ทำไมคนไทยถึงตีความว่า blue sapphire หมายถึงสีหมอกเมฆนิลกาฬ?

พอดี ข้องใจเกี่ยวกับเรื่อง นพรัตน์
ที่มีคนบอกว่า นิลกาฬ หมายถึงไพลิน
ตามความหมายของคำว่านิลกาฬ แบบตรงตัวหมายถึง น้ำเงิน,ดำ / ดำ
ไม่พูดถึงการแปลงความหมายนะคะ

ทีนี้ไปดูความหมายของคำว่า สีหมอกเมฆนิลกาฬ
ตัด นิลกาฬออก คำว่าสีหมอก = หมอก
หมอกโดยนิยามสากลแล้วมีสีเป็น เทาเข้ม = dark gray
ส่วนเมฆ สีขึ้นอยู่กับการหักเหของแสง
บางทีก็เป็นสีขาว บางทีก็เป็นสีเทา หรือเทาเข้ม
จากการหาคำนิยามสีของหมอกกับเมฆได้ความว่า
สีหมอกเมฆ น่าจะหมายถึง สีเทาเข้ม

ทีนี้สีหมอกเมฆนิลกาฬ
สีหมอกเมฆเป็นส่วนขยายของนิลกาฬ
หรือ นิลกาฬเป็นส่วนขยายของหมอกเมฆ

ถ้าหมอกเมฆเป็นส่วนขยายของคำว่านิลกาฬ
ก็หมายถึงสีนั้นๆ ต้องเป็นสิ่งที่มีลักษณะเทาเข้มเป็นส่วนประกอบ
หากตีความว่านิลกาฬ หมายถึง ไพลิน
สีของไพลิน ที่มีลักษณะน้ำเงินผสมเทาเข้ม
ก็จะกลายเป็นสีน้ำเงินเกือบดำ

แต่ถ้าคำว่าสีหมอกเมฆ คือ คำหลักมีคำว่านิลกาฬเป็นส่วนขยาย
อันนี้ จะกลายเป็นว่า สีของหมอกเมฆนั้นเทาแกมไปทางน้ำเงิน

แต่ทั้งนี้ในการจัดทำแหวนหรือเครื่องประดับ นพรัตน์
คนขายก็จะบอกว่า นิลกาฬ หมายถึง ไพลิน
บางทีก็ใช้ light - blue sapphire

เลยไม่ทราบว่าสรุปแล้วเราตีความสีหมอกเมฆนิลกาฬกันจากเหตุผลไหน
รากศัพท์ทางภาษาก็เหมือนจะไม่ใช่
ถ้าบอกว่าคำว่า นิลกาฬ หมายถึงสีน้ำเงิน
ก็ทำไมไม่มีการบัญญัติคำนี้ไว้ในพจนานุกรม
คาดว่าผู้แต่งบทประพันธ์ที่เอ่ยถึงนิลกาฬ
น่าจะคิดค้นคำขึ้นมาเพื่อบรรยายสิ่งที่ยังไม่มีคำนิยามชัดเจน
ซึ่งจากตรงนั้นไม่น่าจะใช่ สีดำ หรือ สีน้ำเงิน แน่ๆ
สีของ gemstone ชิ้นนั้นน่าจะมีลักษณะ น้ำเงินแก่จนเกือบดำ
หรือไม่ก็อัญมณีชิ้นนั่นมีสีน้ำเงินปนดำเทาอยู่ในชิ้นเดียวกัน

เหมือน sapphire Madagascar ไม่ก็ black star of Queensland ก็เป็นไปได้ใช่ไหมคะ?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่