ระหว่างรอสัญญาณประมูลสัมปทานดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิจาก ทอท. (ซึ่งตอนแรกคิดไว้ว่าน่าจะเป็นช่วง ม.ค.61) ว่าจะเปิดประมูลได้เมื่อไหร่ ภายใต้เงื่อนไขเป็นอย่างไรนั้น ระหว่างที่เรากำลังรอเลยขอโอกาสนี้รวบรวมข้อมูล และเก็งตัวผู้ที่จะเข้าร่วมศึกประมูลสัมปทานดิวตี้ฟรีสุวรณภูมิในครั้งนี้มาให้อ่านแก้เหงากัน เพราะงานนี้นะ แต่ละเจ้า ทั้งหน้าเก่าและใหม่ ก็ลงทุนลงแรงทั้งไทยและต่างประเทศกันอย่างเต็มที่ เลยแหละจ้า
คิงเพาเวอร์ ประสบการณ์ยาวนานในฐานะแชมป์เก่า จากรุ่นสู่รุ่น
ลำดับแรกก็คงหนีไม่พ้นเจ้าประจำอย่างคิงเพาเวอร์ ที่ดูเหมือนว่าจะครอบครองพื้นที่ดิวตี้ฟรีมานานตามอายุสัมปทาน จนทำให้ผู้คนรู้สึกว่าผูกขาดสัมปทานโดยอาจจะลืมไปแล้วว่าวิธีการได้สัมปทานมาก็มาจากการประมูลหลายๆ เจ้า เหมือนที่กำลังจะเกิดขึ้นในครั้งนี้นะแหละ
ถึงแม้เมื่อปีที่แล้วคิงเพาเวอร์จะมีเรื่องที่ต้องให้โศกเศร้าขาดหัวเรือใหญ่อย่างเจ้าสัววิชัยไป แต่คราวนี้เราก็ต้องจับมามองกันต่อไปว่าคิงเพาเวอร์ในยุคที่คุณอัยยวัฒน์มาคุมบังเหียนเอง กับงานใหญ่อย่างสุวรรณภูมิเขาจะพาคิงเพาเวอร์ลุยไปได้ถึงไหนก็ต้องคอยจับตาดูกันต่อไป
ยักษ์ใหญ่จากเกาหลี ล็อตเต้ ดิวตี้ฟรี กับการเชื่อมต่ออย่างมีนัยสำคัญกับความเคลื่อนไหวของสมาคมร้านค้าปลอดอากร
ส่วนลำดับที่สอง เรียกได้ว่าเป็นดิวตี้ฟรีสัญชาติเกาหลีที่คนไทยคุ้นเคยนามของล็อตเต้ ก็พยายามที่จะมาบุกตลาดในแถบเอเชียให้มากขึ้น โดยในประเทศไทยก็ได้เข้ามาเปิด Downtown ที่ Show DC และเมื่อไม่นานมานี้ก็เพิ่งจะมีการเปลี่ยนตัวผู้บริหารไป อาจเป็นเพราะผลงานไม่เป็นที่น่าชื่นชมเพราะชาวเน็ตทั้งหลายบ่นว่าทำเลไม่ดีเข้าถึงยาก
ตรงนี้แหละที่มันดูจะเป็นทิศทางเดียวกับนายกสมาคมร้านค้าปลอดอากร ภายใต้การนำของคุณรวิฐา พงศ์นุชิต และกลุ่มการเมือง ที่พยายามจะเปิดจุดรับมอบสินค้าในดิวตี้ฟรีให้ได้ และเหมือนว่าการเคลื่อนไหวในประเด็นนี้ช่างมีความถี่ซ้ำๆ จนเกิดกระแสหนาหูว่าเป็นการทำเพื่อผลประโยชน์ทับซ้อน ในส่วนนี้คงไม่อาจจะไปกล่าวหาใครได้ แต่มันช่างดูเหมาะเจาะลงตัวกันพอดีซะเหลือเกิน
เซ็นทรัล กับบทบาท ในสมาคมค้าปลีก ที่ส่งวรวุฒิ นั่งเป็นนายกอยู่ในสมาคม คอยทำตามที่เซ็นทรัลสั่ง ไม่สนหลักการ
ลำดับที่สาม กลุ่มเซ็นทรัล ที่เก่งกาจเรื่องของการค้าปลีกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนคราวนี้จะเอาจริงเอาจังกับธุรกิจดิวตี้ฟรี เริ่มจากเห็นป้าย VAT Refund ตั้งอยู่ที่เซนทรัลเวิร์ล แต่ก่อนที่จะมีป้ายนี้เกิดขึ้นที่เซนทรัลเวิร์ด กรมสรรพากรประกาศรายชื่อเคาน์เตอร์เซอร์วิสในเครือของซีพี ออลล์ เป็นผู้ที่ได้รับการอนุมัติเป็นตัวแทนคืนภาษีมูลค่าเพิ่มในเมือง (Downtown VAT Refund for Tourist) ในขณะนั้นดูเหมือนว่าซีพีจะเป็นเพียงเจ้าเดียวที่ได้ แต่ไม่รู้ด้วยเหตุอันใดเมื่อประมาณปลายปีที่แล้วเซ็นทรัลเวิร์ดก็มีบริการ VAT Refund ให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจนได้
และอีกเรื่องที่ดูเหมือนมีนัยยะสำคัญ กับการเคลื่อนไหวของสมาคมค้าปลีก ที่นำโดยนายวรวุฒิ อุ่นใจ ผู้ก่อตั้งออฟฟิศเมท และเป็นนายกสมาคมค้าปลีกคนล่าสุด ที่ปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งเป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มเซ็นทรัล ที่มากุมบังเหียนในประเด็นของรูปแบบประมูลสัมปทานครั้งใหม่ ที่ประกาศผ่านสื่ออย่างหนาแน่นถึงความต้องการที่จะได้สัปปทานดิวตี้ฟรีแบบสุดๆ
และล่าสุดสดๆ ร้อนๆ กับการซื้อ Grab Taxi เพื่อใช้ต่อยอดธุรกิจค้าปลีก และร้านอาหารในเครือของตน ที่ทำให้คนขับแท็กซี่รายย่อยหนาวๆ ร้อนๆ ไปตามๆ กัน นับเป็นกลุ่มทุนที่มีสายป่านยาว และมีพลังแฝงซ่อนเร้นอยู่หลังม่านตลอดเวลา
กลุ่มทุนต่างชาติ ที่รอแพ็คกับกลุ่มทุนในเพื่อแบ่งประโยชน์กันอย่างลงตัว
ลำดับที่สี่ ดีเอฟเอส เป็นกลุ่มทุนจากสิงคโปร์ ซึ่งตอนนี้บริหารสนามบินชางงี ก็มีแนวโน้มที่จะกระโดดเข้ามาร่วมศึกสัมปทานดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิด้วยเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าแนวทางการดำเนินงานของเขาจะเป็นการร่วมทุนระหว่างดีเอฟเอส (DFS) กับเซ็นทรัลนะ ส่วนตัวแล้วก็ไม่แน่ว่าพอมีการเปิดประมูลซื้อซองกันจริงๆ จะเป็นแบบการร่วมทุนหรือจะฉายเดี่ยวก็ไม่แน่ใจ
กลุ่มทุนไทยที่ยังคงเดินหน้าเพื่อหาทางต่อยอดธุรกิจ
ลำดับที่ห้า กลุ่มเดอะมอลล์ ผู้ที่คว้าสัมปทานพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่สนามบินดอนเมือง และอายุสัมปทานก็กำลังจะหมดอายุลงในปี 63 ก็นับเป็นอีกตัวเก็งที่ค่อนน่าจับตามองอีกหนึ่งหน่วย เนื่องจากชัยชนะที่เคยได้สัมปทานในพื้นที่ดอนเมืองมาแล้วทำให้เขามีประสบการณ์ และแน่นอนเขาต้องลงชิงพื้นที่สัมปทานดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิอย่างแน่นอน
ลำดับที่หก บางกอกแอร์เวย์
ภายใต้การดำเนินการของคุณหมอประเสริฐ ปราสาทโอสถทอง จากเดิมที่มีธุรกิจโรงพยาบาล สายการบิน และสื่อไว้ในมือครานี้ก็คงเล็งเห็นโอกาสที่จะเข้ามาทำธุรกิจดิวตี้ฟรีกับเขาบ้างเช่นกัน จากการประมูลสัมปทานสนามบินอู่ตะเภาที่ผ่านมา ก็มีชื่อที่ไม่ค่อยจะคุ้นหูอย่างมอร์แดนฟรี (ที่ได้เปิดให้บริการอยู่ที่สนามบินสมุย อู่ตะเภา สุราษฎร์ และหลวงพระบาง) เข้าร่วมประมูลด้วย แล้วเมื่อไม่นานมานี้หุ้นของมอร์แดนฟรีได้ถูกเข้าถือครองโดยกลุ่มของหมอประเสริฐแล้วแน่แท้ถึง 100% ไม่ได้มาเล่นๆ แน่นอน
ทั้งหมดคือ 6 ตัวเก็งที่ได้เราได้ทำการหาข้อมูลและรวบรวมไว้เท่าที่จะหาได้ เพราะตั้งแต่ที่เริ่มคิดจะซื้อหุ้น AOT ก็เริ่มศึกษาเรื่องให้ลึกขึ้นแล้วพบว่าแต่ละคนจัดหนักจัดเต็ม เดินเกมส์ทุกหนทางเพื่อที่จะให้ตนเองได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของสุวรรณภูมิ โดยบางเจ้าก็รู้แหละว่าตัวเองถนัดอะไร และไม่ถนัดอะไร ก็ปรับกลยุทธ์เพื่อให้ตนเองมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น คราวนี้ก็เหลือแต่ AOT นั่นแหละ ว่าจะโบกธงเขียวได้เมื่อไหร่ รับรองงานนี้สนุกแน่นอน
ทำความรู้จักดิวตี้ฟรี 6 ตัวเก็งที่จะเข้าร่วมประมูลสัมปทานดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ
คิงเพาเวอร์ ประสบการณ์ยาวนานในฐานะแชมป์เก่า จากรุ่นสู่รุ่น
ลำดับแรกก็คงหนีไม่พ้นเจ้าประจำอย่างคิงเพาเวอร์ ที่ดูเหมือนว่าจะครอบครองพื้นที่ดิวตี้ฟรีมานานตามอายุสัมปทาน จนทำให้ผู้คนรู้สึกว่าผูกขาดสัมปทานโดยอาจจะลืมไปแล้วว่าวิธีการได้สัมปทานมาก็มาจากการประมูลหลายๆ เจ้า เหมือนที่กำลังจะเกิดขึ้นในครั้งนี้นะแหละ
ถึงแม้เมื่อปีที่แล้วคิงเพาเวอร์จะมีเรื่องที่ต้องให้โศกเศร้าขาดหัวเรือใหญ่อย่างเจ้าสัววิชัยไป แต่คราวนี้เราก็ต้องจับมามองกันต่อไปว่าคิงเพาเวอร์ในยุคที่คุณอัยยวัฒน์มาคุมบังเหียนเอง กับงานใหญ่อย่างสุวรรณภูมิเขาจะพาคิงเพาเวอร์ลุยไปได้ถึงไหนก็ต้องคอยจับตาดูกันต่อไป
ยักษ์ใหญ่จากเกาหลี ล็อตเต้ ดิวตี้ฟรี กับการเชื่อมต่ออย่างมีนัยสำคัญกับความเคลื่อนไหวของสมาคมร้านค้าปลอดอากร
ส่วนลำดับที่สอง เรียกได้ว่าเป็นดิวตี้ฟรีสัญชาติเกาหลีที่คนไทยคุ้นเคยนามของล็อตเต้ ก็พยายามที่จะมาบุกตลาดในแถบเอเชียให้มากขึ้น โดยในประเทศไทยก็ได้เข้ามาเปิด Downtown ที่ Show DC และเมื่อไม่นานมานี้ก็เพิ่งจะมีการเปลี่ยนตัวผู้บริหารไป อาจเป็นเพราะผลงานไม่เป็นที่น่าชื่นชมเพราะชาวเน็ตทั้งหลายบ่นว่าทำเลไม่ดีเข้าถึงยาก
ตรงนี้แหละที่มันดูจะเป็นทิศทางเดียวกับนายกสมาคมร้านค้าปลอดอากร ภายใต้การนำของคุณรวิฐา พงศ์นุชิต และกลุ่มการเมือง ที่พยายามจะเปิดจุดรับมอบสินค้าในดิวตี้ฟรีให้ได้ และเหมือนว่าการเคลื่อนไหวในประเด็นนี้ช่างมีความถี่ซ้ำๆ จนเกิดกระแสหนาหูว่าเป็นการทำเพื่อผลประโยชน์ทับซ้อน ในส่วนนี้คงไม่อาจจะไปกล่าวหาใครได้ แต่มันช่างดูเหมาะเจาะลงตัวกันพอดีซะเหลือเกิน
เซ็นทรัล กับบทบาท ในสมาคมค้าปลีก ที่ส่งวรวุฒิ นั่งเป็นนายกอยู่ในสมาคม คอยทำตามที่เซ็นทรัลสั่ง ไม่สนหลักการ
ลำดับที่สาม กลุ่มเซ็นทรัล ที่เก่งกาจเรื่องของการค้าปลีกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนคราวนี้จะเอาจริงเอาจังกับธุรกิจดิวตี้ฟรี เริ่มจากเห็นป้าย VAT Refund ตั้งอยู่ที่เซนทรัลเวิร์ล แต่ก่อนที่จะมีป้ายนี้เกิดขึ้นที่เซนทรัลเวิร์ด กรมสรรพากรประกาศรายชื่อเคาน์เตอร์เซอร์วิสในเครือของซีพี ออลล์ เป็นผู้ที่ได้รับการอนุมัติเป็นตัวแทนคืนภาษีมูลค่าเพิ่มในเมือง (Downtown VAT Refund for Tourist) ในขณะนั้นดูเหมือนว่าซีพีจะเป็นเพียงเจ้าเดียวที่ได้ แต่ไม่รู้ด้วยเหตุอันใดเมื่อประมาณปลายปีที่แล้วเซ็นทรัลเวิร์ดก็มีบริการ VAT Refund ให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจนได้
และอีกเรื่องที่ดูเหมือนมีนัยยะสำคัญ กับการเคลื่อนไหวของสมาคมค้าปลีก ที่นำโดยนายวรวุฒิ อุ่นใจ ผู้ก่อตั้งออฟฟิศเมท และเป็นนายกสมาคมค้าปลีกคนล่าสุด ที่ปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งเป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มเซ็นทรัล ที่มากุมบังเหียนในประเด็นของรูปแบบประมูลสัมปทานครั้งใหม่ ที่ประกาศผ่านสื่ออย่างหนาแน่นถึงความต้องการที่จะได้สัปปทานดิวตี้ฟรีแบบสุดๆ
และล่าสุดสดๆ ร้อนๆ กับการซื้อ Grab Taxi เพื่อใช้ต่อยอดธุรกิจค้าปลีก และร้านอาหารในเครือของตน ที่ทำให้คนขับแท็กซี่รายย่อยหนาวๆ ร้อนๆ ไปตามๆ กัน นับเป็นกลุ่มทุนที่มีสายป่านยาว และมีพลังแฝงซ่อนเร้นอยู่หลังม่านตลอดเวลา
กลุ่มทุนต่างชาติ ที่รอแพ็คกับกลุ่มทุนในเพื่อแบ่งประโยชน์กันอย่างลงตัว
ลำดับที่สี่ ดีเอฟเอส เป็นกลุ่มทุนจากสิงคโปร์ ซึ่งตอนนี้บริหารสนามบินชางงี ก็มีแนวโน้มที่จะกระโดดเข้ามาร่วมศึกสัมปทานดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิด้วยเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าแนวทางการดำเนินงานของเขาจะเป็นการร่วมทุนระหว่างดีเอฟเอส (DFS) กับเซ็นทรัลนะ ส่วนตัวแล้วก็ไม่แน่ว่าพอมีการเปิดประมูลซื้อซองกันจริงๆ จะเป็นแบบการร่วมทุนหรือจะฉายเดี่ยวก็ไม่แน่ใจ
กลุ่มทุนไทยที่ยังคงเดินหน้าเพื่อหาทางต่อยอดธุรกิจ
ลำดับที่ห้า กลุ่มเดอะมอลล์ ผู้ที่คว้าสัมปทานพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่สนามบินดอนเมือง และอายุสัมปทานก็กำลังจะหมดอายุลงในปี 63 ก็นับเป็นอีกตัวเก็งที่ค่อนน่าจับตามองอีกหนึ่งหน่วย เนื่องจากชัยชนะที่เคยได้สัมปทานในพื้นที่ดอนเมืองมาแล้วทำให้เขามีประสบการณ์ และแน่นอนเขาต้องลงชิงพื้นที่สัมปทานดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิอย่างแน่นอน
ลำดับที่หก บางกอกแอร์เวย์
ภายใต้การดำเนินการของคุณหมอประเสริฐ ปราสาทโอสถทอง จากเดิมที่มีธุรกิจโรงพยาบาล สายการบิน และสื่อไว้ในมือครานี้ก็คงเล็งเห็นโอกาสที่จะเข้ามาทำธุรกิจดิวตี้ฟรีกับเขาบ้างเช่นกัน จากการประมูลสัมปทานสนามบินอู่ตะเภาที่ผ่านมา ก็มีชื่อที่ไม่ค่อยจะคุ้นหูอย่างมอร์แดนฟรี (ที่ได้เปิดให้บริการอยู่ที่สนามบินสมุย อู่ตะเภา สุราษฎร์ และหลวงพระบาง) เข้าร่วมประมูลด้วย แล้วเมื่อไม่นานมานี้หุ้นของมอร์แดนฟรีได้ถูกเข้าถือครองโดยกลุ่มของหมอประเสริฐแล้วแน่แท้ถึง 100% ไม่ได้มาเล่นๆ แน่นอน
ทั้งหมดคือ 6 ตัวเก็งที่ได้เราได้ทำการหาข้อมูลและรวบรวมไว้เท่าที่จะหาได้ เพราะตั้งแต่ที่เริ่มคิดจะซื้อหุ้น AOT ก็เริ่มศึกษาเรื่องให้ลึกขึ้นแล้วพบว่าแต่ละคนจัดหนักจัดเต็ม เดินเกมส์ทุกหนทางเพื่อที่จะให้ตนเองได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของสุวรรณภูมิ โดยบางเจ้าก็รู้แหละว่าตัวเองถนัดอะไร และไม่ถนัดอะไร ก็ปรับกลยุทธ์เพื่อให้ตนเองมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น คราวนี้ก็เหลือแต่ AOT นั่นแหละ ว่าจะโบกธงเขียวได้เมื่อไหร่ รับรองงานนี้สนุกแน่นอน