ไม่มีการทักอะไร ใดๆ มาอีกเลย จนวันนี้

เราก็ไม่ทักไปค่ะ ไม่ใช่ไม่อยากทัก แต่ไม่อยากให้ดูโง่ ถ้าเขาจะคิดกับเราแบบนั้น ก้อยากแสดงออกให้เขามองว่า เราก็คิดกับเขาแบบนั้นเหมือนกัน
เพราะถ้า ผช เขาไม่พยายาม เราก้ไม่ควรพยายามอะไรต่อ ฉะนั้น ต้องบังคับที่ตัวเอง ยอมรับความเป้นจริง แล้วเดินหน้าต่อ
ฝากไว้ถึงใครหลายๆคนที่เจอสถานะการคล้ายๆกันแล้วกำลังเจ็บ ผิดหวังอยู่ตอนนี้ ทุกอย่างที่มันเกิดขึ้น มันมีเหตุผลของมัน
ถ้ามันจะเกิดมันก็ต้องเกิด ทำได้เพียงแค่ยอมรับมัน แล้วใช้ชีวิตต่อ การไปเที่ยวในครั้งนี้ เราไปได้2ช่วง คือต้นเดือนกับปลายเดือน เราเลือกไม่ถูก
เลยใช้การเขียนใส่กระดาษ แล้วสุ่มหยิบเลือก ฉะนั้น ก็พยายามเตือนสติตัวเอง ว่ามันถูกกำหนดมาแล้ว ว่าต้องเป็นแบบนี้ ว่าเราต้องได้เจอเขา
มันทำอะไรไม่ได้ นั้นคือเข้ามาเพื่อสั่งสอน สิ่งที่ทำได้คือ ใช้ชีวิตต่อ ต่อให้ผิดหวังมาแล้วกี่ครั้ง เราก็ต้องใช้ชีวิตต่อ อย่ารอ หรือจมอยู่กับมัน
สักวันเราจะเจอคนนั้น เมื่อถึงเวลา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่