สวัสดีค่ะ เราเป็นนักเรียนม.6 ที่ใกล้จะเรียนจบแล้ว จริงๆ เราไม่ต้องกังวลเรื่องนี้แล้วก็ได้ แต่มันเป็นเรื่องที่คาใจมานานพอตัว และทำให้เรารู้สึกแย่ทุกครั้งที่นึกถึงมัน
เริ่มมาตั้งแต่ม.ต้น ที่เราย้ายโรงเรียน ตอนแรกที่เข้ามา เราอยู่กับเพื่อนคนนึง ซึ่งต่อมาเรากับเขาก็ห่างกันไป จนมาเจอกับเพื่อน 2 คน สมมติให้ชื่อว่า เชอรี่ กับ บาส เราสังเกตได้ว่า เพื่อนในห้องไม่ชอบสองคนนี้มากๆ ด้วยนิสัยและการกระทำบางอย่างดูเกินไป ถือคติว่าตัวฉันเป็นอย่างนี้ แล้วจะทำไม ออกแนวขวางโลกอ่ะค่ะ บางทีเราก็โดนร่างแหกับเขาไปด้วย เพื่อนบางคนไม่ยุ่งกับเราเลยเพราะเราคบเพื่อนกลุ่มนี้ ซึ่งเราก็ผ่านมาได้เพราะลอยตัวเหนือดราม่า ไม่รับรู้ใดๆ
จนกระทั่งขึ้นม.ปลาย เราอยู่คนละห้องกับเพื่อนสองคนนั้น 1 ปี เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกได้ถึงการปลดปล่อยตัวเองออกจากบางอย่างที่มันหนักมาตลอด และมุมมองที่มีต่อเพื่อนก็เปลี่ยนไป หลังจากใช้โควต้า 1 ปีนั้นหมด เราก็ได้มาอยู่ห้องเดียวกับสองคนนี้อีกครั้ง
จุดเปลี่ยนมันมีอยู่ว่า เราสังเกตได้ว่า เชอรี่ยอมบาสทุกเรื่อง แต่ไม่ค่อยยอมเราที่เป็นเพื่อนสนิท ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ค้างบ้านเราและรู้จักกับครอบครัวเราอย่างดี เวลาเกิดอะไรขึ้น แน่นอน เชอรี่เข้าข้างบาสตลอด
ต้องเล่าก่อนว่า เพื่อนกลุ่มนี้รู้จักเราดีเพราะคบกันมาตั้งแต่ม.ต้น เวลาที่มีปัญหาเพื่อนก็ช่วยแก้ตลอด อีกอย่างคือเราทำอะไรไม่ค่อยเป็น ทักษะชีวิตไม่ค่อยมี ทำให้เพื่อนชอบพูดประมาณว่า ถ้าไม่มีพวกเขา เราก็ทำอะไรไม่ได้หรอก แบบไปไหนไม่รอด เหมือนทั้งโลกมีแค่เขาที่รับเราได้ ซึ่งเราก็คิดแบบนี้มาตลอด
เรามีเพื่อนคนนึงที่สนิทกันในระดับนึง แล้วอยู่กลุ่มกับเพื่อนเราในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่เพื่อนจะออกมาเพราะทนนิสัยเพื่อนเราไม่ไหว ส่วนตัวเราชินกับนิสัยของพวกเขาไปแล้ว ถามว่ามีอะไรที่ทนไม่ได้ไหม แน่นอนว่ามันมี บอกไปแล้วเขาก็เถียงกลับว่าเป็นเพราะตัวเราเขาเลยเป็นแบบนี้ (ทุกอย่างเราผิด) แต่บางอย่างที่เขาผิด เขาก็มาขอโทษเราตรงๆ อันนี้เราก็อภัยไป แต่เพื่อนเราคนนี้มองว่ามันไม่ใช่ และบอกให้เราเดินออกมาซะ แน่นอนว่าเราไม่ทำอย่างนั้น เพราะด้วยคำว่าเพื่อน
ผ่านมาจนเหลือ 3 เดือนก่อนจะเรียนจบม.6 เราตัดสินใจเดินออกมา เพราะบาสประชดเราเรื่องฐานะทางบ้านที่สบายกับเชอรี่ที่ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองมาตลอดในห้องเรียน ก่อนหน้านั้นเราคิดทบทวนทุกอย่างและพบว่าแบบนี้มันไม่แฟร์เลย เขารู้ทุกอย่างที่อยู่นอกกลุ่ม แต่เราไม่รู้อะไรเลย และเขาก็พูดให้เราเชื่อว่าทุกอย่างเป็นอย่างที่เขาพูด เราไม่มีโอกาสได้พิสูจน์ว่ามันจริงหรือเปล่า คิดอย่างนั้นเราก็เดินออกมาเลย ก่อนจะไปเคลียร์กับเพื่อนว่าทำไมถึงเดินออกมา
คำนึงที่บาสพูดคือ '
เพื่อนในห้องไม่มีใครชอบแกหรอก เขาเอือมแกกันทั้งนั้น ' และเชอรี่ก็บอกว่าเรื่องนี้มันจริง เรายอมรับว่าเราอาจจะทำอะไรที่ทำให้เพื่อนรู้สึกไม่โอเค ทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว แน่นอนว่าเราทำทุกอย่างให้ทุกคนถูกใจไม่ได้ เหมือนเราไปอยู่ที่ไหน เขาก็พร้อมจะผลักไสไล่สงออกมา อาจจะไม่ไล่กันตรงๆ แต่จะบีบให้เราอยู่ไม่ไหวไรงี้ ตอนนั้นคือแอบหน้าชา พอคุยจบแล้วเดินออกมาเลย
เราอยู่ในกลุ่มใหม่ที่มีทั้งเพื่อนที่สนิทและไม่สนิทปนๆ กัน หนึ่งในนั้นคือคนที่เราชอบ ที่เคยมีปัญหาบางอย่างจนไม่คุยกันไประยะนึง แต่เราก็ยังชอบเขาอยู่นะ บาสกับคนที่เราชอบก็คุยกันอยู่ตลอดเลยรู้เรื่องของเราไปด้วย บาสบอกเราว่าไม่ต้องไปอะไรมากกับคนนั้นนะ (สมมติว่าชื่อฟาง) เราก็ทำตาม นัยนึงก็คือไม่อยากให้เขาอึดอัด ก่อนที่บาสจะมาบอกว่าฟางไม่โอเคกับเรานะ เพราะเขาเข้าใจว่าเราไม่ชอบเพื่อนสนิทเขาที่ชื่อเมย์ ซึ่งมันก็จริงส่วนนึง แต่เขาเอามาบอกกันตอนที่เราเฉยๆ กับเมย์ไปแล้ว กลายเป็นว่าเราเป็นตัวร้ายทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร เพื่อนที่เราสนิทด้วยละอยากให้เราออกมาจากกลุ่มนั้นก็อยู่ด้วยกัน นางบอกว่าเพื่อนน่ะปั่นให้สองคนนี้ไม่ชอบเรา ละก็มาปั่นเราต่อ เพราะรู้ว่าความสัมพันธ์มันระหองระแหงกันอยู่แล้ว
จนมาถึงเรื่องล่าสุด ที่อยู่ๆ ฟางก็หลบหน้าไม่ยอมคุยกับเรา เรารู้สึกได้ว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ เพราะปกติถึงจะไม่คุยกันแต่ก็ไม่เคยหลบหน้ากัน เราเลยทักไปถามฟางตรงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ฟางบอกว่าทุกครั้งที่ฟางคุยกับเรา บาสก็จะมาถามฟางว่าฟางคุยอะไรกับเราไปบ้าง แล้วก็จะมานินทาเราแบบเสียๆ หายๆ ให้ฟัง ฟางเลยตัดปัญหาโดยการไม่คุยกับเรา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เราเลยบอกฟางไปว่าไม่ต้องแคร์คำพูดของบาสมากหรอก เพราะเราไม่แคร์เขาแล้ว อย่าให้เรื่องนี้มาทำให้เราไม่ได้คุยกัน ซึ่งฟางก็ไม่ได้ว่าอะไร
ปล.เราเล่าให้ฟางฟังหมดแล้วว่าความจริงเป็นยังไง สุดแต่ว่าเขาจะเชื่อเราไหม
ช่วงนี้ก็เป็นโค้งสุดท้ายของชีวิตมัธยมแล้ว ดูเหมือนความสัมพันธ์เรากับฟางจะดีขึ้นนิดนึง แค่กราฟมันขึ้นก็ดีใจละเอาจริง เห้อ ขอให้ราบรื่นจนเรียนจบนะ อาทิตย์หน้าก็สอบไฟนอลแล้ว 5555555555
อยากถามว่า ถ้าเจอคนที่ชอบปั่นหัวให้คนไม่ชอบกันควรจะรับมือยังไงดี ขอแบบแซ่บๆ ไปเลยค่ะ 😉
รู้สึกว่าเพื่อนในกลุ่มปั่นหัวให้ไม่ชอบเพื่อนคนอื่น ทำยังไงดี?
เริ่มมาตั้งแต่ม.ต้น ที่เราย้ายโรงเรียน ตอนแรกที่เข้ามา เราอยู่กับเพื่อนคนนึง ซึ่งต่อมาเรากับเขาก็ห่างกันไป จนมาเจอกับเพื่อน 2 คน สมมติให้ชื่อว่า เชอรี่ กับ บาส เราสังเกตได้ว่า เพื่อนในห้องไม่ชอบสองคนนี้มากๆ ด้วยนิสัยและการกระทำบางอย่างดูเกินไป ถือคติว่าตัวฉันเป็นอย่างนี้ แล้วจะทำไม ออกแนวขวางโลกอ่ะค่ะ บางทีเราก็โดนร่างแหกับเขาไปด้วย เพื่อนบางคนไม่ยุ่งกับเราเลยเพราะเราคบเพื่อนกลุ่มนี้ ซึ่งเราก็ผ่านมาได้เพราะลอยตัวเหนือดราม่า ไม่รับรู้ใดๆ
จนกระทั่งขึ้นม.ปลาย เราอยู่คนละห้องกับเพื่อนสองคนนั้น 1 ปี เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกได้ถึงการปลดปล่อยตัวเองออกจากบางอย่างที่มันหนักมาตลอด และมุมมองที่มีต่อเพื่อนก็เปลี่ยนไป หลังจากใช้โควต้า 1 ปีนั้นหมด เราก็ได้มาอยู่ห้องเดียวกับสองคนนี้อีกครั้ง
จุดเปลี่ยนมันมีอยู่ว่า เราสังเกตได้ว่า เชอรี่ยอมบาสทุกเรื่อง แต่ไม่ค่อยยอมเราที่เป็นเพื่อนสนิท ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ค้างบ้านเราและรู้จักกับครอบครัวเราอย่างดี เวลาเกิดอะไรขึ้น แน่นอน เชอรี่เข้าข้างบาสตลอด
ต้องเล่าก่อนว่า เพื่อนกลุ่มนี้รู้จักเราดีเพราะคบกันมาตั้งแต่ม.ต้น เวลาที่มีปัญหาเพื่อนก็ช่วยแก้ตลอด อีกอย่างคือเราทำอะไรไม่ค่อยเป็น ทักษะชีวิตไม่ค่อยมี ทำให้เพื่อนชอบพูดประมาณว่า ถ้าไม่มีพวกเขา เราก็ทำอะไรไม่ได้หรอก แบบไปไหนไม่รอด เหมือนทั้งโลกมีแค่เขาที่รับเราได้ ซึ่งเราก็คิดแบบนี้มาตลอด
เรามีเพื่อนคนนึงที่สนิทกันในระดับนึง แล้วอยู่กลุ่มกับเพื่อนเราในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่เพื่อนจะออกมาเพราะทนนิสัยเพื่อนเราไม่ไหว ส่วนตัวเราชินกับนิสัยของพวกเขาไปแล้ว ถามว่ามีอะไรที่ทนไม่ได้ไหม แน่นอนว่ามันมี บอกไปแล้วเขาก็เถียงกลับว่าเป็นเพราะตัวเราเขาเลยเป็นแบบนี้ (ทุกอย่างเราผิด) แต่บางอย่างที่เขาผิด เขาก็มาขอโทษเราตรงๆ อันนี้เราก็อภัยไป แต่เพื่อนเราคนนี้มองว่ามันไม่ใช่ และบอกให้เราเดินออกมาซะ แน่นอนว่าเราไม่ทำอย่างนั้น เพราะด้วยคำว่าเพื่อน
ผ่านมาจนเหลือ 3 เดือนก่อนจะเรียนจบม.6 เราตัดสินใจเดินออกมา เพราะบาสประชดเราเรื่องฐานะทางบ้านที่สบายกับเชอรี่ที่ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองมาตลอดในห้องเรียน ก่อนหน้านั้นเราคิดทบทวนทุกอย่างและพบว่าแบบนี้มันไม่แฟร์เลย เขารู้ทุกอย่างที่อยู่นอกกลุ่ม แต่เราไม่รู้อะไรเลย และเขาก็พูดให้เราเชื่อว่าทุกอย่างเป็นอย่างที่เขาพูด เราไม่มีโอกาสได้พิสูจน์ว่ามันจริงหรือเปล่า คิดอย่างนั้นเราก็เดินออกมาเลย ก่อนจะไปเคลียร์กับเพื่อนว่าทำไมถึงเดินออกมา
คำนึงที่บาสพูดคือ ' เพื่อนในห้องไม่มีใครชอบแกหรอก เขาเอือมแกกันทั้งนั้น ' และเชอรี่ก็บอกว่าเรื่องนี้มันจริง เรายอมรับว่าเราอาจจะทำอะไรที่ทำให้เพื่อนรู้สึกไม่โอเค ทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว แน่นอนว่าเราทำทุกอย่างให้ทุกคนถูกใจไม่ได้ เหมือนเราไปอยู่ที่ไหน เขาก็พร้อมจะผลักไสไล่สงออกมา อาจจะไม่ไล่กันตรงๆ แต่จะบีบให้เราอยู่ไม่ไหวไรงี้ ตอนนั้นคือแอบหน้าชา พอคุยจบแล้วเดินออกมาเลย
เราอยู่ในกลุ่มใหม่ที่มีทั้งเพื่อนที่สนิทและไม่สนิทปนๆ กัน หนึ่งในนั้นคือคนที่เราชอบ ที่เคยมีปัญหาบางอย่างจนไม่คุยกันไประยะนึง แต่เราก็ยังชอบเขาอยู่นะ บาสกับคนที่เราชอบก็คุยกันอยู่ตลอดเลยรู้เรื่องของเราไปด้วย บาสบอกเราว่าไม่ต้องไปอะไรมากกับคนนั้นนะ (สมมติว่าชื่อฟาง) เราก็ทำตาม นัยนึงก็คือไม่อยากให้เขาอึดอัด ก่อนที่บาสจะมาบอกว่าฟางไม่โอเคกับเรานะ เพราะเขาเข้าใจว่าเราไม่ชอบเพื่อนสนิทเขาที่ชื่อเมย์ ซึ่งมันก็จริงส่วนนึง แต่เขาเอามาบอกกันตอนที่เราเฉยๆ กับเมย์ไปแล้ว กลายเป็นว่าเราเป็นตัวร้ายทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร เพื่อนที่เราสนิทด้วยละอยากให้เราออกมาจากกลุ่มนั้นก็อยู่ด้วยกัน นางบอกว่าเพื่อนน่ะปั่นให้สองคนนี้ไม่ชอบเรา ละก็มาปั่นเราต่อ เพราะรู้ว่าความสัมพันธ์มันระหองระแหงกันอยู่แล้ว
จนมาถึงเรื่องล่าสุด ที่อยู่ๆ ฟางก็หลบหน้าไม่ยอมคุยกับเรา เรารู้สึกได้ว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ เพราะปกติถึงจะไม่คุยกันแต่ก็ไม่เคยหลบหน้ากัน เราเลยทักไปถามฟางตรงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ฟางบอกว่าทุกครั้งที่ฟางคุยกับเรา บาสก็จะมาถามฟางว่าฟางคุยอะไรกับเราไปบ้าง แล้วก็จะมานินทาเราแบบเสียๆ หายๆ ให้ฟัง ฟางเลยตัดปัญหาโดยการไม่คุยกับเรา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เราเลยบอกฟางไปว่าไม่ต้องแคร์คำพูดของบาสมากหรอก เพราะเราไม่แคร์เขาแล้ว อย่าให้เรื่องนี้มาทำให้เราไม่ได้คุยกัน ซึ่งฟางก็ไม่ได้ว่าอะไร
ปล.เราเล่าให้ฟางฟังหมดแล้วว่าความจริงเป็นยังไง สุดแต่ว่าเขาจะเชื่อเราไหม
ช่วงนี้ก็เป็นโค้งสุดท้ายของชีวิตมัธยมแล้ว ดูเหมือนความสัมพันธ์เรากับฟางจะดีขึ้นนิดนึง แค่กราฟมันขึ้นก็ดีใจละเอาจริง เห้อ ขอให้ราบรื่นจนเรียนจบนะ อาทิตย์หน้าก็สอบไฟนอลแล้ว 5555555555
อยากถามว่า ถ้าเจอคนที่ชอบปั่นหัวให้คนไม่ชอบกันควรจะรับมือยังไงดี ขอแบบแซ่บๆ ไปเลยค่ะ 😉