สวัสดีครับทุกท่าน
ผมอยากมาเล่าประสบการณ์การทำงาน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับหลายๆคนครับ
"ผมไม่ได้เก่งเมื่อเทียบกับคนทั้งโลก แต่ผมคิดว่าผมเก่งถ้าเทียบกับตัวผมเอง"
ผมอายุ 26 ปี จบการศึกษา วิศวกรรมเครื่องกล มหาลัย รัฐบาลธรรมดา GPA 2.60
ปี 2014 การเริ่มต้น
เมื่อผมได้จบการศึกษาออกหางาน ความคิดในตอนนั้นคือ งานวิศวกรรมแบบไหนก็ได้ ขอให้มีงานทำผมจึงตะลอนๆ สัมภาษณ์งาน
จนได้ งานที่บริษัทสัญชาติ จีน ด้วยตำแหน่ง Production Engineer [เงินเดือนรวม 19,000 บาท] ตอนนั้นคิดว่าเยอะแล้ว
ทำงานมาได้ 6 เดือน ผมลาออกยอมตกงานด้วยปัญหาที่ว่า ไม่ได้ใช้ความรู้เกี่ยวกับวิศวกรรมเลย เหมือนคนงานใช้แรงงาน
[ผมจึงสัญญากับตัวเองว่า จะไม่ทำงานตำแหน่ง Production อีก ตลอดชีวิต] [1.เป้าหมาย]
ปี 2015 งานที่สอง
ผมตกงาน 3 เดือน ได้รับโอกาสจากบริษัสัญชาติ อินเดีย ด้วยตำแหน่ง Mechanical Engineer [เงินเดือนรวมไม่ผ่านโปร 20,000 ผ่านโปร 22,000]
ผมทำอยู่ที่ เกือบ 3 ปี
ช่วง 1.5 ปี แรก ผมได้ถูกให้ดูแลงานสร้างโรงงานใหม่ งบก่อสร้างมากกว่า 5 พันล้านบาท ด้วยผมเป็น Mechanic เพียงคนเดียวที่อายุแค่ 23 ปี ขึ้นตรงกับเจ้านายอินเดีย ผมได้รับการท้าทายอย่างหนัก ทำงานหนัก เครียด
ด้านภาษาอังกฤษ : เข้าประชุมทีพูดกันแต่ภาษาอังกฤษ ซึ่งถามว่ารู้เรื่องไหม ไม่!! รู้เรื่อง ผมทำได้เพียงจดจดจดจดจด แล้วก็จด คำศัพท์ที่เขาพูด พูด กัน จนเต็มสมุดหนึ่งเล่มตลอดทั้งปี พอตกเย็น ผมก็มาค่อยๆแปลไปทีละคำสองคำ เชื่อไหมว่าทุกวันนี้ผมพูดภาษาอังกฤษได้แบบสบายในการสื่อสาร
[2.การพัฒนาตนเองในด้านภาษา]
ด้านวิศวกรรม : คนอินเดียไม่ได้มองว่าเราเป็นเด็กอายุ 23 เขามองว่าเรา ตำแหน่งอะไร ผมเคยสรุปงานที่ต้องดูแลอย่าง Responsibility fully.
-Piping [Drawing, MTO, Order, Installation]
-Machine installation
-Civil foundation machine
-Duct work and positive pressure
-Silo 75m3 installation and inspection
นี้คือ Main ย่อย ที่ผมพอจะนึกออก ผมคิดว่าผมไม่มีทางทำได้เลย แต่ผมได้แค่คิด ผมนักหา อ่าน อ่าน อ่าน แล้ว ก็อ่าน มาตรฐานงานท่อ
ASME JIS DIN ท่อ 25DN 50DN คืออะไร PN16 JIS 10K บลาๆๆ มีอีกเยอะมากเดี๋ยวจะยาวไป [3.การพัฒนาตนเองด้านวิศวกรรม]
ผมทำงานหนักจนเส้นเลือดในสมองอักเสบ ไปกลับโรงพยาบาล 6 เดือนเต็มๆ จนหายเป็นปกติ
ช่วง 1.5 ปีหลัง หลังจาก Plant ได้ถูกสร้างเสร็จผมก็ถูก ย้ายมาเป็น Maintenance Engineer
หลังจาก Commissioning เสร็จ Line ก็ได้เดินเต็มสปีด แต่ก็มีปัญหาอยู่บ่อยๆ ผมได้ศึกษาเครื่องจักรได้รื้อปั้ม มอเตอร์ อะไรหลายๆอย่างจนเข้าใจ
จริงๆ [4.การลงมือทำ] พอ Line เริ่มนิ่ง ผมก็มาทำเอกสาร PM, History, Order spare จนผมคิดว่ามันไม่มีอะไรให้ผมทำแล้ว
ผมเลือกที่จะอยู่ที่นี้ก็ได้ ทุกคนให้ความเคารพนับถือแม้ยังเป็นเด็ก แต่ผมเลือกที่จะไปหาประสบการณ์ใหม่ๆตอนที่เรายังเป็นเด็กดีกว่า
ปี2018 งานที่ 3
ผมได้ย้ายงานมาอยู่ บริษัทเครื่องจักรขนาดใหญ่ ด้วยตำแหน่ง Mechanical Engineer [เงินเดือนรวม 35,000] งานที่นี้ว่างมากกกกกกกกกกกกก
เพราะเป็นเครื่องจักรขนาดใคร มี ช่างเทคนิคอยู่เยอะพอสมควร Shutdown ทุกเดือน Eng ไม่ต้องซ่อมเอง
ทำให้ผมมีเวลาว่างผมศึกษา Line ผลิตอยู่ประมาน 4 เดือน จนรู้ Process การทำงาน หลังจากนั้นผมก็นั่งเล่นเกมส์บ้าง อ่าน pantip บ้าง
อีก 2 เดือนที่หายใจทิ้ง 6 เดือนหลัง ผมเริ่มรู้ตัวว่าผมได้หายใจทิ้งไปแบบไม่มีประโยชน์แล้วไฟในการทำงานก็ค่อยๆมอดลงไปทีละนิดๆ
ผมจึงหาหนังสือ อ่าน หนังสืออะไรก็ได้เช่น ไฮโดรลิกเบื้องต้น, จิตวิทยา, การวางตัวการเข้าสังคม [ผมอ่านหนังสือจบไป 10 เล่มในเวลา 6 เดือน]
[5.อย่าหยุดที่จะหาความรู้ ทุกอย่างคือความรู้หมดไม่จำเป็นต้องวิชาการเสมอไป]
ผมทำงานได้ปี สองเดือน ผมทะเลาะกับ ผู้จัดการใหญ่ที่เป็นคนต่างชาติ ด้วยการรับสินบนแล้วไปลด Standard ของงาน เช่น ในแบบ
ระบุเหล็กหนา 20 mm แต่ ผู้รับเหมาใช้ 7 mm. ซึ่งผมรู้สึกว่ามันไม่ถูก ผมก็ชนชนชน จนคิดว่าทำไปก็เท่านั้น วิศวกร ไม่จำเป็นสำหรับที่นี้
[6.องค์กรไม่สามารถเปลี่ยน เพียงเพราะคนคนเดียว] ผมจึงหางานใหม่
ปี 2019
บริษัทสัญชาติ เยอรมัน เงินเดือน 50,000
แนวทางการใช้ชีวิตของผม
-อย่าหยุดหาความรู้ ผมตั้งเป้าอ่านหนังสือ 10เล่ม อย่างน้อย ต่อปี
-ภาษาอังกฤษสำคัญ ถ้าอยากได้เงินเดือนสูง เพราะบริษัทที่มีกำลังจ่ายมักเป็นบริษัทต่างชาติ มั่ง คหสต.
-มาตรฐาน สำคัญในงาน วิศวกรรม อ่านเตรียมตัวไว้เป็นดี ASME31.1 31.3, ASME Section 8 Pressure vessel. , API
-ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้หรอก อยู่ที่ว่าเราจะทำมันหรือเปล่า
-คนที่ยอมแพ้ตั้งแต่ความคิด มักไม่ประสบความสำเร็จ
-อย่าดูถูกประสิทธิภาพตัวเอง เรารู้ตัวเราเอง อะไรเราไม่เก่งไม่ดีพอ ก็ฝึกจนกว่ามันจะดีพอ
-ผมคิดว่า EQ สำคัญกว่า IQ คุณจะเข้าหาช่างยังไงในเมื่อคุณเป็นเด็กใหม่ ???
-EGO = 1/Knowledge
-ผมเวลาจะหางานคือจะ Upload resume ลง website แล้วจะระบุเงินเดือนที่เราต้องการไว้เลย ถ้าบริษัทไหนจ่ายไว้แล้วเราคุณสมบัติตรงตามต้องการ
เข้าจะโทรมาหาเราเอง
หวังว่าจะได้อะไรไม่มากก็น้อยนะครับ ขอบคุณครับ
อย่าว่าผมนะ ผมแค่หวังดี ฮ่าๆๆๆ
นานๆจะตั้งกระทู้สักที ผิดพลาดอะไร ขอภัยมา ณ ทีนี้ด้วยครับ
เงินเดือน 50,000 ตอนอายุ 26 ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย
ผมอยากมาเล่าประสบการณ์การทำงาน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับหลายๆคนครับ
"ผมไม่ได้เก่งเมื่อเทียบกับคนทั้งโลก แต่ผมคิดว่าผมเก่งถ้าเทียบกับตัวผมเอง"
ผมอายุ 26 ปี จบการศึกษา วิศวกรรมเครื่องกล มหาลัย รัฐบาลธรรมดา GPA 2.60
ปี 2014 การเริ่มต้น
เมื่อผมได้จบการศึกษาออกหางาน ความคิดในตอนนั้นคือ งานวิศวกรรมแบบไหนก็ได้ ขอให้มีงานทำผมจึงตะลอนๆ สัมภาษณ์งาน
จนได้ งานที่บริษัทสัญชาติ จีน ด้วยตำแหน่ง Production Engineer [เงินเดือนรวม 19,000 บาท] ตอนนั้นคิดว่าเยอะแล้ว
ทำงานมาได้ 6 เดือน ผมลาออกยอมตกงานด้วยปัญหาที่ว่า ไม่ได้ใช้ความรู้เกี่ยวกับวิศวกรรมเลย เหมือนคนงานใช้แรงงาน
[ผมจึงสัญญากับตัวเองว่า จะไม่ทำงานตำแหน่ง Production อีก ตลอดชีวิต] [1.เป้าหมาย]
ปี 2015 งานที่สอง
ผมตกงาน 3 เดือน ได้รับโอกาสจากบริษัสัญชาติ อินเดีย ด้วยตำแหน่ง Mechanical Engineer [เงินเดือนรวมไม่ผ่านโปร 20,000 ผ่านโปร 22,000]
ผมทำอยู่ที่ เกือบ 3 ปี
ช่วง 1.5 ปี แรก ผมได้ถูกให้ดูแลงานสร้างโรงงานใหม่ งบก่อสร้างมากกว่า 5 พันล้านบาท ด้วยผมเป็น Mechanic เพียงคนเดียวที่อายุแค่ 23 ปี ขึ้นตรงกับเจ้านายอินเดีย ผมได้รับการท้าทายอย่างหนัก ทำงานหนัก เครียด
ด้านภาษาอังกฤษ : เข้าประชุมทีพูดกันแต่ภาษาอังกฤษ ซึ่งถามว่ารู้เรื่องไหม ไม่!! รู้เรื่อง ผมทำได้เพียงจดจดจดจดจด แล้วก็จด คำศัพท์ที่เขาพูด พูด กัน จนเต็มสมุดหนึ่งเล่มตลอดทั้งปี พอตกเย็น ผมก็มาค่อยๆแปลไปทีละคำสองคำ เชื่อไหมว่าทุกวันนี้ผมพูดภาษาอังกฤษได้แบบสบายในการสื่อสาร
[2.การพัฒนาตนเองในด้านภาษา]
ด้านวิศวกรรม : คนอินเดียไม่ได้มองว่าเราเป็นเด็กอายุ 23 เขามองว่าเรา ตำแหน่งอะไร ผมเคยสรุปงานที่ต้องดูแลอย่าง Responsibility fully.
-Piping [Drawing, MTO, Order, Installation]
-Machine installation
-Civil foundation machine
-Duct work and positive pressure
-Silo 75m3 installation and inspection
นี้คือ Main ย่อย ที่ผมพอจะนึกออก ผมคิดว่าผมไม่มีทางทำได้เลย แต่ผมได้แค่คิด ผมนักหา อ่าน อ่าน อ่าน แล้ว ก็อ่าน มาตรฐานงานท่อ
ASME JIS DIN ท่อ 25DN 50DN คืออะไร PN16 JIS 10K บลาๆๆ มีอีกเยอะมากเดี๋ยวจะยาวไป [3.การพัฒนาตนเองด้านวิศวกรรม]
ผมทำงานหนักจนเส้นเลือดในสมองอักเสบ ไปกลับโรงพยาบาล 6 เดือนเต็มๆ จนหายเป็นปกติ
ช่วง 1.5 ปีหลัง หลังจาก Plant ได้ถูกสร้างเสร็จผมก็ถูก ย้ายมาเป็น Maintenance Engineer
หลังจาก Commissioning เสร็จ Line ก็ได้เดินเต็มสปีด แต่ก็มีปัญหาอยู่บ่อยๆ ผมได้ศึกษาเครื่องจักรได้รื้อปั้ม มอเตอร์ อะไรหลายๆอย่างจนเข้าใจ
จริงๆ [4.การลงมือทำ] พอ Line เริ่มนิ่ง ผมก็มาทำเอกสาร PM, History, Order spare จนผมคิดว่ามันไม่มีอะไรให้ผมทำแล้ว
ผมเลือกที่จะอยู่ที่นี้ก็ได้ ทุกคนให้ความเคารพนับถือแม้ยังเป็นเด็ก แต่ผมเลือกที่จะไปหาประสบการณ์ใหม่ๆตอนที่เรายังเป็นเด็กดีกว่า
ปี2018 งานที่ 3
ผมได้ย้ายงานมาอยู่ บริษัทเครื่องจักรขนาดใหญ่ ด้วยตำแหน่ง Mechanical Engineer [เงินเดือนรวม 35,000] งานที่นี้ว่างมากกกกกกกกกกกกก
เพราะเป็นเครื่องจักรขนาดใคร มี ช่างเทคนิคอยู่เยอะพอสมควร Shutdown ทุกเดือน Eng ไม่ต้องซ่อมเอง
ทำให้ผมมีเวลาว่างผมศึกษา Line ผลิตอยู่ประมาน 4 เดือน จนรู้ Process การทำงาน หลังจากนั้นผมก็นั่งเล่นเกมส์บ้าง อ่าน pantip บ้าง
อีก 2 เดือนที่หายใจทิ้ง 6 เดือนหลัง ผมเริ่มรู้ตัวว่าผมได้หายใจทิ้งไปแบบไม่มีประโยชน์แล้วไฟในการทำงานก็ค่อยๆมอดลงไปทีละนิดๆ
ผมจึงหาหนังสือ อ่าน หนังสืออะไรก็ได้เช่น ไฮโดรลิกเบื้องต้น, จิตวิทยา, การวางตัวการเข้าสังคม [ผมอ่านหนังสือจบไป 10 เล่มในเวลา 6 เดือน]
[5.อย่าหยุดที่จะหาความรู้ ทุกอย่างคือความรู้หมดไม่จำเป็นต้องวิชาการเสมอไป]
ผมทำงานได้ปี สองเดือน ผมทะเลาะกับ ผู้จัดการใหญ่ที่เป็นคนต่างชาติ ด้วยการรับสินบนแล้วไปลด Standard ของงาน เช่น ในแบบ
ระบุเหล็กหนา 20 mm แต่ ผู้รับเหมาใช้ 7 mm. ซึ่งผมรู้สึกว่ามันไม่ถูก ผมก็ชนชนชน จนคิดว่าทำไปก็เท่านั้น วิศวกร ไม่จำเป็นสำหรับที่นี้
[6.องค์กรไม่สามารถเปลี่ยน เพียงเพราะคนคนเดียว] ผมจึงหางานใหม่
ปี 2019
บริษัทสัญชาติ เยอรมัน เงินเดือน 50,000
แนวทางการใช้ชีวิตของผม
-อย่าหยุดหาความรู้ ผมตั้งเป้าอ่านหนังสือ 10เล่ม อย่างน้อย ต่อปี
-ภาษาอังกฤษสำคัญ ถ้าอยากได้เงินเดือนสูง เพราะบริษัทที่มีกำลังจ่ายมักเป็นบริษัทต่างชาติ มั่ง คหสต.
-มาตรฐาน สำคัญในงาน วิศวกรรม อ่านเตรียมตัวไว้เป็นดี ASME31.1 31.3, ASME Section 8 Pressure vessel. , API
-ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้หรอก อยู่ที่ว่าเราจะทำมันหรือเปล่า
-คนที่ยอมแพ้ตั้งแต่ความคิด มักไม่ประสบความสำเร็จ
-อย่าดูถูกประสิทธิภาพตัวเอง เรารู้ตัวเราเอง อะไรเราไม่เก่งไม่ดีพอ ก็ฝึกจนกว่ามันจะดีพอ
-ผมคิดว่า EQ สำคัญกว่า IQ คุณจะเข้าหาช่างยังไงในเมื่อคุณเป็นเด็กใหม่ ???
-EGO = 1/Knowledge
-ผมเวลาจะหางานคือจะ Upload resume ลง website แล้วจะระบุเงินเดือนที่เราต้องการไว้เลย ถ้าบริษัทไหนจ่ายไว้แล้วเราคุณสมบัติตรงตามต้องการ
เข้าจะโทรมาหาเราเอง
หวังว่าจะได้อะไรไม่มากก็น้อยนะครับ ขอบคุณครับ
อย่าว่าผมนะ ผมแค่หวังดี ฮ่าๆๆๆ
นานๆจะตั้งกระทู้สักที ผิดพลาดอะไร ขอภัยมา ณ ทีนี้ด้วยครับ