สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้รีวิวที่เที่ยวครั้งแรกของ จขกท. หากมีอะไรผิดพลาดก็ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้านะคะ
พร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยค่า
ขอเกริ่นก่อนว่า ทริปนี้ . . เริ่มมาจากการที่ จขกท. แพลนว่าจะลาออกจากงานประจำช่วงปลายเดือนมกราคม
(แต่จะไม่ทำงานเต็มเดือน คือจะเหลือวันว่างหลังลาออกไว้เที่ยวในช่วงวีคสุดท้ายของเดือน)
เลยคิดว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดีนะ!? อยากไป ตปท. แบบไปเองไม่อยากไปกับทัวร์ ซึ่งตอนแรกดูไว้หลายที่ เพราะกะว่าจะไปคนเดียว
ดังนั้น จะไปที่ไหน เมื่อไหร่ จองตั๋ว จองที่พักอะไรยังไง เมื่อไหร่ก็ได้ (อินดี้มะ 555+)
และมัลดีฟส์ ... ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่อยากจะไปซักครั้งถ้ามีโอกาส แต่ก็เคยได้ยินมาว่าค่าใช้จ่ายทริปนึงก็หลายอยู่ คือ ตั้งแต่หลายหมื่นจนถึงหลายแสน ความหวังสาวโสดอย่างอิชั้นจึงช่างเลือนราง (เดินทางใน ปท. บ่อย งบหมดค่ะ
)
จนกระทั่ง มีเพื่อนใน FB แชร์ทู้เที่ยวมัลดีฟส์ในงบ 15,000 บาท มาหน้าฟีดพอดี นี่เลยเข้าไปเก็บข้อมูลและแชร์ไว้
ไปๆ มาๆ ก็เลยมีสมาชิกสาวโสดมาเพิ่มอีกคนมาร่วมทริปกับเราในครั้งนี้ และเมื่อเราเชื่อว่าทริปมัลดีฟส์งบ 15,000 บาทมันเป็นไปได้
สุดท้าย ... เราเลยเลือกที่จะไปมัลดีฟส์กันสองนางแบบไม่ง้อทัวร์ ด้วยงบที่ตั้งไว้ครั้งแรกที่ 15,000 บาทไทย
ถึงในใจเราจะแอบคิดว่าเราควรไปมัลดีฟส์เพื่อฮันนีมูนกับสา แต่ไหนล่ะคะสา!? ขนาดแฟนยังไม่มีเลย งั้นข้ามข้อนี้ไปค่ะ
ในเมื่อเราไม่มี เราก็ไปเพราะอยากไปนี่แหละ!! ถือเป็นการไปเซอร์เวย์ก่อนแล้วกัน ไว้ไปอีกรอบจะได้ชำนาญทาง
และใช่ค่ะ เป็นอย่างที่คาดคิดไว้เลย!! งบเที่ยวเราบานปลายด้วยการไม่ห้ามอะไรกันเลย (ชวนกันล่มจมจริงๆ)
มีเพื่อนแบบนี้ควรเลิกคบค่ะ
ถ้าไม่อยากล่มจม 555 (ล้อเล่นนะคะ)
เราต้องห้ามใจตัวเองค่ะ ต้องสตรอง ต้องแข็งแกร่ง ต้องใจแข็ง (บอกตัวเองวนไปค่ะ!! แต่จะทำได้มั๊ยนั่นอีกเรื่อง งือออ)
มาเข้าสาระกันค่ะ
พอเราได้จุดหมายที่จะไปก็เริ่มจองตั๋วกันเลยค่ะ (จขกท. จองตั๋วล่วงหน้าประมาณ 2 เดือนนะคะ)
เนื่องจากเราตั้งงบไว้จำกัดมากขนาดนี้และมิได้มีแต้มบัตรใดๆ ไว้แลกลดราคาตั๋ว ไม่ต้องคิดเยอะเลยค่ะ
เข้าแอพ Air Asia โลดค่ะ งบแบบเราไป low cost ค่ะ!! เซฟงบสุด
(ความจริงอิชั้นเทียบมาหมดทุกสายแล้วค่ะ ราคาแอเอเชียเหมาะกับงบเราที่สุดแล้วค่ะ และ จขกท. สะดวกขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองมากกว่าสุวรรณภูมิด้วย เพราะใกล้กว่ามาก ไม่อยากเสียเวลาเดินทางเยอะ)
ส่วนใครหล่อ/สวย และรวยมาก ก็ข้ามรีวิวตั๋วเครื่องบินนี้ไปค่ะ เพราะเราจะพูดในรายละเอียดของสายนี้โอนลี่ค่ะ
>>เที่ยวบินของ Air Asia<<
สำหรับเอเอเชียมีเที่ยวบินจากดอนเมืองสู่มาเล - MLE (ออกเสียงว่ามาเล่นะคะ เป็นชื่อเมืองหลวงของมัลดีฟส์) วันละ 1 เที่ยวบินค่ะ
ใช้เวลาบินทั้งหมด 4 ชั่วโมง โดยเวลาที่มัลดีฟส์จะช้ากว่าที่ไทย 2 ชั่วโมงค่ะ
วันอาทิตย์, จันทร์, พุธ, ศุกร์มีเที่ยวบินรอบเช้า คือ 09:25 (เวลาไทย) ถึงมาเล่ 11:50 (เวลามัลดีฟส์)
ส่วนวันอังคาร, พฤหัสบดี, เสาร์ มีเที่ยวบินรอบเย็นคือ 20:00 (เวลาไทย) ถึงมาเล่ 22.15 (เวลามัลดีฟส์)
เนื่องจากเราไม่อยากเสียวันเดินทางและค่าที่พักเพิ่มในขาไปและในบรรดาวันที่มีเที่ยวบินรอบเช้าในวีคที่ จขกท. จะไปนั้นเที่ยวบินวันพุธคือวันที่ถูกที่สุด เราจึงเลือกบินวันพุธค่ะ ไฟลท์เช้า 09:25 น.
แต่จขกท. จองแค่ขาไปก่อนเพราะตอนแรกยังสรุปไม่ได้ว่าจะไปกี่วัน (คือกะว่าจะไปประมาณ 5 วันแหละแต่จะไปมัลดีฟส์ที่เดียวมั๊ย หรือจะไปแวะมาเลเซียด้วยงิ) unplanned มากจริงๆ ค่ะ!! เดี๋ยวแพลนมันก็มาระหว่างทาง 555
เมื่อเรารู้อยู่แล้วว่าจะไปหลายวันขนาดนี้ แน่นอนว่า นน. กระเป๋าถือขึ้นเครื่องแค่ 7 กิโลกรัมมันไม่พอแน่ๆ
เราจึงซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม 20 กิโลซึ่งคิดว่าน่าจะเพียงพอสำหรับสองคน (ถือขึ้นเครื่องอีกคนละ 2 ใบ
)
และในเรื่องของอาหารนั้นเราก็ไม่พลาดเช่นกันค่ะ คิดว่าบิน 4 ชั่วโมงคือต้องหิวแน่ๆ
เราเลย pre-booking อาหารไปด้วยเลยค่ะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ คนละ 120 บาท มีข้าวกล่อง+น้ำเปล่า (หรือกาแฟ) ค่ะ
สิริรวมค่าเสียหายเฉพาะตั๋วขาไป DMK-MLE + น้ำหนักกระเป๋า 20 กิโล + อาหาร 2 ที่ = 8,480 บาท (คนละ 4,240 บาท)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอได้ตั๋วขาไปเราก็สบายใจแล้วค่ะ คือได้ไปแน่ๆ ไง
ต่อไปก็หาที่พักกันค่ะ
เราก็มาคิดกันว่าจะนอนที่เกาะไหนบ้าง กี่คืน แล้วจะเดินทางไปแต่ละเกาะยังไงดี?
1. มี
1 เกาะที่จะไปแน่ๆ คือ Maafushi เพราะเป็นเกาะ local และสามารถนั่ง Public Ferry ไปได้
ซึ่งราคาเฟอรี่ก็ถูกมากแต่ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชม. และจะไม่มีเรือเฟอรี่วิ่งในวันศุกร์เพราะเป็นวันที่เค้าไปมัสยิดกันค่ะ
(แต่สปีดโบ้ทมีปกตินะคะ นี่ก็งงอยู่ว่าเค้าไม่ได้ไปทุกคนเหรอ)
2. รีสอร์ทบนเกาะส่วนตัว ยิ่งอยู่ไกลค่าเดินเรือจะยิ่งแพง ถ้าที่พักไกลมากๆ ต้องนั่ง Sea plane
(ซึ่งราคาพอๆ กับค่าเครื่องจากไทยหรืออาจแพงกว่า)
ดังนั้น ถ้าจะหาที่พักที่เป็นรีสอร์ทส่วนตัวต้องหาที่ไม่ห่างจากสนามบินมากเพื่อเซฟเวลาและค่าสปีดโบ้ทค่ะ
3. ทางเราไม่อยากรีบร้อนในวันสุดท้ายก็เลยแพลนว่าจะกลับมาพักที่เกาะใกล้ๆ สนามบินก่อนกลับ
(จากการเปรียบเทียบดูจาก Agoda, Booking และ Traveloka เราก็พบว่า ราคาใน Booking และ Agoda มักจะไม่รวมภาษี
ซึ่งพอรวมทั้งหมดแล้วใน Traveloka จะถูกกว่าค่ะ เราจึงมุ่งดูใน Traveloka ที่เดียวเลย)
ใดๆ ก็ตาม...
การจองโรงแรมไม่ควรดูแต่รูปนะคะ ควรดูคะแนนและอ่านรีวิวของคนพักจริงด้วยค่ะ
เพื่อจะได้ไม่พลาดแบบที่ จขกท. เคยพลาดจองที่พัทยา ตอนนั้นน้ำตาแทบไหล ห้องเก่าและน่ากลัวมาก 555
ระหว่างที่เราเลือกดูที่พัก มันก็จะเจอรีสอร์ทสวยๆ มากมายที่จะมายั่วยวนใจและละลายเงินในกระเป๋าเราค่ะ
จากที่แพลนว่าหมื่นห้าทั้งทริปใช่มั๊ยค่ะ!? สุดท้ายก็พ่ายแพ้แก่คำว่า “ไหนๆ ก็ไปทั้งที” โหววววว... คำนี้มาทีไร บร_ลัยค่ะ!!!
กลายเป็นว่าที่พักคืนเดียวเกินหมื่นห้าค่ะเพราะที่พักแบบ Water villa จะมาเย้ายวนใจตลอดเวลา
และ สุดท้าย...ฉันก็พ่ายแพ้ (ใส่ทำนองเพลงมีผลต่อหัวใจของน้องนนท์เข้าไปด้วยค่ะ จะได้เข้าใจฟีล)
>>ที่พักคืนแรก<<
กดจองที่พักแบบ
Water vila ที่ Paradise Island Resort & Spa (พร้อมอาหารเช้า) ในราคา 1 คืน (รวมภาษี) 13,570.90 บาท
ซึ่งตอนที่จองได้คือถือว่าถูกมากๆ สำหรับช่วง High season ดังเช่นช่วงที่อิชั้นจะไป และอิชั้นก็ภูมิใจมากที่จองได้ราคานี้มา
(เพราะวนเข้าไปดูทุกวันและแน่นอนว่าเพื่อนที่จะไปด้วยนางก็เห็นดีเห็นงามด้วยทั้งสิ้นค่ะ 5555555)
พวกเราเลือกพักที่ดีๆ คืนแรกเนื่องจากลงความเห็นแล้วว่าหน้าเราจะยังดีที่สุดและถ่ายรูปสวยที่สุด (คิดเยอะกันม๊ากกกกก)
เมื่อได้ที่พัก Water Villa มาแล้ว 1 คืน ซึ่งรวมค่าเรือที่จะมารับคนละ 104 USD (ค่าเรือของแต่ละรีสอร์ทถ้าไม่มีแจ้งต้องเมลถามเองนะคะ)
นี่ก็เกินงบทั้งทริปหมื่นห้าที่ตั้งไว้ในตอนแรกไปแล้วค่ะซิสสสสส
ดังนั้น จึงคุยกันว่าอีก 4 คืนที่เหลือ (Maafushi 2 คืน และที่พักที่เกาะที่อยู่ใกล้ๆ สนามบินอีก 2 คืนต้องนอนไม่แพง)
>>ที่พักคืนที่ 2-3<<
วันที่สองเราตั้งใจไป Maafushi กันค่ะ ที่จริงต้องบอกว่าถ้าตามรอยการเที่ยวมัลดีฟส์ด้วยงบ 15,000 บาท ควรมาที่นี่เลยจะถูกต้องกว่า
แต่เราก็ตบะแตกจองรีสอร์ทส่วนตัวกันไปแล้ว ข้อมูลของเกาะนี้ที่เรามี คือ ใส่บิกินี่หรือชุดว่ายน้ำได้แค่บางหาดเท่านั้น (Bikini beach)
เพื่อนก็หามาให้เลยค่ะ รร. หน้า Bikini beach เลย ชื่อ
Kaani Grand Seaview แต่ที่อิชั้นดูไว้อีกที่คือ Kaani Village Maafushi
เพราะราคาถูกกว่าและอยากไปถ่ายรูปตรงสระว่ายน้ำ (เออ...แล้วจะไปทะเลเพื่อ!??) เพื่อนเห็นดีด้วยแต่จองไม่ทันค่ะ เต็มก่อน...เสียใจ
งั้นก็จองที่ที่เพื่อนอยากนอนกันเลยไปแล้วกันค่ะ (บอกแล้วว่าพากันล่มจม...ไม่มีใครห้ามใคร 555)
จอง
ห้อง Ocean view (พร้อมอาหารเช้า) ไปค่ะ ในราคา
2 คืน (รวมภาษี) 8,862.30 บาท
>>ที่พักคืนที่ 4-5<<
พวกเราแพลนกันว่าจะมานอนแถวเกาะใกล้ๆ สนามบินก่อนวันกลับ จะได้ไม่ต้องรีบร้อน แต่ดูรีวิวบอกว่าเมืองมาเล่แออัดและไม่น่าไปพัก
เราเลยเลือกไปอีกเกาะชื่อ
Hulhumale' และคิดว่าค่อยมาหาอะไรทำตอนไปพักแล้วกัน หา รร. แบบไม่แพงมาก สุดท้ายก็จองที่นี่ไป
Beach Sunrise Inn ห้อง Sea view (พร้อมอาหารเช้า) 2 คืน (รวมภาษี) 4,775.98 บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และเมื่อเราได้ที่พักครบเราก็
จองตั๋วกลับกันค่ะ!!!
(ที่จริงแกควรจองไป-กลับมั๊ย? นี่ก็ถามตัวเองอยู่นะ 555)
เช่นเดียวกันกับขาไปค่ะ ทางเราจองของสายการบินแอเอเชีย ซึ่งมีวันละ 1 เที่ยวบินเช่นเดิม
เที่ยวบินจากมาเล่มาดอนเมืองก็คือเครื่องที่บินจากดอนเมืองไปมาเล่ค่ะ
โดยวันอาทิตย์, จันทร์, พุธ, ศุกร์มีเที่ยวบินรอบกลางวัน คือ 12:35 (เวลามัลดีฟส์) ถึงดอนเมือง 19:05 (เวลาไทย)
ส่วนวันอังคาร, พฤหัสบดี, เสาร์ มีเที่ยวบินรอบกลางคืนคือ 23:10 (เวลามัลดีฟส์) ถึงดอนเมือง 05.40 (เวลาไทย)
อย่าแปลกใจว่าทำไมบินนานขึ้นนะคะ บิน 4 ชั่วโมงเท่าเดิมค่ะ แต่เวลาที่ไทยเร็วกว่ามัลดีฟส์ 2 ชั่วโมง ไม่งงเนอะ
และเช่นเคยค่ะ...อิชั้นซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม 20 กิโลและอาหาร 2 ที่เหมือนขาไป แต่ขากลับตั๋วแพงกว่าค่ะ
(เค้าคงคิดว่าแกจะไปแบบไม่กลับไม่ได้ ตั๋วจะแพงแค่ไหนแกก็ต้องกลับ ชั้นรู้ววว) จริงค่ะ!! ยังไงก็ต้องกลับ แพงกว่าก็ต้องจ่าย 555
ค่าเสียหายทั้งหมดของตั๋วขากลับ MLE-DMK + น้ำหนักกระเป๋า 20 กิโล + อาหาร 2 ที่ = 10,622 บาท (คนละ 5,311 บาท)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปล.ภาพนี้ตัดต่อรายละเอียดออกให้เหลือแค่เที่ยวบินและราคานะคะ
สรุปว่า...แค่จองตั๋วและที่พักไปก็เกินงบ 15,000 บาทไทยในแพลนตอนแรกของเราไปไกลแล้วค่ะ
(แต่ขอบอกเลยว่าทริปนี้งบหลักๆ ก็มีแท่านี้ค่ะ ที่เหลือก็เบาแล้วมั้ง 555)
1.ตั๋ว DMK-MLE = 8,480 บาท
2.ที่พัก 5 คืน = 27,210 บาท
3. ตั๋ว MLE-DMK = 10,622 บาท
รวมทั้งหมด = 46,312 บาท
สรุป ค่าเครื่องบินและที่พัก 5 คืน ตกคนละ 23,156 บาท
อ่อ...ลืมบอกไปว่าที่พักที่เราจองไปมี wifi ให้ทุกที่นะคะ (แต่สัญญาณดีไม่ดีก็อีกเรื่องนึง 55)
อย่าลืมกดดูรายละเอียดของแต่ละที่ด้วยนะคะว่าเค้ามีอะไรให้เราบ้าง จะได้เตรียมของไปถูกค่ะ
แล้วก็รีวิวจากคนไปพักจริงก็อย่าลืมเข้าไปดูด้วยค่ะ เตือน (อีกที) แล้วน๊าาา จุ๊บ!!
จองทุกอย่างเสร็จก็สบายใจหายห่วงไม่ต้องทำอะไรแล้วค่ะ
ไปรอซีเอฟชุดและ accessory ที่จะใส่เที่ยวได้เลยค่ะ (เป็นอีกส่วนหนึ่งที่งบจะบานปลาย อิอิ)
พาร์ทต่อไปก็เป็นในส่วนของการเดินทางและเที่ยวในมัลดีฟส์แล้วค่ะ
ไว้มาเล่าต่อนะคะ
ปล.อาจมีแก้ไขข้อความเรื่อยๆ นะคะ ถ้าคิดอะไรออกก็จะมาเพิ่มให้ค่ะ
เที่ยวมัลดีฟส์ชิลๆ 6 วัน 5 คืนกับที่พัก 1 รีสอร์ทหรูและ 2 โรงแรมเกือบหรู สไตล์สาวโสดไปกันเองแบบไม่ง้อทัวร์ (แบบละเอียด)
พร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยค่า
ขอเกริ่นก่อนว่า ทริปนี้ . . เริ่มมาจากการที่ จขกท. แพลนว่าจะลาออกจากงานประจำช่วงปลายเดือนมกราคม
(แต่จะไม่ทำงานเต็มเดือน คือจะเหลือวันว่างหลังลาออกไว้เที่ยวในช่วงวีคสุดท้ายของเดือน)
เลยคิดว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดีนะ!? อยากไป ตปท. แบบไปเองไม่อยากไปกับทัวร์ ซึ่งตอนแรกดูไว้หลายที่ เพราะกะว่าจะไปคนเดียว
ดังนั้น จะไปที่ไหน เมื่อไหร่ จองตั๋ว จองที่พักอะไรยังไง เมื่อไหร่ก็ได้ (อินดี้มะ 555+)
และมัลดีฟส์ ... ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่อยากจะไปซักครั้งถ้ามีโอกาส แต่ก็เคยได้ยินมาว่าค่าใช้จ่ายทริปนึงก็หลายอยู่ คือ ตั้งแต่หลายหมื่นจนถึงหลายแสน ความหวังสาวโสดอย่างอิชั้นจึงช่างเลือนราง (เดินทางใน ปท. บ่อย งบหมดค่ะ )
จนกระทั่ง มีเพื่อนใน FB แชร์ทู้เที่ยวมัลดีฟส์ในงบ 15,000 บาท มาหน้าฟีดพอดี นี่เลยเข้าไปเก็บข้อมูลและแชร์ไว้
ไปๆ มาๆ ก็เลยมีสมาชิกสาวโสดมาเพิ่มอีกคนมาร่วมทริปกับเราในครั้งนี้ และเมื่อเราเชื่อว่าทริปมัลดีฟส์งบ 15,000 บาทมันเป็นไปได้
สุดท้าย ... เราเลยเลือกที่จะไปมัลดีฟส์กันสองนางแบบไม่ง้อทัวร์ ด้วยงบที่ตั้งไว้ครั้งแรกที่ 15,000 บาทไทย
ถึงในใจเราจะแอบคิดว่าเราควรไปมัลดีฟส์เพื่อฮันนีมูนกับสา แต่ไหนล่ะคะสา!? ขนาดแฟนยังไม่มีเลย งั้นข้ามข้อนี้ไปค่ะ
ในเมื่อเราไม่มี เราก็ไปเพราะอยากไปนี่แหละ!! ถือเป็นการไปเซอร์เวย์ก่อนแล้วกัน ไว้ไปอีกรอบจะได้ชำนาญทาง
และใช่ค่ะ เป็นอย่างที่คาดคิดไว้เลย!! งบเที่ยวเราบานปลายด้วยการไม่ห้ามอะไรกันเลย (ชวนกันล่มจมจริงๆ)
มีเพื่อนแบบนี้ควรเลิกคบค่ะ ถ้าไม่อยากล่มจม 555 (ล้อเล่นนะคะ)
เราต้องห้ามใจตัวเองค่ะ ต้องสตรอง ต้องแข็งแกร่ง ต้องใจแข็ง (บอกตัวเองวนไปค่ะ!! แต่จะทำได้มั๊ยนั่นอีกเรื่อง งือออ)
มาเข้าสาระกันค่ะ
พอเราได้จุดหมายที่จะไปก็เริ่มจองตั๋วกันเลยค่ะ (จขกท. จองตั๋วล่วงหน้าประมาณ 2 เดือนนะคะ)
เนื่องจากเราตั้งงบไว้จำกัดมากขนาดนี้และมิได้มีแต้มบัตรใดๆ ไว้แลกลดราคาตั๋ว ไม่ต้องคิดเยอะเลยค่ะ
เข้าแอพ Air Asia โลดค่ะ งบแบบเราไป low cost ค่ะ!! เซฟงบสุด
(ความจริงอิชั้นเทียบมาหมดทุกสายแล้วค่ะ ราคาแอเอเชียเหมาะกับงบเราที่สุดแล้วค่ะ และ จขกท. สะดวกขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองมากกว่าสุวรรณภูมิด้วย เพราะใกล้กว่ามาก ไม่อยากเสียเวลาเดินทางเยอะ)
ส่วนใครหล่อ/สวย และรวยมาก ก็ข้ามรีวิวตั๋วเครื่องบินนี้ไปค่ะ เพราะเราจะพูดในรายละเอียดของสายนี้โอนลี่ค่ะ
>>เที่ยวบินของ Air Asia<<
สำหรับเอเอเชียมีเที่ยวบินจากดอนเมืองสู่มาเล - MLE (ออกเสียงว่ามาเล่นะคะ เป็นชื่อเมืองหลวงของมัลดีฟส์) วันละ 1 เที่ยวบินค่ะ
ใช้เวลาบินทั้งหมด 4 ชั่วโมง โดยเวลาที่มัลดีฟส์จะช้ากว่าที่ไทย 2 ชั่วโมงค่ะ
วันอาทิตย์, จันทร์, พุธ, ศุกร์มีเที่ยวบินรอบเช้า คือ 09:25 (เวลาไทย) ถึงมาเล่ 11:50 (เวลามัลดีฟส์)
ส่วนวันอังคาร, พฤหัสบดี, เสาร์ มีเที่ยวบินรอบเย็นคือ 20:00 (เวลาไทย) ถึงมาเล่ 22.15 (เวลามัลดีฟส์)
เนื่องจากเราไม่อยากเสียวันเดินทางและค่าที่พักเพิ่มในขาไปและในบรรดาวันที่มีเที่ยวบินรอบเช้าในวีคที่ จขกท. จะไปนั้นเที่ยวบินวันพุธคือวันที่ถูกที่สุด เราจึงเลือกบินวันพุธค่ะ ไฟลท์เช้า 09:25 น.
แต่จขกท. จองแค่ขาไปก่อนเพราะตอนแรกยังสรุปไม่ได้ว่าจะไปกี่วัน (คือกะว่าจะไปประมาณ 5 วันแหละแต่จะไปมัลดีฟส์ที่เดียวมั๊ย หรือจะไปแวะมาเลเซียด้วยงิ) unplanned มากจริงๆ ค่ะ!! เดี๋ยวแพลนมันก็มาระหว่างทาง 555
เมื่อเรารู้อยู่แล้วว่าจะไปหลายวันขนาดนี้ แน่นอนว่า นน. กระเป๋าถือขึ้นเครื่องแค่ 7 กิโลกรัมมันไม่พอแน่ๆ
เราจึงซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม 20 กิโลซึ่งคิดว่าน่าจะเพียงพอสำหรับสองคน (ถือขึ้นเครื่องอีกคนละ 2 ใบ )
และในเรื่องของอาหารนั้นเราก็ไม่พลาดเช่นกันค่ะ คิดว่าบิน 4 ชั่วโมงคือต้องหิวแน่ๆ
เราเลย pre-booking อาหารไปด้วยเลยค่ะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ คนละ 120 บาท มีข้าวกล่อง+น้ำเปล่า (หรือกาแฟ) ค่ะ
สิริรวมค่าเสียหายเฉพาะตั๋วขาไป DMK-MLE + น้ำหนักกระเป๋า 20 กิโล + อาหาร 2 ที่ = 8,480 บาท (คนละ 4,240 บาท)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอได้ตั๋วขาไปเราก็สบายใจแล้วค่ะ คือได้ไปแน่ๆ ไง
ต่อไปก็หาที่พักกันค่ะ
เราก็มาคิดกันว่าจะนอนที่เกาะไหนบ้าง กี่คืน แล้วจะเดินทางไปแต่ละเกาะยังไงดี?
1. มี 1 เกาะที่จะไปแน่ๆ คือ Maafushi เพราะเป็นเกาะ local และสามารถนั่ง Public Ferry ไปได้
ซึ่งราคาเฟอรี่ก็ถูกมากแต่ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชม. และจะไม่มีเรือเฟอรี่วิ่งในวันศุกร์เพราะเป็นวันที่เค้าไปมัสยิดกันค่ะ
(แต่สปีดโบ้ทมีปกตินะคะ นี่ก็งงอยู่ว่าเค้าไม่ได้ไปทุกคนเหรอ)
2. รีสอร์ทบนเกาะส่วนตัว ยิ่งอยู่ไกลค่าเดินเรือจะยิ่งแพง ถ้าที่พักไกลมากๆ ต้องนั่ง Sea plane
(ซึ่งราคาพอๆ กับค่าเครื่องจากไทยหรืออาจแพงกว่า)
ดังนั้น ถ้าจะหาที่พักที่เป็นรีสอร์ทส่วนตัวต้องหาที่ไม่ห่างจากสนามบินมากเพื่อเซฟเวลาและค่าสปีดโบ้ทค่ะ
3. ทางเราไม่อยากรีบร้อนในวันสุดท้ายก็เลยแพลนว่าจะกลับมาพักที่เกาะใกล้ๆ สนามบินก่อนกลับ
(จากการเปรียบเทียบดูจาก Agoda, Booking และ Traveloka เราก็พบว่า ราคาใน Booking และ Agoda มักจะไม่รวมภาษี
ซึ่งพอรวมทั้งหมดแล้วใน Traveloka จะถูกกว่าค่ะ เราจึงมุ่งดูใน Traveloka ที่เดียวเลย)
ใดๆ ก็ตาม...การจองโรงแรมไม่ควรดูแต่รูปนะคะ ควรดูคะแนนและอ่านรีวิวของคนพักจริงด้วยค่ะ
เพื่อจะได้ไม่พลาดแบบที่ จขกท. เคยพลาดจองที่พัทยา ตอนนั้นน้ำตาแทบไหล ห้องเก่าและน่ากลัวมาก 555
ระหว่างที่เราเลือกดูที่พัก มันก็จะเจอรีสอร์ทสวยๆ มากมายที่จะมายั่วยวนใจและละลายเงินในกระเป๋าเราค่ะ
จากที่แพลนว่าหมื่นห้าทั้งทริปใช่มั๊ยค่ะ!? สุดท้ายก็พ่ายแพ้แก่คำว่า “ไหนๆ ก็ไปทั้งที” โหววววว... คำนี้มาทีไร บร_ลัยค่ะ!!!
กลายเป็นว่าที่พักคืนเดียวเกินหมื่นห้าค่ะเพราะที่พักแบบ Water villa จะมาเย้ายวนใจตลอดเวลา
และ สุดท้าย...ฉันก็พ่ายแพ้ (ใส่ทำนองเพลงมีผลต่อหัวใจของน้องนนท์เข้าไปด้วยค่ะ จะได้เข้าใจฟีล)
>>ที่พักคืนแรก<<
กดจองที่พักแบบ Water vila ที่ Paradise Island Resort & Spa (พร้อมอาหารเช้า) ในราคา 1 คืน (รวมภาษี) 13,570.90 บาท
ซึ่งตอนที่จองได้คือถือว่าถูกมากๆ สำหรับช่วง High season ดังเช่นช่วงที่อิชั้นจะไป และอิชั้นก็ภูมิใจมากที่จองได้ราคานี้มา
(เพราะวนเข้าไปดูทุกวันและแน่นอนว่าเพื่อนที่จะไปด้วยนางก็เห็นดีเห็นงามด้วยทั้งสิ้นค่ะ 5555555)
พวกเราเลือกพักที่ดีๆ คืนแรกเนื่องจากลงความเห็นแล้วว่าหน้าเราจะยังดีที่สุดและถ่ายรูปสวยที่สุด (คิดเยอะกันม๊ากกกกก)
เมื่อได้ที่พัก Water Villa มาแล้ว 1 คืน ซึ่งรวมค่าเรือที่จะมารับคนละ 104 USD (ค่าเรือของแต่ละรีสอร์ทถ้าไม่มีแจ้งต้องเมลถามเองนะคะ)
นี่ก็เกินงบทั้งทริปหมื่นห้าที่ตั้งไว้ในตอนแรกไปแล้วค่ะซิสสสสส
ดังนั้น จึงคุยกันว่าอีก 4 คืนที่เหลือ (Maafushi 2 คืน และที่พักที่เกาะที่อยู่ใกล้ๆ สนามบินอีก 2 คืนต้องนอนไม่แพง)
>>ที่พักคืนที่ 2-3<<
วันที่สองเราตั้งใจไป Maafushi กันค่ะ ที่จริงต้องบอกว่าถ้าตามรอยการเที่ยวมัลดีฟส์ด้วยงบ 15,000 บาท ควรมาที่นี่เลยจะถูกต้องกว่า
แต่เราก็ตบะแตกจองรีสอร์ทส่วนตัวกันไปแล้ว ข้อมูลของเกาะนี้ที่เรามี คือ ใส่บิกินี่หรือชุดว่ายน้ำได้แค่บางหาดเท่านั้น (Bikini beach)
เพื่อนก็หามาให้เลยค่ะ รร. หน้า Bikini beach เลย ชื่อ Kaani Grand Seaview แต่ที่อิชั้นดูไว้อีกที่คือ Kaani Village Maafushi
เพราะราคาถูกกว่าและอยากไปถ่ายรูปตรงสระว่ายน้ำ (เออ...แล้วจะไปทะเลเพื่อ!??) เพื่อนเห็นดีด้วยแต่จองไม่ทันค่ะ เต็มก่อน...เสียใจ
งั้นก็จองที่ที่เพื่อนอยากนอนกันเลยไปแล้วกันค่ะ (บอกแล้วว่าพากันล่มจม...ไม่มีใครห้ามใคร 555)
จองห้อง Ocean view (พร้อมอาหารเช้า) ไปค่ะ ในราคา 2 คืน (รวมภาษี) 8,862.30 บาท
>>ที่พักคืนที่ 4-5<<
พวกเราแพลนกันว่าจะมานอนแถวเกาะใกล้ๆ สนามบินก่อนวันกลับ จะได้ไม่ต้องรีบร้อน แต่ดูรีวิวบอกว่าเมืองมาเล่แออัดและไม่น่าไปพัก
เราเลยเลือกไปอีกเกาะชื่อ Hulhumale' และคิดว่าค่อยมาหาอะไรทำตอนไปพักแล้วกัน หา รร. แบบไม่แพงมาก สุดท้ายก็จองที่นี่ไป
Beach Sunrise Inn ห้อง Sea view (พร้อมอาหารเช้า) 2 คืน (รวมภาษี) 4,775.98 บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และเมื่อเราได้ที่พักครบเราก็จองตั๋วกลับกันค่ะ!!!
(ที่จริงแกควรจองไป-กลับมั๊ย? นี่ก็ถามตัวเองอยู่นะ 555)
เช่นเดียวกันกับขาไปค่ะ ทางเราจองของสายการบินแอเอเชีย ซึ่งมีวันละ 1 เที่ยวบินเช่นเดิม
เที่ยวบินจากมาเล่มาดอนเมืองก็คือเครื่องที่บินจากดอนเมืองไปมาเล่ค่ะ
โดยวันอาทิตย์, จันทร์, พุธ, ศุกร์มีเที่ยวบินรอบกลางวัน คือ 12:35 (เวลามัลดีฟส์) ถึงดอนเมือง 19:05 (เวลาไทย)
ส่วนวันอังคาร, พฤหัสบดี, เสาร์ มีเที่ยวบินรอบกลางคืนคือ 23:10 (เวลามัลดีฟส์) ถึงดอนเมือง 05.40 (เวลาไทย)
อย่าแปลกใจว่าทำไมบินนานขึ้นนะคะ บิน 4 ชั่วโมงเท่าเดิมค่ะ แต่เวลาที่ไทยเร็วกว่ามัลดีฟส์ 2 ชั่วโมง ไม่งงเนอะ
และเช่นเคยค่ะ...อิชั้นซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม 20 กิโลและอาหาร 2 ที่เหมือนขาไป แต่ขากลับตั๋วแพงกว่าค่ะ
(เค้าคงคิดว่าแกจะไปแบบไม่กลับไม่ได้ ตั๋วจะแพงแค่ไหนแกก็ต้องกลับ ชั้นรู้ววว) จริงค่ะ!! ยังไงก็ต้องกลับ แพงกว่าก็ต้องจ่าย 555
ค่าเสียหายทั้งหมดของตั๋วขากลับ MLE-DMK + น้ำหนักกระเป๋า 20 กิโล + อาหาร 2 ที่ = 10,622 บาท (คนละ 5,311 บาท)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปล.ภาพนี้ตัดต่อรายละเอียดออกให้เหลือแค่เที่ยวบินและราคานะคะ
สรุปว่า...แค่จองตั๋วและที่พักไปก็เกินงบ 15,000 บาทไทยในแพลนตอนแรกของเราไปไกลแล้วค่ะ
(แต่ขอบอกเลยว่าทริปนี้งบหลักๆ ก็มีแท่านี้ค่ะ ที่เหลือก็เบาแล้วมั้ง 555)
1.ตั๋ว DMK-MLE = 8,480 บาท
2.ที่พัก 5 คืน = 27,210 บาท
3. ตั๋ว MLE-DMK = 10,622 บาท
รวมทั้งหมด = 46,312 บาท
สรุป ค่าเครื่องบินและที่พัก 5 คืน ตกคนละ 23,156 บาท
อ่อ...ลืมบอกไปว่าที่พักที่เราจองไปมี wifi ให้ทุกที่นะคะ (แต่สัญญาณดีไม่ดีก็อีกเรื่องนึง 55)
อย่าลืมกดดูรายละเอียดของแต่ละที่ด้วยนะคะว่าเค้ามีอะไรให้เราบ้าง จะได้เตรียมของไปถูกค่ะ
แล้วก็รีวิวจากคนไปพักจริงก็อย่าลืมเข้าไปดูด้วยค่ะ เตือน (อีกที) แล้วน๊าาา จุ๊บ!!
จองทุกอย่างเสร็จก็สบายใจหายห่วงไม่ต้องทำอะไรแล้วค่ะ
ไปรอซีเอฟชุดและ accessory ที่จะใส่เที่ยวได้เลยค่ะ (เป็นอีกส่วนหนึ่งที่งบจะบานปลาย อิอิ)
พาร์ทต่อไปก็เป็นในส่วนของการเดินทางและเที่ยวในมัลดีฟส์แล้วค่ะ
ไว้มาเล่าต่อนะคะ
ปล.อาจมีแก้ไขข้อความเรื่อยๆ นะคะ ถ้าคิดอะไรออกก็จะมาเพิ่มให้ค่ะ