วันนี้ไปซื้อของที่ห้างเทสโก้โลตัส มีคูปองซื้อสินค้าครบ 600 บาทขึ้นไปลด 100 บาท และซื้อนมครบ 100 บาทขึ้นไปลด 20 บาท
ปรากฎว่าซื้อของทั้งหมดไปหนึ่งพันกว่าบาทตรงตามเงื่อนไขในคูปองใบแรก โดยมีรายการนมรวมอยู่ร้อยกว่าบาทตรงตามเงื่อนไขของคูปองใบที่สองด้วย ยื่นคูปองส่วนลดใบแรกให้พนักงานไปสแกนสำเร็จ แต่พนักงานปฏิเสธสแกนคูปองส่วนลดใบที่สอง โดยแจ้งว่าต่อไปนี้ทางห้างจะอนุญาตให้ลูกค้าสามารถใช้คูปองส่วนลดได้เพียงแค่ 1 คูปองต่อ 1 บิลเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นคูปองประเภทใดก็ตาม โดยหากจะต้องการใช้คูปองทั้งหมดก็จะต้องแยกสินค้าออกมาจ่ายอีกบิลเท่านั้น โดยพนักงานก็ได้เรียกหัวหน้าพนักงานมายืนยันด้วยว่า สมัยก่อนอาจจะเคยสามารถใช้ได้แต่ตอนนี้ทางสำนักงานใหญ่ได้มีคำสั่งกำชับมาว่า นับจากนี้เป็นต้นไปการใช้คูปองส่วนลดไม่ว่าจะเป็นประเภทใดๆ จะสามารถใช้ได้เพียง 1 คูปองต่อหนึ่งบิลเท่านั้น (ถึงแม้ว่าคูปองจะไม่มีเงื่อนไขซ้ำซ้อนกันก็ตาม ตัวอย่างคูปองที่เงื่อนไขซ้ำซ้อนกัน เช่น คูปองซื้อ 800 ลด 80 และคูปองซื้อ 600 ลด 60 ซึ่งอันนี้แน่นอนอยู่แล้วว่าจะไม่สามารถใช้ได้ในบิลเดียวกันได้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว) หากจะใช้คูปองส่วนลดของเทสโก้โลตัสทุกประเภท ลูกค้าจะต้องดำเนินการจัดแบ่งแยกของที่จะซื้อให้ชัดเจนตามประเภทคูปองแล้วจึงแยกกันชำระเงินเพื่อใช้คูปองนั้นในแต่ละบิลเท่านั้น
ยกตัวอย่างในกรณี ถ้ามีคูปองอยู่หลายใบ เช่น คูปองส่วนลดแผนกอาหารสด คูปองส่วนลดแผนกทำความสะอาด คูปองส่วนลดแผนกเครื่องใช้ในห้องน้ำ คูปองส่วนลดนมกล่อง คูปองส่วนลดโยเกิร์ต หรือคูปองระบุส่วนลดเฉพาะสินค้าตามที่ระบุ ก็ต้องแยกบิลชำระทั้งหมดเลย จะนำมาคิดรวมสินค้าเหล่านั้นอยู่ในบิลเดียวกันแล้วใช้คูปองส่วนลดทั้งหมดที่เกี่ยวข้องไม่ได้เป็นอันขาด
แปลกใจอย่างมากว่าเราจับจ่ายซื้อของในห้างนี้มาเป็นสิบปีก็ไม่เคยมีปัญหาเช่นนี้เลย จึงโทรไป Call Center 1712 ก็ได้รับคำยืนยันอีกเช่นกันว่านโยบายการใช้คูปองของห้างเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ก็งงเหมือนกันว่าทำไมสาขาต่างๆ มากมายของห้างนี้จึงปล่อยให้พนักงานปฏิบัติผิดเพี้ยนจากนโยบายที่อ้างนี้มาโดยตลอด
ทั้งนี้ ลึกๆ แล้วก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าพนักงานรวมถึงหัวหน้าพนักงานจะเข้าใจอะไรบางอย่างผิดเพี้ยนไปเองบ้างหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นจริงแบบนี้ก็ควรจะกำหนดเงื่อนไขในโปรแกรมของเครื่องคิดราคาไปเลยว่าอนุญาตให้สแกนคูปองส่วนลดเพียงแค่ 1 ใบเท่านั้น ถ้ามีใบที่สองก็จะปฏิเสธไปเลยก็หมดเรื่อง
หากเป็นเช่นนี้ ต่อไปอาจจะต้องหันไปซื้อของจากห้างตัวอักษรใหญ่ข้างๆ กันแทนดูบ้างแล้วล่ะ
ต่อไปนี้หากจะใช้คูปองส่วนลดของเทสโก้โลตัส จะต้องจัดแบ่งแยกของที่จะซื้อออกตามประเภทคูปองแล้วจึงแยกกันชำระเงินในแต่ละบิล
ปรากฎว่าซื้อของทั้งหมดไปหนึ่งพันกว่าบาทตรงตามเงื่อนไขในคูปองใบแรก โดยมีรายการนมรวมอยู่ร้อยกว่าบาทตรงตามเงื่อนไขของคูปองใบที่สองด้วย ยื่นคูปองส่วนลดใบแรกให้พนักงานไปสแกนสำเร็จ แต่พนักงานปฏิเสธสแกนคูปองส่วนลดใบที่สอง โดยแจ้งว่าต่อไปนี้ทางห้างจะอนุญาตให้ลูกค้าสามารถใช้คูปองส่วนลดได้เพียงแค่ 1 คูปองต่อ 1 บิลเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นคูปองประเภทใดก็ตาม โดยหากจะต้องการใช้คูปองทั้งหมดก็จะต้องแยกสินค้าออกมาจ่ายอีกบิลเท่านั้น โดยพนักงานก็ได้เรียกหัวหน้าพนักงานมายืนยันด้วยว่า สมัยก่อนอาจจะเคยสามารถใช้ได้แต่ตอนนี้ทางสำนักงานใหญ่ได้มีคำสั่งกำชับมาว่า นับจากนี้เป็นต้นไปการใช้คูปองส่วนลดไม่ว่าจะเป็นประเภทใดๆ จะสามารถใช้ได้เพียง 1 คูปองต่อหนึ่งบิลเท่านั้น (ถึงแม้ว่าคูปองจะไม่มีเงื่อนไขซ้ำซ้อนกันก็ตาม ตัวอย่างคูปองที่เงื่อนไขซ้ำซ้อนกัน เช่น คูปองซื้อ 800 ลด 80 และคูปองซื้อ 600 ลด 60 ซึ่งอันนี้แน่นอนอยู่แล้วว่าจะไม่สามารถใช้ได้ในบิลเดียวกันได้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว) หากจะใช้คูปองส่วนลดของเทสโก้โลตัสทุกประเภท ลูกค้าจะต้องดำเนินการจัดแบ่งแยกของที่จะซื้อให้ชัดเจนตามประเภทคูปองแล้วจึงแยกกันชำระเงินเพื่อใช้คูปองนั้นในแต่ละบิลเท่านั้น
ยกตัวอย่างในกรณี ถ้ามีคูปองอยู่หลายใบ เช่น คูปองส่วนลดแผนกอาหารสด คูปองส่วนลดแผนกทำความสะอาด คูปองส่วนลดแผนกเครื่องใช้ในห้องน้ำ คูปองส่วนลดนมกล่อง คูปองส่วนลดโยเกิร์ต หรือคูปองระบุส่วนลดเฉพาะสินค้าตามที่ระบุ ก็ต้องแยกบิลชำระทั้งหมดเลย จะนำมาคิดรวมสินค้าเหล่านั้นอยู่ในบิลเดียวกันแล้วใช้คูปองส่วนลดทั้งหมดที่เกี่ยวข้องไม่ได้เป็นอันขาด
แปลกใจอย่างมากว่าเราจับจ่ายซื้อของในห้างนี้มาเป็นสิบปีก็ไม่เคยมีปัญหาเช่นนี้เลย จึงโทรไป Call Center 1712 ก็ได้รับคำยืนยันอีกเช่นกันว่านโยบายการใช้คูปองของห้างเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ก็งงเหมือนกันว่าทำไมสาขาต่างๆ มากมายของห้างนี้จึงปล่อยให้พนักงานปฏิบัติผิดเพี้ยนจากนโยบายที่อ้างนี้มาโดยตลอด
ทั้งนี้ ลึกๆ แล้วก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าพนักงานรวมถึงหัวหน้าพนักงานจะเข้าใจอะไรบางอย่างผิดเพี้ยนไปเองบ้างหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นจริงแบบนี้ก็ควรจะกำหนดเงื่อนไขในโปรแกรมของเครื่องคิดราคาไปเลยว่าอนุญาตให้สแกนคูปองส่วนลดเพียงแค่ 1 ใบเท่านั้น ถ้ามีใบที่สองก็จะปฏิเสธไปเลยก็หมดเรื่อง
หากเป็นเช่นนี้ ต่อไปอาจจะต้องหันไปซื้อของจากห้างตัวอักษรใหญ่ข้างๆ กันแทนดูบ้างแล้วล่ะ