★★★ทุกท่านที่ปฎิบัติธรรม แม้ยังไม่ถึงโสดาบัน ก็สามารถถึงนิพพานได้ทุกคน★★★

(มาร ๕ (๒)
สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
วัดบวรนิเวศวิหาร

คัดจากเทปธรรมอบรมจิต ข้อความสมบูรณ์
อณิศร โพธิทองคำ บรรณาธิการ)
--------------------------------------------------------------------------------------
[[[.............."สันทิฏฐิกนิพพาน"

และได้มีพระพุทธภาษิตที่แสดงไว้ถึง สันทิฏฐิกนิพพาน คือนิพพานที่เห็นได้ในปัจจุบัน หรือ ทิฏฐธรรมนิพพาน นิพพานที่เห็นได้ในปัจจุบัน อันหมายถึงสันติของใจ แม้ที่ทุกคนผู้ปฏิบัติธรรมะได้บรรลุถึงกันอยู่ แม้ว่าจะเพียงชั่วครั้งชั่วคราว เช่นได้บรรลุถึงอยู่ในขณะที่ปฏิบัติธรรมะ

เช่นในขณะที่ปฏิบัติทำจิตตภาวนา ใจบริสุทธิ์จากกิเลสกองโลภโกรธหลงทั้งหลาย ไม่มีทุกข์อยู่ในใจ ในขณะที่จิตบริสุทธิ์นี้ใจจึงสงบ แม้เพียงเท่านี้ก็เป็นทิฏฐธรรมิกะนิพพาน หรือสันทิฏฐิกะนิพพาน นิพพานที่เห็นได้ในปัจจุบัน ของผู้ปฏิบัติทั่วไปได้ ซึ่งบังเกิดขึ้นชั่วขณะ หรือชั่วครั้งชั่วคราวก็ตาม และอาศัยการปฏิบัติแม้ชั่วครั้งชั่วคราวนี้ ได้ความสงบของใจ เมื่อปฏิบัติบ่อยๆ เข้าก็ย่อมจะได้มากขึ้น นานขึ้น จนถึงสามารถบริสุทธิ์จากกิเลสได้จริงๆ อย่างเด็ดขาด ก็จะทำให้ได้ความดับทุกข์อย่างเด็ดขาด ได้สันติของใจอย่างเด็ดขาด จนถึงเด็ดขาดในที่สุด

ก็เป็นปัจจุบันอีกเหมือนกัน คือเป็นสันทิฏฐิกะ เป็นทิฏฐธรรมอีกเหมือนกัน คือเห็นได้ในปัจจุบัน อันหมายความว่าไม่ต้องไปรอในภายหน้า เช่นไปรอว่าต้องพรุ่งนี้ ต้องมะรืนนี้ ต้องปีหน้า ต้องชาติหน้า

แต่หมายความว่าเห็นกันได้เดี๋ยวนี้ วันนี้ เวลานี้ อันหมายถึงว่าเวลาที่สามารถปฏิบัติทำจิตให้เป็นศีลเป็นสมาธิเป็นปัญญาขึ้นมาได้ บริสุทธิ์จากกิเลสทั้งหลายได้ ทุกข์ทั้งหลายดับไปได้ สันติของใจก็มีได้ มีได้ให้เห็นได้ ให้รู้ได้ ในเดี๋ยวนี้ ในวันนี้ ไม่ต้องรอไปว่าต่อจากเดี๋ยวนี้ หรือพรุ่งนี้เป็นต้นดังที่กล่าวมาแล้ว ดั่งนี้แหละธรรมะจึงเป็น สันทิฏฐิโก ที่เห็นได้เองในพุทธศาสนา เห็นได้ในปัจจุบัน และแม้ว่าจะเป็นชั่วครั้งชั่วคราวก็ไม่เป็นอะไร เพราะทีแรกก็ต้องชั่วครั้งชั่วคราวไปก่อน และเมื่อทำบ่อยๆ ทำมากๆ เข้า ได้บ่อยๆ ได้มากๆ เข้า ก็จะยืดยาวยิ่งขึ้น จะมากยิ่งขึ้น จนถึงบริสุทธิ์บริบูรณ์ เต็มรอบในที่สุดดังที่กล่าวมาแล้ว....
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่