ชาวออสซี่แห่โพสต์ขู่ "บอยคอตต์" เที่ยวไทย หากส่ง "ฮาคีม" ที่ได้สถานะผู้ลี้ภัยในออสเตรเลียไปตายบาห์เรน

04 ก.พ. 62 (16:52 น.)

ชาวเน็ตออสซี่โพสต์ขู่ "บอยคอตต์" เที่ยวไทย หากส่ง "ฮาคีม" ไปตายบาห์เรน
Komkrit Duangmanee

ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกโพสต์ติดแฮชแท็ก #BoycottThailand และ #SaveHakeem รณรงค์ไม่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย  หากทางการไทยส่งตัวนายฮาคีม อัล อาไรบี อดีตนักฟุตบอลชาวบาห์เรน ที่ได้สถานะผู้ลี้ภัยในออสเตรเลีย ให้รัฐบาลบาห์เรนดำเนินคดี เพราะเกรงว่าชีวิตของอดีตนักฟุตบอลรายนี้อาจตกอยู่ในความเสี่ยง

เหตุนี้ทำให้ #BoycottThailand เริ่มติดอันดับความนิยมในเว็บไซต์ทวิตเตอร์ ส่วนแฮชแท็กดังกล่าวขึ้นสู่อันดับ 2 ของกระแสทวิตเตอร์ในประเทศไทยเมื่อช่วง 15.30 น. วันนี้ (4 ก.พ.)

นางสาวมาร์เซลลา แบรสเซตต์ นักเคลื่อนไหวชาวออสเตรเลีย เรียกร้องให้คนออสเตรเลียไม่มาเที่ยวไทย ขณะนายฮาคีม ยังโดนควบคุมตัวและโดนส่งตัวไปบาห์เรน

"ถึงเวลาบอยคอตต์แล้ว ฉันจะไม่ไปเที่ยววันหยุดที่ไทยในตอนที่ฮาคีมยังโดนเจ้าหน้าที่ไทยคุมตัวในคุก ไม่ให้เงินออสเตรเลียรั่วไหลอีกจนกว่าฮาคีมจะกลับบ้านอย่างปลอดภัย #BoycottThailand เพื่อ #SaveHakeem ช่วยกันทวีตว่าจะบอยคอตต์หน่อยนะ" นางสาวแบรสเซตต์โพสต์

โพสต์นี้มีผู้มาตอบกลับว่า ตอนแรกมีแผนจะมาดูการแข่งขันโมโตจีพีที่ไทยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แต่คิดว่าจะยกเลิกดีกว่า ถ้านายฮาคีมไม่ได้กลับมาออสเตรเลีย

"ผมจะไปดูแข่งโมโตจีพีที่ไทยเดือน ต.ค. ถ้าฮาคีม อัล-อาไรบี ไม่ได้กลับมาออสเตรเลียอย่างปลอดภัย เพื่อนกับผมคงต้องยกเลิกทริปแล้วหละ #BoycottThailand #SaveHakeem"

นอกจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วไปแล้ว คนดังหลายคนก็เริ่มโพสต์รณรงค์ไม่มาเที่ยวไทยด้วย อย่างเช่น นางแซลลี่ แมคเมนัส เลขาธิการสภาสหภาพการค้าออสเตรเลีย ที่โพสต์ว่าจะไม่มีทางมาเหยียบประเทศไทยอีก ถ้าไทยส่งตัวนายฮาคีมให้บาห์เรน

"ถ้าไทยเนรเทศฮาคีม ฉันจะไม่มีวันไปเหยียบอีก #SaveHakeem (ช่วยฮาคีม) #AmazingThailand #Boycott"  นางแมคเมนัส โพสต์

วอนคิดถึงตอนออสเตรเลียส่งคนช่วยทีมหมูป่า
นายเจค บัคลีย์ หรือ เดอะมาสเตอร์บัคส์ (TheMasterBucks) คนดังในยูทูบชาวออสเตรเลีย ไม่ถึงกับโพสต์ว่าจะบอยคอตต์ประเทศไทย แต่อยากให้ทางการไทยคิดถึงตอนที่ออสเตรเลียส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วยปล่อยนักฟุตบอลเยาวชน 12 คน และโค้ช ทีมหมูป่าอะคาเดมี่ ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ให้ออกมาสู่โลกภายนอก เพราะฉะนั้นก็ถึงเวลาแล้วเช่นกันที่ไทยจะปล่อยคนของออสเตรเลีย (นายฮาคีม) ให้เป็นอิสระเสียที

"ถึงประเทศไทย เราช่วยนักฟุตบอลของคุณให้เป็นอิสระ ถึงเวลาแล้วที่คุณจะช่วยคนของเราให้เป็นอิสระบ้าง ด้วยความเคารพ ออสเตรเลีย #SaveHakeem"

นักท่องเที่ยวออสซี่ทำ "รายได้เข้าไทย" ปี 60 ถึง 6 หมื่นล้าน
ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า กระแสการเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายฮาคีมให้เป็นอิสระกระทบต่อการท่องเที่ยว แต่จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทยในแต่ละปี ถือว่ามีจำนวนมาก ซึ่งข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเผยว่า ปี 2560 มีนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเดินทางมาเที่ยวในไทยถึง 817,091 คน ทำรายได้ให้ประเทศถึง 65,117.97 ล้านบาท

นอกจากออสเตรเลียแล้ว หลายประเทศทั่วโลกก็แสดงความห่วงใยต่อการควบคุมตัวนายฮาคีม และเรียกร้องให้รัฐบาลไทยไม่ส่งตัวนายฮาคีมไปประเทศบาห์เรนเช่นกัน

>> นานาชาติแสดงท่าที คัดค้านส่ง "ฮาคีม" กลับไปบาห์เรน

เมื่อปลายปี 2561 นายฮาคีม อัล-อาไรบี ผู้ลี้ภัยเชื้อสายบาห์เรน เดินทางจากออสเตรเลียมายังประเทศไทย เพื่อฮันนีมูนฉลองแต่งงานกับภรรยา แต่แล้วกลับโดนกักตัวไว้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งทางการไทยอ้างว่ามีหมายจับจากตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) จากความผิดที่รัฐบาลบาห์เรนกล่าวหาว่าเขาทำลายทรัพย์สินของทางการระหว่างการประท้วงต่อต้านรัฐบาลโลกอาหรับ (อาหรับสปริง) เมื่อปี 2554

อย่างไรก็ตาม นายฮาคีมปฏิเสธตลอดมาว่า ข้อหาที่ว่ามานี้เป็นไปไม่ได้ เพราะตอนที่เกิดเหตุ ตัวเองยังเล่นฟุตบอลในต่างประเทศ แถมมีการถ่ายทอดสดด้วย จึงเป็นไปได้ว่า อาจเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง เพราะคนในครอบครัวของเขาต่อต้านรัฐบาลมากกว่า

>> "ฮาคีม อัล อาไรบี" คือใคร? ทำไมเขาถึงถูกจับที่ไทย?

นายฮาคีม ยังส่งข้อความมาถึงโลกภายนอกว่า รู้สึกกลัว เพราะถ้าหากตนถูกส่งตัวกลับไปยังบาห์เรน อาจจะไม่ใช่แค่ติดคุกธรรมดา แต่เกรงว่าอาจมีอันตรายถึงชีวิตเลยด้วย

>> "ผมยังไม่อยากตาย" คำขอร้องจาก "ฮาคีม" ที่ถูกกักตัวในไทย แอมเนสตี้ระดมคนทั่วโลกช่วย

ขอขอบคุณ

ข้อมูล :กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

ภาพ :AFP
https://www.sanook.com/news/7668006/
พูดจัง พูดจัง พูดจัง พูดจัง พูดจัง พูดจัง พูดจัง พูดจัง พูดจัง พูดจัง
Australia in Thailand
https://th-th.facebook.com/australiainthailand/
2 ชม. ·
ในนามของเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย
รัฐบาลบาห์เรนทราบดีอยู่แล้วว่าคุณ Hakeem al-Araibi อาศัยอยู่ที่ในประเทศออสเตรเลียมาตั้งแต่ปี 2557
ในห่วงเวลา 4 ปีที่ผ่านมา
รัฐบาลบาห์เรนไม่เคยแสดงความพยายามหรือแจ้งรัฐบาลออสเตรเลียแม้แต่ครั้งเดียวถึงกรณีคุณ Hakeem หรือต้องการตัวคุณ Hakeem กลับประเทศ
แต่ว่า ทันทีที่คุณHakeemและภรรยาเดินทางมา honeymoon ที่ประเทศไทย รัฐบาลBahrainได้ประสานมาที่รัฐบาลไทยอย่างเร่งด่วน เพื่อขอให้ควบคุมตัวคุณHakeem และดำเนินการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับประเทศบาห์เรนทันที
การกระทำของรัฐบาลบาห์เรน ทำให้ประเทศไทยอยู่ในสถานะที่ลำบากมาก
ซึ่งจริงๆแล้วปีนี้ เป็นปีที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับประชาชนชาวไทยและ ประเทศไทย
ผมขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า รัฐบาลออสเตรเลียต้องการให้คุณHakeemกลับไปประเทศออสเตรเลีย
เพราะเขาเป็นผู้ลี้ภัย และเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรที่ประเทศออสเตรเลียโดยเร็วที่สุด
คุณHakeemเป็นนักฟุตบอลที่รักของ fan football ทีม Pascoe Vale FC และfan football ทั่วประเทศ
เราหวังว่าคุณ Hakeem จะได้กลับไปหาครอบครัวและภรรยาของเขาในเร็ววัน

---

The following statement was delivered on behalf of the Australian Ambassador to Thailand at Bangkok Criminal Court today, regarding the detention of Hakeem al-Araibi:

The Government of Bahrain knew very well that Hakeem al-Araibi lived in Australia since 2014. During these four years, the Bahraini Government did not attempt to ask Australia about Hakeem at all or to request to send him back to Bahrain.

However, as soon as Hakeem and his wife travelled to Thailand for their honeymoon, the Government of Bahrain expedited its coordination with the Thai Government to have Hakeem arrested and commence extradition proceedings immediately.

The actions of the Bahraini Government have put Thailand in a very difficult position.

In particular, during what is an important year for the people and country of Thailand.

I reiterate once again that the Government of Australia would like Hakeem al-Araibi to be returned to Australia as soon as possible. He is a refugee and permanent resident of Australia.

Hakeem is a loved football player for Pascoe Vale FC and has football fans across the country.

We hope that Hakeem will be able to go back to be with his family and his wife in the coming days.
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 28
ฮาคีมลี้ไปออสปี 57
มาฮันนีมูนไทย
บาเรนส่งเรื่องให้อินเตอโพล
ออสส่งหมายอินเตอโพลให้ไทย
ไทยจับตามหมายสากล

ไทยโดนคนไทยด่า เพราะต้องทำตามหมาย
ฮาคีมอยู่ออส บาเรนไม่เคยส่งเรื่องไปเลย

สรุปไทยซวยรับเผือกร้อน โดยเกมการเมืองชาติอื่น
ความคิดเห็นที่ 2
ทำกฎหมายไทยให้ศักดิ์สิทธิ์ครับ อย่าต้องมาทำตามแรงกดดันฝ่ายโน้นฝ่ายนี้เหมือนไทยเป็นเมืองขึ้นของเขา
ความคิดเห็นที่ 19
อ้างมาแต่ละคน คนดังทั้งนั้น (ดังตรงไหน...)

#BoycottThailand แต่ขึ้นเทรนไทย ทำไมไม่ขึ้นเทรนออสซี่
ข่าวก่อนหน้า NGO ลากฟีฟ่า แบนไทย มาข่าวนี้ NGO ลากโมโตจีพี ทำกันเป็นขบวนการจริง ๆ
ความคิดเห็นที่ 70
พูดไปยังงั้นแหละ ออสซี่ส่วนใหญ่ ก็ไร้การศึกษา ขัดส้วม ทำงาน Woolworth ไม่รู้เรื่องการเมืองระหว่างประเทศหรอก

แค่รู้ว่าที่ไหนเมาได้ ทำผิดกฏหมายได้โดยไม่ต้องเกรงกลัว หาสาวบาร์มานอนได้ ก็ยอมไป ไม่มีความรู้เรื่องนี้หรอก ถ้าจะบอยคอตจริง ออกจากภูเก็ตให้หมดเกาะนะ อย่าหลงเหลือธุรกิจอะไรอีก

ชาตินี้ขี้กากยิ่งกว่าอะไรดี มาเที่ยวต่างประเทศ สร้างปัญหา พอเงินหมดหรือทำผิดกฏหมายก็มาขอสทานทูตให้ช่วยเหลือ (ไม่ไช่แค่ไทย ที่ยุโรปก็เป็นไปข่มขืนสาวนอร์เวย์ที่ยุโรป)

ส่วนไอ้พวกที่ออกมาเคลื่อนไหว ก็เอาหน้าน่ะแหละ ประเทศนี้สร้างภาพยิ่งกว่าอะไรดี

มาซิดนีย์ตอนแรก พูดเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ขอบอก กรุงเทพฯ ดีกว่าเยอะ

ไหนจะออกมาทำเหมือนรัก Immigrants จะเป็นจะตายแบบนายฮาคีมนี่ เอาเข้าจริงเกลียด เหยียด ยิ่งกว่าอะไรดี พวกขี้คุกคนขาวทั้งนั้นแหละ ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยเช่นงานบริการต่างๆ จนไปถึงงานระดับมืออาชีพต่างๆ

พวก Immigrants เองก็เหมือนกันนะ แต่ก็เข้าใจ เขาก็คงโดนมาเยอะ พวกแขก จีน แอฟริกา Immigrants เรื่องมาก จู้จี้จุกจิก แถมวางมาดประมาณข้าเหาะได้ (นั่งการบินไทย เส้นออสเตรเลียนิวซีแลนด์ เจอบ่อย พวกนี้ เรื่องมาก เรียกแอร์ยังกะคนใช้ แค่ตัวเองได้ย้ายมา แหม ถ้าพ่อแม่ไม่ย้ายมา หรือออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ไม่เปิดรับ ป่านนี้คนยังนอนอยู่สลัมมุมไบ นิวเดลี)

ไทยต้องอย่าหงอให้ฝรั่งขี้กาก ต้องตัดสินใจและใช้กฏหมายของประเทศไทย ให้ชาติอื่นมามีอำนาจ พวกมาเฟีย อาชญากรข้ามชาติ เห็นประเทศไทยเป็นสวรรค์ อย่างที่บนๆบอกไว้
ความคิดเห็นที่ 53
เพิ่งรู้ว่าไทยยังเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขตอยู่ นึกว่าแก้สนธิสัญญาบาวริงไปแล้วเสียอีก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่