[CR] How to [ลดจุดด่างดำ] ภายใน 2 สัปดาห์ แค่มาส์กหน้าวันเว้นวัน

เราเป็นสาวหมวยผิวขาวค่ะ แล้วก็มีจุดด่างดำบริเวณโหนกแก้มเยอะมาก
ตอนยังสาวสะพรั่ง  20 ต้นๆ หน้าใสแทบไม่มีรอยดำเลย แต่พอวัยดึกขึ้นเลข 3 เท่านั้นล่ะ
สัญญาณความชราก็มาเริ่มต้นชัดเจนที่ผิวเลยค่ะ T^T
คือผิวแห้งขึ้น และแน่นอน จุดด่างดำผุดขึ้นเต็มหน้า ยิ่งบริเวณโหนกแก้มเห็นชัดขึ้น
อย่าว่าแต่ทาแป้งพัฟ ทาคอนซีลเลอร์ยังปิดไม่มิดเลย ฮือออออออ ดำมากกกก

เพื่อนๆ บอก มีจุดด่างดำ เหมือนฝรั่งมีกระเลย ดีออกกกก
นี่ต้องรีบบอก ใจเย็นนะ ดูหน้าเพื่อนด้วย นี่หน้าซิ้ม ไม่ใช่หน้า ฝ.
แหมมม่ หน้าแบนบานเป็นจานข้าว แล้วมีกระดำๆ มันดูเข้ากันมั้ยยย??? ฮืออออ
เพื่อนขาอย่าพามโน แก่แล้วต้องฉลาดด้วยค่ะ
ขออยู่กับความจริง ไม่โลกสวยหลอกตัวเองค่ะ

ฮึ่ม.. ถึงเวลาที่เราต้องดูแลตัวเองมากขึ้นแล้วล่ะ!!

เริ่มกันที่เรามาดูสาเหตุที่ทำให้เกิดจุดด่างดำก่อนนะคะ จะได้ป้องกันได้ตั้งแต่จุดกำเนิด

สาเหตุของการมีจุดด่างดำ
1. กรรมพันธุ์ ถ้าพ่อแม่ ปู่ย่าตายายคุณมีจุดด่างดำเยอะ ก็ฟันธงได้เลยว่าคุณจะต้องเป็น
2. แสงแดด เป็นตัวการร้ายทำลายบาลานซ์ผิวของคุณ
เพื่อป้องกันแสงแดด เมลานีนจึงต้องผลิตเม็ดสีเข้มออกมาปกป้องผิว
ซึ่งทำให้สีผิวและจุดด่างดำเข้มขึ้นนั่นเอง
3. อายุ เมื่ออายุมากขึ้น ความอุดมสมบูรณ์ของผิวจะลดลง ความเสื่อมโทรมต่างๆ
ทั้งความหมองคล้ำ จุดด่างดำ ฝ้ากระ และริ้วรอย ก็จะปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็ว


ชนิดของกระบนหน้าดิฉัน หลังจากนำหน้าไปให้คุณหมอที่
รพ. ผิวหนังวิเคราะห์ พบว่ามี 2 ชนิดนะคะ คือ
1. จุดด่างดำ เป็นสีดำ หรือน้ำตาลเข้ม อยู่บนผิวชั้นบนสุด
ทำให้จางลงได้ด้วยการผลัดผิวด้วยเลเซอร์ หรือทาครีมบำรุง
2. กระลึก เป็นสีเทา หรือเทาน้ำเงิน อยู่รวมกันเป็นแผ่นคล้ายฝ้า
คนมักเข้าใจสับสนกัน คุณหมอบอกว่า ถ้าดูใกล้ๆ แล้วเป็นจุดๆ รวมกันคือกระ
แต่ถ้าไม่มีจุด แต่รวมกันเป็นปื้น ก็ฝ้าเลยคร้า
กระลึกเกิดจากเซลล์สร้างเม็ดสีเกิดขึ้นผิดที่ คือ ไปอยู่ชั้นหนังแท้
เพราะฉะนั้นกระลึกพวกนี้จึงไม่ค่อยตอบสนองต่อการทายา     

ซึ่งคุณหมอก็ได้ให้คำแนะนำตรงๆ ว่า จุดด่างดำ และกระลึก
ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เลเซอร์อาจช่วยให้จางลง แต่ถ้าไม่ดูแลผิวให้ดีๆ
เหมือนเดิม จุดด่างดำก็จะกลับมาชัดใหม่อยู่ดี ดังนั้น เพื่อความไม่สิ้นเปลือง
เราเลยเลือกวิธีดูแลผิวเองก่อน ด้วยการทาครีมเช้า-เย็น มาส์กหน้าทุก 3 วัน
และขัดผิวสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และนี่คือ ผลลัพธ์ที่ได้..... !!


เริ่ดดดดดดดดดดดด ใช่มั้ย!

จุดด่างดำจางลงมาก ผิวนุ่มขึ้น ละเอียดขึ้น
ริ้วรอยเล็กๆๆๆ บริเวณหน้าผากและร่องแก้มดูตื้นขึ้น
หน้าแน่นกระชับ นี่สินะสวยด้วยการดูแลตัวเอง 555555+

เพราะฉะนั้นเราเลยอยากมาแบ่งปันวิธีลดรอยด่างดำด้วยตัวเอง
ให้สาว ๆ เอาไปเป็นไอเดียดูแลผิวค่า

ซึ่ง Tips ของการลดรอยด่างดำด้วยตัวเองของเรา หัวใจคือ
1.   รักษาความสมดุลของผิว ทำให้ผิวชุ่มชื่นอยู่เสมอ
2.   ผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก เพื่อลดกระตื้น และผิวหนังเสื่อมสภาพ
3. บำรุงให้ลึกถึงชั้นหนังแท้ เพื่อแก้ปัญหากระลึกที่จุดกำเนิด
4.   ปกป้องผิวจากแสงแดด เพื่อไม่ให้เมลานีนผลิตเม็ดสีออกมาเพิ่ม

จากหัวใจของการลดรอยด่างดำ 4 ข้อข้างต้น
และนี่คือ 6 ขั้นตอน และ 8 ผลิตภัณฑ์ที่เราเลือกใช้ค่ะ

ขั้นตอนที่ 1. ล้างหน้า เช้า - เย็น

เราใช้เจลล้างหน้า Sebamed Liquid face & Body wash


ขั้นตอนที่ 2.  ผลัดผิวชั้นบนสุด เพื่อลดจุดด่างดำ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
เราใช้ Skinfood Rice Mask Wash Off ค่ะ ขัดวนเบาๆ แล้วล้างออก
แต่ยังไงใช้ไม่เกินสัปดาห์ละ 2 ครั้งนะ เดี๋ยวผิวบางเกินไป


ขั้นตอนที่ 3 ทาครีมบำรุง
เติมความชุ่มชื่นให้ผิวอิ่มน้ำ เช้า – เย็น
บำรุงผิวเทียบเท่าน้ำแร่ร้อน 5,000 ลิตร คำเคลมออกจะเว่อๆ แต่ก็ชุ่มชื้นดีค่ะ



ขั้นตอนที่ 4 ลดรอยกระลึก ทาเช้า-เย็น
ขั้นตอนนี้ขอไฮไลท์เลยสำคัญมาก เพราะต้องมีตัวช่วยพิเศษ
เล่าก่อนว่าครีมปกติ เวลาทาแล้วมักจะเคลือบอยู่แค่ผิวชั้นบนสุด หรือซึมซาบลงไปแค่ถึงชั้นหนังกำพร้า
แต่กระลึกเนี้ยะ สาเหตุมาจากเซลล์เม็ดสีที่เกิดอยู่ในชั้นหนังแท้ทาปกติมันก็จะซึมไม่ถึง เลยไม่ได้ผล
ต้องหาตัวช่วยพาครีมให้ลงไปลึกขึ้นค่ะ
ตามหามานานจนเจอ Mfeel Spongilla MICRO SERUM เพื่อนเกาหลีแนะนำให้ใช้
ตอนเพื่อนบอก ดีใจมาก เห้ย รู้ได้ไงว่าอยากได้ 555555+
เซรั่มนี้ทำจากสาหร่าย 5 ชนิด ที่นอกจากช่วยเก็บความชุ่มชื่น ชะลอการอักเสบ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแล้ว
นางยังมี Micro Needle ที่ช่วยเปิดผิวให้ครีมซึมซาบลึกและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม




กลิ่นแบบว่าแมกไม้ใบหญ้า ออกแนวสมุนไพร ให้ฟีลธรรมชาติมากๆ ไม่ฉุนเท่าไหร่
ตัวนี้ใครทาครั้งแรกเตรียมใจนิดนึง มันจะยิบๆ ที่ผิวเหมือนโดนเข็มเล็กๆ  แทง
เราว่าน่าจะเกิดจากหนามสาหร่ายอะไรแบบนี้อ่ะ ลูบๆ จะรู้สึกยิบๆ ถ้าไม่ไปลูบก็ไม่รู้สึกยิบแล้วอ่ะ
วิธีใช้คือ เอาฝาเสียบตูดแล้วกดครีมลงไปบนจุดที่จะทา
เรากดน้อยมากแค่ครึ่งเม็ดถั่วเขียวอ่ะ ..ประหยัด หุหุ


จากนั้นเราทาทับด้วย Provamed Anti-Melasma Spot Corrector
ตัวนี้ช่วยลดการสังเคราะห์ และควบคุมการสร้างเม็ดสีผิวที่จุดกำเนิด ดีจรงที่ไม่ทำให้ผิวบางลง
แต่ตัวนี้แนะนำให้ทาบางๆ นะคะ เพราะถ้าทาหนาจะซึมช้าและทำให้รองพื้นเป็นคราบได้ค่ะ

ขั้นตอนที่ 5 ทากันแดดตอนเช้า ปกป้องผิวจากแดด
เราเลือกใช้ Mizumi ทาหนาๆ หน้าก็ไม่มันเลย ซื้อตอน 1 แถม 1 ตุนไว้เยอะมากกกก


ขั้นตอนที่ 6 มาส์กหน้า ก่อนนอน ทำอาทิตย์ละ 3 วัน
มาส์กที่เราใช้มีหลายยี่ห้อมาก สับเปลี่ยนกันไป แต่หลักๆ ไม่เน้นขาว
เพราะถ้าขาวก็จะขาวทั้งหน้า ไม่ได้ขาวขึ้นแค่ตรงกระ มันจะผิดจุดประสงค์ไปหน่อย
เราเลยเลือกเป็นมาส์กประเภทเติมความชุ่มชื่น หรือช่วยให้ผิวแข็งแรงดีกว่า
เพราะถ้าผิวสุขภาพดีตั้งแต่ต้นกำเนิด พวกสัญญาณผิวเสื่อมโทรม อย่างเม็ดสีผิดปกติ และริ้วรอยก็จะน้อยลงไปมากเลยค่ะ
เราใช้วิธีสปาหน้าสูตรเซรั่มซึมลึกของคุณแนน ชลิตา คือ คุณแนนแนะนำให้ทา Mfeel ก่อนตามด้วยโปะไนท์ครีม 3 วันครั้ง (เพราะ Mfeel ออกฤทธิ์ 72 ชม.) แต่เราปรับให้ Special ขึ้น คือ เราทา Mfeel Serum บางๆ ทั่วใบหน้าก่อน แล้วลงมาส์ก เพื่อให้มาส์กซึมซาบได้ลึกขึ้น เราว่าน่าจะได้ผลดีกว่าไนท์ครีมแบบ x2 เข้าไปอีก


เรามี Tips นิดนึงคือ ระหว่างมาส์กก็เอานิ้วกดเคาะเบาๆ ให้ทั่วหน้า เพื่อวอร์มผิว
และให้เนื้อมาส์กซึมได้ดีขึ้นอีก จากนั้นนอนรอสัก 30 นาที แล้วถอดมาส์กออกได้ค่ะ
แต่เราไม่ล้างหน้านะ ล้างอีกทีก็เช้าเลย ให้มาส์กและ mfeel ช่วยกันทำงานไปยาวๆ อิอิ



จบแล้วค่ะ กับวิธีลดจุดด่างดำแบบไม่พึ่งเลเซอร์ ทั้งหมด 6 ขั้นตอน ใช้โปรดักซ์ 8 ตัว
อาจ Take Time หน่อย แต่รับรองว่าคุ้มค่า และได้ผลดีกับผิวในระยะยาวแน่ๆ ค่ะ

เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่าลืมว่าจุดด่างดำรักษาไม่หาย ทำได้แค่จางลง
ดังนั้น การรักษาจึงไม่สำคัญเท่าการป้องกันการเกิดจุดด่างดำ นะคะ

สุดท้ายนี้ ขอให้ผิวใสไร้จุดด่างดำอยู่คู่สาวๆ พันทิพย์ตลอดไป
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้นะคะ จุ๊ฟๆๆๆ อมยิ้ม22 อมยิ้ม22 อมยิ้ม22
ชื่อสินค้า:   mfeel
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่